เวลาทำบุญให้อธิษฐานแบบนี้...จะดีแก่ตัว เรา
#1
โพสต์เมื่อ 08 November 2008 - 02:55 AM
ขอบุญจาก............(ธรรมทาน,สังฆทาน,วิหารทาน )นี้ จงถึงแก่เจ้ากรรมนายเวรและผู้ปกปักรักษาดูแลช่วยเหลือข้าพเจ้า และครอบครัวที่มาถึงตัวทุกภพทุกภูมิ
ขอบุญนี้จงเป็นปัจจัยให้ข้าพเจ้าเข้าถึงพระนิพพานในชาติปัจจุบั น หากไม่ถึงเพียงใดขอให้คำว่าไม่มีไม่รู้ในสิ่งที่ดี จงอย่าได้ปรากฎแก่ข้าพเจ้า
ขอให้เกิดในภพภูมิเขตประเทศที่มีพระพุทธศาสนาประดิษฐานอย่างมั่ นคง และได้ศึกษาพระธรรมได้อย่างเข้าใจถ่องแท้ลึกซึ้งตลอด จนกว่าจะเข้าพระนิพพานด้วยเทอญ
ขอท่านพระยมราชจงเป็นสักขีพยานในการบำเพ็ญ...บุญ..... ของข้าพเจ้าในครั้งนี้ด้วยเทอญ
#2
โพสต์เมื่อ 08 November 2008 - 05:52 AM
#3
โพสต์เมื่อ 08 November 2008 - 06:34 AM
#4
โพสต์เมื่อ 08 November 2008 - 08:35 AM
#5
โพสต์เมื่อ 08 November 2008 - 09:16 AM
#6
โพสต์เมื่อ 08 November 2008 - 10:10 AM
ถามว่าทำไมถึงอุทิศให้กับตัวเองก่อนนะหรือผมจะเปรียบให้ว่า ถ้าผมทำงานแล้วผมไม่ได้เงิน ผมก้จะไม่สามารถนำเงินจากการที่ผมทำงานไปแบ่งปันให้กับลูกหลานญาติพี่น้องได้ การทำบุญก็เช่นกัน เมือผมทำบุญแล้วผมก็ต้องมีบุญให้กับตัวผมเองก่อนถึงจะอุทิศบุญจากตัวเรานั้นให้กับผู้อื่นได้ ก็เช่นกันเมื่อเราไม่มีบุญในตัวเรา ผู้ที่เราอุทิศบุญไปให้นั้นก็ไม่สามารถที่จะร่วมอนุโนทนารับบุญของเราได้ เพราะว่าเราไม่มีบุญไปให้เค้า
ผมใช้แนวคิดนี้ในการทำบุญทุกครั้ง
#7
โพสต์เมื่อ 08 November 2008 - 11:43 AM
อนุโมทนาครับสาธุ
#8
โพสต์เมื่อ 08 November 2008 - 12:43 PM
ถ้าทำสามอย่างนี้แล้วสบายใจ ก็ทำไปเถิด หากจะแตกต่างกับผู้อื่นในรายละเอียดของความดีบ้างก็ไม่เป็นไร ขอให้เป็นความดีก็เป็นใช้ได้
ในสมัยพุทธกาล ก็ยังมีพระอรหันต์ ที่มีความถนัดต่างๆ กัน ที่ได้รับยกย่องถึง 80 พระองค์ เช่น บางองค์มีฤทธิ์มาก บางองค์มีปัญญามาก บางองค์เทศน์เ่ก่ง บางองค์ความจำดี บางองค์บรรลุธรรมเร็ว บางองค์ปฏิบัติเคร่ง ฯลฯ
ก็ไม่มีปัญหาอะไร สามารถอยู่ร่วมกันได้ทั้งหมดครับ
#9
โพสต์เมื่อ 09 November 2008 - 04:21 PM
#10
โพสต์เมื่อ 10 November 2008 - 09:20 PM
ส่วนที่บอกว่าเวลาทำบุญแล้วขอให้พระยายมรับรู้นั้น คุณนั่นแหละที่รับรู้เอง พยายมเขาไม่สามารถรับรู้ได้หรอกครับฟันธง!
(อาจจะตอบแรงไปหน่อย แต่จอมเทพตอบด้วยความจริงใจนะครับ) ไม่ได้ว่าคุณ แต่หวังให้คุณเข้าใจ
#11
โพสต์เมื่อ 11 November 2008 - 05:01 PM
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป