ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

เรื่องจริงผ่านใจ..


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 homer324

homer324
  • Members
  • 522 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 November 2008 - 06:42 PM

เรื่องจริงที่ผมจะเล่าต่อไปนี้..เป็นเรื่องราวที่ได้มาจากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นฉบับหนึ่ง เมื่อไม่นานมานี้เองครับ..


เรื่องเริ่มขึ้นที่ประวัติของคุณวินิต ที่เป็นคนอารมภ์ร้าย โมโหร้าย ชอบดื่มเป็นประจำ ที่สำคัญเขาชอบทานเนื้อสุนัขเสียด้วย..

สุนัขทุกตัวในหมู่บ้าน (ที่ไม่มีเจ้าของ) มักจะถูกนายวินิตจองล้างจองผลาญ และลงเอยด้วยการสังหาร แล้วเอาเนื้อมาทำเป็นอาหารรัปประทาน..

แม้กระทั่งคุณแม่ของนายวินิตยังเคยเตือนลูกชายบ่อยๆ ว่า มันเป็นบาป เป็นกรรม ให้หยุดการกระทำเสีย แต่เขาก็ไม่ยอมเชื่อ..

แล้วมาวันหนึ่งขณะที่เขากำลังตากเนื้อแห้ง (แหล่งข่าวไม่ได้ระบุว่าเป็นเนื้ออะไร) ไว้บนชานบ้านอยู่นั้น ก็มีสุนัขขี้เรื้อนแม่ลูกอ่อนตัวหนึ่ง ผอมโซ ผ่านมาเห็นเนื้อแห้งนั้นพอดี และขณะเขากำลังเผลอ สุนัขขี้เรื้อนนั้นก็คาบเอาเนื้อแห้ง วิ่งเหยาะๆ ไปอย่างไม่เร็วนัก..

ที่สำคัญเขาหันมาเห็นพอดี อารมภ์โกรธก็พลุ่งพลั่นขึ้นทันที มือก็รีบคว้าไม้หน้าสามได้ก็รีบกระโจนลงมาจากชานบ้าน และรีบวิ่งไล่กวดสุนัขขี้เรื่อนนั้นไปติดๆ..

ขณะนั้นก็มีน้องชายนายวินิตวิ่งตามไปดูด้วยความอยากรู้ อยากเห็นตามประสาเด็กๆ ว่าเหตุการณ์จะลงเอยอย่างไร..

ด้วยความโมโหอย่างสุดประมาณของนายวินิต ประกอบกับร่างกายอันผอมโซเพราะไม่ได้กินอาหารมาหลายวันของสุนัขเจ้ากรรมตัวนั้น..นายวินิตและน้องชายจึงตามสุนัขขี้เรื้อนนี้มาทันตรงบริเวณหน้าปากซอย ในเวลาไม่นานนัก..

จากประสบการณ์อันโชกโชนที่รู้ว่าควรตีตรงตำแหน่งไหนของสุนัข ที่เรียกว่า "จุดตาย" นายวินิตก็หวดไม้หน้าสามเข้าไปอย่างเต็มกำลัง ทีเดียวเองก็ส่งร่างอันไร้กำลังของสุนัขแม่ลูกอ่อนตัวนั้น ดิ้นพราดๆอยู่กับพื้น ตาเหลือก ลิ้นห้อย น้ำหูน้ำตาไหล รอวินาทีสุดท้ายของชีวิตอยู่ตรงนั้นเอง..

"ไอ้น้อย..เอ็งอยู่รอข้าตรงนี้แหล่ะ" นายวินิตสั่งน้องชายที่กำลังยืนตะลึงกับเหตุการณ์ "อ้าว..พี่ จะไปไหนล่ะ" "เดี๋ยวเอ็งรอดูมันชักตายอยู่ที่นี่แหล่ะ..ข้าจะรีบวิ่งไปเอามีดแล่เนื้อที่บ้านโน่น เดี๋ยวคืนนี้เอ็งจะได้กินเนื้อมัน.." "ก็ไหนพี่บอกว่า ไม่กินเนื้อหมาขี้เรื้อนไง?" น้องชายเตือนสติพี่ชาย.. "เออ..ยกเว้นวันนี้โว้ย..โมโหมันมากจนอยากจะกินเนื้อมันให้หายโมโหว่ะ.."

และแล้วนายวินิตก็รีบวิ่งกลับบ้านไป ปล่อยให้น้องชายยืนตัวสั่นเฝ้าเหยื่ออย่างสงสารแบบจับจิตจับใจ.."เออ..ไอ้เรื้อนเอ้ย..ถ้าเอ็งได้ยินที่ข้าพูด และเอ็งยังมีกำลังอยู่ ข้าก็ขอให้เอ็งหนีไปเสียน่ะ..ก่อนที่พี่ข้าจะกลับมา คราวนี้เอ็งตายจริงๆแน่.."

เหมือนจะรู้ภาษา สุนัขเจ้ากรรมตัวนั้นค่อยๆคลานกระดึบๆ หายเข้าไปในพงหญ้าข้างทางนั่นเอง..

สักครู่ใหญ่ๆ นายวินิตก็วิ่งกลับมา ณ จุดก่อเหตุ พร้อมกับอุปกรณ์แล่เนื้อชุดใหญ่ "ไอ้น้อย..มันไม่ตายหรือว่ะ..ทำไมเอ็งไม่เฝ้ามันไว้ให้ข้าว่ะ" เขาตะคอกถามน้องชายด้วยอารมภ์ฉุนเฉียว "โธ่..พี่ ผมจะไปทันมันเหรอ มันรีบวิ่งตะกุยแบบไม่คิดชีวิตอย่างนั้นน่ะ.." ทำให้นายวินิตงงงวยกับเหตุการณ์ เพราะไม่เคยมีสุนัขตัวใดรอดพ้นจากการตี "จุดตาย" ของเขาไปได้แม้สักตัว..

"ไป..ไอ้น้อย รีบตามมันไป มันคงไปได้ไม่ไกลหรอก..โดนตีขนาดนี้ ถ้าไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตล่ะว้า.." ว่าแล้วเขาก็ออกตามหาสุนัขตัวนั้นไปทันที..

ไม่นาน..เขาและน้องชายก็มาถึงใต้สะพานลอย มีเสียงสุนัขหลายตัวเห่า ทั้งสองจึงมุ่งตรงไปยังจุดที่ได้ยินเสียงสุนัขเหล่านั้น..

ภาพที่เขาทั้งสองเห็น แทบจะทำให้ไอ้น้อยน้องชายลมจับ มันเป็นภาพที่สุนัขขี้เรื้อนแม่ลูกอ่อนที่ได้รับบาดเจ็บเจียนตายตัวนั้นกับลูกน้อยๆที่ยังไม่หย่านมอีกนับสิบ บ้างก็ดูดนมที่มีแต่คราบนมแห้งกรังเกาะติด บ้างก็กำลังยื้อแย่งก้อนเนื้อแห้งที่แม่มันคาบมาให้โดยที่แม่ไม่ได้กัดกินเองเลยแม้แต่น้อย..

นายวินิตอ้าปากค้าง ไม้หน้าสามและอุปกรณ์แล่เนื้อหล่นจากมือเขาเมื่อใดก็ไม่ทราบ เข่าอ่อนลงทันทีด้วยว่า สำนึกได้ทันทีว่าเหตุใดหนอ..แม่สุนัขตัวนี้ถึงไม่ยอมตาย..แม้จะเจ็บปวดสักเพียงใด ก็ต้องเอาอาหารมาป้อนลูกของตัวเองให้ได้ โดยไม่นึกห่วงชีวิตของตัวเองเลยแม้สักนิดเดียว..

สายตาของแม่สุนัขเหมือนกับจะร้องขอเขาว่า..ขอเวลาให้ฉันสักหน่อยนึงเถิด ให้เวลาฉันป้อนนมลูกเถิด ให้เวลาฉันป้อนอาหารลูกเถิด แล้วฉันก็จะเป็นของท่านในไม่ช้า..

นายวินิตและน้องชายคุกเข่าลงกับพื้น และมีลูกสุนัขเข้ามาคลอเคียงข้าง น้ำตานายวินิตไหลพรากพร้อมกับอุ้มลูกสุนัขนั้นขึ้นมาแนบอก พร้อมกับเอ่ยว่า "เอาล่ะ..เราจะเลี้ยงดูลูกๆของเจ้าอย่างดีที่สุด เจ้าไม่ต้องเป็นห่วง" พูดจบ เหมือนกับรู้ภาษา แม่สุนัขตัวนั้นก็สิ้นใจลงทันที..และเขาก็นำร่างอันไร้วิญญาณของแม่สุนัขนั้น ไปฝังที่บ้านของเขาเอง ด้วยความรู้สึกสำนึกผิด..

จากนั้นมาสามปีให้หลัง..ลูกสุนัขโตเต็มวัย อยู่เฝ้าบ้านให้นายวินิตยามเขาออกไปเยี่ยมคุณแม่ของเขาที่บ้านต่างจังหวัด..

"แม่ครับ..แม่จะสอนจะสั่งผมอย่างกับที่แม่เคยสอนผมตอนเป็นเด็กๆก็ได้น่ะครับ..ผมอยากให้แม่สอนผมอย่างเคยน่ะครับ.." พร้อมกันเขาก็เอามาลัยดอกมะลิมอบให้กับคุณแม่ของเขา และก้มลงกราบแทบเท้า..คุณแม่น้ำตาไหลด้วยความปิติใจที่ลูกชายได้กลับตัวเป็นคนใหม่..เป็นคนใหม่อย่างที่ไม่เคยนึกไม่เคยฝันมาก่อน..


จบ..

ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  dogs.jpg   20.78K   8 ดาวน์โหลด


#2 PTDL

PTDL
  • Members
  • 175 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Chicago, USA

โพสต์เมื่อ 12 November 2008 - 11:49 PM

This is an R rated story. It contains violence. Some people may be offended. Probably we should state that in the topic when we are posting R rated content.

#3 the miracle girl ^__^

the miracle girl ^__^
  • Members
  • 226 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 November 2008 - 12:12 AM

สาธุค่ะ happy.gif

#4 Tree

Tree
  • Members
  • 2076 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 November 2008 - 12:56 AM

สาธุ ครับ

#5 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 13 November 2008 - 08:44 AM

สะเทือนใจพอประมาณ หลายท่านที่เลี้ยงสุนัข เคยพลั้งเผลอทำร้ายเขาบ้างหรือเปล่า ไม่ว่าโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ดี
บทสรุปของบทความนี้ จบได้ สวยงาม ครับ
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ สาธุ

#6 tnawut

tnawut
  • Moderators
  • 2398 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Laksi
  • Interests:Internet, Computer, Electronic, Security, Merit, Meditation, อินเตอร์เน็ต, คอมพิวเตอร์, ทำบุญ, ปล่อยปลา, บูชาเจดีย์, ฝันในฝัน, DOU, หมู่บ้านปฏิบัติธรรม, บวช, บรรพชา, Web, CU, Chula

โพสต์เมื่อ 13 November 2008 - 09:21 AM

QUOTE
ภาพที่เขาทั้งสองเห็น แทบจะทำให้ไอ้น้อยน้องชายลมจับ มันเป็นภาพที่สุนัขขี้เรื้อนแม่ลูกอ่อนที่ได้รับบาดเจ็บเจียนตายตัวนั้นกับลูกน้อยๆที่ยังไม่หย่านมอีกนับสิบ บ้างก็ดูดนมที่มีแต่คราบนมแห้งกรังเกาะติด บ้างก็กำลังยื้อแย่งก้อนเนื้อแห้งที่แม่มันคาบมาให้โดยที่แม่ไม่ได้กัดกินเองเลยแม้แต่น้อย..

ซึ้งครับ


#7 นักรบเผ่าพันธุ์ตะวัน

นักรบเผ่าพันธุ์ตะวัน
  • Members
  • 380 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 13 November 2008 - 09:45 AM

น้ำตาคลอเบ้าเลย
เพราะเป้าหมายของพวกเราคือ "ที่สุดแห่งธรรม"

#8 homer324

homer324
  • Members
  • 522 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 November 2008 - 11:16 AM

to PTDL..

Certainly, the story is absolutely cruel. Thanks for your kindness of concerning to this.

I would really appreciate for your valueable comment.

สาธุ..

#9 จอมเทพ

จอมเทพ
  • Members
  • 466 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 November 2008 - 11:19 AM

จอมเทพเข้าใจว่า การกระทำบางอย่าง เราจะเอาแต่ความคิดของเราเป็นใหญ่ เลยพลาดที่จะนึกถึงหัวใจคนอื่น ต่อเมื่อเราได้กลับมาย้อนดูมันอีกครั้ง เราถึงจะรู้ว่าเราได้ตัดสินใจผิดพลาดไปเสียแล้ว ซึ่งบางครั้งมันก็สายเกินไปที่จะแก้ไขมัน
เพราะฉะนั้น จอมเทพก็อยากจะฝากให้เพื่อนๆทุกท่านว่า

QUOTE
"จงคิดก่อนทำทุกครั้ง แต่อย่าทำทุกครั้งที่คิด" นะครับ

กุญแจวิเศษ

#10 homer324

homer324
  • Members
  • 522 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 November 2008 - 11:21 AM

เด็ก และสตรีมีครรภ์ ควรพิจารณาในการชมเป็นพิเศษครับ..

เด็ก ควรมีผู้ปกครองให้คำชี้แนะ..

ส่วนสตรีมีครรภ์ ควรระมัดระวังในการชม เพราะอาจจะสะเทือนใจได้ และอาจกระทบกระเทือนลูกที่อยู่ในท้องได้ครับ..

ระวัง แต่ไม่ระแวงน่ะครับ..

สาธุ..

#11 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 November 2008 - 04:59 PM

QUOTE
เรื่องเริ่มขึ้นที่ประวัติของคุณวินิต ที่เป็นคนอารมภ์ร้าย โมโหร้าย ชอบดื่มเป็นประจำ ที่สำคัญเขาชอบทานเนื้อสุนัข
- เริ่มด้วยผิดศีล 2ข้อเลย
- กรรม(การกระทำ)ล้วนมีที่มาจากภายทั้งสิ้นจริงๆ อ่านแล้วรู้สึกสลดสังเวชใจ
- ต้องอธิษฐานย้ำบ่อยๆว่า"ขอให้เป็นคนรักศีล มีศีล ทรงไว้ซึ่งพระศาสนาของพระบรมศาสดา"
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#12 usr25920

usr25920
  • Members
  • 76 โพสต์

โพสต์เมื่อ 13 November 2008 - 06:09 PM

ซึ้งมากมากเลยค่ะ

แต่ก็ขออนุโมทนา สาธุ ด้วยนะคะ ที่กลับตัวกลับใจได้