โลกดับ สวรรค์ทุกชั้นก็ดับ
#1
โพสต์เมื่อ 01 December 2008 - 03:59 PM
แล้วถ้าโลกเกิดขึ้นมาใหม่ในยุคพระศรีอริยะเมตไตร ต่อจากโลกยุคพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
สวรรค์ ทั้ง 6 ชั้น จะกำเนิดขึ้นมาตามโลกใหม..
แล้วสวรรค์ เกิดขึ้นมาได้อย่างไร ใครไปผู้สร้าง สร้างอย่างไร เอาอะไรมาเป็นแดน มาเป็นน้ำ มาเป็นต้นไม้ ใบบัว ปราสาทเงิน ปราทสาททอง
#2
โพสต์เมื่อ 01 December 2008 - 05:28 PM
แต่จะขอตอบสั้นๆ ว่า โลกเรานี้(รวมถึงสวรรค์) มีเกิดดับมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนค่ะ จนเรียกได้เป็น อสงไขยกัป
เมื่อมีมนุษย์เกิดขึ้น ก็ต้องมีที่รองรับที่เหมาะสมกับมนุษย์เิกิดขึ้น ก็คือโลก(earth) หรืออาจจะเรียกว่าอายตนะโลก มีหน้าที่ดึงดูดสัตว์โลก
เมื่อมีเทวดา, ชาวสวรรค์ ที่มีกิเลศน้อยกว่ามนุษย์เกิดขึ้น ก็ต้องมีที่รองรับที่เหมาะสมขึ้น นั่นก็คือ สวรรค์ทั้ง 6 ชั้น
รวมไปถึง รูปพรหม และอรูปพรหม ก็เกิดขึ้นในลักษณะเดียวกัน
และการเกิดขึ้นของนรก มหานรก ก็เป็นเช่นเดียวกัน คือเกิดขึ้นเพื่อรองรับผู้มีกิเลศหนา
ถามว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ก็เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เกิดขึ้นตามกำลังบุญและบาปของสัตว์นั้นๆ
ส่วนในฉากหลัง ของฉากหลัง ของสิ่งเหล่านี้ ทั้งโลก สวรรค์ นรก ภพ3 นิพาน โลกันต์ คงไม่สามารถตอบได้ คงต้องแนะนำว่าต้องไปดูด้วยตัวเองว่าเกิดขึ้นมาได้อย่างไร
แต่สำหรับวงบุญพิเศษ ก็ไม่ต้องกลัวว่่าเวลาโลกแตก สวรรค์ถูกทำลายนั้น พวกเราจะทำอย่างไร จะถูกทำลายไปด้วยหรือไม่? เพราะพวกเราอยู่แค่ชั้นดุสิต แต่เพราะว่าวงบุญพิเศษของพวกเรานั้นพิเศษสมชื่อจริงๆ ค่ะ พิเศษอย่างไร..คงต้องรอเมื่อมาถึงค่ะ หรือรอจนกว่าใจของพวกเราจะใสพอ แล้วความจริงจะเปิดเผยว่าวิธีการนั้นพิเศษเช่นไร แต่รับรองว่าพวกเราวงบุญพิเศษทุกๆ คน ปลอดภัย..หายห่วง ไม่ต้องกังวลค่ะ
ปล. คงช่วยตอบได้แค่นี้ค่ะ
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#3
โพสต์เมื่อ 01 December 2008 - 05:34 PM
พระพุทธองค์บอกเอาไว้ ว่า จะบ้าได้
อย่าไปคิดมาก นั่งธรรมะมากๆ
หยุดให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ ง่ายนิดเดียว เดี๋ยวก็ได้
ทิ้งทุกอย่าง วางทุกสิ่ง นิ่งอย่างเดียว เดี๋ยวก็ได้ ง่ายนิดเดียว
ajvj
#4
โพสต์เมื่อ 01 December 2008 - 10:49 PM
#5
โพสต์เมื่อ 02 December 2008 - 01:08 AM
#6
โพสต์เมื่อ 02 December 2008 - 02:04 AM
แต่ขอทำความเข้าใจหน่อย
เท่าที่ศึกษาจากพระไตรปิฏกนั้น จากวันนี้ไปจนถึงยุคของพระศรีอาริยะเมตตไตรนั้น โลกไม่ได้แตกดับนะ
ตอนนี้อายุมนุษย์จะไขลง ทุก100ปีลบ 1ปี และจะมีคนใจบาปมาเกิดมากขึ้นเรื่อยๆ จนมนุษย์อายุเหลือ 10 ปี
จะเกิดกลียุค ฆ่ากันแบบไม่มีเหตุผล ไม่เลือกว่าใคร จากนั้นมนุษย์บางพวกจะเริ่มคิดได้ว่าการทำบาปไม่ดีเลย
จึงตั้งใจละบาป และพยายามหาวิธีทำบุญ อายุมนุษย์ก็ไขขึ้น 100ปี บวก 1ปี จนมนุษย์มีอายุยืนยาวถึงอสงไขยปี
(หรือประมาณ 10,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000
,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000
,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000,000 ปี)
(อายุยืนมั้ยล่ะ)เมื่ออายุไขยืนยาวซะขนาดนั้น มนุษย์ก็ประมาทในชีวิตทำให้หย่อหย่อนในการทำความดี
จากเคยเคร่งครัดก็มักจะมีคำว่า"หยวนๆน่า" อายุมนุษย์ก็เริ่มไขลง 100ปี ลบ 1 ปี จนอายุมนุษย์เหลือประมาณ
80,000ปี พระศรอาริยะเมตตไตรสัมมาสัมพุทธเจ้าก็จะมาตรัสรู้ในช่วงเวลานั้น และจะประกาศพระศาสนาอยู่ 500 ปี
จึงปรินิพพาน หลังจากนั้นอายุมนุษย์ก็ไขลงต่อไปจนเหลือ10 ปี กลียุคก็เกิดขึ้นอีกครั้ง แต่คราวนี้หนักว่าครั้งก่อน
ความร้อนของกิเลสในใจมนุษย์ ร้อนจนทำให้บังเกิดดวงอาทิตย์ขึ้นอีกเจ็ดดวง แต่มนุษย์ก็ไม่อาจหยุดความเร่าร้อนของ
กิเลสในใตได้โลกจึงร้อนไปอีกในที่สุดก็ร้อนกว่าไปในมหานรกทำให้มหานรกลุกไหม้ขึ้น ไฟลามไปยังอุสทะนรก, ยมโลก
เปรต, อสุรกาย ,มนุษย์,สวรรค์ทั้งหกชั้น,ตามลำดับและยังเผาชั้นรูปพรหมไปอีก 4 ชั้น ไฟลุกไหม้อยู่ประมาณอสงไขยปี
จึงดับและมีฝนตก ตกอยู่นับอสงไขยปีเช่นกัน หลังฝนหยุด พรหมชั้นอภัสสราพรหม ซึ่งรอดจากไผได้ลงมาดูโลกและทน
ความหอมของง้วนดินที่บังเกิดข้นหลังจากโลกเย็นตัวลงไม่ไหว จึงเผลอกินง้วนดินเข้าไปกลายเป็นบรรพบุรุษของมนุษย์
ยุคใหม่ ส่วนหมู่สัต์ที่โดนไฟบรรลัยกัลป์เผาจนพินาศนั้นก็ไปบังเกิดในจักรวาลตื่นตามกำลังบุญ/บาปแห่งตนต่อไป
นี้เป็นตำตอบเพียงย่อๆให้พอเข้าใจนะครับ ถ้าอยากได้ข้อมูลเพิ่มคงต้องรบกวนสมาชิกท่านอื่นช่วยขายความแล้วละ
#7
โพสต์เมื่อ 02 December 2008 - 10:28 AM
ตอบ สวรรค์ ไม่ได้แตกดับหมดครับ สวรรค์ที่แตกดับ คือ สวรรค์ชั้นต้นๆ กลางๆ ส่วนสวรรค์ชั้นสูง เช่น ชั้นพรหมบางส่วน จะไม่ถูกทำลาย ดังนั้น หากมนุษย์ตั้งใจทำความดีอย่างเต็มที่ก่อนโลกแตก ละโลกแ้ล้ว ก็จะไปเกิดบนสวรรค์ชั้นพรหมที่สูงมากๆ จึงรอดพ้นจากการทำลายครับ
อ้าวแล้วพวกที่ทำความดีไม่มากล่ะ อ๋อ ก็ต้องถูกทำลายนะสิครับ ถูกทำลายจนกายดับจากจักรวาลนี้ แล้วไปเกิดที่จักรวาลอื่นน่ะครับ ตราบใดยังเวียนว่าย ตราบนั้นเมื่อจิตดับปุ๊บก็เกิดใหม่ปั๊บ ดับแล้วเกิด ดับแล้วเกิด เรื่อยๆ ไป จนกว่าจะุหลุดพ้นจากสังสารวัฏ
2. ถ้าโลกเกิดใหม่ยุคพระศรีอารียเมตไตร
เดี๋ยวเรื่องนี้ต้องมาทำความเข้าใจกันใหม่นะครับ คือ ยุคของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน กับยุคของพระศรีอารียเมตไตรพุทธเจ้าในอนาคต นี่เป็นโลกยุคเดียวกันครับ คือ โลกยุคนี้จะมีพระพุทธเจ้ามาตรัสรู้ถึง 5 พระองค์ด้วยกัน พระพุทธเจ้าของเราเป็นองค์ที่ 4 ส่วนพระศรีอารียเมตไตร เป็นองค์ที่ 5 หลังจากพระศรีอารียเมตไตรแล้ว โลกก็จะยังคงดำเนินต่อไป จนถึงกาลแตกดับน่ะครับ หลังจากนั้น ถึงค่อยว่ากันเรื่องโลกเกิดใหม่ แต่จะเป็นยุคของพระพุทธเจ้าองค์ไหน หรือ ไม่มีพระพุทธเจ้าเลย ที่เรียกว่า สุญกัป ก็ต้องว่ากันอีกในอนาคตน่ะครับ
3. สวรรค์จะเกิดตามโลกไหม
ตอบ ทุกสิ่งในสังสารวัฏ มีดับก็มีเกิด มีเกิดก็มีดับ วนเวียนเช่นนี้มานานแสนนาน จนน้ำตาของสรรพสัตว์ที่หลั่งไหลเพราะความทุกข์ หากนำไปรวมกันจะมีมามากมายยิ่งกว่าน้ำในมหาสมุทร อีกนะครับ
ดังนั้น เมื่อ สวรรค์นรกมนุษย์ดับ ก็จะเกิดขึ้นใหม่อีกครับ หากชีวิตเหล่านั้นยังมีกิเลสอยู่
4. ใครเป็นผู้สร้างสวรรค์นรกมนุษย์
ตอบ พระพุทธเจ้าตรัสว่า ทุกสิ่งล้วนเกิดจากเหตุครับ คือ สิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ แน่นอน แต่มีเหตุทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมา แต่รู้ไปตอนนี้ไม่ได้เกิดประโยชน์ เพราะเราเหมือนติกคุกในสังสารวัฏอยู่ หากเราสามารถเรียนรู้วิชชาที่จะพ้นคุกนี้ได้เมื่อไหร่ เมื่อนั้นเราค่อยไปศึกษากันว่า ใครสร้างคุก คือ เรามีโอกาสรอดแล้วไงล่ะครับ แต่ถ้าเรายังอยู่ในคุก ต่อให้เ้รารู้ไปว่า ใครสร้างคุก ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น เราก็ยังต้องอยู่ในคุกเหมือนเดิม เข้าใจมั้ยครับ
#8
โพสต์เมื่อ 02 December 2008 - 11:07 AM
เครื่องย้อยเวลาของโดเรมอนก็ไปไม่ถึง
แต่ที่เคยได้ยินมาว่า วิชชาธรรมกายตอบคำถามเหล่านี้ได้หมด
ดังนั้น เรามารีบนั่งสมาธิให้เข้าถึงพระธรรมกายกันให้ได้ก่อน ดีกว่านะครับ
#9
โพสต์เมื่อ 02 December 2008 - 05:12 PM
#10
โพสต์เมื่อ 02 December 2008 - 08:46 PM
เราพรางคนอื่นได้ แต่เราพรางตนเองไม่ได้
#12
โพสต์เมื่อ 04 December 2008 - 01:04 AM
อาตมาจะจำไว้สอนญาติโยมนะ
ไฟล์แนบ
#13
โพสต์เมื่อ 04 December 2008 - 11:07 AM