โปรดช่วยชี้ทางสว่าง
#1
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 12:11 PM
#2
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 12:53 PM
-ไปบอกเขาให้ช่วยทำงาน
-นั่งสมาธิเิยอะๆ ให้ใจสงบ
-ทำงานคนเดียวต่อไป โดยไม่คิดอะไรมากมาย
เอ่อ! คิดไม่ออก
#3
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 01:17 PM
ให้คิดว่าใครทำตัวอย่างไร เขาก็จะได้รับผลอย่างนั้นแหละครับ หมายความว่า ถ้าพี่เขาทำตัวอย่างนั้น พี่เขาก็จะได้รับผลแบบที่พี่เขาทำตัวอย่างนั่นแหละครับ คือนาคตก็คงจะไม่ดีไปมากกว่าที่ตนเองทำนี้หรอกครับ
ส่วนตัวน้อง น้องได้ทำถูกต้องแล้ว อนาคตน้องก็จะเป็นคนที่ไม่ปล่อยปะละเลยงานที่ตัวเองได้รับเป็นแน่ คือมีงานอะไรมาน้องก็จะมุมานะทำจนมันเสร็จ โดยที่ไม่ได้ผลักงานให้ใครเขาทำเหมือนอย่างที่พี่เขาทำ ให้ทำไปเถอะครับ มันเป็นผลแก่ตัวเราเอง พี่จอมเทพก็คิดอย่างนี้แหละครับ
เราไม่จำเป็นต้องไปเครียดกับพี่เขาหรอกครับ ถ้าพี่เขายังทำตัวอย่างนี้อนาคตจะน่าสงสารมากกว่าน้องซะอีก สู้ๆนะครับ
#4
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 01:27 PM
#5
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 02:44 PM
- เราในฐานะรุ่นน้องคงไม่มีสิทธิไปเตือนรุ่นพี่โดยตรง แต่เชื่อว่าการฝึกงานต้องมีผู้ดูแลนะ(Supervisor) ลองแจ้งให้ดูแลรุ่นพี่ใกล้ชิด เพราะน่าจะมีการแนะแนว(Job description)ก่อนเริ่มฝึกงาน อาจแยกโปรเจค?
- อดทนไว้ ปรับใจให้คิดในทางบวก แล้วสุขธรรมจะสถิตย์ภายใน เย็นกายเย็นใจ ไม่เดือดร้อน
- โทสะ จะนำพาความร้อนใจมาเยือน ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ในปัจจุบันและอนาคต
- หรือจะลองนึกซะว่าเรามาฝึกงานคนเดียว กำลังทำในสิ่งที่ยิ่งใหญ่...
พระเดชพระคุณฯท่านสอนไว้ว่า
เอาใจออกจากความคิด ทำจิตให้สงบ แล้วจะพบทางออก
ไฟล์แนบ
#6
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 02:49 PM
อืม พอฝึกงานเสร็จก็ต้องมีการ report project ที่ทำใช่มั้ยคะ
แล้วต้องเอาไป present หรือเปล่า
ถ้ามีการให้ตอบคำถามเกี่ยวกับงานที่ทำ น้องก็จะมีความรู้มากกว่าเค้าคนนั้น
ใจเย็นๆค่ะ
#7
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 04:27 PM
#8
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 05:05 PM
อดทนทำจนเสร็จ คิดว่าเป็นงานของเรา
เขาไม่ช่วย เป็นงานของเขา
....
คิดแบบนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยานะ
เรื่องที่เกิดขึ้นตอนนี้
ก็คือภาพในอดีตที่เราเคยทำเอาไว้
คือเคยไม่ช่วยเพื่อนทำงาน ให้เพื่อนทำคนเดียว
ตอนนี้ เจอเข้ากับตัวเอง จะได้เข้าใจความรู้สึกไง
แล้วจะได้สอนตัวเองว่า อย่าทำแบบนี้
คนถูกกระทำเค้าไม่ชอบ
ตอนนี้ถือว่า ใช้คืนเค้าไป ..
....
อดทน ต่อความลำบากตรากตรำ ถือว่าง่ายที่สุดแล้ว
สู้ สู้ สู้ต่อไป เดี๋ยวก็ชนะ
...เดี๋ยวเลี้ยงไอติมปลอบใจ (ถ้าเจอกัน ทวงแล้วกันนะ)
...ขยัน จนตาดำ
ไฟล์แนบ
#9
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 05:45 PM
จงทำใจยอมรับให้ได้ว่า มันเป็นกรรมที่เราก็เคยทำมา เราต้องรับกรรมเช่นนี้ เป็นเรื่องธรรมดา
...แล้วใจจะเบาสบายขึ้น เหมือนวางของที่หนักลงได้...
แล้วนึกบ่อยๆว่า เราทำ เราก็ได้ความรู้ ใครไม่ทำก็ไม่รู้..
เราจะฝึกตัวเองให้รู้มากๆ เก่งมากๆ จนใครๆก็อยากได้เราไว้ทำงาน...
รับรองว่าในอนาคต หนูจะไม่มีวันตกงานจ้า....555
ขอให้โชคดีค่า
#10
โพสต์เมื่อ 14 November 2008 - 10:41 PM
#11
โพสต์เมื่อ 15 November 2008 - 10:38 AM
เราโชคดีจัง ที่ได้ลองทำงานทุกอย่างด้วยตัวเอง
วันหลังเผื่อได้เป็นหัวหน้างานจะได้สอนงานลูกน้องได้ครบทุกเรื่องไงคะ
เป็นการฝึกเป็นเจ้าคน นายคนไงคะ
ดูอย่างเจ้าสัว ที่ฉลาด สอนลูกให้ทำงาน
จะฝึกลูกให้ทำงานตั้งแต่ระดับล่าง คลุกคลีกับลูกน้อง
เพื่อเวลามาเป็นเจ้าของกิจการจะได้ทราบขั้นตอนการทำงาน สอนงานลูกน้องได้ไงคะ
ทำใจใส ใส นั่งสมาธิทุกวัน ก่อนไปทำงาน หรือก่อนนอน
ทำงานให้มีความสุข
อย่าไปมองคนอื่น มองที่ตัวเรา ทำตัวเราเองให้ดีที่สุด
ลองคิดแบบนี้ดูนะคะ เพราะพี่ก็ทำแบบนี้ แล้วเราจะทำงาน หรือทำทุกอย่างได้อย่างมีความสุขมาก ๆ ค่ะ
สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ
ลูกพระธัมฯ หลานหลวงปู่ หลานคุณยาย
#12
โพสต์เมื่อ 15 November 2008 - 11:39 AM
น้องฝึกงานหลายๆคน ไม่เคยได้ทำอะไร นอกชงชา ชงกาแฟ ถ่ายเอกสาร (นั่งเล่นเน็ต )
และหลายๆคน เสียอะไรหลายๆอย่างที่ไม่ควรเสีย (เสียเวลาเปล่า เสียโอกาส เสียนิสัย และ เสีย......)
การที่น้องได้รับมอบหมายงานใหญ่ ซึ่งนั่นหมายถึง น้องจะต้องได้รับความรู้มามากเช่นกัน
และการที่ถูกใช้มาก ก็หมายถึง การได้รับความไว้วางใจมาก จากพี่ๆพนักงานของบริษัท ที่น้องไปฝึกงาน
อย่าไปคิดค่ะ ว่ารุ่นพี่คนนั้นทำอะไร
อย่าไปคิดค่ะ ว่ารุ่นพี่คนนั้นเอาเปรียบเราอย่างไร
ให้คิดว่า เรา....ได้อะไรมาบ้าง
การทำงานหลายๆอย่าง ต้องทำมาก จึงจะเกิดความชำนาญ และ ความเชี่ยวชาญ
และอยากจะบอกน้องอีกว่า
ความเหน็ดเหนื่อยของน้อง ต้องมีคนเห็นแน่นอนค่ะ
คนที่ทำเท่านั้น จึงจะสามารถ เข้าใจในงานที่ทำได้เป็นอย่างดี
และ พี่ๆ พนักงาน จะต้องรับรู้ และ มองเห็นสิ่งเหล่านั้นแน่นอน
เพื่อนๆ รุ่นเดียวกันกับ พี่ koonpatt ก็เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้
และคนที่ถูกใช้งานมาก (แต่งานต้องออกมาดีด้วยน๊า) ก็ถูกจองตัวทันที
เพราะเห็นผลงาน และ ความตั้งใจที่ทำตลอดเวลาที่มาฝึกงาน
อดทน และ พยายามต่อไปนะคะ
แล้วน้องก็จะได้รับผลจากความตั้งใจ ความขยันหมั่นเพียร และความพยายามนั้นในไม่ช้าค่ะ
แด่
เธอ...ผู้นำแสงสว่างสู่...กลางใจ
#13
โพสต์เมื่อ 15 November 2008 - 02:28 PM
#14
โพสต์เมื่อ 17 November 2008 - 10:30 AM
หรือเศษกระดาษระบาย ๆ ๆ ออกมาบ้าง แล้วก็คิดในแง่บวกว่า เมื่อเราทำงานมาก เราก็ย่อมได้ความรู้มากกว่า
และด้วยนิสัยแบบนี้ของเขา อีกหน่อยคงต้องเจอคนที่ไม่ยอมเขาแน่ แล้วเขาก็จะได้รับผลกรรมเอง
อดกลั้นไว้ อีกไม่นานงานก็เสร็จแล้ว อดทนอีกนิดนะ แล้วก็แผ่เมตตาให้เขาด้วย..เดี๋ยวใจจะเย็นขึ้นค่ะ
ขอเป็นกำลังใจให้หนูจ๊ะ
เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม
น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม
#15
โพสต์เมื่อ 17 November 2008 - 11:47 PM
การทำงานใดๆ ย่อมเป็นการฝึกตัว ฝึกฝนตัวเราในด้านใดด้านหนึ่ง หรือแม้กระทั่งงานที่ทำซ้ำๆ ก็ยังเป็นการฝึกทักษะ ความชำนาญ หรือความเร็ว
เมื่อเราต้องเจองานใดๆที่ต้องทำซ้าๆ น่าเบื่อ หรืองานที่มีปัญหา งานที่ทำให้เราไม่ชอบ หรืออื่นๆ ก็เป็นโจทย์ที่ทำให้เราต้องใช้สติปัญญา คิดๆๆ ว่าจะแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร
ไม่ว่าจะเป็นการหาวิธีการทำงานให้เร็วขึ้น
หรือการหาทางทำงานให้ผิดพลาดน้อยลง ได้ประสิทธิภาพ ได้ผลงานมากขึ้น
หรือการหาวิธีทำให้ผู้อื่นมาช่วยงานเราอย่างเต็มใจ
หรือการทำงานให้รู้สึกสนุกมากขึ้น
หรือเทคนิคการทำงานแล้วทำยังไงให้เหนื่อยน้อยลง
หรือศิลปะการสอนงานให้ผู้อื่น
การฝึกฝนตนเองเป็นการพัฒนาตนเอง ทั้งทางด้านความสามารถทางกาย ทางความคิดเชาว์ปัญญา ทางศิลปะความสร้างสรรค์
สิ่งที่ดูเหมือนยาก น่าเบื่อ อาจเป็นขนมหวานได้ถ้าเราสู้ จวบจนฝ่าฟันมันไปได้
อยู่ที่ความคิดของเรา ถ้าเริ่มต้นกลัวหรือปฏิเสธที่จะเอาชนะมัน เราก็หมดโอกาสชนะ
ถ้าเราคิดในแง่ลบอย่างเดียว เราก็จะเห็นสิ่งต่างๆด้านเดียวตลอดไป และจะมัวคิดๆๆ คิดแบบเดิม ซึ่งไม่เกิดทางออกใหม่
ความสำเร็จที่แท้จริงไม่ได้อยู่บนเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ หากแต่มีขวากหนามและต้องใช้กำลังใจและความอดทนอย่างมาก
ถ้าเราสู้อย่างอดทน ประกอบปัญญาในทุกขณะ ไม่ยอมแพ้ไปเสียก่อน ทุกสิ่งจะดีขึ้นๆ
เริ่มต้นด้วยการสู้ ในใจของเรา สู้ด้วยการรักษาใจเราให้ใส ผ่องใส และสงบนิ่ง เมื่อเราเริ่มทำสิ่งต่างๆด้วยใจที่ตั้งมั่นไม่หวั่นไหว เราจะมองเห็นทางแก้ได้ไม่ยาก มองสิ่งต่างๆอย่างอยู่เหนือปัญหา
เพราะถ้าเราจมอยู่ในปัญหา ก็เหมือนจมอยู่ในน้ำ ก็จะไม่สามารถรู้สึกหรือสัมผัสได้ว่า อากาศเหนือน้ำมีอยู่จริง