ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

มีคำถาม 1 ข้อค่ะ เกี่ยวกับรูปภาพทางพุทธศาสนา..


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 usr25578

usr25578
  • Members
  • 4 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 September 2008 - 10:13 PM

หนูและเพื่อนๆที่โรงเรียนเคยดูรูปภาพทางพุทธศาสนา เลยสงสัยว่าทำไมพระพุทธเจ้าถึงมีผมล่ะคะ แต่พระรูปอื่นท่านไม่มี ?

.. ขอโทษด้วยนะคะ หนูไม่รู้ว่าต้องใช้คำพูดอธิบายอย่างไร เพิ่งโพสต์ครั้งแรกด้วยค่ะ ถ้ามีอะไรผิดพลาด กรุณาชี้แนะด้วยนะคะ

ขอบคุณค่ะ


#2 บุญหลาย

บุญหลาย
  • Members
  • 159 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 September 2008 - 11:16 PM

เท่าที่ความรู้อันน้อยนิดผมจะรู้นะครับ

คือว่าตอนท่านปรงผมตอนแรก ก็ไม่มีผมอ่าครับ

แต่หลังจากนั้น ผมก็ขึ้นขดเป็นก้นหอย แบบนั้นแหละครับ

ยังไงใคร รู้มากกว่านี้ หรือผมตอบผิดก็ช่วยแก้ไขด้วยนะครับ
"พรุ่งนี้โลกก็เปลี่ยนแปลงแล้ว"


#3 usr21238

usr21238
  • Members
  • 233 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 08:46 AM

ขอชึ้แจงเรื่องพระเกศาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตามความรู้ที่มีอยู่นะจ๊ะ พระเกศาของพระองค์นั้นมีมาตั้งแต่เมื่อครั้งตัดพระเกศาทิ้งเพื่อทรงออกผนวชที่ชายฝั่งเนรัญชรา และทรงตั้งสัตย์อธิษฐานให้เส้นพระเกศาคงความยาวอยู่เพียงเท่านั้น มิให้งอกออกมาอีก ฉะนั้นจึงเห็นทุกๆภาพขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีพระเกศา ซึ่งไม่เหมือนกับพระอรหันต์องค์อื่นๆ และก็มีพระวินัยบัญญัติไว้ว่าผมของพระจะยาวได้ไม่เกิน 2 นะหุต (ไม่ทราบว่า 2 นะหุต ยาวเท่าไร)

ถูกผิดอย่างไรขอท่านผู้รู้ช่วยแนะนำด้วยนะคะ

สาธุ สาธุ สาธุ

#4 voyager

voyager
  • Members
  • 23 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 10:06 AM

เคยได้ฟังมาว่าตอนที่หมอชีวก พาพระเจ้าอชาติศัตรูเข้าเฝ้าคพระพุทธองค์รั้งแรก พระเจ้าอชาติศัตรูทอดพระเนตรไปทรงเห็นพระเหมือนกันหมดไม่ทราบว่าพระพุทธองค์ประทับนั่งตรงไหน มีพระมากมายแต่นั่งกันเงียบสงบ ต้องถามหมอชีวกว่าใครคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะเกรงว่าจะถูกพามาลอบปลงพระชนม์ หมอชีวกต้องชี้ให้ทอดพระเนตรและพาไปเข้าเฝ้า แสดงว่าพระพุทธองค์ น่าจะไม่แตกต่างจากพระทั้งหลาย (รายละเอียดต้องขอความกรุณาท่านมหาเปรียญช่วยค้นคว้าตำราอ้างอิงให้หน่อยครับ)
คิดว่าปฏิมากรและจิตรกรคงสร้างพระพุทธองค์ให้แตกต่างจากพุทธสาวกมากกว่า


#5 rattana_s

rattana_s
  • Members
  • 113 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 12:08 PM

เข้าใจว่าที่พระเจ้าอชาติศรัตรูไม่ทราบว่าคนไหนคือพระพุทธเจ้า เป็นเพราะว่าท่านไม่คยเห็นหน้าตาก็เลยไม่รู้จักมากกว่า พระรูปอื่นๆถึงจะสงบนิ่งเหมือนกันแต่หน้าก็ย่อมแตกต่างกัน...
..เช่นถ้ามีคนแนะนำเราไปหาคุณอนันต์ซึ่งเราไม่เคยรู้จักมาก่อน แต่เขาอยู่รวมกันในคนหมู่มาก เราก็ย่อมไม่ทราบว่าคนไหนคือคุณอนันต์ ต้องมีคนแนะนำให้รู้จัก...

#6 somchet

somchet
  • Members
  • 900 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 12:48 PM

เป็นลักษณะของกายมหาบุรุษครับ ที่เมื่อปลงพระเกศาแล้วจะงอกขึ้นมาเป็นก้นหอย ยาวแค่ 1 องคุลา(กี่เซนต์ก็ไม่ทราบนะ) แต่ยาวแค่นั้นตลอดไป

#7 voyager

voyager
  • Members
  • 23 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 02:15 PM

กรณีพระมหากัจจายนเถระผู้มีกายดุจพระพุทธองค์ เพราะบำเพ็ญบารมีมามาก เวลาท่านไปที่ใดคนมักเข้าใจผิดว่าพระพุทธองค์เสด็จ ท่านกลัวจะเป็นบาปแก่ท่าน ท่านจึงอธิฐานให้กายท่านอ้วนท้วนแตกต่างจากพระพุทธองค์ กรณีนี้น่าจะแสดงว่าพระเกศาของพระพุทธองค์กับพระสาวกไม่น่าจะแตกต่างกันเด่นชัดนัก ถ้าแตกต่างก็น่าจะสังเกตเห็นแต่ไกล
พระเจ้าอชาติศัตรู และชาวบ้านก็น่าจะสังเกตได้
ผมเองก็สงสัยเรื่องนี้มาตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ถามใครก็ได้คำตอบที่ชวนสงสัยต่อไปอีกเรื่อย ๆ ตอนโตขึ้นมาได้อ่านพระไตรปิฎกก็เกิดความพิศวงในลักษณะมหาบุรุษ(หลายข้อ)ตามความเชื่อของคนในสมัยก่อนพุทธกาล ว่าไม่น่าเป็นไปได้ ด้วยสติปัญญาแค่บุคคลธรรมดาก็คิดว่าน่าจะเกิดจากการสื่อความคลาดเคลื่อนกันมาหรือเปล่าหนอ ก้คิดได้แค่นี้แหละครับ วานท่านผู้รู้ช่วยแนะนำด้วย
เวลาในภพนี้มีน้อยนะครับ อย่ามัวแต่สงสัยอยู่เลย ควรเร่งปฏิบัติธรรมให้มาก ๆ เพื่อความหลุดพ้นเถอะครับ

#8 เคยเข้าวัด

เคยเข้าวัด
  • Members
  • 1296 โพสต์
  • Interests:สร้างบุญบารมีอย่างยวดยิ่ง ตราบเท่าชีวีหมดอายุขัย

โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 02:36 PM

QUOTE
เคยได้ฟังมาว่าตอนที่หมอชีวก พาพระเจ้าอชาติศัตรูเข้าเฝ้าคพระพุทธองค์รั้งแรก พระเจ้าอชาติศัตรูทอดพระเนตรไปทรงเห็นพระเหมือนกันหมดไม่ทราบว่าพระพุทธองค์ประทับนั่งตรงไหน มีพระมากมายแต่นั่งกันเงียบสงบ ต้องถามหมอชีวกว่าใครคือพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพราะเกรงว่าจะถูกพามาลอบปลงพระชนม์ หมอชีวกต้องชี้ให้ทอดพระเนตรและพาไปเข้าเฝ้า แสดงว่าพระพุทธองค์ น่าจะไม่แตกต่างจากพระทั้งหลาย (รายละเอียดต้องขอความกรุณาท่านมหาเปรียญช่วยค้นคว้าตำราอ้างอิงให้หน่อยครับ)


ขอออกความเห็นแบบเด็กอนุบาลนะครับ ได้ยินมาว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหลังจากทรงปรงพระเกศาของพระองค์เองผมของพระองค์ที่เหลือจะขมวดทักษิณาวัตรเป็นรูปก้นห้อย สาเหตุที่ผมเหลือนั้นเพราะเป็นการตัดเพียงครั้งเดียวครับ เหมือนกับการตัดหางเปีย แต่ด้วยพระบารมีของพระองค์ผมที่เหลืออยู่จึงขมวดเป็นรูปก้นห้อยและมีขนาดเท่ากัน
แต่สำหรับพระภิกษุในยุคนั้นทั้งที่เป็นพระอรหันต์และไม่เป็นก็ตาม ต่างเหมือนพระภิกษุในยุคปัจจุบัน คือผมยังมีการเจริญเติบโตหรืองอกยาวเหมือนคนปกติ ในตอนที่พระเจ้าอชาตศัตรูเสด็จไปเข้าเฝ้าพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผมของพระภิกษุในขณะนั้นอาจจะยาวหน่อยนึงแล้วก็อาจเป็นได้นะครับ จึงทำให้ดูเหมือนกันหมด

QUOTE
เป็นลักษณะของกายมหาบุรุษครับ ที่เมื่อปลงพระเกศาแล้วจะงอกขึ้นมาเป็นก้นหอย ยาวแค่ 1 องคุลา(กี่เซนต์ก็ไม่ทราบนะ) แต่ยาวแค่นั้นตลอดไป


เคยได้ยินจากหลวงพ่อทัตตะมานานมากแล้ว หากผมจำไม่ผิดจะเป็นการเทศนาสอนเรื่องพุทธประวัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หลวงพ่อทัตตะท่านบอกไว้ว่าพระเกศาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายาวประมาณ1ข้อนิ้วมือหรือประมาณ1นิ้วครับ


1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย

#9 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 04:48 PM

คุณเคยเข้่าวัดนี่วิเคราะห์ตามหลัก 3 จริง จริงๆ ครับ เพราะพระภิกษุเวลาปลงผมแล้ว ผมจะไม่ได้หยุดอยู่แค่นนั้น แต่จะงอกออกมาใหม่ ทำให้ทุกๆ ช่วงเวลาหนึ่งก็ต้องมาปลงผมใหม่ครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#10 บุญเชื่อม

บุญเชื่อม
  • Members
  • 68 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 September 2008 - 06:16 PM

คงได้ทราบแล้วก็คงไม่ต้องอธิบายอีกนะค่ะ

#11 บุญ อุ้ม ไว้

บุญ อุ้ม ไว้
  • Members
  • 28 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 September 2008 - 10:47 AM

ได้รู้ในสิ่งที่ควรรู้ กระทู้ที่เป็นบวกมีที่นี่ที่เดียวค่ะ อนุโมทนาบุญทุกท่านที่แบ่งปัน สาธุ

#12 usr25578

usr25578
  • Members
  • 4 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 September 2008 - 11:24 AM

ขอบคุณมากนะคะ สำหรับผู้ที่มาตอบข้อสงสัย

คุณ voyager ก็พูดถูกนะคะ ที่บอกว่า "เวลาในภพนี้มีน้อยนะครับ อย่ามัวแต่สงสัยอยู่เลย ควรเร่งปฏิบัติธรรมให้มาก ๆ เพื่อความหลุดพ้นเถอะครับ"


- - ผู้ตั้งกระทู้ - -