โคตรเชื่อ ภาค2
#1
โพสต์เมื่อ 24 October 2008 - 01:27 PM
อื่ม.....จับขั่วหัวใจให้ดีๆนะครับ เพราะคุณอาจจะไม่รู้ตัวว่า คุณเป็นโรคหัวใจ 55555 จะเล่าเรื่องน่ากลัวก็ดันสอดแทรกมุกไว้เพรียบอย่างนี้ เขาคงจะกลัวกันละนะจอมเทพ
ก่อนอื่นก็ต้องขอแวะถามเพื่อนๆก่อนนะครับว่า ในที่นี่ มีเพื่อนๆคนไหนบ้างที่บ้านอยู่ใกล้ๆกับทางรถไฟเหมือนจอมเทพบ้าง ช่วยยกมือหน่อย OK.ครับ
โอ้.....ไม่อยากจะพูดเลยครับว่า ใครที่มีบ้านใกล้ๆกับทางรถไฟนี่ มันขนาดไหน จะดูหนังดูละคร จะนอนหลับจะขยับไปมา มันก็แสนที่จะทรมาณเอาสุดๆ ทรมาณกับเสียงรบกวนทุกวี่ทุกวัน ทุกๆหนึ่งชั่วโมง ตลอดวันยันรุ่ง โอ้แม่เจ้า......ชั่งกรรมหนักหน่อเรา
แต่เรื่องที่จะเล่าให้ฟังนั้น มันก็ไม่เกี่ยวกับเจ้ารถไฟนี่หรอกนะครับ เอ่า...แล้วเกริ่นทำไมละเนี่ย ก็เรื่องมันเกิดใกล้ๆกับทางรถไฟนี่ เดี๋ยวคนอื่นเขาจะนึกว่าเป็นสุวรรณภูมิ แน๊ะ...มีเหตุมีผล
ณ บ้านหลังหนึ่ง ในคืนอันเงียบสงัด ไฟตามถนนทุกสายในระแวกบ้านถูกปิดเกือบทุกดวง สายลมอันเยือกเย็นพัดผ่านทิวมะพร้าว ทิวหญ้า เสียงดังดุดราวกะว่ามีคนเดินไปมาอยู่เป็นระยะๆ อีกทั้งยังมีเสียงสุนัขเห่าหอนกันเป็นทอดๆ ช่างหาความเพลิดเพลินเสียมิได้ ทำให้บรรยากาศดูวังเวง อย่างถนัดตา
ชายร่างเล็กวัย 14 ปี ตื่นขึ้นกลางดึก ด้วยอาการเจ็บท้องอย่างแรง โอ้ยยยยยย เขาไม่กล้าที่จะปลุกใครซักคนเพื่อให้พาตนไปเข้าห้องน้ำ โดยเฉพาะพระมารดา เพราะกลัวว่าท่านจะทรงกริ้ว เขาได้ตัดสินใจที่จะไปทำภารกิจลับนี้เพียงลำพัง ไม่ใช่เพราะความกล้า แต่ด้วยอำนาจของความกลัว
ทันทีที่หัวพ้นออกมาจากนอกมุ้งเท่านั้น เขาก็ช่างใจอีกที เพราะว่ามันมืดเอามากๆ จะเอื้อมมือไปเปิดไฟก็ไม่ได้ ปะเดี๋ยวเสด็จแม่จะตื่น เดินก็เดินแรงไม่ได้อีก จึงได้แต่ค่อยๆย่องมาที่ประตูทีละนิดๆ "เอาจริงหรือนี่" เขาหยุดคิดอยู่ซักพัก ...."อ๊ะไปก็ไป" ในขณะที่มือซ้ายยังคงกลุมท้องอยู่ตลอดเวลา โอยยยยยย
แอ๊คคคคคคค(เสียงเปิดประตู) ทันทีที่เปิดประตูออกไปเท่านั้นแหละครับ เขาก็เจอ..............................บันได ทันที เขาเดินลงไปทีละก้าวๆอย่างระมัดระวัง ตึก...ตึก....ตึก...ราวกะว่าหญิงตั้งท้องมา5เดือน โอยยยยย
แต่พอเหลือบไปดูทางที่จะไปห้องน้ำเท่านั้น เขาก็ต้องเปลี่ยนใจ เพราะว่ามันไกลและน่ากลัวมาก อีกทั้งมันก็ดูโทรมๆยังไงไม่รู้ "ไม่เอาดีกว่า"เขาคิดในใจ "อืม....เข้าป่านี่แหละ" เขายอมลงทุนเดินข้ามถนนหน้าบ้านเพื่อไปทำภารกิจอีกที่หนึ่ง
อ่ะ...ตรงนี้แหละนะ ไม่ไกลมาก "อ้า!...เกือบไม่รอด แต่ในขณะที่เขากำลังทำภารกิจส่วนตัวอย่างมีความสุขอยู่นั้น พรางก็นึกเรื่องแปลกๆขึ้นมาในใจ เอ๊ะ! ผีมีจริงรึเปล่า? เขานึกตำหนิตัวเองในใจว่า แล้วทำไมมาคิดอะไรตอนนี้ ว่าแล้วเขาก็ค่อยๆหันไปมองทีละด้านๆ จนหลืออยู่เพียงด้านเดียวที่เขายังไม่ได้มอง นั่นคือด้านที่เฉียงไปทางรถไฟ โอ้.................เขาตกใจสุดขีด เมื่อได้เห็น..............ภาพของผู้หญิงผมสั้นไม่มีหน้าคนหนึ่ง นุ่งผ้าสิ้นสีน้ำตาลลายไทย ใส่เสื้อคอกระเฉ้าสีขาวลายแดง กำลังนั่งจ้องหน้าเขาอยู่ ซึ้งมันห่างกันแค่ห้าเมตรเท่านั้น แถมยังนั่งเลียนแบบท่าของเขาอีก
ด้วยความตกใจ เขารีบก้มหน้ามองพื้นทันที เลือดลมภายในตัวสูบฉีดแรงขึ้นโดยอัตโนมัติ "รึว่าตาฝาด"เขานึกในใจ เอ้า!เพื่อความชัวว์" เขาตัดสินใจเหลือบไปมองอีกครั้ง "เฮ้ย! ยังอยู่ เขายังคงเห็นภาพของหญิงที่ระบุวัยไม่ได้นั่งอยู่ตรงหน้าด้วยลักษณเช่นเดิม มันแปลกตรงที่ หน้านั้นเรียบและขาวซีด ไม่มีส่วนโค้งส่วนเว้าที่พอจะมองออกได้ว่าเธอเป็นใคร
เขานั่งดูภาพของหญิงที่ไม่มีหน้านั้นอยู่หลายนาที ด้วยเหตูเพราะว่า ยังทำภารกิจไม่เสร็จ พรางก็นึกในใจว่า เราจะถามเขาดีไหมว่าเขาเป็นใคร เป้นคนหรือผี? แต่ก็พูดไม่ออกเนื่องด้วยความกลัว เมื่อทำภารกิจเสร็จเขาก็หันไปมองผู้หญิงคนนั้นอีกครัง ก่อนที่จะวิ่งกลับมาที่บ้านอย่างคนไร้สติ
ไม่ว่าวันคืนจะผ่านไปนานเพียงใด เขาก็ยังคงจำภาพของผู้หญิงคนนั้นได้เป็นอย่างดี (ถ้ามีโอกาสจอมเทพจะวาดมาให้ดูครับ)
#3
โพสต์เมื่อ 24 October 2008 - 02:59 PM
ผู้ใดเพ้อเจ้อ ผู้นั้นก็จะเป็นคนเพ้อเจ้อจนกว่าจะหมดกรรม
จงสังวรณ์ไว้ว่า การที่ตัวเองเป็นคนเพ้อเจ้อคงเป็นเพราะกรรมในอดีตชาติที่ทำมา
ไม่ว่าจะทำการงานสิ่งใด บุคคลอื่นที่คบหาก็จะเพ้อเจ้อ คิดว่าคนนี้เป็นคนเพ้อเจ้อไร้สาะ
ไม่สมควรคบหาสมาคมติดต่อหรือทำอะไรด้วย
เมื่อรู้สึกตนแล้ว ให้รีบปรังปรุงตัวเองก่อนที่อะไรจะสายเกินไป
กรรมมีจริง บุญบาปมีจริง รักจริงจึงขอเตือนเป็นครั้งสุดท้าย
เพราะผู้ตัดสินท่านจะรออยู่หลังจากที่ท่านละจากโลกนี้ไปแล้ว
รักและหวังดี มีจิตเมตตา ไม่คิดชั่ว อโหสิกรรมให้สรรพสัตรทั้งหลาย
#4
โพสต์เมื่อ 24 October 2008 - 03:52 PM
#5
โพสต์เมื่อ 24 October 2008 - 05:01 PM
ถ้าชาว DMC ไม่ชอบ จอมเทพก็จะไม่เอาเรื่องอย่างนี้มาเล่าให้ฟังอีกแล้วละครับ และอีกอย่างจอมเทพก็ไม่รู้ว่าเว็บเราห้ามเอาเรื่องนี้มาเล่า ไม่รู้จริงๆ จอมเทพเป็นเพียงแค่เด็กใหม่ ไม่ได้มีใจคิดอย่างนั้นจริงๆ ขออภัยด้วยครับ อย่าพึ่งตีตราว่าจอมเทพเป็นซะอย่างนั้นเลยครับ
#6
โพสต์เมื่อ 24 October 2008 - 05:09 PM
ผู้ที่ทำนิพพานให้แจ้งแล้ว ก็ย่อมมีจิตตั้งมั่น
ไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้งหลายฉันนั้น
(พุทธพจน์)
#7
โพสต์เมื่อ 24 October 2008 - 05:51 PM
5555555555555555
5555555555555555555
สะใจจริงๆๆ
#8
โพสต์เมื่อ 24 October 2008 - 09:23 PM
อยู่ที่ บทความดี๊ดี...จากสมาชิกค่ะ
พี่จอมเทพ
ตั้งใจจะเล่าสื่ออะไรเหรอ
อ่านมา 2 ภาคแล้ว งง ค่ะ
#9
โพสต์เมื่อ 24 October 2008 - 09:35 PM
#10
โพสต์เมื่อ 24 October 2008 - 09:41 PM
ผู้ที่ทำนิพพานให้แจ้งแล้ว ก็ย่อมมีจิตตั้งมั่น
ไม่หวั่นไหวในโลกธรรมทั้งหลายฉันนั้น
(พุทธพจน์)
#11
โพสต์เมื่อ 24 October 2008 - 09:57 PM
#12
โพสต์เมื่อ 25 October 2008 - 01:04 AM
กลัวผีแบบไร้เหตุผลค่ะ
เลยอธิษฐานขอให้ไม่เห็นมาตลอด
และจากนี้ไป ก็ไม่อยากเห็นค่ะ
ขอบคุณพี่จอมเทพ ที่บอกมาน้าคะ ขออนุโมทนาบุญกับพี่ค่ะ
ไปนอนแล้วค่ะ เพี้ยง วันนี้ขอให้ฝันดี ฝันว่าเข้าถึงธรรมด้วยกันนะคะ
#13
โพสต์เมื่อ 25 October 2008 - 08:29 AM
#14
โพสต์เมื่อ 25 October 2008 - 10:36 AM
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#15
โพสต์เมื่อ 25 October 2008 - 01:42 PM
#17
โพสต์เมื่อ 25 October 2008 - 02:41 PM
แต่ถ้ามีแต่ความคิดดีๆ ก็จะทำให้ใจใสค่ะ
กานติภัทรรับฟังได้ทุกเรื่อง
อนุโมทนาบุญกับคุณจอมเทพค่ะ
#18
โพสต์เมื่อ 26 October 2008 - 07:51 AM
#19
โพสต์เมื่อ 27 October 2008 - 12:12 AM