ก่อนอื่นต้องขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านด้วยนะคะในงานวันหล่อหลวงปู่ ไม่ว่าจะมาร่วมงานด้วยตนเอง หรือส่งกำลังใจมาก็ตาม
วันนั้นที่บ้านได้เตรียมตัวออกจากบ้านตั้งแต่เช้า เตรียมพร้อมทุกอย่าง มาถึงวัดจอดรถใต้สภา โชคดีได้ที่จอดใกล้มาก ขึ้นไปก็มีที่วางเก้าอี้นั่งได้เรียบร้อยดี ทุกอย่างดูเหมือนว่า perfect จิตใจแช่มชื่นเบิกบานเตรียมพร้อมที่จะรับบุญใหญ่อย่างเต็มที่
ก่อนจะเริ่มพิธีจึงรีบไปเข้าห้องน้ำเสียก่อน และตอนนี้แหละค่ะที่เกิดเรื่อง คือทำมือถือตกน้ำป๋อมแป๋ม... ด้วยความที่ไม่รู้ ก็พยายามทดลองเปิดใช้เครื่องอยู่นั่นแหละ โดยหารู้ไม่ว่า นั่นแหละจะยิ่งทำให้เครื่องพังเข้าไปใหญ่
คือถ้าเป็นมือถือธรรมดาคงไม่เท่าไร แต่เครื่องนี้ เป็นเสมือนสมองที่สอง ใช้เช็คเมลล์,เส้นทางจราจร, สภาพอากาศ, Dict, organizer ดูหนังฟังเพลง โหลดทุกอย่างเก็บไว้ในนี้หมดและที่สำคัญเพิ่งโหลด MP3 หลวงพ่อนำนั่งสมาธิเก็บไว้ในนี้ด้วย เพิ่งโหลดได้ไม่กี่วันก่อนหน้านี้เองค่ะ เพื่อใช้นั่งสมาธิตอนพักกลางวันที่ทำงาน
รู้สึกยังไงน่ะเหรอคะ? ก็จ๋อยสนิท รุ่นนี้ไม่สามารถเปิดเครื่องได้เอง ต้องไปให้ที่ร้านเปิด ตอนนั้นจะได้เวลาหลวงพ่อมาแล้ว จึงรีบขึ้นไปนั่งบนสภา แต่ใจพะวงกับมือถือตลอด เสียดายแทบขาดใจ
พอเริ่มพิธีภาคเช้า สวดมนต์ไป ใจก็ห่วงว่ามือถือจะพังมั้ย ข้อมูลจะหายมั้ย จะซ่อมได้มั้ย เพราะรุ่นนี้ยังไม่มีขายในบ้านเรา
...สารพัดที่จะนึกไป สลับกับฟังหลวงพ่อนำนั่งไป
สักพักนึกได้ ว่านี่เขาประลองกำลังใจเรานี่นา ทำให้ใจเราออกจากศูนย์กลางกาย ห่วงเรื่องไม่เป็นเรื่อง
แม้จะนึกได้ว่าเป็นการท้าทายกำลังใจในงานบุญใหญ่อย่างนี้ แต่ก็สารภาพว่าทำใจให้หยุดกังวลไม่ได้ แม้จะรู้ทันเขาแล้วก็ตาม
สักพัก คิดใหม่ว่า อย่างแย่ที่สุดก็ซื้อใหม่ แต่ใจเราตอนนี้สิ ต้องจรดอยู่ในบุญให้ได้ ต้องตัดใจให้ได้ หลังจากประลองกำลังใจสักพักใหญ่ ในที่สุด... ก็ชนะ นำใจกลับมาอยู่ในบุญได้ นี่เป็นเรื่องแรกของการประลอง
เรื่องต่อมา วันนั้น พวกเราคงพอจำได้นะคะ ว่าสภาพอากาศร้อนมาก และร้อนแบบนิ่งสนิทเสียด้วย คือไม่มีลมเลย
ปกติไม่ใช่คนที่ปวดศีรษะง่าย แต่วันนั้น สภาพอากศที่ร้อนจนทำให้ปวดศีรษะมาก ปวดจนหัวแทบระเบิดทรมานมาก ประกอบกับสภาพร่างกายวันนั้นไม่เต็มร้อยเอาเสียเลย ข้อมือแพลง หัวไหล่เจ็บ หลังยอก รู้สึกว่าเดี้ยงไปทั้งตัว จึงต้องใช้กำลังใจอย่างมาก ในการคงสภาพอยู่ในงานพิธีวันนั้นให้ได้ตลอด นับว่าเป็นการประลองกำลังใจที่หนักเอาเรื่อง
แต่เมื่อถึงพิธีหล่อหลวงปู่ ก็เบิกบานจนลืมทุกอย่าง เพียงแค่มีลมหายใจอยู่ถึงวันงานนั้นได้ก็ชื่นใจแล้วค่ะ
ขับรถกลับบ้าน ใช้เวลาร่วม2.30 ช.ม. รถติดยาววว ทั้งเหนื่อย ทั้งง่วง ทั้งเพลีย ทั้งปวดศีรษะมาก (หายาทานไม่ได้) แต่ก็ถึงบ้านโดยสวัสดิภาพ
และไม่ลืมที่จะเอาบุญไปฝากคนที่บ้าน โดยเฉพาะแม่บ้านชาวพม่าคนที่เคยเล่าเรื่องของเธอไว้ ได้มอบพระของขวัญให้กับเธอด้วย เพราะได้รับมาอีกหนึ่งองค์ จากการทำบุญพิเศษ
พระของขวัญเป็นสิ่งล้ำค่า ควรจะเก็บไว้ให้กับบุคคลใกล้ชิดในครอบครัว แต่แม่บ้านผู้นี้ เธอควรจะได้รับของขวัญแห่งศรัทธา จึงมอบให้เธอ โดยมิได้เสียดายเลย เพราะบุคคลอื่นในครอบครัว ยังมิได้มีศรัทธาเสมอเท่าเธอ
วันนั้นจึงจบลงอย่างอิ่มเอมใจ แม้จะมีเรื่องมาให้ประลองกำลังใจพอหอมปากหอมคอก็ตาม
ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆ ท่านอีกครั้งนะคะ
(..ส่วนมือถือ ฝากลูกไปซ่อมที่มาบุญครอง ซ่อมได้ค่ะ แพงหน่อย แต่ข้อมูลหายโหม้ดดเลย ก็ยังดีที่ไม่ต้องซื้อใหม่ อธิษฐานขอหลวงปู่ด้วยค่ะ ว่าขอให้ซ่อมได้ )
[/b]