จะทำยังไงดีคะ
#1
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 09:17 AM
ตอนสัมภาษณ์เข้าที่นี่ (บริษัทต่างชาติ) เค้ารู้ว่าเราเข้าวัด เค้าเลยบอกว่า ที่นี่ก็มีคนที่ศรัทธาวัดอยู่คนนึง
เวลาวัดมีงานทีก็ลาหยุดที (ส่ายหน้านิดๆ บวกขำๆ)
เราเลยบอกว่าจะไม่เป็นอย่างนั้น (อยากทำงานที่นี่มาก)
มาคราวนี้ จนวันนี้ก็ยังไม่กล้าลานายเลยค่ะ
รู้ที่หลวงพ่อท่านบอกว่า "ไม่ต้องลา มาเลย" แต่ทำไม่ได้ค่ะ
ไม่รู้จะหาข้ออ้างยังไงดี
ใครมีความคิดดีๆ ช่วยแนะนำด้วยค่ะ
(รออ่านด้วยใจจรดจ่อ)
#2 *innerspot*
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 09:44 AM
ผมอยากจะเล่าให้ฟังเรื่องของผมครับ
เมื่อปีที่แล้วผมก็ได้งานที่บริษัทนึงเหมือนกับคุณนี่แหละ เป็นงานที่ใฝ่ฝันมานานมาก และเป็นงานที่อยากทำ งานดี เงินดี บริษัทใหญ่มาก เจ้านายก็น่ารัก นิสัยดี แบบว่ากะนอนกินที่นี่เลยครับ
ผมเพิ่งเข้ามาทำงานใหม่ได้แค่ 1 เดือน ไม่กล้าลางาน ตอนนั้นทางวัดมีงานวันที่ 10 ตุลาคม ปีที่แล้วเป็นงานที่จังหวัดสุพรรณบุรี ปีนั้นวัดเราไปจัดกันที่ บ้านเกิดหลวงปู่คือ อำเภอสองพี่น้อง
ผมด้วยเกรงใจบริษัท ทำให้ไม่กล้าลางาน ผมก็ตัดสินใจไม่ลา ไม่มางานวัด ทำงานที่บริษัทแทน แต่ในใจลึกๆ ก็รู้สึกเสียดาย ผมก็คิดถึงวัดทั้งวัน แต่ก็ตัดใจไม่มางานบุญ ทำงานที่บริษัท ด้วยเหตุผลเดียวคืือ "เกรงใจเจ้านาย" (ทำอย่างกะมันเป็นพ่อ) แต่คุณเชื่อไหม ไอ้เจ้านายที่ผมเกรงใจนักหนา และคิดว่าจะทุ่มชีวิตทำงานเพื่อเขา ดันกลับไม่มาทำงานวันนั้นซะงั้น
วันนั้นผมเสียใจมากคิดเลยว่ารู้งี้ไปงานวันที่ 10 ตุลาคม ก้อดี วันนั้นผู้ประสานงานโทรมาให้โบว์กับผมเพื่อเข้าพื้นที่ส่วนในกลางพิธีด้วย แต่ผมก็ไม่สามารถไปร่วมงานได้เพราะมันไกลมาก ผมทำงานต่างจังหวัด ขับรถไปที่สุพรรณบุรี ต้องใช้เวลา 5-6 ชั่วโมง
แล้วน่าช้ำใจยิ่งกว่านั้นคืออะไรคุณรู้ไหม????
วันขึ้นปีใหม่ หลังจากนั้นห้าเดือนที่ผมเข้าไปทำงาน "มันไล่ผมออกทั้งแผนก" เจ้านายผมก็โดนด้วย เพราะมันจะย้านฐานการผลิตไปเมืองจีน เลยยุบที่เมืองไทยซะ
คุณรู้ไหม วินาที ที่ผมรู้ว่าตัวเองตกงาน มือไม้มันสั่นอ่ะ ผมถามตัวเองว่าเราทำอะไรผิดหรอ เราตั้งใจทำงานเป็นอย่างดี มันไม่เคยทำไรผิดกฏระเบียบบริษัทเลย มาทำงานไม่เคยสาย มาตรงเวลา แล้วมาไล่ตูออกทำไมวะ
สุดท้ายผมเสียดายในบุญและเสียดายเวลา ผมคิดว่ารู้งี้เราไปเอาบุญดีกว่า เราเอาบุญไว้คงไม่เป็นแบบนี้ ที่เป็นแบบนี้เพราะบุญเราหย่อน เราไม่สามารถรักษางานเราไว้ได้เพราะเราไม่มีบุญ
ผมขอบอกคุณเลยนะครับว่า ให้คุณมางานนนี้ให้ได้ เพราะคุณไม่รู้หรอกว่าอะไรคือความแน่นอน ในชีวิต สิ่งที่แน่นอนในโลกนี้มีแค่สองอย่างครับ คือ "บุญ กับ บาป" ถ้าคุณไม่มีบุญคุณทำอะไรไม่ได้หรอกครับ ตอนนี้มารมันกำลังแทรกในผังละเอียดของคุณ ทำให้คุณกังวลใจกลัวเรื่องงาน กลัวนั่นกลัวนี่ สุดท้ายคุณก้อไม่มาร่วมบุญ แล้วคุณก้อไม่ได้บุญ แล้วคุณก็ไม่มีบุญ งานอ่ะคุณตายไปเขาก็หาคนใหม่ที่เจ๋งกว่าคุณมาทำ แต่ถ้าคุณตายไปแล้วคุณไม่มีบุญ คุณจะเป็นยังงัยก็ไปคิดเองเองนะครับ
เชื่อผมเหอะ ถ้าคุณมางานนี้โดยมาเลย ไม่ต้องลา แล้วอธิษฐานให้บุญในการมางานครั้งนี้ช่วยคุณให้พ้นภัยจากหัวห้างาน หรือโดนข้อหาใดๆ คุณก้อจะปลอดภัยครับ ไร้กังวล ไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่สิ่งที่คุณจะต้องทำคือคุณจะต้อง "เชื่อ มั่นในผลของบุญครับ"
เท่านั้นเองครับ
ถ้ามีอะไรไม่สบายใจก็มาคุยกับผม หรือเหล่าแกนนำผู้ทำความดีในเวป www.dmc.tv ได้ครับ
จะฝากข้อความไว้หรืออะไรก็ได้ หรือ แอด MSN มาที่ [email protected]
หรือ คุณฟ้าร้าง [email protected]
หรือ สิริปโภ [email protected] ได้เลยครับ
หรือโทรหาผมได้ทุกวันที่ 0860169777 ครับ
มานะครับ อย่าลืม อนุโมทนาครับ
#3
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 09:44 AM
รับไว้พิจารณาก็แล้วกัน
คือ เชื่อมั่นในอานุภาพหลวงปู่ อธิษฐาน แล้วก็มาเลยไม่ต้องลา แล้วทุกอย่างจะดีเอง
แต่ว่า ถ้าเค้าให้ลาได้อยู่แล้วก็ควรจะลาดีกว่าค่ะ
เพราะแค่วันเดียวเอง ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
อธิษฐานกับหลวงปู่เยอะๆนะคะ ทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดีเองค่ะ
#4
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 09:49 AM
คุณรู้ไหม มีคนที่เขาอยากมาวัดมาก แต่ไม่สามารถมาได้ จากปัญหาสุขภาพร่างกาย
อย่าให้นึกอยากมา ตอนเจอปัญหาแบบนั้นเลยครับ
#5
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 09:53 AM
ตามหลักวิชชาไม่ลามาเลยนี่อ่ะคับ
หลวงพ่อบอกว่า ต้องขยันล่วงหน้าให้เจ้านายเห็น
แบบว่า ทำงานเผื่อไว้เยอะๆ (จะได้ไม่โดนตำหนิ)
แล้วเสร็จจากงานบุญก็เอาบุญไปฝาก
แต่นี่เพิ่งมาคิดวันนี้
แต่ก่อนก็เป็น แบบคุณ
เด่วนี้ยิ่งไปวัดยิ่งสบายคับพ้มมมม
เลือกเอา ใจใสๆ
#6 *innerspot*
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 09:55 AM
#7
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 10:02 AM
มาเลยยยยยยยยยค่ะ
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#8
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 10:11 AM
ที่กังวลเนี่ย ไม่ได้ลังเลว่าจะมาดี หรือไม่มาดีหรอกนะคะ (ตอบคุณ peter10 )
มาน่ะ มาแน่นอน แต่กำลังคิดว่าอาจลาครึ่งวัน
ตกลงจะไปตั้งแต่เช้าเลยค่ะ ขอบคุณทุกคนมาก
หลวงพ่อท่านมีทีมงานดีจริงๆ
สาธุๆๆ
#9
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 10:14 AM
มนุษย์ส่วนน้อยเท่านั้น
ที่เลือกจะกำหนดสถานการณ์ สร้างวิถีและออกแบบชีวิตให้ตนเอง
และมีน้อยคนมาก ที่สามารถ
เปลี่ยนจาก เป็นแค่ตัวหมาก มาเป็นคนเดินหมาก ซะเอง
แนะนำกระทู้
คติ จาก สามเกลอ! โดย นักเรียนอนุบาล peter10
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=7830
#10
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 10:33 AM
#11
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 10:44 AM
แต่จริงๆ onair ว่าเจ้านายคงทำใจไว้ตั้งแต่แรกที่รับคุณเข้ามาทำงานแล้วล่ะค่ะว่าจะต้องมาวัดเวลามีงานแน่ๆเลย เค้าไม่ว่าอะไรหรอกค่ะ
เพราะถ้าไม่มานะคะ ทุกครั้งที่หลวงพ่อเอาภาพวันงานเก่าๆออกมาให้ลูกๆดูก้อจะรู้สึกเสียดายยยยยยยว่างานนั้นงานนี้เราไม่ได้มา เราพลาดไปซะแล้ว ทำไมคนอื่นมาได้แต่เราไม่ได้มา แบบว่า onair เคยพลาดมาเหมือนกันค่ะ
ของอย่างนี้อย่าคิดมากค่ะ ไม่ต้องคิดเลย มาแบบไม่คิดอะไร คิดแต่จะเอาบุญอย่างเดียวพอค่ะ
แล้วเจอกันที่เสาD9นะคะ อิอิ
ขอกราบอนุโมทนาบุญค่ะ
#12
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 10:48 AM
พี่เคยมี (ย้ำว่าเคยมี) เพื่อนคนนึงที่เค้าก็พูดเสมอว่าเค้าประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานมาก เท่าที่พี่สังเกตดูเวลาเค้าตั้งใจทำอะไร เค้าจะลุยจนกว่าจะสำเร็จ เค้าเคยคุมเด็กซ้อมกิจกรรมเชียร์แล้วพาเข้าไปประกวดกองเชียร์จนได้รับรางวัลจากเชื้อพระวงศ์ท่านนึงด้วยนะคะ แต่ความที่เค้ามิจฉาทิฎฐิ เชื่อมั่นในตัวเองเกินไป พี่เตือนข้อบกพร่องเค้าไม่ได้เลย บวกกับการรักหน้าตา ชื่อเสียง ภาพพจน์ทางโลก จนเกินไป สุดท้ายเค้าไม่สามารถอยู่เมืองไทยได้ อดีตเพื่อนพี่คนนี้เป็นคนที่ทำให้พี่เชื่อมั่นในเรื่องบุญ เพราะเค้าจะทำตามเทศกาล กับทำช่วงที่เค้าไม่สบายใจ ตกอับ ทำบุญอย่างไม่สม่ำเสมอ เลยเป็นตัวอย่างที่เด่นชัดที่ทำให้พี่เห็นว่าเค้าทำบุญนะ แต่ทำไม่มากพอที่จะไปต้านกระแสบาปได้ ยิ่งตอนเค้ามิจฉาทิฎฐิเพิ่มขึ้นเลยทำบุญผสมบาป แล้วพอบาปส่งผล มาบีบบังคับให้เค้าเลือกทางเดินผิดๆ จนต้องผลัดถิ่น ซึ่งอันตรายมาก ต้องไปนับหนึ่งใหม่ เสี่ยงก็เสี่ยง ไกลพ่อไกลแม่ เพื่อนๆ หรือคนรอบข้างจะดีกับเราหรือเปล่าก็ไม่รู้ เวลาติดขัดเดือดร้อนขึ้นมา ก็ขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่ญาติพี่น้องก็ไม่ได้ จะไปขอพึ่งพาจากคนอื่น ก็ต้องมีผลประโยชน์ตอบแทนเค้า
พี่ขอย้ำอีกครั้งว่า ทุกองค์กร เค้าต้องการความอยู่รอด เหมือนกับที่น้องต้องการความอยู่รอด ความมั่นคง ดังนั้นเค้าจะพยายามไม่ผูกติดกับใครคนไหนเป็นพิเศษ อันนี้พี่รู้ดี เพราะพี่ทำงานให้ที่บ้าน ดังนั้นความคิดนี้จึงมีการถ่ายทอดให้มาพี่ด้วย พี่คงได้แต่บอก คนที่ตัดสินใจคือน้อง น้องต้องเลือกเอง ต้องเคารพการตัดสินใจของตนเอง และต้องยอมรับผลจากการตัดสินใจของตนเอง ถึงแม้ว่าน้องบอกว่าน้องทำเพราะไปปรึกษาคนนั้นมา แต่คนที่เลือกคือน้องนะคะ
พี่เปิ้ล
#13
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 11:06 AM
ขอมองย้อนกลับไปที่ "ใจ" ของ คุณรักพ่อ ก่อนนะคะ ว่า
อยากมาร่วมงานบุญหล่อหลวงปู่หรือเปล่า มาทำไม มาเพื่ออะไร มาแล้วได้อะไร
การที่ไม่มา ทำไมถึง "ไม่กล้า" มา
ถ้าไม่มาแล้วจะเกิดอะไรขึ้น มีผลเสียกับ คุณรักพ่อ มั้ยในอนาคต
เมื่อเปรียบเทียบ สิ่งที่จะได้จากการมางานร่วมบุญหล่อหลวงปู่ กับการที่ต้องไปทำงาน เราต้องการอะไรมากกว่ากัน
หากว่าไม่มางานหลวงปู่แล้วจะเสียใจภายหลังมั้ย จะเสียดายมั้ย ลองเปรียบเทียบดูนะคะ
สิ่งที่เราคิด สิ่งที่เรากังวล ว่าคนที่รับเราเข้าทำงาน หรือเพื่อนร่วมงาน เขาจะคิดอย่างนั้นอย่างนี้อย่างโน้น เขาจะคิดจะพูดอย่างนั้น อย่างนี้ อย่างโน้น มันเป็นเรื่องของการที่เราน่ะ "กลัวคำวิพากษ์วิจารณ์" ของคนอื่น แต่ความจริงแล้ว คนที่คิดน่ะ เรานั่นแหละ ที่คิดดดดดด เรากลัว เราอาจจะกลัวไปเอง หรือเปล่า
คนอื่น เขาอาจจะคิด ก็ไม่ได้คิดนาน คิดแป๊บเดียว แล้วก็จบ หรือ อาจจะลืมไปแล้วด้วยว่า คุณรักพ่อมาวัดนี้ คนอื่นเขาก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร ไม่ได้คิดอะไร หรือ อาจจะอยากร่วมฝากบุญฝากปัจจัยมากับ คุณรักพ่อ หรือ ขอตามมากลับ คุณรักพ่อ ก็เป็นได้
ลองเทียบดูนะคะ ว่าอะไร คือสิ่งที่ คุณรักพ่อ ต้องการจริง ๆ มาเอาบุญกับหมู่คณะ หรือ นั่งเสียดายอยู่ที่ทำงาน
เพราะเราเชื่อว่า คนใน dmc.tv ทุกคน อยาก ให้ คุณรักพ่อ มาร่วมงานบุญหล่อหลวงปู่อยู่แล้ว ล้านเปอร์เซ็นต์
แต่ ไม่มีใครให้ใครทำอะไรได้ คุณรักพ่อ ต้องเป็นคนเลือกค่ะ ว่าสิ่งที่ คุณรักพ่อ ต้องการจริง ๆ คืออะไร
เรา มั่นใจนะคะ ว่า หากว่า คุณรักพ่อ บุญ และอานิสงส์ของการได้มาร่วมบุญใหญ่ครั้งนี้ จะทำให้สิ่งดี ๆ เกิดขึ้นมากมาย มากกว่า เรื่องลบ ๆ ไม่ดี ๆ ที่ คุณรักพ่อ คิด แน่นอน
เหมือนที่ คุณ innerspot บอกไว้ว่า "พ้นภัยจากหัวหน้างาน หรือโดนข้อหาใดๆ คุณก้อจะปลอดภัยครับ ไร้กังวล ไม่มีอะไรเกิดขึ้น"
อานิสงส์ การหล่อรูปเหมือนทองคำพระมงคลเทพมุนี
1.เป็นผู้มีสัมมาทิฐิ พบเจอแต่บัณฑิต กัลยาณมิตร เพราะบูชาบุคคลที่ควรบูชา
2.ได้บังเกิดในปฏิรูปเทส และอยู่ในร่มเงาของพระพุทธศาสนาไปทุกภพทุกชาติ
3.เป็นผู้มีกำลังใจและอานุภาพอย่างมหาศาล สามารถคุ้มครองตนให้พ้นจากอุปสรรคและภัยพาลต่าง ๆ ได้
4.เป็นผู้มีดวงปัญญาสว่างไสว ด้วยอำนาจของกตัญญูกตเวทิตา
5.เป็นผู้เข้าถึงฐานะอันสูงส่ง เป็นที่รัก และเกรงใจของมหาชนทั้งหลาย
6.เป็นผู้เข้าถึงฐานะของความเป็นมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ สมบูรณ์พร้อมด้วยโภคทรัพย์สมบัติ
7.เป็นผู้มีสายบุญเชื่อมกับมหาปูชนียาจารย์ ได้ตามติดท่านสร้างบารมีไปทุกภพทุกชาติ
8.เป็นผู้ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกายได้โดยง่าย
ฯลฯ
มาเจอกันที่เสา D9 นะคะ
#14
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 11:16 AM
#15
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 11:36 AM
มาเถอะค่ะ มาน่ะ มาน่ะ ตั้งแต่เช้าเลย มาเก็บไปให้หมดทุกบุญ
พี่เคยมาร่วมงานบุญใหญ่ แต่จำไม่ได้ว่าวันอะไรแน่นอน ติดไฟแดงอยู่หน้าวัด ตรงที่รอเลี้ยวซ้ายเข้าวัด เจ้านายสุดที่รัก โทรทางไกลมาจากยุโรป ตามให้กลับบริษัทด่วน เพราะโทรเข้าบริษัทแล้วไม่มีใครรับสาย (ก็พี่พาน้องๆมาวัดด้วยกันแล้ว)
เสียงนี่เขียวเชียว น้องๆ ในรถกลัวกันหมด ขอกลับบริษัท พี่บอกไม่ต้อง ถ้าเขาจะไล่เราออก เพราะเราออกจากบริษัทก่อนเวลาหนึ่งชั่วโมง เพียงวันนี้ หลังจากที่เราทำงานถวายชีวิตให้เขามาเป็นสิบปี เราต้องวัดใจกันแล้ว และไม่ต้องกลัว มีบุญไปทำงานที่ไหนก็ได้ ในใจพี่ก็กลัวน้องๆ จะลำบากน่ะ ตัวเองไม่เท่าไหร่ แต่คิดว่าให้ต้องตายในวันนี้ ก็จะมาร่วมบุญให้ได้ พอคิดแค่นี้ก็ไม่ห่วงอะไร เลี้ยวเข้าวัดไปร่วมบุญจนเสร็จ แล้วก็ขับรถกลับไปทำงานในตอนกลางคืน ชดใช้ให้เจ้านายสุดที่รัก
กลับมาจากยุโรป ไม่เห็นว่าอะไรเราสักคำ แถมได้งานมาเพียบ ก็พี่ส่งบุญที่ทำนั้นไปช่วยเรียกงานน่ะซิ คนอื่นหา order กันแทบตาย ยังหาไม่ได้ เรายืนๆ นั่ง ๆ ทำใจใส งานมาเอา มาเอา ทำแทบไม่ทัน นายไม่รู้แต่เรารู้ว่าบุญน่ะซิ จะอะไรซะอีก
ทำใจสบาย ๆ น่ะ อย่าห่วง อย่ากังวล มาเอาบุญใหญ่กัน งานน่ะหาเมื่อไหร่ก็ได้ บุญหล่อหลวงปู่ไม่มีให้เราทำได้บ่อยๆ หรืออาจจะไม่มีแล้วก็ได้น่ะ
#16
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 11:48 AM
มางานน่ะถูกต้องแล้ว แล้วพอกลับไปที่ทำงานก็เอาบุญไปฝากเจ้านายและเพื่อนๆ
เม้าธ์เหตุการณ์ให้ฟังจนคนฟังเสียดายยยยไปเลย (เอาตอนทานข้าวหรือพักนะ)
และทำงานชดเชยเยอะๆเลยนะ สาธุ
....
ในส่วนของผม พรุ่งนี้ไม่ใช่วันหยุด
แต่แจ้งให้น้องๆเคลียร์งาน แล้วให้มากันทุกคน(ถ้าไม่ติดอะไรจริงๆ)
โดยจัดรถและอาหารการกินให้เพียบ
แถมมีเบี้ยคนดีให้อีก200บาท(ไม่ได้จ้างให้มานะ แต่เป็นรางวัลในการใฝ่ดีต่างหาก)
....
ทำไม?
เพราะมันเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
เราอาจเสียค่าจ้าง1วันและงานบางงานอาจช้าไป1วัน
แต่พนักงานได้บุญเต็มเปี่ยม พร้อมที่จะทำงานและฝ่าฟันอุปสรรคที่จะเกิดขึ้นจนงานสำเร็จ
ไม่ใช่แค่วันสองวัน แต่ตลอดไป
ภาพรวมแล้วได้มากกว่าเสีย!!...
เราทำงานเป็นทีม ถ้าผู้ร่วมทีมไม่ค่อยมีบุญ ปัญหาจะเยอะ
เดี๋ยวอู้ ขาด ลา ป่วย อีกทั้ง สอนงานก็เข้าใจช้า ไม่สนใจ ความตั้งใจต่ำ
เดี๋ยวมีปัญหากับแฟนบ้าง ลูกบ้าง ญาติบ้าง เพื่อนบ้าง ..เรื่องเยอะ
ประสิทธภาพต่ำ ประสิทธิผลก็น้อย เฮ้อ!!
...วิเคราะห์ดู อ๋อ ขาดบุญ ดังนั้น ต้องเติมบุญ
แต่จะเติมทีละนิด ไม่ทันกาลแน่
ต้องหาบุญใหญ่ๆ เติมทีให้เต็มๆกันไปเลย
เช่น บุญบูชาข้าวพระวันอาทิตย์ต้นเดือน หรืองานบุญใหญ่ของวัด
ผมว่า ถ้าใครเป็นหัวหน้า แล้วคิดในส่วนนี้ไม่ออก ..เหนื่อย!
ตอนนี้ ฝรั่ง ออกระบบ ISO26000 เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคคลากรแล้ว
แสดงว่า คุณภาพชีวิตของพนักงานมีความสำคัญ
แล้วพื้นของคุณภาพชีวิตก็คือ มีบุญ
...ผมเชื่อ คุณพิสูจน์ให้เจ้านายเห็นความแตกต่างได้
...
อนุโมทนาบุญด้วยนะครับ สาธุ
ไฟล์แนบ
#17
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 01:48 PM
#18
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 03:42 PM
แค่เอ่ยปาก
เขาก็ไม่ขัดแล้ว อิอิ
เพราะหัวหน้าใจดี
งานไม่เสียก็โอเคแล้ว
แต่ถึงงานจะเสีย ก็จะไปค่ะ ไม่ให้ลาก็จะไปค่ะ จะไล่ออก ก็จะไปค่ะ ไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิดเดียว
สู้ๆๆ
ขอให้ได้มาทำบุญร่วมกันนะคะ
#19
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 05:05 PM
เติมบุญใหญ่ให้กับตัวเอง คุ้มค่ามาก ๆ ค่ะ
แล้วเจอกันนะคะ
สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ
ลูกพระธัมฯ หลานหลวงปู่ หลานคุณยาย
#20
โพสต์เมื่อ 09 October 2008 - 09:20 PM
กับเจ้านาย เขาก็ถามว่าจะไปไหน ผมก็บอกว่าจะไปวัด ไปทำบุญ....
เจ้านายก็ถามอีก ว่าจะไปทำไมค่อยไปก็ได้ แต่ผมก็ได้บอกไปว่า ก่อนผมจะมาทำงาน
ที่ กทม ผมเคยอยากจะมาวัดมาก แต่เพราะไกล และไม่ค่อยมีเงิน ตอนนี้มีงานทำ
มีเงิน และก็มีเวลาแล้ว โอกาสมาถึงแล้ว ผมจะไม่ลังเลต่อการมาทำบุญสร้างบารมีที่วัดอีกเลย
ตอนนี้ทุกๆคนในที่ทำงาน จะรู้ว่าถ้าผมลางาน มีที่ที่เดียวที่ผมจะไป...นั่นก็คือวัด....
#21
โพสต์เมื่อ 11 October 2008 - 10:56 AM