เรื่องคือว่า ตอนเช้าซื้อขนมปัง น้ำส้มฯลฯ เพื่อมาทานที่ทำงานค่ะ
ก่อนทานก็จะนำของเหล่านั้นบูชาข้าวพระพุทธก่อน
(คือนึกในใจว่าเรากำลังถวายอยู่) แล้วก็เว้นช่วงไว้
จากนั้นจึงนำอาหารมาทานเฉยเลย โดยลืมลาข้าวพระพุทธค่ะ
เพื่อน ๆ คิดว่าเราทำแบบนี้ จะผิดมากรึเปล่าค่ะ ไม่สบายใจเลยค่ะ
ลืมลาข้าวพระพุทธ แล้วนำมาทาน ผิดมากรึเปล่าค่ะ
เริ่มโดย polestar, Dec 01 2008 09:49 AM
มี 9 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 01 December 2008 - 09:49 AM
"..เหน็ดเหนื่อยกายแค่ไหน ถ้าใจเรายังมีแรง
คืนมืดมนหมดแสง มีแรงใจยังก้าวนำ
ใจคือผู้ชนะ ภาระยังต้องไปทำ
ลุยฝ่าไฟ ข้ามน้ำ จดจำบทเรียนชีวิต.."
คืนมืดมนหมดแสง มีแรงใจยังก้าวนำ
ใจคือผู้ชนะ ภาระยังต้องไปทำ
ลุยฝ่าไฟ ข้ามน้ำ จดจำบทเรียนชีวิต.."
#2
โพสต์เมื่อ 01 December 2008 - 10:12 AM
ไม่ผิดหรอกครับ
แต่ถ้ากังวลก็อย่าลืมแล้วกัน
แต่ถ้ากังวลก็อย่าลืมแล้วกัน
#3
โพสต์เมื่อ 01 December 2008 - 10:18 AM
ขอบคุณคุณเด็กผู้น้อยค่ะ ^^
"..เหน็ดเหนื่อยกายแค่ไหน ถ้าใจเรายังมีแรง
คืนมืดมนหมดแสง มีแรงใจยังก้าวนำ
ใจคือผู้ชนะ ภาระยังต้องไปทำ
ลุยฝ่าไฟ ข้ามน้ำ จดจำบทเรียนชีวิต.."
คืนมืดมนหมดแสง มีแรงใจยังก้าวนำ
ใจคือผู้ชนะ ภาระยังต้องไปทำ
ลุยฝ่าไฟ ข้ามน้ำ จดจำบทเรียนชีวิต.."
#4
โพสต์เมื่อ 01 December 2008 - 12:52 PM
อนุโมทนา นักเรียนอนุบาล polestar ที่เจริญพุทธานุสสติ อยู่เนือง ๆ นะครับ
แม้ก่อนทานอาหาร ก็ยังได้ชำระจิต กลั่นกรองใจด้วยการเจริญพุทธานุสสติ
น่าชื่นชมและควรอนุโมทนา มากนะครับ
Sa_Dhu_Anumonatami.gif 22.04K
57 ดาวน์โหลด
ผมมีข้อคิดเล็กน้อย
เกี่ยวกับ ความกังวลจากความไม่แน่ใจว่าถูก หรือผิด ในการทำความดี
หรือทำความดีแล้ว ได้รับผลกระทบในทางไม่ดี
อย่างนี้ครับว่า
๑
ผมให้ความสำคัญของเจตนา เป็นเรื่องหลัก
ว่า เราทำสิ่งใด ๆ ด้วยกุศลจิต กุศลเจตนาหรือไม่
โดยที่เราไม่มีเจตนาให้เป็นไปอย่างนั้น
หรือผลกระทบนั้น ๆ อยู่เหนือการควบคุมของเรา
เช่น
ผมมีกุศลจิต คิดตอบแทนพระคุณบุพการี
อยากให้มารดาและบิดา สร้างทานกุศล ด้วยเงินจำนวนหนึ่ง
ซึ่งมารดาและบิดาคิดว่า มากเกินไป
พิจารณาแล้ว ถ้าชวนท่านให้นำเงินของท่านทำเอง ท่านจะคัดค้าน
ผมจึงนำเงินของตัวเอง ไปทำแทนท่านทั้งสอง
และเมื่อผมนำใบอนุโมทนาบัตร หรือ พระของขวัญ มาให้ท่านทั้งสอง อนุโมทนา ในภายหลัง
ท่านกลับไม่มีจิตยินดี อนุโมทนา แถมยังต่อว่าผมด้วย
หรือ ท่านยินดีทำทานกุศลด้วยตัวท่านเอง
แต่ญาติพี่ น้อง ไม่ยินดีด้วย และยังตำหนิ ติเตียน ซะใหญ่โต
กรณีแบบนี้ ผมจะไม่นำมาสร้างความกังวลให้ตนเอง
แต่เมื่อเห็น รู้ ผลกระทบในทางไม่ดีนั้น ๆ
ผมก็จะระมัดระวัง รอบคอบมากขึ้น
ใช้ศิลปะ ในการทำความดี มากขึ้นครับ
๒
กรณีถ้าผมไม่แน่ใจว่า ผิดพลาด หรือเปล่า
เช่น
ตั้งใจรักษาศีล ๘ แต่ระหว่างวัน ไม่แน่ใจว่า ทำผิดองค์แห่งศีล ข้อไหนหรือไม่
ผมจะเลือกไม่ตั้งข้อกล่าวหาตนเอง หรือ ย้ำคิดให้มากเกินไป
แต่
ไม่ได้หมายความว่า เลิกเคร่งครัดในการรักษาศีล นะครับ
ถ้าเราย้ำคิด มากเกินไป
ใจจะเศร้าหมอง มากกว่าผ่องใส ในความดีที่เราตั้งใจทำ
แล้วถ้าก่อนตาย ใจกระหวัด เรื่องหยุมหยิม ที่เรากังวลใจ
จิตจะเศร้าหมอง ไม่ผ่องใสในชีวิตการสร้างบารมีเท่าที่ควร
บุญไม่อาจส่งผลได้เต็มที่ เพราะความกังวลใจ มาขวางไว้
คือ แทนที่เราสร้างบุญไว้มาก มีกำลังไปถึงสวรรค์ชั้นดุสิต กลับมาแป๊กแค่ ภุมมเทวา
และที่ร้ายกว่านั้น คือ อาจมีทุคติเป็นที่ไป
มีตัวอย่างมาแล้วในชาดก เรื่อง พญานาคเอรกปัตตะ
ที่อัตภาพก่อน บวชพระ ตั้งใจและเคร่งคัดในการรักษาศีล และบำเพ็ญสมณะธรรม มาถึง ๒o,ooo ปี
แต่ก่อนมรณะภาพ กังวลใจเรื่อง เคยพายเรือ แล้วใบพายพรากของเขียว (ตะไคร้น้ำ)
ใจจึงไม่ผ่องใสเท่าที่ควรจะเป็น
เมื่อละจากอัตภาพนั้นแล้ว ได้เกิดเป็น พญานาค
ดังนั้น
ทางเลือกของผม คือ ฝึกสติให้มากขึ้น รอบคอบในการกระทำและคำพูดมากขึ้นครับ
แต่ว่าจะทำได้มากแค่ไหน ก็เป็นอีกเรื่อง
ซึ่งของแบบนี้ เป็นศิลปะในการดำเนินชีวิต ต้องขยันฝึกฝน กันทุกคนครับ
สรุป คือ
http://www.dhammajak...2a756f19b1e1c1b
http://board.palungj...ad.php?t=120310
แม้ก่อนทานอาหาร ก็ยังได้ชำระจิต กลั่นกรองใจด้วยการเจริญพุทธานุสสติ
น่าชื่นชมและควรอนุโมทนา มากนะครับ
![แนบไฟล์](https://www.dmc.tv/forum/public/style_extra/mime_types/gif.gif)
ผมมีข้อคิดเล็กน้อย
เกี่ยวกับ ความกังวลจากความไม่แน่ใจว่าถูก หรือผิด ในการทำความดี
หรือทำความดีแล้ว ได้รับผลกระทบในทางไม่ดี
อย่างนี้ครับว่า
๑
ผมให้ความสำคัญของเจตนา เป็นเรื่องหลัก
ว่า เราทำสิ่งใด ๆ ด้วยกุศลจิต กุศลเจตนาหรือไม่
ยกเว้น แม้เจตนาดี แต่ก็รู้ดีว่า จะมีผลกระทบร้ายแรง เสียหายแก่ส่วมรวม
ถึงแม้ว่าการทำความดีนั้น ๆ อาจมีผลกระทบในทางไม่ดีบ้าง โดยที่เราไม่มีเจตนาให้เป็นไปอย่างนั้น
หรือผลกระทบนั้น ๆ อยู่เหนือการควบคุมของเรา
เช่น
ผมมีกุศลจิต คิดตอบแทนพระคุณบุพการี
อยากให้มารดาและบิดา สร้างทานกุศล ด้วยเงินจำนวนหนึ่ง
ซึ่งมารดาและบิดาคิดว่า มากเกินไป
พิจารณาแล้ว ถ้าชวนท่านให้นำเงินของท่านทำเอง ท่านจะคัดค้าน
ผมจึงนำเงินของตัวเอง ไปทำแทนท่านทั้งสอง
และเมื่อผมนำใบอนุโมทนาบัตร หรือ พระของขวัญ มาให้ท่านทั้งสอง อนุโมทนา ในภายหลัง
ท่านกลับไม่มีจิตยินดี อนุโมทนา แถมยังต่อว่าผมด้วย
หรือ ท่านยินดีทำทานกุศลด้วยตัวท่านเอง
แต่ญาติพี่ น้อง ไม่ยินดีด้วย และยังตำหนิ ติเตียน ซะใหญ่โต
กรณีแบบนี้ ผมจะไม่นำมาสร้างความกังวลให้ตนเอง
แต่เมื่อเห็น รู้ ผลกระทบในทางไม่ดีนั้น ๆ
ผมก็จะระมัดระวัง รอบคอบมากขึ้น
ใช้ศิลปะ ในการทำความดี มากขึ้นครับ
๒
กรณีถ้าผมไม่แน่ใจว่า ผิดพลาด หรือเปล่า
เช่น
ตั้งใจรักษาศีล ๘ แต่ระหว่างวัน ไม่แน่ใจว่า ทำผิดองค์แห่งศีล ข้อไหนหรือไม่
ผมจะเลือกไม่ตั้งข้อกล่าวหาตนเอง หรือ ย้ำคิดให้มากเกินไป
แต่
ไม่ได้หมายความว่า เลิกเคร่งครัดในการรักษาศีล นะครับ
ถ้าเราย้ำคิด มากเกินไป
ใจจะเศร้าหมอง มากกว่าผ่องใส ในความดีที่เราตั้งใจทำ
แล้วถ้าก่อนตาย ใจกระหวัด เรื่องหยุมหยิม ที่เรากังวลใจ
จิตจะเศร้าหมอง ไม่ผ่องใสในชีวิตการสร้างบารมีเท่าที่ควร
บุญไม่อาจส่งผลได้เต็มที่ เพราะความกังวลใจ มาขวางไว้
คือ แทนที่เราสร้างบุญไว้มาก มีกำลังไปถึงสวรรค์ชั้นดุสิต กลับมาแป๊กแค่ ภุมมเทวา
และที่ร้ายกว่านั้น คือ อาจมีทุคติเป็นที่ไป
มีตัวอย่างมาแล้วในชาดก เรื่อง พญานาคเอรกปัตตะ
ที่อัตภาพก่อน บวชพระ ตั้งใจและเคร่งคัดในการรักษาศีล และบำเพ็ญสมณะธรรม มาถึง ๒o,ooo ปี
แต่ก่อนมรณะภาพ กังวลใจเรื่อง เคยพายเรือ แล้วใบพายพรากของเขียว (ตะไคร้น้ำ)
ใจจึงไม่ผ่องใสเท่าที่ควรจะเป็น
เมื่อละจากอัตภาพนั้นแล้ว ได้เกิดเป็น พญานาค
ดังนั้น
ทางเลือกของผม คือ ฝึกสติให้มากขึ้น รอบคอบในการกระทำและคำพูดมากขึ้นครับ
แต่ว่าจะทำได้มากแค่ไหน ก็เป็นอีกเรื่อง
ซึ่งของแบบนี้ เป็นศิลปะในการดำเนินชีวิต ต้องขยันฝึกฝน กันทุกคนครับ
สรุป คือ
ไม่แนะนำให้ใครย้ำคิด ในเรื่องที่คิดแล้ว ใจหมอง หรือ ไม่ผ่องใส อย่างที่ควรจะเป็นครับ
อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด
อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด
เรื่องพญาเอรกปัตตนาคราช
http://www.dhammajak...2a756f19b1e1c1b
http://board.palungj...ad.php?t=120310
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม
#5
โพสต์เมื่อ 01 December 2008 - 01:52 PM
อะไรที่ลืมก็ผ่านไปอย่าเก็บมาคิดให้มากนักเลย แต่ถ้าลืมแล้วต่อไปก็อย่าทำอีกก็แค่นั้นเอง เราไม่ได้ฆ่าใครซักหน่อยอย่าserious นักเลย จิตผูกไว้กับสิ่งใดที่ไม่เป็นประโยชน์ก็ปล่อยวางเสีย เอาไปผูกกับบุญ/ความดี นึกแล้ว สบายๆดีกว่านะ
#6
โพสต์เมื่อ 01 December 2008 - 04:39 PM
อือม์ เห็นด้วยกับที่ คุณ Dd2683 ตอบนะ
มาตอบครั้งใด ก็มีสาระ ทุกรอบ..
...
พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ทัตตะชีโว
ท่านเคยสอน พระธรรมทายาท ที่กังวล เรื่องจำ พระวินัย
กลัวว่าบวชแล้ว จะไม่บริสุทธิ์ บริบรูณ์ในศีล 227 ว่า
ให้เลิกกังวลเสีย..
...
และให้ นำ ใจ ไปวางไว้ที่ 072 แทน...
...
ท่านว่า ที่ตรงนั้น เราจะไม่พลั้งเผลอ
..ทั้งในการปฏิบัติตัว ในแต่ละวันของเรา..
และ ยังจะสามารถ
...ทำให้ศีลของเรา บริสุทธิ์ บริบรูณ์ ได้ตลอดรอดฝั่ง
...
วิธีนี้ ท่านว่า เหนือกว่าการมาท่องจำ แล้ว ใช้ความระมัดระวังเอา
แบบชาวโลกทั่วๆไปจ้ะ
มาตอบครั้งใด ก็มีสาระ ทุกรอบ..
...
พระเดชพระคุณหลวงพ่อ ทัตตะชีโว
ท่านเคยสอน พระธรรมทายาท ที่กังวล เรื่องจำ พระวินัย
กลัวว่าบวชแล้ว จะไม่บริสุทธิ์ บริบรูณ์ในศีล 227 ว่า
ให้เลิกกังวลเสีย..
...
และให้ นำ ใจ ไปวางไว้ที่ 072 แทน...
...
ท่านว่า ที่ตรงนั้น เราจะไม่พลั้งเผลอ
..ทั้งในการปฏิบัติตัว ในแต่ละวันของเรา..
และ ยังจะสามารถ
...ทำให้ศีลของเรา บริสุทธิ์ บริบรูณ์ ได้ตลอดรอดฝั่ง
...
วิธีนี้ ท่านว่า เหนือกว่าการมาท่องจำ แล้ว ใช้ความระมัดระวังเอา
แบบชาวโลกทั่วๆไปจ้ะ
#7
โพสต์เมื่อ 01 December 2008 - 05:23 PM
QUOTE
จะผิดมากรึเปล่าค่ะ ไม่สบายใจ
- ตัดความกังวลความรู้สึกผิดออก นำมาเป็นบทเรียน- อย่าปล่อยให้ใจหมอง
- เพื่อนๆแนะนำไว้ดีแล้ว...สาธุ
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC
#8
โพสต์เมื่อ 02 December 2008 - 01:24 AM
ความผิดพลาดทั้งหลายในอดีตลืมให้มหด
บาปกรรมทุกชนิดไม่คิดทำอีกเด็ดขาด
ตั้งใจสั่งสมบุญไห้เข้มข้นทับทวีทุกวัน
ตั้งใจทำทานรักษาศีลเจริญภาวนา
ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกายภายในไห้ได้
บาปกรรมทุกชนิดไม่คิดทำอีกเด็ดขาด
ตั้งใจสั่งสมบุญไห้เข้มข้นทับทวีทุกวัน
ตั้งใจทำทานรักษาศีลเจริญภาวนา
ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกายภายในไห้ได้
#9
โพสต์เมื่อ 02 December 2008 - 09:20 AM
ขอขอบคุณเพื่อน ๆ อีกครั้ง และขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ มีคุณค่าอย่างยิ่งเลย (ปลื้มจัง)
เราจะนำหลักธรรมคำสอน วิธีปฏิบัติต่าง ๆ ไปปฏิบัติค่ะ ^^
เพื่อน
เราจะนำหลักธรรมคำสอน วิธีปฏิบัติต่าง ๆ ไปปฏิบัติค่ะ ^^
เพื่อน
"..เหน็ดเหนื่อยกายแค่ไหน ถ้าใจเรายังมีแรง
คืนมืดมนหมดแสง มีแรงใจยังก้าวนำ
ใจคือผู้ชนะ ภาระยังต้องไปทำ
ลุยฝ่าไฟ ข้ามน้ำ จดจำบทเรียนชีวิต.."
คืนมืดมนหมดแสง มีแรงใจยังก้าวนำ
ใจคือผู้ชนะ ภาระยังต้องไปทำ
ลุยฝ่าไฟ ข้ามน้ำ จดจำบทเรียนชีวิต.."
#10
*innerspot*
โพสต์เมื่อ 02 December 2008 - 08:50 PM
ม่ายเปงรายมั้งครับ