![รูปภาพ](http://www.gravatar.com/avatar/f15a72984eeccf5a495e9a72c42ceb54?s=100&d=https%3A%2F%2Fwww.dmc.tv%2Fforum%2Fpublic%2Fstyle_images%2Fmaster%2Fprofile%2Fdefault_large.png)
สงสัยน่ะครับ....เสร็จกิจ ๑๖
#1
โพสต์เมื่อ 07 October 2008 - 04:11 PM
แล้วกิจ ๑๖ กับ ขันธ์ ๓ นี่มันคืออะไรครับ ....
พอดีไม่ทราบน่ะครับ...วานผู้รู้ช่วยอธิบายหน่อย.....ขอบคุณล่วงหน้าครับ
#2
โพสต์เมื่อ 07 October 2008 - 04:23 PM
..เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำ
จะเกิดมาทำไม
.....อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง
ทำให้จิตมันเป็นห่วงเป็นใย
.....เลิกอยากลาหยอก รีบออกจากกาม
เดินตามขันธ์สามเรื่อยไป
.....เสร็จกิจสิบหก ไม่ตกกันดาร เรียกว่า "นิพพาน" ก็ได้
.............................................................
เลิกอยากลาหยอก รีบออกจากกาม " เดินตามขันธ์สามเรื่อยไป "
........ท่านหมายถึง เป็นผู้ตามรู้ดูการปรุงแต่ง ใน " กามภพ " อันได้แก่ " ขันธสันดาน " ที่ประกอบด้วย
.......1.ราคะ
.......2.โทสะ
.......3.โมหะ
......เมื่อรู้แล้วก็ละเสียออกจาก กามภพนั้น ด้วยการปฏิบัติจิตต์ให้เข้าถึง ความ " เสร็จกิจสิบหก ไม่ตกกันดาร เรียกว่า "นิพพาน" ก็ได้ "
.......กิจ 16 อย่างได้แก่
...........1.ดวงจิตต์แห่งความใสสอาด แห่ง " ดวงทาน "
...........2..ดวงจิตต์แห่งความใสสอาด แห่ง " ดวงศีล "
...........3..ดวงจิตต์แห่งความใสสอาด แห่ง " ดวงธรรม "
...........4..กายมนุษย์ หยาบ
...........5..กายมนุษย์ ละเอียด
...........6..กายเทวดา หยาบ
...........7..กายเทวดา ละเอียด
...........8..กายพรหม หยาบ
...........9.กายพรหม ละเอียด
...........10.กายพระโสดาปฏิมรรค์
...........11..กายพระโสดาปฏิผล
...........12.. กายสกิทาคาปฏิมรรค์
...........13..กายสกิทาคาปฏิผล
...........14. กายอนาคาปฏิมรรค์
...........15. กายอรหัตตมรรค์
........... 16.กายอรหัตตผล
...........กระทำโดยสม่ำเสมอจะไม่ตกต่ำ สามารถที่จะก้าวเข้าสู่แดนนิพพานได้
.............................................................
#3
โพสต์เมื่อ 07 October 2008 - 05:06 PM
เห็นอริยสัจสี่ (4)
ในโสดาบัน
สกิทาคามิ
อนาคามี
อรหันต์
4*4 = 16 ครับ
ประมาณนี้ แต่เดินตามขันธ์สามเรื่อยไปไม่แน่ใจครับ
#4
โพสต์เมื่อ 07 October 2008 - 05:06 PM
Someday I'm gonna be free.
#5
โพสต์เมื่อ 07 October 2008 - 05:08 PM
#6
โพสต์เมื่อ 07 October 2008 - 05:48 PM
-----------------------------------------------------------
ไม่ใช่อย่างที่คุณใสในใสบอกนะครับ
ต้องขออภัยด้วยครับ
คำว่าขันธ์ 3 คือ ศีลขันธ์ สมาธิขันธ์ ปัญญาขันธ์
คือแนวทางปฏิบัติ ที่เรียกว่าไตรสิกขา ครับ ไม่ใช้ขัณธสันดานอย่างที่เข้าใจกัน
ส่วนกิจ 16 หมายถึง
อริยสัจสี่ ซึ่งมีรอบ 4 อาการ 16 ดังที่จะกล่าวดังนี้
รอบทั้งสี่ แต่ละรอบอาการ อีกสี่ รวมเป็นสิบหก ครับ
1. ทุกขสัจจ์ กล่าวว่า ความทุกข์มีอยู่จริง โดยพระพุทธองค์ตรัสว่า การเกิด ความแก่ชรา ความตาย ความไม่สบายกาย ความไม่สบายใจ การพบสิ่งอันไม่เป็นที่รัก การพลัดพรากจากสิ่งอันเป็นที่รัก ความไม่สมปรารถนา นั้นเป็นทุกข์
2. สมุทัยสัจจ์ กล่าวว่า ความทุกข์ทั้งหลายนั้นมีสาเหตุ พระพุทธองค์ตรัสว่าสาเหตุของความทุกข์นั้นคือ การไปสมมติว่าธรรมชาติซึ่งที่ไม่จีรังยั่งยืนนั้นมีตัวตน มีแก่นสาร และเที่ยงแท้ ทำให้เกิดตัณหา คือความอยากอันขัดแย้งกับความเป็นจริงที่ว่าทุกสิ่งไม่สามารถให้ความพึงพอ ใจได้อย่างเที่ยงแท้ เมื่อธรรมชาติไม่เป็นไปตามที่ต้องการก็เกิดความทุกข์
3. นิโรธสัจจ์ กล่าวว่า ความดับทุกข์นั้นมีอยู่จริง และความดับทุกนั้นคือภาวะที่ไม่มีความยึดติด ไม่มีความอยาก มีปัญญาเข้า ใจว่าสิ่งทั้งหลายเป็นทุกข์ และไม่นำยึดว่าสิ่งเหล่านั้นเป็นตัวเป็นตน อันจะทำให้เป็นสาเหตุแห่งความไม่สบายกายไม่สบายใจ จึงเป็นอิสระจากทุกข์ทั้งมวล ภาวะนี้เรียกได้อีกอย่างว่านิพพาน
4. มัคคสัจจ์ กล่าวว่า วิธีปฏิบัติให้บรรลุถึงความดับทุกข์ นั้นมีอยู่จริง คือ การรักษาคำพูด การกระทำ การหาเลี้ยงชีพ ความพยายาม สติ สมาธิ ความเห็น และความคิด ให้ถูกต้องดีงามและสอดคล้องกับความเป็นจริง ซึ่งวิธีการปฏิบัตินี้สรุปได้เป็น หลักคำสอนที่ชื่อว่า มรรค 8 หรือ มรรคมีองค์แปด (ได้แก่ สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ)
ส่วนกิจ 16 มีดังนี้ครับ (ไม่อธิบายธรรมะปฏิบัตินะครับ เพราะไม่รู้มาก)
กิจในอริยสัจ คือสิ่งที่ต้องทำต่ออริยสัจ 4 แต่ละข้อ ได้แก่
1. ปริญญา - ทุกข์ ควรกำหนดรู้ คือการทำความเข้าใจปัญหาหรือสภาวะที่เป็นทุกข์อย่างตรงไปตรงมาตามความเป็นจริง เป็นการเผชิญหน้ากับปัญหา
2. ปหานะ - สมุทัย ควรละ คือการกำจัดสาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ เป็นการแก้ปัญหาที่เหตุต้นตอ
3. สัจฉิกิริยา - นิโรธ ควรทำให้แจ้ง คือการเข้าถึงภาวะดับทุกข์ หมายถึงภาวะที่ไร้ปัญหาซึ่งเป็นจุดมุ่งหมาย
4. ภาวนา - มรรค ควรเจริญ คือการฝึกอบรมปฏิบัติตามทางเพื่อให้ถึงความดับแห่งทุกข์ หมายถึงวิธีการหรือทางที่จะนำไปสู่จุดหมายที่ไร้ปัญหา
กิจทั้งสี่นี้จะต้องปฏิบัติให้ตรงกับมรรคแต่ละข้อให้ถูกต้องโดยถ้าจะรู้จิงต้องเข้าถึงธรรมกายครับ รวมทั้งหมดเป็นรอบสี่รอบในอริยะสัจแต่ละข้อ รวมเป็นกิจ 16 ดังที่ได้กล่าวมาแล้วครับนี้ (4x4=16)
และในกิจญานก็สามารถแยกย่อยได้อีกคือ
1. สัจญาณ หยั่งรู้ความจริงสี่ประการว่า
1. นี่คือทุกข์
2. นี่คือเหตุแห่งทุกข์
3. นี่คือความดับทุกข์
4. นี่คือทางแห่งความดับทุกข์
2. กิจญาณ หยั่งรู้หน้าที่ต่ออริยสัจว่า
1. ทุกข์ควรรู้
2. เหตุแห่งทุกข์ควรละ
3. ความดับทุกข์ควรทำให้ประจักษ์แจ้ง
4. ทางแห่งความดับทุกข์ควรฝึกหัดให้เจริญขึ้น
3. กตญาณ หยั่งรู้ว่าได้ทำกิจที่ควรทำได้เสร็จสิ้นแล้ว
1. ทุกข์ได้กำหนดรู้แล้ว
2. เหตุแห่งทุกข์ได้ละแล้ว
3. ความดับทุกข์ได้ประจักษ์แจ้งแล้ว
4. ทางแห่งความดับทุกข์ได้ปฏิบัติแล้ว
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#7
โพสต์เมื่อ 07 October 2008 - 07:10 PM
ก็ยังอุตส่าห์ ฝากคนงามๆ มาโพสต์ให้
ทำให้เพื่อนๆ ได้เข้าใจ ให้ถูกต้อง
น่ายกย่อง จริง
ขออนุโมทนา ด้วยนะจ๊ะ
เลยได้ย้ำเตือนหน้าที่กันอีกครั้ง..
กับ หน้าที่ ที่เกิดมา
สาธุ สาธุ สาธุ
#8
โพสต์เมื่อ 07 October 2008 - 08:15 PM
คุณinnerspot ค่ะ ดิฉันก็เจอบ่อยๆ ค่ะ ในเวป dmc นี่ล่ะ ที่ว่า พิมพ์ 5หน พยายาม5 ครั้งแต่ post ไม่ได้ ประหลาดจริงๆ เคยเจอสัก 2-3 ครั้งนี่แหละค่ะ
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ
สุนทรพ่อ
#9
โพสต์เมื่อ 07 October 2008 - 10:56 PM
#10
โพสต์เมื่อ 08 October 2008 - 01:37 PM
เคยสงสัยว่า อริย 072 ใช่หัวหน้าชั้นหรือไม่
มาเจอเวลาโพสต์ในกระทู้นี้ 19.10 น. เลยมั่นใจว่าไม่ใช่หัวหน้าชั้นแน่ ๆ
ถ้าใช่หัวหน้าชั้น สงสัยเจออาถรรพ์ก็งานนี้แหละ 5 5 5
#11
โพสต์เมื่อ 08 October 2008 - 10:01 PM
#12
โพสต์เมื่อ 11 October 2008 - 11:21 AM
#13
โพสต์เมื่อ 22 October 2008 - 11:16 PM
ส่วนคุณฟ้าร้างนั้น
เสนอได้ถูกต้องตามหลักวิชชาธรรมกายแล้ว
ไม่ถิดแน่นอน
ส่วนคุณใสในใสนั้นเอามาจากไหน
มั่วได้ดี