ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

You Can Do MORE THAN You Think


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 12 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 23 September 2008 - 09:48 AM

You Can Do MORE THAN You Think
เรื่องราวและข้อคิดชีวิตดี ๆ โดย นิกร บรรเจิดเลิศ / Spa Consultant

**** เนื่องจากต้นฉบับยาวมาก จึงคัดลอกมาบางตอน เรียบเรียงให้กระชับขึ้น
โดยได้รับอนุญาตจากคุณ นิกร บรรเจิดเลิศ แล้ว : Dd2683 ****

นิกร
เป็นเด็กบ้านนอกพ่อแม่มีอาชีพกรีดยางจากนครศรีธรรมราช ไม่มีไฟฟ้า ไม่มีทีวี
ไม่มีมอเตอร์ไซค์หรือเครื่องอำนวยความสะดวกเหมือนคนเมือง

แต่เขาชอบฝันและทำตามฝัน

ชอบภาษาอังกฤษและอยากมีแฟนฝรั่ง จบม.6
เนื่องจากไม่เคยเห็นภูเก็ตเลยมาสมัครโควต้าและได้มาเรียนวค.ภูเก็ตเอกอังกฤษธุรกิจสมใจ
ตอนฝึกงานที่โรงแรมเขาคุยแขกท่านหนึ่งว่ามาจากที่ไหน แขกบอกมาจากเชียงใหม่
นิกรซึ่งเป็นคนไทยก็จริงแต่ยังไม่เคยเห็นแม้กระทั่งกรุงเทพ อย่าว่าแต่เชียงใหม่เลย
เขาเลยตัดสินใจให้การศึกษาพาไปเหมือนเดิมเลยไปเรียนต่อภาษาอังกฤษ
ที่มหาลัยพายัพที่เชียงใหม่เพราะถ้าไปเชียงใหม่ต้องผ่านกรุงเทพเหมือนกับยิงปืนนัดเดียวได้เที่ยว2จังหวัด
จบมาก็มาสมัครรีเซ็พชั่นที่ Banyan Tree Resort and Spa ดังระดับโลก

นิกรชอบปาร์ตี้ทั้งดื่มและสูบอย่างหนักรวมทั้งยาเสพติดอื่นๆด้วย
เมื่อก่อนนิกร เคยเที่ยวกลับตีห้า
ตอนนี้ตื่นตีห้ามาเกือบ 7 ปีแล้ว ที่สำคัญถือศีลห้าอย่างจริงจังและสนุกกับมันมากว่า3ปีแล้ว
นิกรบอกทำสปามา 15 ปีจนตอนนี้สปาเปลี่ยนชีวิต

นอกจากปาร์ตี้เขายังชอบช่วยเหลือคนเป็นชีวิตจิตใจรวมทั้งชาวบ้านและเด็กกำพร้าเขาหลัก
ที่เขากับเพื่อนฝรั่งยังช่วยกันมาจนถึงทุกวันนี้
นิกรบอก
สปา คือ งานที่ดีที่สุดสำหรับเขาและเป็นงานบุญ
เพราะไม่ว่าจะมีหรือจนทุกคนต้องการเหมือนกันคือ ความสุขและอยากรู้สึกว่าสุขภาพดีขึ้น


ตอนนี้นิกรสอนเรื่องสมาธิ พลังจิตและทำพลังบำบัด
และมีบทความเกี่ยวกับงานที่เขาทำออกมาเรื่อยๆ ทั้งในและต่างประเทศ
รวมทั้ง In flight Magazineของสายการบินดัง British Airways,
Spa Finder(นิตยสารสปาที่ดีที่สุดมีชื่อเสียงที่สุดของโลก)
ล่าสุดเพิ่งลง INDIGO, Phuket Bulletin ของภูเก็ต, Amex Centurion UKและThe Departures UK

นิกรยังศึกษาและสนใจศาสตร์ต่างๆอีกมากมาย เช่น การรักษาบำบัดแบบทิเบต, โยเร, แควนตั้มฟิสิกส์,
Language of Light Massage, Foot Massage, The Law of Attraction (กฏแห่งแรงดึงดูด), จิตวิทยา,
วิทยาศาสตร์การแพทย์และสุขภาพ

ทั้งศึกษาและฝึกต่อเนื่องมาเรื่อยๆควบคู่กับศึกษาเรื่องจิตและนั่งสมาธิทุกวัน
ได้ผลดีทุกด้านทั้งร่างกาย จิตใจและการเงิน
ที่ภูมิใจและดีใจมากคือเลิกเหล้าและบุหรี่ได้เด็ดขาดด้วยตัวเองหลังจากติด(ใจ)มากว่า20ปีและสารเสพติดทุกชนิด
เลิกใส่แว่นสายตาหลังจากใส่มากว่า15ปีและรักษานิ่วหายด้วยตัวเอง

เขารับบรรยาย อบรมและทำเวิร์คช็อพให้ทั้งแขกและพนักงาน
เขาเชื่อว่าถ้าอยากรวยต้องทำงานกับคนรวยหรือไปในที่ที่คนรวยเขาไปหรืออยู่กัน
แต่ก็ยังรับงานบรรยายให้กับองค์กรต่างๆที่ไม่มีผลกำไร เช่น
สโมสรโรตารี่ โรงเรียนและสถาบันการศึกษาต่างๆ ไม่คิดเงินแต่ไม่ฟรี(แลกกับน้ำดื่มเพราะไม่กินกาแฟ)
เพราะเคยเสนอตัวฟรีคนไม่เห็นค่า นี่คือเรื่องจริงที่เจอมา


ทุกข์และปัญหาของคนเรามาจาก โลภ โกรธ หลง

นิกรเองมีปัญหากับตัวสุดท้ายมากที่สุด คือ ความโกรธ mad.gif
เขายอมรับว่า เขาน่ากลัวและเกลียดตัวเองมาก โมโหปุ๊ป หลุดเลย เคยโกรธชกเพื่อนจนนิ้วตัวเองหัก
ตีฝรั่งหัวแตกเย็บหลายสิบเข็ม

เหมือนที่ใครเคยกล่าวไว้ว่า
ความจริงความผิดพลาดเกี่ยวกับตัวเราเอง
เป็นสิ่งที่เราทุกคนรวมทั้งเขาเขาด้วยยอมรับได้ยากที่สุด
ง่ายกว่าที่จะโทษคนอื่น


และคนส่วนใหญ่ทั้งโลกและนิกรเองก็เคยเป็นหนึ่งในนั้นเลือกที่จะโทษคนอื่น
แต่ท้ายที่สุดเขาเองก็ต้องยอมรับว่า
ความโกรธคือปัญหาใหญ่ของเขาจริงๆ ที่ใหญ่ที่สุดและน่ากลัวกว่าทุกปัญหาทั้งหมดที่เขามี

ตอนเขายังโสดตัวคนเดียวไม่ค่อยมีผลเสียเท่าไหร่
แต่ตอนนี้เขาแต่งงานมีครอบครัวและมีลูกน่ารัก 4 คน
ธรรมะแบบเดิมๆ วิธีแบบเดิมๆใช้ไม่ได้ผลกับเขา
ที่เลวร้ายกว่านั้นมันเริ่มส่งผลกระทบโดยตรงกับภรรยาและลูกๆ
การแสวงหาคำตอบอย่างจริงจังจึงเกิดขึ้น
เลยเป็นที่มาของการเริ่มศึกษาธรรมะและศาสตร์ต่างๆอีกมากมายอย่างจริงจังเพื่อจัดการกับความโกรธ

กระทั่ง สาว ซึ่งเป็นลูกน้องเก่าให้หนังสือความโกรธ(Anger)ของท่าน ติช นัช ฮันห์
ดีมากดีกว่าหนังสือ Anger Managementและหนังสือจิตวิทยาทั้งหลายทั้งปวงที่เขาเคยอ่านมา
ถ้ารักที่จะรักษาชีวิตคู่ไว้ต้องหามาอ่าน บทสรุปของหนังสือที่จะเอาชนะความโกรธและรักษาชีวิตคู่ไว้(ถ้ายังมี)

เขาคิดเล่นๆว่า ถ้าวันนั้นเขาไม่รับสาว มาทำงานด้วย
วันนี้ชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไรและจะเกิดอะไรขึ้น คิดแล้วก็แปลกแต่โครตจริงเลย
หนึ่งความคิด หนึ่งการตัดสินใจ
คนหนึ่งคน สามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตที่เหลือของเราได้ทั้งชีวิต

นิกรบอกเขากับภรรยาเป็นหนี้หนังสือเล่มนั้น เป็นหนี้สาวและท่าน ติช นัช ฮันห์
ที่สำคัญคือ ธรรมะของพระพุทธเจ้า

เพราะฉนั้นใครก็แล้วแต่ในโลกนี้ ไม่จำเป็นต้องนับถือศาสนาพุทธ
โดยเฉพาะชาวพุทธเอง คนไหนที่บวชไม่ได้ หรือไม่ได้บวช หรือบวชแล้วลืม
หรือตอนบวชไม่ได้ปฏิบัติหรือเรียนวิปัสสนากรรมฐาน
อย่าเพิ่งคิดว่าตัวเองเป็นพุทธ ถ้ายังไม่ได้เรียนเรื่องจิต สมาธิและไปวิปัสสนากรรมฐาน
ศาสตร์นี้ยิ่งใหญ่ที่สุดและจำเป็นและสำคัญที่สุดที่เราควรได้ศึกษาที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์
ที่สำคัญไม่มีศาสตร์ใดในโลกนี้อีกแล้วที่สอนได้ดีและได้ผลจริงๆเท่ากับพุทธศาสนา
ที่สำคัญช่วยให้สุขและพ้นทุกข์ได้ ยืนยันศาสตร์อื่นไม่มี

เวลาโกรธเขาเรียนรู้ว่า
ท้ายที่สุดมาจบและสรุปที่ตัวเขาเองและอยู่ในตัวเขาเอง
การนั่งสมาธิ คือ วิธีที่จะจัดการกับความโกรธที่ดีที่สุดและได้ผลที่สุด
แนบไฟล์  post_4046_1221397840.gif   747.44K   100 ดาวน์โหลด
สิ่งที่ใช้ได้ผลที่สุดกับความโกรธสำหรับเขาคือ การนั่งสมาธิบ่อยขึ้น
เพราะเขารู้และยอมรับแล้วว่ามันเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตของคนทุกคน ไม่ใช่แค่เขาคนเดียว
ถ้าเรามีสติความโกรธจะไม่เกิดขึ้น

เพราะฉะนั้นการฝึกสมาธิบ่อยๆจะแก้ปัญหานี้ได้ดีที่สุด
พร้อมกับการฝึกจิต เรียนรู้Thought Patterns และการใส่โปรแกรมใหม่ที่เป็นบวกเข้าไปแทนความโกรธ
การมองโลกในแง่บวก เทคนิคการฝึกลมหายใจและการให้อภัยใช้ได้ผลดีมากสำหรับเขา
และเขาเชื่อว่าคงได้ผลดีกับทุกคน

#2 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 23 September 2008 - 10:05 AM

ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

ล่าสุดเขาช็อคหลายๆคนแม้กระทั่งตัวเขาเอง
โดยการไปศึกษาธรรมะที่วัดพระธรรมกาย วัดที่เขาเองเคยเกลียดมาก

เพื่อนที่ดีหรือกัลยาณมิตรแค่1คนมีค่ามากมายเหนือสิ่งใดในชีวิตเรา
คนที่แนะนำวัดพระธรรมกายให้เขาคือ จูเลียต
เพื่อนสมัยเรียนมัธยมต้น ที่ไม่ได้เจอกันมาถึง 20 ปี
จูเลียตไปวัดพระธรรมกายมานาน แต่ตอนแรกก็ไม่ยอมบอก
เพราะรู้ว่า นิกร ไม่ชอบวัดนี้

นิกร บวชมา 2ครั้ง เป็นลูกศิษย์ของพระอาจารย์ที่วัดแถวบ้านเกิด
เป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อปัญญานันทะและหลวงพ่อพุทธทาส
หลวงพ่อปัญญานันทะมีรางวัลจากการปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมากมาย
รวมทั้งหลวงพ่อพุทธทาสเองปีที่แล้วท่านก็เพิ่งได้รับรางวัลโนเบลจากยูเนสโก
อีกทั้งเคยเสพข่าวสาร ข้อมูลในด้านลบของวัดพระธรรมกายมามาก
เพราะฉะนั้นไม่ง่ายเลยที่เขาจะเปลี่ยนความเชื่อนั้น

เวลาเจอจูเลียตที่กรุงเทพ นิกรขอร้องให้พาเขาไปวัดชลประทานฯ เธอก็พาไป
เธอเองบอกชอบวัดสังฆทาน นิกรบอกว่าสนใจเธอก็พาไป
แต่จูเลียตก็น่ารักมากไม่เคยพูดถึงวัดพระธรรมกายเลย

หลังๆพอนิกรเริ่มเปิดใจมากขึ้น
เธอก็เริ่มส่งหนังสือและซีดี สื่อธรรมะของวัดพระธรรมกายมาให้อย่างค่อยเป็นค่อยไป
นิกรเองยอมรับว่า
เกือบหนึ่งปีนั้นเขาไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่วัดพระธรรมกายสอนมากนัก
แต่เนื่องจากพอจะรู้จักและศรัทธาหลวงปู่สดเป็นทุนเดิม
ถึงแม้จะไม่เคยศึกษาธรรมะของท่านเลย ทำให้เขาเปิดใจมากขึ้น

นิกรได้รู้ว่า คุณอนันต์ อัศวโภคิณ เจ้าของแลนด์แอนด์เฮาส์และโฮมโปร
คนที่ไม่เคยเชื่อเรื่องศาสนาเลยก็ไปวัดพระธรรมกาย

คุณบุญชัย เบญจรงคกุล เจ้าของดีแทคและโครงการสำนึกรักบ้านเกิดอันลือลั่นเอย
ไมเคิ่ล หว่อง (เจ้าของเพลงฉันมาไกล มาไกลเหลือเกิน) ดาราไทย ดาราฮอลลีวู้ด
เจ้าของ California Fitness
รวมทั้งศิลปินเดี่ยวไมโครโฟนคนโปรดเบอร์หนึ่งของเมืองไทย ก็ไปวัดพระธรรมกาย

และเริ่มเห็นว่าทั้งหมดที่วัดพระธรรมกายสอน ก็คือ ธรรมะของพระพุทธเจ้าเหมือนกัน
ที่แน่ๆที่เขารู้ ธรรมะวัดพระธรรมกายสอน ตอบโจทย์ส่วนใหญ่ของเขาได้

อย่างเดียวที่วัดพระธรรมกายแตกต่างจากวัดส่วนมาก คือ การสอนนั่งสมาธิ
ที่ไม่มีวัดไหนในโลกสอนเลยและยอมรับว่ายังไม่เข้าใจ

หลังจากศึกษาสื่อธรรมะของวัดพระธรรมกาย ประมาณ1 ปี
เขาจึงตัดสินใจไปวัดพระธรรมกาย เมื่อ2ปีที่แล้ว
เมื่อไปถึงวัดพระธรรมกาย เขาถึงกับอึ้ง ทึ่งและช็อค
เขาขยี้ตา เพื่อยืนยันว่า นั่นคือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงๆ

วันนั้น เหมือนเมืองในฝัน มีหมอกบางๆ สถานที่ใหญ่โตและมโหฬารสุดลูกหูลูกตา
ผู้คนนุ่งขาว สวัสดีทักทาย
ยิ้มแย้มแจ่มใส สถานที่สะอาด สงบ และเป็นระเบียบเกินคำบรรยาย
เขาถึงกับมีน้ำตาที่เอ่อนองหน้า พร้อมอุทานในใจ

“กูไปอยู่ไหนมา

นี่คือสังคมในฝันที่เขาแสวงหามาตลอดชีวิต
ที่สำคัญมันอยู่ในเมืองไทยนี่เอง

นิกรต้องขอตัวจูเลียตกับปูน้องสาวเพื่อไปยืนร้องต่อซะจนสะใจ
เพราะรู้สึกอัดอั้นแต่ปลดปล่อยอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกทั้งดีและไม่ดีในขณะเดียวกัน

ดี คือ สุขและปิติอย่างบอกไม่ถูก
ไม่ดี คือ รู้สึกบาปที่เขาเกลียดและแช่งวัดวัดนี้มาตลอด
โดยเฉพาะหลวงพ่อธัมมชโยที่ไม่ชอบและถึงขั้นแช่งท่าน
เพราะเชื่อตามข่าวที่ได้ยินมา
พูดมาถึงตรงนี้น้ำตาเขาเอ่อออกมาเลย
เขาขอขมาหลวงพ่อธัมมชโยมา ณ ที่นี้อีกครั้ง
และได้แต่หวังว่าจะได้ไปขอขมาแทบเท้าท่านด้วยตัวเองเร็วๆนี้

แนบไฟล์  wallpapers_56_L.jpg   258.72K   163 ดาวน์โหลด

ตอนนี้วัดพระธรรมกาย เป็นเสมือน World Meditation Center
วัดพระธรรมกาย เป็นวัดที่ใหญ่ที่สุด สวยงามมากที่สุดทีหนึ่งและมีสาขามากที่สุดในโลก
มีเนื้อที่กว่า 2,000ไร่ จุคนได้เป็นล้านคน
ศาลานั่งสมาธิ(มหาสภาธรรมกายสากล) จุคนได้กว่าสองแสน คน
มีทีวีดาวเทียมที่เรียกว่า ดาวธรรม ส่งสัญญาณไปทั่วโลก
มีเวบไซท์ธรรมะมากมาย เช่น www.dmc.tv http://www.kalyanamitra.org http://www.ordinationthai.org
http://www.dhammamedia.org http://www.dhammakaya.or.th
http://www.dhammakay...ntremain_th.php

ที่สำคัญสิ่งที่วัดพระธรรมกายและหลวงพ่อธัมมชโย สอน นำมาใช้ได้ผลดีกับชีวิตจริงๆ
ที่ตรงกับใจเขาที่สุด คือวัฒนธรรมของวัด
คือการแต่งชุดขาวและการสวัสดี ยกมือไหว้ ยิ้มแย้ม แจ่มใส
โดยเฉพาะการไปวัดเพื่อปฏิบัติธรรม ฟังธรรมและนั่งสมาธิ
ถ้าไปไม่ได้ก็ดูทีวีช่องของวัดอยู่ที่บ้านได้ ที่สำคัญเป็นทีวีและสื่อสีขาวที่ดีและที่สุดที่โลกมีอยู่ในขณะนี้

เมื่อมาทบทวนในสิ่งที่ทำให้นิกร เกลียดสิ่งที่เกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย
นิกรบอกว่า
เขาไม่อยากเชื่อว่าคนที่เรียกตัวเองว่า เป็นพุทธและเป็นลูกศิษย์พระพุทธเจ้า
และเคยบวชถึงสองครั้งสองคราว
แต่ไม่ได้ทำตามที่พระพุทธเจ้าสอน คือ หลักความเชื่อ ๑o ที่มีใน กาลามสูตร

โดยเฉพาะ อย่าเชื่อเพราะข่าวลือ หรือฟังสืบต่อกันมาหรืออะไรก็แล้วแต่
ที่สำคัญเราต้องเปิดใจกับทุกเรื่องไม่หูเบาหรือฟังความข้างเดียว
จากนั้นจึงสติปัญญาไตร่ตรองก่อนแล้วค่อยเชื่อ
ซึ่งแปลกเขาไม่เคยเอามาใช้กับวัดพระธรรมกายเลย

เขาเรียนรู้อีกอย่างว่า
ต่อไปนี้เขาไม่เชื่อสื่อหรือคนและฟังความเพียงฝ่ายเดียวอีกเป็นอันขาด
จนกว่าเขาจะพิสูจน์ด้วยตัวเขาเอง ถ้าเรื่องนั้นอยู่ในความสนใจของเขา

แม้วัดพระธรรมกาย จะมีกิจกรรมงานกุศลมากมาย ที่มีคุณประโยชน์สร้างสรรค์สังฆมณฑลและสังคมไทย
แต่ก็แปลกสุดๆ
สื่อสารมวลชนไทยส่วนใหญ่ ไม่เคยเสนอข่าวด้านบวกของวัดพระธรรมกายเลย
คนส่วนใหญ่รวมทั้งนิกร ก็เลยเกลียดวัดพระธรรมกายโดยปริยาย
ซึ่งเป็นการเสียโอกาสดี ๆ ในการศึกษาธรรมะ ที่ไม่น่าเกิดขึ้น

อีกสาเหตุที่คนไทยและเขาเองไม่เข้าใจวัดพระธรรมกาย
เป็นเพราะ คนพุทธส่วนใหญ่คุ้นเคยกับสมาธิแบบอาณาปานสติหรือสติปัฏฐานสี่
แต่วัดพระธรรมกาย พูดเรื่องทีคนทั้งโลกไม่เคยได้ยินและไม่มีสอนแม้กระทั่งในอินเดียและทิเบตเอง
เพราะสอนเรื่องศูนย์กลางกายและฐานของจิตทั้ง7ฐาน

พอเปิดใจลองศึกษาดู ก็เป็นเหมือนที่ทางวัดหลวงพ่อและอาจารย์ท่านบอกไว้ว่า
วิชชาธรรมกายได้สูญหายไป ราว 500 ปีหลังพระพุทธเจ้าปรินิพพาน
แล้วหลวงปู่สด วัดปากน้ำภาษีเจริญได้มาค้นพบอีกครั้งเมื่อ 90 ปีที่ผ่านมา

หลายคนถามเขาว่าเห็นด้วยกับทุกสิ่งทุกอย่างที่วัดพระธรรมกาย สอนมั้ย?
เขาตอบ เกือบ100เต็ม

เหมือนกับการกินข้าว ไม่ชอบส่วนไหนก็ไม่ต้องกิน
กินแต่พอดีเท่าที่ชอบและย่อยได้ดี
เราเลือกได้เสมอ เขาก็ยังชอบที่จะไปหลายๆวัดทุกที่เหมือนเดิมเลือกเอาแตส่วนที่ดีของแต่ละวัดมาใช้
เหมือนกับหมวก มีหลายๆใบหลายๆสีก็ดี แล้วเลือกใส่ตามความชอบตามอารมณ์ของเราเอง

เขาปลื้มสุดๆ เมื่อเพื่อนๆฝรั่งและแขกของเขา ภรรยาและลูกๆก็เข้าใจและชอบธรรมะของวัดพระธรรมกาย
ที่สำคัญเขาก็ยังไปทุกวัดที่เขาชอบและยังเคารพนับถืออาจารย์ทุกๆท่านที่เขาเคยรู้จักและนับถือเหมือนเดิม

ที่ชอบมากคือศูนย์ปฏิบัติธรรมภูเก็ต ซึ่งไม่ได้เป็นวัดแต่กลับมีการนั่งสมาธิทุกวันอาทิตย์
คอยให้ความช่วยเหลือและแนะนำอย่างดีมาตลอด
ไม่ว่าจะเป็นน้องทรายพี่อ้อยพี่บี๋พี่จิ๋มพี่ดาและอีกหลายท่าน

ถ้าแก่นธรรมของพุทธฺศาสนา คือ เรื่องจิตและสมาธิ
และการนั่งสมาธิ กรรมฐาน หรือที่เรียกว่า วิปัสสนาธุระ คือ หัวใจสำคัญของพระพุทธศาสนา
เขาแปลกใจนักว่า

ทำไม? วัดส่วนใหญ่มีกิจกรรมก็แค่ไปทำบุญใส่บาตร อาจจะมีฟังเทศน์นิดหน่อย
ทำไม ? วัดในประเทศไทยส่วนมาก ไม่สอน ไม่เน้นเรื่อง การนั่งสมาธิ

ซึ่งเป็นเรื่องน่าคิดเอามากๆและเป็นเรื่องใหญ่เสียด้วยที่เราเป็นเมืองพุทธที่ไม่มีแก่นหรือไม่เอาแก่น
เขาคิดเล่นๆ ว่า

ถ้าคนไทยนั่งสมาธิกันทุกคนไม่ว่าศาสนาอะไร ปัญหาต่างๆจะหมดไปได้100%
แต่เชื่อผลลัพท์ที่เกิดขึ้นจะยิ่งใหญ่มหาศาลและได้ผลสูงสุดและถูกที่สุดอย่างที่ทุกคนคาดไม่ถึง
เพราะสมาธิทำให้คนมีปัญญา

และปัญญาคือสิ่งเดียวที่แก้ปัญหาและดับทุกข์ได้
ไม่ใช่กิเลส ความเก่งหรือความฉลาด

ปัญหาส่วนใหญ่มาจากคนฉลาดที่ขาดปัญญา
แต่ถ้าฉลาดด้วยและมีปัญญาด้วยดีที่สุด


สังเกตุดูคนที่นั่งสมาธิบ่อยๆจะเรียนเก่งขึ้นลาดขึ้นที่สำคัญสุขขึ้นด้วย
ทุกคนนั่งสมาธิที่สำคัญได้ผลมหาศาลกับทั้งชีวิตส่วนตัวและเรื่องงาน

ของดีบางที่มันก็ง่ายมากจนบางทีเรามองข้ามไปอย่างไม่น่าเชื่อ ที่สำคัญน่าเสียดาย
อันนี้คือโจทย์ที่คนไทยและคนทั้งโลกควรนำมาคิดดูอีกทีอย่างจริงๆจัง

ขอพูดเรื่องสมาธิต่ออีกนิดเพราะสำคัญมาก
Practice Meditation เป็นศาสตร์สำคัญที่ดีที่สุด ถูกที่สุดแต่มีประสิทธิภาพสูงสุด
แต่ก็อีกนั่นแหละ คนเราเข้าใจและประเมินค่าของสมาธิต่ำเกินไปอย่างน่าเสียดาย

ถ้าพูดว่าเขากับภรรยาเป็นผู้มีประสบการณ์ด้านสมาธิก็ไม่ผิดนัก
เพราะทั้งสองศึกษามาแล้วเกือบทุกรูปแบบโดยเฉพาะเทคนิคที่ไม่ใช่แนวพุทธ
หรือคนที่สอนไม่เคยสัมผัสพุทธศาสนาแล้วมีเอกสารทางวิทยาศาสตร์รองรับว่าดีจริง
ก็สู้แนวพุทธที่เขาศึกษามาทั้งหมดไม่ได้เลย

เดี๋ยวนี้ตั้งแต่นิกรไปวัดพระธรรมกายมา เขากับภรรยาทั้งสองแข่งกันนั่งสมาธิทุกวัน
เห็นว่าง่ายสุดดีสุดสนุกที่สุดและที่สำคัญได้ผลสูงสุด
รวมทั้งเพื่อนๆทั้งไทยและฝรั่งสนใจและบอกใช้ได้ผลและดีจริง

มีอยู่พวกที่ใช้ไม่ได้ผลคือพวกขี้เกียจและไม่ทำต่อเนื่อง

#3 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 23 September 2008 - 10:38 AM

Target and balance of Life

สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตคนส่วนใหญ่รวมทั้งตัวเขาเอง
เมือก่อนด้วยไม่รู้อะไรสิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิต
เขาเองเพิ่งมารู้อย่างชัดเจนขึ้นเมื่อเร็วๆนี้เองหลังจาก นั่งสมาธิอย่างต่อเนื่อง
ว่าสิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตนี้ คือ ชีวิตและการมีชีวิตนั่นเอง

สิ่งที่จำเป็นอื่นเช่นปัจจัยสี่ก็สำคัญ
แต่ที่สำคัญที่สุดในชีวิตเขาและทุกคน คือ ลมหายใจของเราเอง

มี จน ดี เลว ใหญ่แค่ไหน ทุกข์สุขแค่ไหน หยุดหายใจเกิน 5 นาทีตายหมดทุกราย
ถ้าลมหายใจต้องการคืออากาศ แยกลงไปอีก
แค่อากาศออกซิเจน ในหนึ่งลมหายใจเข้า100%มีออกซิเจนอยู่แค่ 20 %
ที่เหลือเป็นไนโตรเจนและก๊าซอื่นๆที่ร่างกายไม่ต้องการ

ที่นี้ถ้าคิดต่อไปอีกไม่มีต้นไม้ไม่มีออกซิเจน ไม่มีดินไม่มีต้นไม้ไม่มีน้ำไม่มีอากาศไม่มีธรรมชาติ
ไม่มีโลกไม่มีพระอาทิตย์ ไม่มีอากาศ
ที่สำคัญจะไม่มีเรา
นี่คือความรู้ที่นิกรได้จากนั่งสมาธิ

ดังนั้นเราควรใช้ชีวิตให้สมดุล
คือ การดำรงชีพในทางโลกควบคู่การศึกษาและปฏิบัติธรรม

ก่อนวันและวินาทีสุดท้ายของชีวิตจะมาถึง
ซึ่งเราเองทุกคนไม่มีวันรู้เลยว่าเราเองมีแบตเตอรี่…เหลืออยู่เท่าไหร่??
และมันช่างจริงซะจนน่ากลัว??
และอาจเกิดความกลัว ความวิตกและเกิดทุกข์ได้ ถ้าเราไม่ฝึกจิตไม่ฝึกสมาธิ

หลายคนหรือคนส่วนใหญ่ไม่รู้หรือไม่เคยถามตัวเองอย่างจริงจังว่า
ชีวิตนี้ต้องการอะไร ?
คนส่วนใหญ่จึงใช้ชีวิตอย่างเลื่อนลอย ไม่มีเป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน
หรือมีเป้าหมาย ที่ไม่สามารถเติมให้ชีวิตเต็ม ได้

สำหรับนิกร
เขารู้แล้วว่า สิ่งที่เขาต้องการในชีวิตนี้คือ
การเป็นคนดี และมีความสุขในชีวิตด้วยการแบ่งปันสิ่งดี ๆ ให้ผู้อื่น
ทั้งความรู้เพื่อสุขภาพกายที่ดี และสุขภาพใจที่มีความสุข

แล้วคุณล่ะ ? รู้หรือยังว่า
ชีวิตนี้ต้องการอะไร ?
อะไร คือ เป้าหมายชีวิตที่ชัดเจน


นิกรศึกษา The Law of Attraction มา 2 ปีกว่า
ยอมรับว่า ความคิดกับจิตของเรายิ่งใหญ่จริงๆ
กฏแห่งดึงดูดให้ได้ผลสูงสุดคือ Gratitude
หรือการรู้สึกซาบซึ้งพอใจกับสิ่งที่เรามีเราเป็นและโอกาสและสิ่งต่างๆดีๆที่เข้ามาในชีวิตเรา
เพราะกฏนี้ทำงานของมันอย่างมหัศจรรย์มาก คือ
ทำงานโดยความรู้สึกดีๆในเราจะดึงดูดโอกาส สิ่งดีๆ งามต่างๆเข้ามาในชีวิตเรา
รวมทั้งสุขภาพ ความสุข ทรัพย์สิน เงินทอง รวมทั้ง คนดีๆเข้ามาในชีวิต
แต่ก็ไม่ง่ายที่คนเราจะรู้สึกดีได้ตลอดเวลา

เพราะฉะนั้น ความลับสุดยอดที่ไม่ควรมองข้ามที่จะรู้สึกดีคือ
มองโลกในแง่บวก ลดความโกรธ ความเกลียด ความอาฆาต ความอิจฉาริษยา อารมณ์ลบๆต่างๆ
รวมทั้งลดความคิดขยะ จนกระทั่งต้องหยุดคิดบ้างเมื่อจำเป็นและต้องการ

วิธีการหยุดคิดที่ดีที่สุดคือ การนั่งสมาธิ

สุดท้าย นิกรเชื่อว่า ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ ถ้าคนอื่นทำได้ เขาต้องทำได้ด้วยเสมอ(ถ้าเขาต้องการมันจริงๆ)

You Can Do MORE THAN You Think
คุณทำได้มากกว่าที่คุณคิด..เสมอ


……ที่สำคัญที่สุด คุณต้องเชื่อเสียก่อนว่า คุณจะมี จะเป็น หรือจะทำอะไรก็ได้

(ถ้าคุณต้องการมันจริงๆ) เพราะฉะนั้นมาเปลี่ยนหรือสร้างความเชื่อนี้ด้วยกันนะครับ

ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  nad_N03.jpg   63.39K   11 ดาวน์โหลด

ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#4 usr20663

usr20663
  • Members
  • 65 โพสต์

โพสต์เมื่อ 23 September 2008 - 02:06 PM

ขออนุโมทนาบุญการเผยแผ่สิ่งดีๆครับ....สาธุ..สาธุ..สาธุ

#5 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 23 September 2008 - 07:34 PM

สาธุ

#6 Ozeria

Ozeria
  • Members
  • 879 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 September 2008 - 01:40 PM

สาธุ อนุโมทนาบุญอย่างแรงค่ะ

อยากให้คนที่ไม่เข้าใจวัดได้อ่านบ้างจัง จะได้เปิดหู เปิดตาบ้าง

ชอบที่สุดคือ "กูไปอยู่ที่ไหนมา" เห็นภาพเลยค่ะ

สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ

ลูกพระธัมฯ หลานหลวงปู่ หลานคุณยาย

#7 เด็กน้อยมาวัด

เด็กน้อยมาวัด
  • Members
  • 204 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 September 2008 - 03:37 PM

อนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ

ขอรูปด้วยน้า~
หยุดเป็นตัวสำเร็จ


#8 usr18612

usr18612
  • Members
  • 9 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 September 2008 - 04:25 PM

สาธุค่ะ

#9 ขวัญแก้ว

ขวัญแก้ว
  • Members
  • 87 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 October 2008 - 08:01 PM

เป็นบทความที่ดีมากๆเลยค่ะ

สาธุ happy.gif

#10 JaiKaeW

JaiKaeW
  • Members
  • 149 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 April 2009 - 12:59 AM

สาธุกับบทความดีๆ แบบนี้ค่ะ รู้สึกเสียดายกับคนหลายๆ คนที่ไม่เข้าใจวัด เพราะเชื่อสื่อ เลยทำให้มองข้ามสิ่งดีๆ ไปอย่างน่าเสียดายเพราะความไม่เข้าใจ และการไม่ยอมเิิปิดใจรับฟังค่ะ

#11 usr27769

usr27769
  • Members
  • 2 โพสต์

โพสต์เมื่อ 05 May 2010 - 10:04 PM

อยากให้คนหลายๆ คนเข้าใจและเปิดใจให้กว้างขึ้น เป็นบทความที่โดนใจหลายๆคนจริงๆค่ะ สาธุค่ะ

#12 Nee-Sansanee 2

Nee-Sansanee 2
  • Members
  • 893 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 13 May 2010 - 07:27 AM


ดีจริงหนอ บทความนี้ดีจริงหนอ ขออนุญาตินำไปเผยแผ่ต่อค่ะ

อนุโมทนาบุญด้วยค่ะ สาธุ ๆ ๆ กับคุณDd2683 และคุณนิกร บรรเจิดเลิศ ค่ะ

#13 *bb*

*bb*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 05 May 2011 - 11:35 PM

ขอบคุณค่ะ