คือว่า ตอนนี้มีเงินเก็บอยู่ก้อนนึง ที่จะปิดบัตรเครดิต เพราะว่าไม่อยาก จะเป็นหนี้บัตรเครดิต ค่ะ
แต่ถ้าปิดบัตร หนี้ก็น้อยลง ที่จะจ่าย แต่เผอิญว่า มีบุญใหญ่ คือ หล่อหลวงปู่ทองคำ ซึ่งเงินก้อนนี้
คือ ก้อนสุดท้ายของเงินเก็บ เลยอยากจะทำมาก แต่ ถ้าไม่ปิดบัตรเครดิต หนี้ที่มีอยู่ ก็ต้องมากอยู่เหมือนเดิม
เลยอยาก ถามถึง กัลยาณมิตรทุกท่านว่า ถ้าเป็นคุณ คุณจะเลือกทำอย่างไหนก่อน ค่ะ เพราะก็จำเป็นทั้งคู่ค่ะ
![รูปภาพ](http://www.gravatar.com/avatar/9170d4c1fd0006be614eabc4c88b6005?s=100&d=https%3A%2F%2Fwww.dmc.tv%2Fforum%2Fpublic%2Fstyle_images%2Fmaster%2Fprofile%2Fdefault_large.png)
ขอปรึกษาหน่อยค่ะ
เริ่มโดย ใจงาม, Sep 09 2008 12:06 PM
มี 9 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 09 September 2008 - 12:06 PM
#2
โพสต์เมื่อ 09 September 2008 - 12:21 PM
เนื่องจากแต่ละคนมีเงื่อนไข และภาระ ในชีวิตต่างกัน
ศรัทธา สัมมาทิฎิ จาคะ ปัญญา ต่างกัน
ทุกทางเลือก ที่เจ้าของกระทู้ ถามไว้ มีผลกระทบ ข้อดี ข้อด้อย ต่างกัน
เ่ช่น
จัดสรรเงินเก็บ เป็น ๒ งบ คือ งบสร้างทานกุศล และ งบลดหนี้บัตรเครดิต
อัตราส่วน ก็แล้วแต่ครับ
หรือ
คิดว่า กาลทานนี้ ผ่านมาแล้วผ่านไป ความตายเรา ไมมีนิมิตหมาย
หนี้บัตรเครดิต เรายังพอหาเงินมาใหม่ได้
แล้วเลือกสร้างกุศลในกาลทาน ก่อน
หรือ
ใช้หนี้บัตรเครดิตทั้งหมด
สำหรับผม ไม่เลือกที่จะนำมาจ่ายค่าหนี้บัตรเครดิตทั้งหมด โดยไม่จัดสรร ไว้สร้างทานกุศลเลย
แต่จะจัดสรร ๒ งบ อัตราส่วน หนักทางสร้างทานกุศล ครับ
เพราะ
พอหนี้บัตรลดลง เดี๋ยว ก็ไปเพิ่มหนี้ใหม่
และความตาย ไม่มีินิมิตหมาย
และเป็นกาลทาน ภายใน ๑o ตุลาคม ๒๕๕๑ เท่านั้น
ก็อยู่ที่เจ้าของกระทู้และแต่ละคน ตัดสินใจ ว่าจะออกแบบชีวิตของตนเอง แบบไหน ครับ
ศรัทธา สัมมาทิฎิ จาคะ ปัญญา ต่างกัน
ทุกทางเลือก ที่เจ้าของกระทู้ ถามไว้ มีผลกระทบ ข้อดี ข้อด้อย ต่างกัน
เ่ช่น
จัดสรรเงินเก็บ เป็น ๒ งบ คือ งบสร้างทานกุศล และ งบลดหนี้บัตรเครดิต
อัตราส่วน ก็แล้วแต่ครับ
หรือ
คิดว่า กาลทานนี้ ผ่านมาแล้วผ่านไป ความตายเรา ไมมีนิมิตหมาย
หนี้บัตรเครดิต เรายังพอหาเงินมาใหม่ได้
แล้วเลือกสร้างกุศลในกาลทาน ก่อน
หรือ
ใช้หนี้บัตรเครดิตทั้งหมด
สำหรับผม ไม่เลือกที่จะนำมาจ่ายค่าหนี้บัตรเครดิตทั้งหมด โดยไม่จัดสรร ไว้สร้างทานกุศลเลย
แต่จะจัดสรร ๒ งบ อัตราส่วน หนักทางสร้างทานกุศล ครับ
เพราะ
พอหนี้บัตรลดลง เดี๋ยว ก็ไปเพิ่มหนี้ใหม่
และความตาย ไม่มีินิมิตหมาย
และเป็นกาลทาน ภายใน ๑o ตุลาคม ๒๕๕๑ เท่านั้น
ก็อยู่ที่เจ้าของกระทู้และแต่ละคน ตัดสินใจ ว่าจะออกแบบชีวิตของตนเอง แบบไหน ครับ
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม
#3
โพสต์เมื่อ 09 September 2008 - 12:56 PM
ความเห็นส่วนตัวครับ
ทำเต็มที่เต็มกำลัง แต่ที่สำคัญ ต้องรักษาใจให้ใส อยู่ในบุญให้ได้ตลอดชีวิต...
ถ้าทำแล้ว สุ่มเสียงที่จะรักษาใจไว้ไม่ได้ หรือทำให้มีปัญหาตามมา ก็ชั่งใจดู....
ถ้ารู้หนทางมาแห่งทรัพย์ ที่จะได้มาในอนาคตอยู่แล้ว ตรงนี้เอามาลุยสร้างบารมีก่อน ก็น่าจะทำครับ
ขออนุโมทนาบุญครับ
ทำเต็มที่เต็มกำลัง แต่ที่สำคัญ ต้องรักษาใจให้ใส อยู่ในบุญให้ได้ตลอดชีวิต...
ถ้าทำแล้ว สุ่มเสียงที่จะรักษาใจไว้ไม่ได้ หรือทำให้มีปัญหาตามมา ก็ชั่งใจดู....
ถ้ารู้หนทางมาแห่งทรัพย์ ที่จะได้มาในอนาคตอยู่แล้ว ตรงนี้เอามาลุยสร้างบารมีก่อน ก็น่าจะทำครับ
ขออนุโมทนาบุญครับ
#4
โพสต์เมื่อ 09 September 2008 - 01:01 PM
จริงอยู่ในตำราว่าไว้ ว่าไม่ควรนำเงินส่วนที่เป็นหนี้มาทำบุญ โดยเฉพาะถ้าหนี้นั้น ดูแล้วไม่มีทางใช้หนี้ได้ เพราะนั่นคือ การให้ทานที่กระทบผู้อื่น (กระทบเจ้าหนี้ เพราะไปเอาเงินเขามาทำบุญ แล้วไม่ใช้คืนเขา)
แต่ก็มีกรณียกเว้น ที่ว่าหนี้นั้น สามารถใช้คืนได้แน่นอน เพียงแต่อาจจะช้าไปอีกนิด ถ้าอย่างนี้ เมื่อนำมาทำบุญเต็มที่บุญก็ได้เต็มที่น่ะครับ เพราะเราใช้คืนเงินเขาแน่นอน
สำหรับเรื่องราวใน Case Study นั้น ก็มีดังนี้ครับ ลองอ่านดูนะครับ เรื่องราว ยืมเงินทำบุญ แต่ใช้คืนแล้ว
http://www.dmc.tv/pa...2547-07-10.html
อีกเรื่องหนึ่ง คือ ถ้ายืมเงินไปทำบุญ แต่ไม่ใช้่คืนเจ้าหนี้ แต่เจ้าหนี้ก็ยกหนี้ให้ ก็จะต้องไปเป็นบริวารเขาจึงจะมีทรัพย์น่ะครับ แต่หากเจ้าหนี้ไม่ยกให้ สมบัติที่เกิดกับผู้ยืมก็จะวิบัติหมดครับ
http://www.dmc.tv/pa...2549-02-01.html
แต่ก็มีกรณียกเว้น ที่ว่าหนี้นั้น สามารถใช้คืนได้แน่นอน เพียงแต่อาจจะช้าไปอีกนิด ถ้าอย่างนี้ เมื่อนำมาทำบุญเต็มที่บุญก็ได้เต็มที่น่ะครับ เพราะเราใช้คืนเงินเขาแน่นอน
สำหรับเรื่องราวใน Case Study นั้น ก็มีดังนี้ครับ ลองอ่านดูนะครับ เรื่องราว ยืมเงินทำบุญ แต่ใช้คืนแล้ว
http://www.dmc.tv/pa...2547-07-10.html
อีกเรื่องหนึ่ง คือ ถ้ายืมเงินไปทำบุญ แต่ไม่ใช้่คืนเจ้าหนี้ แต่เจ้าหนี้ก็ยกหนี้ให้ ก็จะต้องไปเป็นบริวารเขาจึงจะมีทรัพย์น่ะครับ แต่หากเจ้าหนี้ไม่ยกให้ สมบัติที่เกิดกับผู้ยืมก็จะวิบัติหมดครับ
http://www.dmc.tv/pa...2549-02-01.html
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#5
โพสต์เมื่อ 09 September 2008 - 01:58 PM
ความเห็นผมนะครับ เดินสายกลาง คือแบ่งจำนวนเงินให้เหมาะสม ใช้หนี้ให้เหลือจำนวนที่จะไม่เดือดร้อน คือสามารถหาเงินมาใช้หนี้ก้อนนี้ได้ในวันหลัง เหลือไว้ใช้พอประมาณ และแบ่งมาทำบุญให้เต็มที่เท่าที่ทำได้จนรู้สึกว่า ปลื้มใจมากที่ทำได้แบบนี้ ไม่แนะนำให้ทำบุญจนเดือดร้อน หรือทำแล้วเครียด ต้องทำบุญแล้วปลื้ม นั่นแหละเหมาะสม
#6
โพสต์เมื่อ 09 September 2008 - 04:14 PM
ผมว่า อย่าเพิ่งปิดหนี้บัตรเครดิตเลย ให้จ่ายประจำงวดไปก่อน
แล้วนำเงินที่เหลือไปทำบุญหล่อหลวงปู่เถอะ เพราะหล่อหลวงปู่ครั้งนี้เสร็จแล้วเสร็จเลยไม่มีหล่อใหม่
แต่หนี้บัตรเครดิตนั้นเราสามารถทยอยจ่ายตามสัญญาตอนกู้ไปก่อนได้ แค่ปิดยอดช้าไปสักหน่อยคงไม่เป็นไรนะครับ
เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำอะไร
บุญใหญ่อย่างนี้ไม่รีบคว้า เกิดอีกกี่คราจะหาบุญอย่างนี้ได้
บุญใหญ่รวยโคตรๆนะขอบอก ตัดกังวลให้ออกแล้วรีบมาไวไว
หล่อหลวงปู่เสร็จบุญอลังการ ตดปึ๋งถึงนิพพานรวยอัศจรรย์ก็ได้
แล้วนำเงินที่เหลือไปทำบุญหล่อหลวงปู่เถอะ เพราะหล่อหลวงปู่ครั้งนี้เสร็จแล้วเสร็จเลยไม่มีหล่อใหม่
แต่หนี้บัตรเครดิตนั้นเราสามารถทยอยจ่ายตามสัญญาตอนกู้ไปก่อนได้ แค่ปิดยอดช้าไปสักหน่อยคงไม่เป็นไรนะครับ
เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำอะไร
บุญใหญ่อย่างนี้ไม่รีบคว้า เกิดอีกกี่คราจะหาบุญอย่างนี้ได้
บุญใหญ่รวยโคตรๆนะขอบอก ตัดกังวลให้ออกแล้วรีบมาไวไว
หล่อหลวงปู่เสร็จบุญอลังการ ตดปึ๋งถึงนิพพานรวยอัศจรรย์ก็ได้
#7
โพสต์เมื่อ 09 September 2008 - 05:54 PM
เห็นด้วยกับการแบ่งจ่ายใช่หนี้ดีกว่า หนี้บัตรเครดิตผ่อนชำระได้
แต่ทำบุญใหญ่กับรูปหล่อหลวงปู่ทองคำ หล่อเสร็จแล้วเสร็จเลยผ่อนไม่ได้นะคะ
ไม่อยากให้เสียดายบุญทีหลัง
เราก็มีหนี้บ้านเหมือนกัน ล้านกว่า แล้วยังมีหนี้ลงหุ้นบริษัทอีกแสนกว่าๆ
หนี้เค้าให่ผ่อนได้เราก็ผ่อนไปตามส่วน บุญก็ทำเต็มที่
เชื่อมั่นในบุญ เดี๋ยวก็มีทรัพยหามาใหม่ได้
แต่ต่อไปหาบุญแบบนี้ไม่ได้ จะมีทรัพย์สักพันล้านก็ไม่มีให้ทำนะจ้ะ
แต่ทำบุญใหญ่กับรูปหล่อหลวงปู่ทองคำ หล่อเสร็จแล้วเสร็จเลยผ่อนไม่ได้นะคะ
ไม่อยากให้เสียดายบุญทีหลัง
เราก็มีหนี้บ้านเหมือนกัน ล้านกว่า แล้วยังมีหนี้ลงหุ้นบริษัทอีกแสนกว่าๆ
หนี้เค้าให่ผ่อนได้เราก็ผ่อนไปตามส่วน บุญก็ทำเต็มที่
เชื่อมั่นในบุญ เดี๋ยวก็มีทรัพยหามาใหม่ได้
แต่ต่อไปหาบุญแบบนี้ไม่ได้ จะมีทรัพย์สักพันล้านก็ไม่มีให้ทำนะจ้ะ
#8
โพสต์เมื่อ 09 September 2008 - 07:09 PM
บุญก็ทำ หนี้ก็จ่าย อย่าให้ตัวเองเืดือดร้อนครับ แบบนี้ถึงได้บุญเยอะครับ ทั้งก่อนทำ กำลังทำ และหลังทำ
คุณยายสอนไว้ครับ ว่าทำบุญอย่าให้ตัวเองเืดือดร้อน แต่ถ้าคุณสามารถตัดความกังวลเรื่องหนี้ได้ ก็ทำบุญโลดดดด
คุณยายสอนไว้ครับ ว่าทำบุญอย่าให้ตัวเองเืดือดร้อน แต่ถ้าคุณสามารถตัดความกังวลเรื่องหนี้ได้ ก็ทำบุญโลดดดด
#9
โพสต์เมื่อ 10 September 2008 - 06:10 PM
เห็นด้วยกับการพิจารณาแบบคุณหัดฝัน
..คือนั่งคุยกับตัวเองว่า
ตรงไหนจำเป็นมาก ต้องมาลดหนี้ก่อน เอาขั้นต่ำ กันเงินไว้ใช้หนี้
นอกนั้น "มาหล่อ" ให้หมด
แล้วทำไม เลือกขั้นต่ำ..ล่ะ พอหรือ?
ก็เพราะ เห็นด้วยเหมือนเพื่อนๆที่เหลือจ้ะ
คือมีความเห็นตรงกันว่า..
...บุญหล่อหลวงปู่นั้น เข้าเคสด่วนพิเศษ รอม่ายด้าย
มีเวลาจำกัดกว่าหนี้...แค่10 ตค.นี้ เอง
หมดแล้ว...วันหลังก้อ...เสียดายจัง
ดังนั้น เราควรทำบุญแบบเต็มกำลัง
แบบไม่เดือดร้อนตนเอง ทั้งในวันนี้ และ อนาคตอันใกล้
...
ถ้ามีเรื่องกังวลอื่นๆ เพิ่มเข้ามาในใจ..
อันนั้น ใจเราอาจกำลังถูกพญามาร สอดผัง "ท้อถอย" เข้ามา
ให้เอาใจจรดกลาง แล้วคิดทบทวนอีกที
แล้วจะได้ สิ่งๆจำเป็นแท้จริง ออกมาจ้ะ
สาธุ
#10
โพสต์เมื่อ 13 September 2008 - 01:12 PM
ลองเข้าไปอ่านดูในกระทู้เก่าๆ นะคะ
http://www.dmc.tv/fo...php/t11392.html
การทำบุญจะให้ได้ ผลบุญสมบูรณ์นั้น ผู้ทำต้องมีจิตที่ดีงามทั้งก่อนทำ ระหว่างทำและหลังจากทำแล้ว หากก่อนทำมีศรัทธา ระหว่างทำแช่มชื่นใจ แต่หลังทำเกิดความเสียดายหรือกลุ้มใจเพราะทำทานเกินตัวไป อย่างนี้ผลบุญไม่สมบูรณ์
ส่วนตัว koonpatt มีความเห็นว่า
ถ้าตัดสินใจที่จะทำ ก็ให้อธิษฐานกำกับด้วยนะคะ
ว่า ให้เรานี้ สามารถที่จะหาเงิน มาใช้หนี้ที่เป็นอยู่ได้
ไม่อย่างนั้น ก็เหมือนเรายืมเงินคนอื่นมาทำอยู่ ผลบุญก็จะยังได้ไม่เต็มที่
ถ้าเกิดเป็นอะไรไปก่อน ก็มีวิบากกรรมติดตัวไปอีก
เพราะเงินจากบัตรเครดิต ก็เงินประชาชนทั่วไปนี่ล่ะค่ะ ที่เอาไปออมไว้กับสถาบันการเงิน
เราไม่ได้ยืมใครคนใดคนหนึ่งนะคะ เรามีเจ้าหนี้ จำนวนมากมายเลย
แล้วก็ให้ทำใจให้ใสไว้นะคะ
นึกถึงองค์ประกอบของบุญไว้นะคะ
1. เจตนาบริสุทธิ์
2. วัตถุทานบริสุทธิ์
3. บุคคลบริสุทธิ์
และ ให้ใจใสๆ ทั้งก่อนทำ ขณะที่ทำ และ หลังทำนะคะ
อย่าไปเผลอคิดเชียวนะคะ ว่า ไม่น่าเลย หรือ รู้อย่างนี้......
ต้องเป็นคนจิตใจเข้มแข็ง มากๆๆๆๆๆๆ เชียวค่ะ สำหรับเคสแบบนี้
ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ และ ขอให้คุณได้ทางออกที่ดี สำหรับตัวเองค่ะ
อนุโมทนาบุญกับคุณ นางสาวจริงใจด้วนะคะ
สา...ธุ ค่ะ
http://www.dmc.tv/fo...php/t11392.html
การทำบุญจะให้ได้ ผลบุญสมบูรณ์นั้น ผู้ทำต้องมีจิตที่ดีงามทั้งก่อนทำ ระหว่างทำและหลังจากทำแล้ว หากก่อนทำมีศรัทธา ระหว่างทำแช่มชื่นใจ แต่หลังทำเกิดความเสียดายหรือกลุ้มใจเพราะทำทานเกินตัวไป อย่างนี้ผลบุญไม่สมบูรณ์
ส่วนตัว koonpatt มีความเห็นว่า
ถ้าตัดสินใจที่จะทำ ก็ให้อธิษฐานกำกับด้วยนะคะ
ว่า ให้เรานี้ สามารถที่จะหาเงิน มาใช้หนี้ที่เป็นอยู่ได้
ไม่อย่างนั้น ก็เหมือนเรายืมเงินคนอื่นมาทำอยู่ ผลบุญก็จะยังได้ไม่เต็มที่
ถ้าเกิดเป็นอะไรไปก่อน ก็มีวิบากกรรมติดตัวไปอีก
เพราะเงินจากบัตรเครดิต ก็เงินประชาชนทั่วไปนี่ล่ะค่ะ ที่เอาไปออมไว้กับสถาบันการเงิน
เราไม่ได้ยืมใครคนใดคนหนึ่งนะคะ เรามีเจ้าหนี้ จำนวนมากมายเลย
แล้วก็ให้ทำใจให้ใสไว้นะคะ
นึกถึงองค์ประกอบของบุญไว้นะคะ
1. เจตนาบริสุทธิ์
2. วัตถุทานบริสุทธิ์
3. บุคคลบริสุทธิ์
และ ให้ใจใสๆ ทั้งก่อนทำ ขณะที่ทำ และ หลังทำนะคะ
อย่าไปเผลอคิดเชียวนะคะ ว่า ไม่น่าเลย หรือ รู้อย่างนี้......
ต้องเป็นคนจิตใจเข้มแข็ง มากๆๆๆๆๆๆ เชียวค่ะ สำหรับเคสแบบนี้
ขอเป็นกำลังใจให้ค่ะ และ ขอให้คุณได้ทางออกที่ดี สำหรับตัวเองค่ะ
อนุโมทนาบุญกับคุณ นางสาวจริงใจด้วนะคะ
สา...ธุ ค่ะ
![happy.gif](style_emoticons/default/happy.gif)
จึงยังคง เชื่อมั่นและศรัทธาใน "รัก" เหมือนอย่างที่เคย...เสมอมา...และจะตลอดไป
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ