ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

10 ก.ย. 51 รู้จุด เกิด-ดับ ของโลก


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 14 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 09 September 2008 - 07:47 PM

CERN announces start-up date for LHC

http://esciencenews.com/articles/2008/08/07/cern.announces.start.date.lhc

พรุ่งนี้แล้วครับ หลุมดำ..

องค์กรวิจัยนิวเคลียร์ (European Organization for Nuclear Research) แห่งยุโรป หรือ เซิร์น (CERN)

จะเดินเครื่อง เพื่อถอดรหัสของโลกเชิงกายภาพ
และจะรู้ว่าเอกภพประกอบขึ้นด้วยอะไร รวมถึงค้นหาคำตอบว่า

จักรวาลเกิดขึ้นมาได้อย่างไร โดยมีนักฟิสิกส์กว่า 2,000 คน
จากกว่า 30 ประเทศ และงบลงทุนกว่า 4,000 ล้านปอนด์
หรือ 260,000 ล้านบาท

กระผมเป็น MEMBER ลำดับที่ 19
โดยใช่แค่พลังงานแฝงของคอมพิวเตอร์ที่ใช้งาน
ร่วมแจมกับ CERN
http://lhcathome.cern.ch/lhcathome/home.php
และคนไทยกลุ่มหนึ่ง ก็ได้มีส่วนร่วม

การทดลองครั้งนี้ ยังเป็นการพิสูจน์ ทฤษฎีอนุภาคพระเจ้า

"God Particle"

"Higgs Boson"

ของ ศ.ปีเตอร์ ฮิกส์ นักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ
จากมหาวิทยาลัยเอดินเบอ ระบุว่า อนุภาคนี้มีอยู่จริง


แต่กลุ่มของนาย กลุ่มของรอสเลอร์
ได้ยื่นคำร้องต่อที่ประชุมด้านสิทธิมนุษยชนยุโรป
เพื่อขอระงับการทดลอง โดยให้เหตุผลว่า

"เป็นการละเมิดต่อสิทธิ์การดำรงชีวิตและละเมิดสิทธิ์ในการมีครอบครัว"

เนื่องจากหวั่นว่า เมื่อเดินเครื่องเร่งอนุภาคขนาดใหญ่แล้ว
จุดจบของโลกจะมาถึง
ซึ่งภาพจินตนาการฝันร้ายที่สุดของมนุษย์ตามความเห็นของรอสเลอร์ อาจจะเเกิดความผิดพลาดจากการทดลอง


โลกอาจจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงแผ่นดินไหวไม่ได้เกิดขึ้นจากรอยเลื่อนอีกแล้ว
และไหวในทุกๆ พื้นที่ แม้ไม่ได้ตั้งอยู่ในแนวรอยเลื่อน

แรงสั่นสะเทือนทำให้น้ำทะเลเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว
เกิดมหันตภัยสึนามิขนาดยักษ์ พัดถล่มพื้นที่ตามชายฝั่งทะเล
ฆ่าผู้คนนับล้าน จากนั้นจุดจบของโลกที่แท้จริงจึงมาถึง

โลกเริ่มมีรอยแยกขนาดใหญ่ ลาวาร้อนจัดใต้พื้นปฐพีไหลขึ้นมานองเต็มพื้นดิน มหาสมุทร จนท้องทะเลเดือดพล่าน เกิดเฮอริเคนขนาดยักษ์หลายลูกกระหน่ำโลก
สิ่งก่อสร้างทุกชนิดพังทลาย ต้นไม้หักโค่น ภูเขาสูงถล่มลงมา
เพราะแผ่นเปลือกโลกแตก

ทุกอย่างบนโลก ไม่ว่าจะเป็นหินนับล้านๆ ตัน น้ำ อากาศ
ชีวิตทุกชีวิต ถูกดูดเข้าไปในแรงดูดที่มองไม่เห็นแต่มีพละกำลังมหาศาล
ถ้ามองลงมาจากอวกาศเบื้องบนจะเห็นว่า
โลกสีฟ้าขาวไหลลงไปในหลุมดำด้วยความเร็วเพียงพริบตาเดียว

เลวร้ายที่สุดคือ

ไม่มีเวลาสำหรับการเตือนภัยใดๆ
โดยภายในเวลา 1/20 Sec
โลกทั้งใบจะหายไปจากจักรวาล
จากนั้นอีกไม่ถึง 2 วินาที ดวงจันทร์จะหายไปด้วย
8 นาทีต่อมา ดวงอาทิตย์จะแตกเป็นเสี่ยง
ตามด้วยดวงดาวทั้งหมดในระบบสุริยจักรวาล

การทำลายล้างขยายวงจากโลกของเราไปด้วยความเร็วแสง
ทำให้มนุษย์ต่างดาวที่อยู่ในจักรวาลอื่นตายไปด้วย
และไม่มีเทคโนโลยีใดๆ ที่จะหยุดยั้งหายนะนี้

....................................................

แต่โดยส่วนตัวผมแล้วมันจะไม่เลวร้ายขนาดนั้น ครับ

จากคำอธิบายของ Cern ใน link ข้่างบนนั้น

ชัดเจนแล้วว่าไม่น่าจะมีผลกระทบรุนแรง

เพราะว่าหลุมดำขนาดเล็กที่เกิดจากการชนกันของอนุภาคจะหายไป

ในเวลาอันสั้น เพราะหลุมดำที่ว่านี้เกิดขึ้นจากการชนกันของ

"ควาร์ก" และ "กลูออน"

ซึ่งอยู่ในอนุภาคโปรตรอน ดังนั้น
จึงสลายไปอยู่ในรูปของอนุภาคที่สร้างหลุมดำนั้นขึ้นมาได้
ช่วงอายุของหลุมดำเล็กจึงสั้นมากๆ ครับ..

อย่างไรก็ตาม ตามศรัทธาของกระผมเชื่อว่า
โลกใบนี้มีเวลาอีก สองพันสี่ร้อยสี่สิบเก้าปี กับประมาณ สองเดือนกว่า

เวลาที่เหลือนี้ ความคิดจิตใจคน ก็จะเสื่อมถอยลง ผมเคยฟังครูอาจารย์
หลวงปู่สด ท่านเทศน์ว่า คนจะลงนรกเท่าขนวัว จะขึ้นสวรรค์เท่า เขาวัว

ดังนั้นอีกสองพันสี่ร้อยสิบเก้าปีกว่านี้ ผมวางแผนส่วนตัวผมว่าจะไม่มาเกิดในโลกใบนี้อีก แต่ทว่า..คิดแผนไว้จะทำตามแผนนั้นได้ไหม

ที่พึ่งของผมคือ หลวงปู่สดครับ
วันที่สิบตุลาคมนี้ ผมจะทำบุญใหญ่หล่อหลวงปู่ทองคำเต็มกำลังครับ

เพื่อสั่งสมบุญเป็นเสบียง ไว้เดินทางข้ามสังสารนี้
และบุญทุกบุญของคุณครูไม่ใหญ่ครับ
...................................

ปล.ทุกท่านสามารถช่วยงานวิจัยนี้ได้ที่ http://lhcathome.cern.ch/lhcathome/

Join ในนามทีม Thai นะครับ ตอนนี้มี 19 ท่าน ครับ

ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  1.bmp   410.67K   139 ดาวน์โหลด


ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#2 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 09 September 2008 - 08:12 PM

น่าสนใจมากทีเดียวครับ พี่เถลิงเกีตริย์

แต่หวังว่าการทดลองครั้งนี้ คงจะไม่เหมือนการทดลองที่ฟิลาดิเฟียในอดีตนะครับ แหะๆๆ




#3 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 09 September 2008 - 08:27 PM

การรู้จุดเกิด ดับของโลก ไร้คุณค่า ถ้าไม่รู้จัก จุดเกิด ดับของอวิชชา

เป็นการศึกษา ค้นคว้าที่น่าสนใจดีครับ
แสดงถึงความใฝ่ฝันของมนุษย์ ที่จะเรียนรู้ เพื่อเข้าใจในสรรพสิ่ง
แต่
การเรียนรู้เพื่อที่จะเข้าใจในทุกสรรพสิ่ง
มันจะไม่จบแค่การทดลองด้วยวิทยาศาสตร์ อย่างแน่นอน

บางที โครงการ LHC ของ CERN ในวันพรุ่ง
อาจไม่ได้คำตอบอย่างที่คาดหวัง

และอาจทำให้มนุษย์นักทดลอง
ยอมรับความจริงได้มากขึ้นว่า

วิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ คำตอบสุดท้าย ( วิธีที่ดีที่สุด) ในการแสวงหาความรู้ ความเข้าใจในทุกสรรพสิ่ง

เมื่อนั้น การทดลองแสวงหาความรู้ ความเข้าใจในทุกสรรพสิ่ง
ด้วยแนวทาง ของพุทธศาสตร์ คือ

ใช้ใจ เป็นอุปกรณ์ เครื่องมือ

ใช้ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
เป็นห้องทดลอง เป็นห้องเรียนรู้เพื่อความเข้าใจในทุกสรรพสิง

ด้วยวิธี
Practice True Meditation by Vijja Dhammakaya

เมื่อใจนักทดลอง เข้าถึงความสงบ เข้าถึงความสว่างภายใน มากพอ
เข้าถึงความเป็นอันหนึ่งเดียวกับ ผู้รู้แจ้งในทุกรรพสิ่ง ภายในใจตนเอง

เมื่อนั้น มนุษย์ก็คงไม่จำเป็นต้อง ใช้เงินมากกว่า 4,000 ล้านปอนด์
เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
เพียงเพื่อ
ได้ความรู้ ที่ไม่มีอยู่จริง


#4 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 09 September 2008 - 09:15 PM

ผมเห็นด้วยกับท่าน Dd2683 ครับ ที่ว่า

QUOTE
การเรียนรู้เพื่อที่จะเข้าใจในทุกสรรพสิ่ง
มันจะไม่จบแค่การทดลองด้วยวิทยาศาสตร์ อย่างแน่นอน


และ

QUOTE
ใช้ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
เป็นห้องทดลอง เป็นห้องเรียนรู้เพื่อความเข้าใจในทุกสรรพสิง

ด้วยวิธี
Practice True Meditation by Vijja Dhammakaya



และเห็นแตกต่างในเรื่อง

QUOTE
เมื่อนั้น มนุษย์ก็คงไม่จำเป็นต้อง ใช้เงินมากกว่า 4,000 ล้านปอนด์
เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
เพียงเพื่อ
ได้ความรู้ ที่ไม่มีอยู่จริง



แนวทางการที่จะทำให้มนุษยชาติ ที่มีความแตกต่างทางด้านความคิด
ให้เห็นตามแนวทางที่ตนเองเห็นว่า ถูกต้องนั้น เป็นเรื่องยากมากครับท่าน Dd2683
อุปมาได้ว่า ศรัทธาของมนุษยชาตินั้น สามารถขยับโลกใบนี้ได้ทีเดียวครับ

แนวทางที่ผมเคยฟังจากโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันโดยคุณครูไม่ใหญ่ ท่านได้วางแนวทางไว้ว่า

QUOTE
เราต้องแสวงหาจุดร่วม สมานจุดต่าง ครับ


การเผยแผ่งานพระศาสนานั้น ถ้าใช้หลักแสวงหาจุดร่วม สมานจุดต่าง แล้ว จะไปได้ดีทีเดียว

แต่ถ้ามีอัตตาในตน สร้างสารตั้งต้นแห่งความคิด โดยตั้งต้นว่า ถ้าคุณทำแบบนีเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
อย่าไปทำเลย ให้มานั่งสมาธิ แล้วคุณจะพบกับคำตอบ ที่แท้จริง ถ้าไปคุยแบบนี้กับ มวลมนุษยชาติ ทั้งหลายแล้ว
การที่จะชักชวนเขามาในแนวทางปฎิบัติ หาสันติภาพภายใน นั้น เป็นอันปิดประตูโดยสิ้นเชิงครับท่าน Dd2683

สามสิ่งที่เราไม่สามารถย้อนกลับมาได้คือ คำพูด เวลา และโอกาส
นั้นสิ่งเหล่านี้ต้องพึงสำรวมระวังให้มากในการเผยแผ่พระศาสน วิชชาธรรมกายครับ

โครงการทางวิทยาศาสตร์ทั้งหลายที่ นักวิทยาศาสตร์หลายประเทศทำ ก็มีประโยชน์ ต่อมวลมนุษย์
ถ้าเรามีส่วนร่วม ส่วนส่งเสริมช่วยเหลือ พวกเขาเหล่านั้น เราก็มีโอกาสเป็น World Community Grid
เราก็มีโอกาสที่จะแสดงความเห็นเรื่อง เสนอ เรื่อง วิชชาธรรมกาย ให้ มนุษยชาตินั้นได้พิจารณา
เมื่ออริยทรัพยืข้อหนึ่งบังเกิดแก่เขาเหล่านั้นแล้ว

จะเป็นช่องทางอันดี ที่จะได้สั่งสมบุญอันยิ่งใหญ่นี้

ดีกว่าจะมาบอกว่า

QUOTE
มนุษย์ก็คงไม่จำเป็นต้อง ใช้เงินมากกว่า 4,000 ล้านปอนด์
เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
เพียงเพื่อ
ได้ความรู้ ที่ไม่มีอยู่จริง


อันเป็นการปิดประตูที่จะขยายงานพระศาสนาโดยสิ้นเชิง เขาจะมีความคิดต่อต้าน
ขึ้นมาทันที ปิดประตูทันที โอกาสที่จะแง้มประตูใจเขานั้นยากมากครับ

ด้วยความเคารพในความเห็นครับท่าน Dd2683

ปล.กราบเรียนท่าน Dd2683 ถ้าผมได้แสดงความเห็นที่ทำให้ท่านขุ่นเคือง
กระผมกราบเรียนขออโหสิกรรม ด้วยครับ

ความเห็นทั้งหมดที่ผมแสดงออกมาจากจิตใจที่ปราถนาดีครับ smile.gif

ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#5 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 09 September 2008 - 09:30 PM

ขออภัยทาน เจ้าของกระทู้ ที่่ผมแสดงความคิดเห็นส่วนตัว ตรง ๆ ตามที่ตนเองมอง ในขณะนี้ วันนี้ครับ
ไม่ได้เจตนาสร้างความแตกแยก อะไรเลยจริง ๆ ครับ

ถ้าข้อความดังกล่าว

QUOTE
มนุษย์ก็คงไม่จำเป็นต้อง ใช้เงินมากกว่า 4,000 ล้านปอนด์
เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
เพียงเพื่อ
ได้ความรู้ ที่ไม่มีอยู่จริง


ทำให้เจ้าของกระทู้ไม่สบายใจ
ผมยินดี ลบข้อความดังกล่าว
ถ้าเจ้าของกระทู้ ต้องการ ช่วยแจ้ง ในโพสต์ ถัดมา้ ด้วยนะครับ

แต่ยังยืนยัน มุมมองส่วนตัวเหมือนเดิม ครับ

ขอบพระคุณ พี่เถลิงเกียรติ ช่วยชี้ขุมทรัพย์ เรื่อง

QUOTE
สามสิ่งที่เราไม่สามารถย้อนกลับมาได้คือ คำพูด เวลา และโอกาส
นั้นสิ่งเหล่านี้ต้องพึงสำรวมระวังให้มากในการเผยแผ่พระศาสน วิชชาธรรมกายครับ


ด้วยความเคารพ เช่นกันครับ

ป.ล. มิบังอาจขุ่นเคืองเจ้าของกระทู้หรอกครับ
เข้าใจในความห่วงใยในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาของพี่ เถลิงเกียรติ ครับ

เรียนรู้เกี่ยวกับ LHC

CERN in 3 minutes
http://www.youtube.c...feature=related

CERN LHC and Black Holes : Fact or Fiction?
http://www.youtube.c...feature=related

http://lhc.web.cern....n.ch/index.html

http://lhc-first-bea...am/Welcome.html


#6 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 10 September 2008 - 08:59 AM

ในความเห็นของผม มันเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้วที่มนุษย์จะตำนําพริกละลายแม่นําครับ เพราะมนุษย์เป็นสัตว์โลกที่ชอบแสวงหาความรู้ อยู่ที่ว่าจะอยากรู้ในสิ่งที่จำเป็นหรือไม่จำเป็นเท่านั้น ผมสนับสนุนนะครับการทดลองนี้ เพราะไหนๆเขาก็ลงทุนแบบสูญเปล่าไปมากขนาดนั้น อย่างน้อยขอให้การทดลองเขาสามารถยืนยันคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ละก็ หุหุหุ อย่าให้said ^ ^
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#7 คุณรู้มั๊ย คุณนั้นเคยตาย

คุณรู้มั๊ย คุณนั้นเคยตาย
  • Members
  • 335 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:บุญ หยุดนิ่ง นั่งสมาธิ ฟุตบอล คอมพิวเตอร์

โพสต์เมื่อ 10 September 2008 - 11:38 AM

ความรู้ของนักวิทยาศาสตร์ตามหลัง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเยอะมักๆ๐๐ smile.gif
หลับตาเบาๆ ผ่อนคลายสบาย ให้ใจหยุดนิ่ง ที่ศูนย์กลางกาย

นิ่งๆ นุ่มๆ นานๆ

#8 koonpatt

koonpatt
  • Members
  • 616 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 10 September 2008 - 12:22 PM

QUOTE
วิทยาศาสตร์ ไม่ใช่ คำตอบสุดท้าย ( วิธีที่ดีที่สุด) ในการแสวงหาความรู้ ความเข้าใจในทุกสรรพสิ่ง

เมื่อนั้น การทดลองแสวงหาความรู้ ความเข้าใจในทุกสรรพสิ่ง
ด้วยแนวทาง ของพุทธศาสตร์ คือ

ใช้ใจ เป็นอุปกรณ์ เครื่องมือ

ใช้ศูนย์กลางกายฐานที่ ๗
เป็นห้องทดลอง เป็นห้องเรียนรู้เพื่อความเข้าใจในทุกสรรพสิง

ด้วยวิธี
Practice True Meditation by Vijja Dhammakaya

เมื่อใจนักทดลอง เข้าถึงความสงบ เข้าถึงความสว่างภายใน มากพอ
เข้าถึงความเป็นอันหนึ่งเดียวกับ ผู้รู้แจ้งในทุกรรพสิ่ง ภายในใจตนเอง

เมื่อนั้น มนุษย์ก็คงไม่จำเป็นต้อง ใช้เงินมากกว่า 4,000 ล้านปอนด์
เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ
เพียงเพื่อ
ได้ความรู้ ที่ไม่มีอยู่จริง


อ่านแล้วอดคิดไม่ได้ว่า นี่คือ การดูเบา คนอื่นอยู่หรือเปล่า red_smile.gif


คนแต่ละคนเกิดมาในโลกนี้ ล้วนแล้วแต่มีหน้าที่แตกต่างกัน

หากทุกคนคิด และ ทำ เช่นที่คุณกล่าวมาข้างต้น โลกจะเป็นเช่นไร

koonpatt ขอลองคิดเล่นๆ นะคะ happy.gif happy.gif happy.gif

แน่นอน โลกจะไม่มีโทรทัศน์ ไม่มีคอมพิวเตอร์ ไม่มีอินเตอร์เน็ต

ซึ่งทำให้เราไม่มี เวปบอร์ดนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน

ไม่มีการถ่ายทอดสดผ่านดาวเทียม เพื่อกัลยาณมิตรทั้งหลาย ที่อยู่แดนไกล

วัสดุที่จะใช้หล่อองค์พระ ก็คงไม่ทำให้อยู่ได้ถึง 1.000 ถึง 10,000 ปี

การเผยแผ่พุทธศาสนาคงเป็นไปได้ช้ายิ่ง

ดังที่เราได้เรียนรู้จากสมัยพุทธกาล คือ ใช้วิธีเดินเท้า

ดังเช่นพระพุทธองค์ ทรงลำบากพระวรกายเพื่อพวกเราที่ยังไม่เกิด

koonpatt คงไม่มีโอกาสรู้จักวัดธรรมกาย

ไม่มีรถนั่งไปวัด คงขี่ วัว ควาย ม้า ลา จาก อุดรไป ก็คงเป็นเดือนอยู่เหมือนกัน

koonpatt มีความเห็นว่า ทุกวันนี้ การดำรงอยู่ของเรา

อาศัยสิ่งที่ได้มาโดยการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ อยู่เยอะมาก

จนแทบจะคิดไม่ออกเลยว่า มีอะไรบ้างที่ไม่ผ่านการค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์

วัสดุที่ใช้สร้างบ้านของเรา ธนบัตรที่เราจับจ่ายใช้สอย ยารักษาโรค

เสื้อผ้า เครื่องนุ่งห่ม อาหารการกินทั้งหลาย

เพียงแต่ เราไม่เคยรู้ว่า กว่าที่จะได้มา เขาเหล่านั้นเป็นใครกันบ้าง

ตำน้ำพริกไปกี่ครก แม่น้ำ กลายเป็นน้ำแกงไปกี่สาย

เพียงแต่ เรา อาจไม่ได้เกิดมาเพื่อมีหน้าที่ที่จะทำสิ่งนี้ เท่านั้นเอง


และที่ คุณใช้คำว่า

QUOTE
เพียงเพื่อ
ได้ความรู้ ที่ไม่มีอยู่จริง


หมายถึงอะไรหรือคะ

แปลว่าคุณรู้แล้ว เห็นแล้ว มั่นใจแล้ว หรือ ว่า สิ่งที่เขาจะทดลองในวันนี้ ไม่มีอยู่จริง

koonpatt คิดว่า บางครั้งคนเราลืมไปว่า เราเกิดมา เพื่อถูกพึ่งพา และเป็นผู้พึ่งพาทั้งสิ้น

อาจมีหลายชีวิตพึ่งพาเราโดยที่เราไม่รู้ตัว และ อาจไม่เต็มใจ

เช่น ยุงพึ่งพาอาศัยเลือดของเรา ในการดำรงชีวิต

พยาธิในท้องก็ต้องพึ่งพาเรา สุนัข หรือ แมวจรจัด ที่เราโยนเศษอาหาร หรือ อาหารเหลือให้

โดยไม่ได้คิดอะไร

และเราอาจพึ่งพาคนอื่นโดยที่เราไม่รู้ตัว

เรากินข้าว แน่นอนเราซื้อ แต่เราต้องอาศัยชาวนาโดยที่เราอาจลืมนึกถึง

เราใช้อินเตอร์เน็ตในการสื่อสาร แน่นอนเราจ่ายเงินค่าบริการ เราขอบคุณ เวบมาสเตอร์

เราลืมนึกถึงคนที่คิดค้น ระบบเหล่านี้ คนเดินสายโทรศัพท์ พนักงานองค์การที่ดูแลระบบเหล่านี้ให้เรา

เราพึ่งพาหมอ เพื่อช่วยรักษาอาการเจ็บไข้ได้ป่วย แต่เราไม่เคยนึกถึงนักวิทยาศาสตร์

ที่คิดค้นยาเหล่านี้ขึ้นมา เราไม่เคยนึกถึงชีวิตของสัตว์ทดลอง ที่ตายไปตั้งเท่าไหร่ เพื่อเรา

ทำหน้าที่ของเราที่มีต่อ ตัวเอง ครอบครัวของเรา สังคมของเรา และ

โลกของเราให้ดี

เพราะคนทุกคนล้วนต้องทำหน้าที่ของตัวเองทั้งสิ้น เห็นคุณค่าในสิ่งที่ผู้อื่นทำ

เผื่อว่าสักวัน สิ่งที่เราทำจะได้ดูมีค่าในสายตาของคนอื่นบ้าง

ขออภัยนะคะ หากความคิดเห็นของ koonpatt อาจทำให้เคืองขุ่น

แต่ koonpatt เชื่อว่า ในวัดของเรานี้น่ะ ต้องมีนักวิทยาศาสตร์ด้วยแน่ๆ

อยากจะบอกว่า อย่างน้อยก็มีคนรู้ถึงความพยายามของท่าน อยู่ด้วยนะคะ


จึงยังคง เชื่อมั่นและศรัทธาใน "รัก" เหมือนอย่างที่เคย...เสมอมา...และจะตลอดไป
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ

#9 eq072

eq072
  • Members
  • 504 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 September 2008 - 02:00 PM

นึกถึงบุญหล่อหลวงปู่ดีกว่า เพื่อโลกใบนี้ มันจะเป็นอะไรมากจากการทดลองครั้งนี้ 555

#10 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 10 September 2008 - 02:14 PM

ขอบคุณ koonpatt ที่แสดงความคิดเห็นไว้น่าสนใจมากครับ

ก่อนตอบคำถาม koonpatt ผมขอเล่าที่มาที่ไป ของทัศนะที่ผ่านมา ก่อนนะครับ

๑ เรื่องโครงการ LHC ของ CERN นั้น ผมไม่ได้รู้จริง รู้ลึกในทฤษฎีฟิสิกส์ หรอกครับ
แค่ติดตามความเคลื่อนไหว บ้างเท่านั้น

๒ ทัศนะที่ผ่านมาของผมนั้น เป็นมุมมองการทดลองทางวิทยาศาสตร์ในทัศนะของคนที่ศึกษาพุทธศาสตร์
ในระดับนักเรียนอนุบาล เท่านั้นครับ

๓ ทัศนะส่วนตัวที่ผ่านมาของผม ไม่มีเจตนาในทางอกุศล เรื่องโครงการ LHC ของ CERN
ก็แค่ทัศนะ มุมมองหนึ่ง เท่านั้นเองครับ


ที่จริงผมเองก็สนใจและเห็นด้วยในการค้นคว้าของทางวิทยาศาสตร์ เพื่อนวัตกรรมใหม่ ๆ นะครับ
และติดตามข่าวด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เสมอ ๆ

สำหรับโครงการ LHC ของ CERN นั้น
คุณค่าของโครงการนี้จะมีมหาศาลแค่ไหน คุ้มค่าการลงทุนหรือไม่

แต่ละคนคิดต่างกันได้ ใช่ไหมครับ

ในมุมมองของนักวิทยาศาสตร์ และคนที่สนใจ เข้าใจเรื่องนี้ อย่างลึกซึ้ง
ย่อมมองว่า คุ้มค่าการลงทุน

แต่ในมุมองส่วนตัวของผม คิดว่า ใช้งบประมาณมากเกินไป ก็เท่านั้นเองครับ
ไม่ได้มีเจตนาคัดค้าน ต่อต้านโครงการทดลองนี้ แต่อย่างใดครับ

ยกตัวอย่าง

ที่เคยทราบข่าวมาบ้างว่า
NASA ใช้เวลาและงบประมาณมากมาย ในการค้นคว้า วิจัย ประดิษฐ์ ปากกาที่ใช้เขียน
ในสภาพไร้น้ำหนัก/แรงโน้มถ่วง
แต่ด้านรัสเซีย ใช้แค่ดินสอ ธรรมดา ก็ใช้เขียนบนกระดาษได้เหมือนกัน

กรณีนี้ ผมมองว่า NASA ใช้งบประมาณมากเกิน อุปมาเหมือน
ขี่ช้าง จับตั๊กแตน
ตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ

ดังนั้น ที่ผมกล่าวไว้ว่า
มนุษย์ก็คงไม่จำเป็นต้อง ใช้เงินมากกว่า 4,000 ล้านปอนด์
เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ


ก็คล้าย ๆ กับเรื่อง ดินสอ กับ ปากกา เท่านั้นครับ

ที่ koonpatt บอกว่า

QUOTE
อ่านแล้วอดคิดไม่ได้ว่า นี่คือ การดูเบา คนอื่นอยู่หรือเปล่า


ตอบว่า ไม่มีเจตนาอย่างนั้นครับ
แต่ยอมรับว่า ภาษา ข้อความที่ผมกล่าวไว้ สามารถมองและเข้าใจอย่างนั้นได้
และยินดีลบข้อความดังกล่าว
แต่ผมก็ยังมองมุมนั้นอยู่ ว่า
โครงการดี แต่ใช้งบประมาณมากเกินไป

ส่วนที่ koonpatt ถามว่า

QUOTE
เพียงเพื่อ
ได้ความรู้ ที่ไม่มีอยู่จริง
หมายถึงอะไรหรือคะ]

แปลว่าคุณรู้แล้ว เห็นแล้ว มั่นใจแล้ว หรือ ว่า สิ่งที่เขาจะทดลองในวันนี้ ไม่มีอยู่จริง


ตอบว่า
อารมณ์ตอนตอบกระทู้ ขณะนั้น
ผมมองในด้านปรมัตถ์สัจจะ
ครับว่า

ทุกสิ่งในโลก ทั้งรูปและนาม
รวมถึงความรู้อะไร ๆ เช่น การทดลองด้วยทฤษฎีทางวิทยาศาสตร์ ฟิสิกส์ ดาราศาสตร์
อย่างโครงการ LHC ของ CERN นั้น
ความรู้ที่ได้มา จะเป็นอะไร ก็ตาม ผมมองว่า เหมือน ภาพมายา
ที่มีอยู่จริง ในด้าน สมมุติสัจจะ
แต่
ไม่มีอยู่จริง ในด้าน ปรมัตถ์สัจจะ ครับ

อุปมาเหมือน

การกินอาหาร
ที่มีอยู่จริงในแบบชาวบ้าน คือ มนุษย์ และสัตว์ กินข้าว พืช ผัก เนื้อสัตว์ กินข้าวผัด ก๋วยเตี๋ยว ต้มยำกุ้ง ฯล
ที่มีอยู่จริง ในแบบนักโภชนาการ คือ มนุษย์ และสัตว์ กิน คาร์โบไฮเดต โปรตีน ไขมัน เกลือแร่ วิตามิน ฯล

แต่ไม่มีอยู่จริง ในแง่ปรมัตถ์สัจจะ คือ
พืช ผัก เนื้อสัตว์ ข้าวผัด ก๋วยเตี๋ยว ต้มยำกุ้ง
เป็นเพียงชื่อ ในสมมุติบัญญัติ ให้มนุษย์สื่อสารกันเข้าใจเท่านั้น
แท้ที่จริงแล้ว
พืช ผัก เนื้อสัตว์ ข้าวผัด ก๋วยเตี๋ยว ต้มยำกุ้ง
คือ ธาตุ

มนุษย์กินธาตุ โดยย่อ คือ ธาตุ ๔
ธาตุเป็น กินธาตุตาย

ไม่ทราบว่าอธิบาย แบบนี้ จะเข้าใจหรือไม่ ครับ
หรือว่า ผมหลุดโลกไปแล้วครับ เนี่ย happy.gif

สรุป คือ

๑ ผมไม่มีเจตนาในทางอกุศล ต่อโครงการ LHC ของ CERN นี้ หนำซ้ำ ยังสนใจติดตามความเคลื่อนไหวอีกด้วยครับ


๒ เข้าใจและเห็นด้วย กับทัศนะคุณ koonpatt ในเรื่อง
เราเกิดมา เพื่อถูกพึ่งพา และเป็นผู้พึ่งพาทั้งสิ้น
และเห็นด้วยกับการค้นคว้า ทดลองในทางวิทยา-ดาราศาสตร์
เพื่อนวัตกรรม สิ่งประดิษฐ์ที่เป็นประโยชน์ ต่อการดำรงชีพและการรักษาโรคภัย ของมนุษย์

แต่คิดว่า โครงการนี้ ใช้งบประมาณมากเกินไป
ส่วนท่านใดคิดว่า เหมาะสมดีแล้ว ก็ไม่ได้คัดค้าน นานาจิตตัง ครับ

๓ ผมใช้ถ้อยคำที่สามารถมองได้ว่า ดูเบาในงานของคนอื่น ในทำนองยกตนข่มท่าน อวดรู้
ซึ่งต้องขออภัยทาน ด้วยครับ ไม่มีเจตนาอย่างนั้น ครับ

๔ ไม่ขยายความในทัศนะส่วนตัว ในเชิงปรมัตถ์สัจจะ ตั้งแต่ต้น คนอ่านก็อาจ งง

อย่างไรก็ตาม ผมคิดว่า
การสนทนา หรือการร่วมแสดงความคิดเห็นส่วนบุคคล ใน webboard
เป็นเรื่อง ปัจเจกชน

ในโลกยุคนี้ คงไม่มีใครสามารถบังคับ ทุกคนให้ คิดตรงกันได้
เพราะพื้นฐานทางความรู้ แนวคิด มุมมอง ประสบการณ์ชีวิตจริงของมนุษย์แตกต่างกัน
ก็อยู่ที่วิจารณญาณส่วนบุคคล ว่า จะเชื่อ ไม่เชื่อ เห็นด้วย ไม่เห็นด้วย
โดยมากเป็นเรื่องนานาจิตตัง ของแต่ละท่าน

การร่วมแสดงทัศนะส่วนตัว ของผมในเรื่องใด ๆ
โดยเฉพาะ ความรู้ ความเข้าใจในธรรมะของผม

เ็ป็นการแลกเปลี่ยนความรู้ ความเข้าใจ
ไม่มีเจตนาอวดรู้ เพื่อยกตนข่มท่านใด


หากผิดพลาด ประการใด ต้องขออภัยทาน อย่างยิ่ง
และขอให้ท่านผู้รู้ ทักท้วง แก้ไขให้ถูกต้องด้วยนะครับ

อนุโมทนา พี่ เถลิงเกียรติ และ คุณ koonpatt
ที่ช่วยชี้ขุมทรัพย์และแนะนำสิ่งที่มีประโยชน์ ให้ชุมชน รวมถึงผม
ด้วยความปรารถนาดี เสมอมาด้วยครับ

ยินดีที่ได้สนทนา แลกเปลี่ยนทัศนะกับทุกท่านครับ
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#11 eq072

eq072
  • Members
  • 504 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 September 2008 - 02:20 PM

อีก 10 นาทีครับ

#12 eq072

eq072
  • Members
  • 504 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 September 2008 - 02:55 PM

เครื่องกำลังเดินอยู่ครับ
http://twitter.com/jusci

#13 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 10 September 2008 - 08:17 PM

ขณะนี้เวลา20:20 ยังไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย หลุมดำไม่เกิด

พุทธพยากรณ์กล่าวว่า โลกจะอยู่ไปจนถึงยุคพระศรีอาริยะเมตตไตรมาตรัสรู้และปรินิพพาน พระศาสนาหายไป

หลังจากนั้นอีกนานมากกว่าโลกจะถึงกาลหายนะด้วยไฟบรรลัยกัลป์

ผมเชื่อมั่นในฌาณทัศนะของพระผู้มีพระภาค ดังนั้นมนุษย์ทั้งหลายที่คิดว่าตนเองมีความรู้มาก

ไม่มีสติปัญญาพอหรอกที่ทำอันตรายแก่โลกใบนี้ให้พินาศไปได้



#14 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 13 September 2008 - 08:54 PM

สวัสดีครับ..

หายไปหลายวันเข้ามาดู กระทู้

ชื่นใจจริงๆ น้อมรับนับถือกับ เทวดาทั้งหลายที่ ตอบกระทู้ ที่เต็มไปด้วย จิตที่ปราถนาดีต่อกัน

อ่านแล้วชื่นใจจริงๆ ที่ ครึ่งพุทธกาล ยังมีการโต้ตอบกันในไซเบอร์สเปซ ที่เต็มไปด้วยถ้อยคำที่ ดีเพียงนี้

ต่างกันลิบ-ลับ กับเพื่อร่วมสังสารใน 1000Tip

ขอแสดงมุทิตาจิตด้วยครับ สาธุ สาธุ สาธุ

จริงๆ แล้ว โครงการทางวิทยาศาสตร์ ทั้งโลก ก็มีทั้งคุณ และโทษกับ มนุษยชาติ ครับ

เราผู้แสวงหาสันติภาพภายใน ก็ต้องทำตามคุณครูไม่ใหญ่ ที่ท่านสอนเราว่า

คนที่ฉลาดมักเปลี่ยน วิกฤติให้เป็นโอกาส ...แต่,...

คนที่ประมาท มักเปลี่ยนโอกาส ให้เป็นวิกฤติ

ดังนั้น ผมก็ขอโอกาสนี้ อธิบาย ให้กับพี่น้อง DMC ได้เข้าใจ ในโครงการต่างๆของชุมชน

World Community Grid ครับ

ไงก็เข้าไป ดูหลักการและเหตุผลต่างๆ ที่

www.worldcommunitygrid.org

ก่อนนะครับ ค่อยๆอ่านและทำความเข้าใจ และจะทราบ

จากนั่นถ้าพอรู้แนวทางแล้วก็จอยนาว ครับ

พอทราบแล้ว ก็จะเป็นช่องทางอันดี ที่จะเข้าร่วมชุมชน เพื่อแสวงหาจุดร่วม

จากนั้น ก็สมานจุดต่าง แล้วพี่น้อง DMC ก็จะสามารถ เสนอแนวทาง ของชาว DMC ได้ครับ

.....................................................................................................

ก็ขอเรียนให้ทราบว่า พี่ๆ น้องๆ ชาว DMC อย่าปล่อยให้ Computer

ทิ้งพลังงานไปโดย เปล่าประโยชน์ ครับ

พี่ๆ น้องๆ ชาว DMCพอทราบเรื่อง Distributed Computing มั้ยครับ


ถ้าเราเปิดเครื่องทั้งวันทั้งคืน แล้วเวลาที่ไม่ได้นั่งหน้าจอ

เราก็เปิดทิ้งไว้ให้กินไฟเล่น โดยเปล่าประโยชน์ครับ
โอกาสอันดี นี้ล่ะครับ ที่ พี่ๆ น้องๆชาว DMC

เรามา แบ่งพลังคำนวณของ Computer มาทำ Distributed Computing สิครับ

เพื่อมวลมนุษยชาติ ครับ เพื่อร่วมกัน และเราก็จะสามารถเสนอ แนวทางวิชชาธรรมกาย เพื่อให้เขาเหล่านั้นทราบ ครับ


Distributed Computing เป็นการประมวลผลคอมพิวเตอร์ที่ต้องใช้กำลังมากๆ

โดยการแบ่งการคำนวณออกเป็นส่วนย่อยๆ แบ่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์หลายๆเครื่องช่วยกันคำนวณ

ซึ่งเมื่อเครื่องคอมพิวเตอร์มีจำนวนมากๆ ก็สามารถเปรียบเทียบได้กับ

เครื่องซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ราคาหลายพันล้านเชียวแหละครับ

มีโครงการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่มีประโยชน์

หลายโครงการจำเป็นต้องใช้พลังการคำนวณสูงๆ และเราสามารถสนับสนุนโครงการเหล่านั้นได้

เช่น

Climate Prediction
ทำนายภูมิอากาศของโลกในอนาคต

Predictor / Rosetta / Folding / World Community Grid ( FightAIDS@home - Human Proteome Folding )
ศึกษาโครงสร้างโมเลกุลของโปรตีน มีประโยชน์ทางการแพทย์ วิจัยยา กลไกการเกิดโรค

LHC (Large Hadron Collider)
จำลองการทำงานของเครื่องเร่งอนุภาค LHC ที่จะสร้างขึ้น ที่ CERN ในสวิตเซอร์แลนด์

Einstein
วิเคราะห์คลื่น Gravitational Wave ที่เกิดจาก Neutron Star (Pulsar) ช่วยให้รู้ถึงกำเนิดของเอกภพ

uFluids
ศึกษาของไหลในสภาวะไร้น้ำหนัก เพื่อพัฒนาระบบขับเคลื่อนและควบคุม ดาวเทียมและยานอวกาศ

SETI@Home
วิเคราะห์สัญญาณวิทยุจากกล้อง Arecibo Observatory ในเปอร์โตริโก และกล้อง Parkes ในออสเตรเลีย ในอนาคต โครงการนี้จะขยายขอบเขตไปเป็น การสแกนท้องฟ้า ค้นหาดาวหรือเทหวัตถุใหม่ๆ (PlanetQuest) และเฝ้าระวังอุกกาบาตในวงโคจร



วิกิพีเดีย BOINC

ดาวน์โหลด BOINC Client v.5.4.11

วิธีติดตั้ง BOINC

เว็บบอร์ด


http://distributedcomputing.info


สงสัยประการใด ผมยินดีตอบครับ




ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#15 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 15 September 2008 - 07:50 AM

อนุโมทนา พี่เถลิงเกียรติ
ในการบำเพ็ญคุณประโยชน์ทั้งทางโลก ทางธรรมให้แก่เพื่อนมนุษย์ร่วมสังสารวัฏ ด้วยครับ
แนบไฟล์  Sa_Dhu_Anumonatami.gif   22.04K   79 ดาวน์โหลด

ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม