คือว่าเวลาหนูทำบุญ ทำไมถึงไม่ค่อยบริสุทธิ์เท่าไหร่ คือว่า ตอนบริจาคเลือดค่ะ ต้องหลอกเค้าว่าอายุ น้ำหนักถึง เพื่อจะได้บริจาค แล้วก็บางทีก็แอบแม่ไปวัดที่อยุธยากับเพื่อน หรือว่าแอบแม่ไปบริจาคเลือด พอกลับมา แล้วผ่านไป 2 วันค่อยบอกแม่ก็แอบบริจาคเลือด หรือว่าเวลาทำบุญก็ไม่กล้าบอกแม่ว่าทำไปเท่าไหร่ บอกพ่อก็ไม่ได้ว่าไปวัด รับบุญที่วัด (ต้องบอกว่าไปที่อื่น)แต่คุณแม่จะเป็นห่วงมากกว่า แม่เป็นคนดีมากๆ ที่เดียวที่กลับดึกได้แม่ไม่ว่าก็ที่วัดที่เดียวค่ะ นอกนั้นก็ไม่อยากให้ไป แล้วทำไมเวลารับบุญถึงคิดว่าเป็นหน้าที่ (ปกติ อิอิ)
บางทีบริจาคเลือดก็เป็น หน้าที่ (แต่ตอนนี้ไม่เป็นแล้ว) ก็เลยทำให้ไม่ค่อยปลื้มมากนัก ไม่รู้ว่าปลื้มมันเป็นไง ใช่ดีใจไหมค่ะ ที่ได้ทำบุญ บางทีก็เฉยๆ เวลาทำบุญ แต่ปลื้มจนน้ำตาไหลก็มีค่ะ หรืว่าหนูทำบุญไม่มากก็เลยเป็นแบบนี้หรอ แล้วก็ขี้ลืม จำบุญที่ทำทั้งหมดไม่ได้ มันเยอะ
อยากรู้ว่าทำไมทำบุญต้องแอบทำ แล้วทำไมต้องโกงอายุ แล้วก็น้ำหนักด้วยค่ะ มันเป็นวิบากกรรมไหม แล้วจะบาปไหมค่ะที่โกงอายุ กับน้ำหนักเพื่อที่จะบริจาคเลือด(แต่ก็ไม่เคยโกงใครเว้นอันนี้อันเดียวค่ะ)
แล้วก็โลภอยากได้บุญเยอะๆ หรือบางทีก็มี จับปลา 2 มือ เพราะอยากได้บุญ แต่ว่าทำได้ไม่ดีเท่าไหร่เพราะวิ่งไปวิ่งมา รับบุญ มันจะเป็นไรไหมค่ะ ที่โลภ...อยากได้บุญ แต่ไม่เคยโลภอยากได้เงิน น้า ก็มีอยากได้เงิน แต่ก็เอามาทำบุญ แต่ได้เงินมาบริสุทธิ์น้า~
แล้วจะแก้ยังไงดีค่ะ ถ้ามีวิบากกรรม
ทำบุญบุญแบบนี้จะมีวิบากไหมค่ะ
เริ่มโดย เด็กน้อยมาวัด, Dec 11 2008 04:48 PM
มี 5 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 11 December 2008 - 04:48 PM
หยุดเป็นตัวสำเร็จ
#2
โพสต์เมื่อ 11 December 2008 - 05:28 PM
อย่างไรก็บำรุงสุขภาพบ้างนะครับ รางกายนี้ยังต้องใช้ทำบุญสร้างบารมีอีกเยอะ พยายามทานเยอะๆเพื่อน้ำหนักจะได้ถึงเกณฑ์
ขออนุโมทนาบุญครับ
ขออนุโมทนาบุญครับ
#3
โพสต์เมื่อ 11 December 2008 - 06:08 PM
QUOTE
ตอนบริจาคเลือดค่ะ ต้องหลอกเค้าว่าอายุ น้ำหนักถึง เพื่อจะได้บริจาค
แอบแม่ไปบริจาคเลือด พอกลับมา แล้วผ่านไป 2 วันค่อยบอกแม่ก็แอบบริจาคเลือด
- เราบริจาคเลือดเพื่อช่วยเหลือเกื้อกูลเพื่อนมนุษย์(แม้จะต่างสายโลหิตกัน) ทั้งยังได้อานิสงส์ผลบุญของทานอุปบารมีแอบแม่ไปบริจาคเลือด พอกลับมา แล้วผ่านไป 2 วันค่อยบอกแม่ก็แอบบริจาคเลือด
- เกณฑ์การบริจาคโลหิต ตั้งขึ้นเพื่อความปลอดภัยของผู้บริจาคและผู้รับบริจาค ซึ่งปกติบางแห่งจะมี จนท.ตรวจสอบ นน.อายุ สภาพความพร้อมของผู้บริจาคก่อน
- การก่อมโนและวจีกรรม อาจส่งผลบุญให้เจือวิบัติ ดังที่เป็น อยากทำบุญ แต่ทำแล้วไม่ปลื้ม เพราะใจตกไปคิดถึงเรื่องมโนและวจีกรรม
- ไม่มีวิบากกรรมหรอก เพราะไม่มีเจตนาก่อผลร้ายกับผู้รับบริจาค แต่อาจเข้าข่ายมุสาวาท และ ประมาทที่ขาดความระวังในเรื่องความปลอดภัยของตนเอง
- ยังไงถ้าไม่สบายใจ บริจาคคราวต่อไปคงต้องกล่าวตรงไปตรงมานะ...คาดว่า จนท.และคุณแม่น่าจะอะลุ่มอะล่วย เพราะบริจาคหลายครั้งไม่มีปัญหา แถมใครก็ตามได้ยินได้ฟังแล้วคงจะมีแต่ความชื่นชมว่า เอวบางร่างน้อยแต่หัวใจพองโต เพราะหลายท่านไม่น้อยที่เข้าเกณฑ์และมีโอกาส แต่กลับปล่อยโอกาสนั้นหลุดลอยไปเพราะไม่กล้า(เพราะกลัวเข็ม กลัวเจ็บ)...สาธุ
ไฟล์แนบ
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC
#4
โพสต์เมื่อ 11 December 2008 - 10:49 PM
จิตเต อสังกิฤทเฐ ทุคติ ปฏิกังขา
จิตเต สังกิฤทเฐ สุคติ ปฏิกังขา
จิตเต สังกิฤทเฐ สุคติ ปฏิกังขา
#5
โพสต์เมื่อ 12 December 2008 - 09:03 AM
อืม บอกยากนะจ๊ะ เพราะจะถือเป็นกุศโลบายก็ได้ แต่แน่นอนว่าบุญไม่บริสุทธิ์แน่ อาจจะสัก99% เพราะฉนั้นพี่ขอแนะนำว่า รอให้อายุถึงเกรณ์ก่อนดีกว่านะ ทางที่ดีหากน้องมุ่งหวังที่จะสร้างบารมี ควรเพิ่มนําหนักตัวให้อยู่ในเกรณ์เขาด้วย เพราะการบริจาคเลือดโดยที่นําหนักตัวไม่ถึงเกรณ์ อันตรายถึงชีวิตเชียวนะจ๊ะ เพราะอะไรถึงอันตราย ส่วนประกอบของนําหนักตัวเราส่วนใหญ่จะเป็นนํา ซึ่งก็ได้แก่เลือดเป็นส่วนสำคัญ หากเลือดน้อยเกินไปไม่เพียงพอที่จะนำสารอาหารและออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงร่างกาย ก็จะทำให้สุขภาพทรุดโทรมได้ ซึ่งหนักสุดก็อันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียวน้า อย่าทำเป็นเล่นไป
แต่การที่น้องบริจาคเลือดโดยที่นําหนักตัวไม่ถึงเนี่ย ถือได้ว่าน้องได้สร้างอุปบารมีคือเอาชีวิตเป็นเดิมพันเลยนะเนี่ย แต่ขาดความรอบคอบไปนิดนะจ๊ะ ส่วนเรื่องที่น้องโกงอายุตัวเอง ให้ถือซะว่าเป็นกุศโลบาย แต่หากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง พระโพธิสัตว์บางครั้งจะสร้างบารมียังต้องมีกุศโลบายเพื่อแลกกับบารมีอย่างยิ่งยวดเหมือนกัน คือแรกน้อยเพื่อให้ได้มาก ดังนั้นอย่าได้วิตกกังวลไปจ๊ะ ที่ควรห่วงคือสุขภาพของหนูมากกว่านะจ๊ะ
แต่การที่น้องบริจาคเลือดโดยที่นําหนักตัวไม่ถึงเนี่ย ถือได้ว่าน้องได้สร้างอุปบารมีคือเอาชีวิตเป็นเดิมพันเลยนะเนี่ย แต่ขาดความรอบคอบไปนิดนะจ๊ะ ส่วนเรื่องที่น้องโกงอายุตัวเอง ให้ถือซะว่าเป็นกุศโลบาย แต่หากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง พระโพธิสัตว์บางครั้งจะสร้างบารมียังต้องมีกุศโลบายเพื่อแลกกับบารมีอย่างยิ่งยวดเหมือนกัน คือแรกน้อยเพื่อให้ได้มาก ดังนั้นอย่าได้วิตกกังวลไปจ๊ะ ที่ควรห่วงคือสุขภาพของหนูมากกว่านะจ๊ะ
1) พระปัญญาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 20 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 4 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน คือ พระสมณโคมสัมมาสัมพุทธเจ้า (อย่างน้อยที่สุด)
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#6
โพสต์เมื่อ 12 December 2008 - 01:15 PM
ทำแล้วดี ทำแล้วปลื้ม ก็ทำ ทำแล้วไม่ดี ทำแล้วไม่ปลื้ม ก็ไม่ทำ ปรับที่ความคิด เปลี่ยนที่การกระทำ มันก็แค่นั้นครับน้อง ส่วนเรื่องทำบุญแล้วนึกถึงบุญไม่ค่อยจะออกมันก็มีวิธีนะครับ ว่าแต่ว่าตัวน้องเองจะทำได้ไหมละ ถ้าพี่จะบอกว่า ให้น้องจดบัณทึกบุญที่น้องทำทุกๆครั้งทุกๆวัน รับรองว่าไม่ยากครับ ไม่ยาก มันอยู่ที่ใจครับน้อง พี่ไปละนะ
กุญแจวิเศษ