![รูปภาพ](http://www.gravatar.com/avatar/788fd685ac7ff0419b6df1fc7a77d71a?s=100&d=https%3A%2F%2Fwww.dmc.tv%2Fforum%2Fpublic%2Fstyle_images%2Fmaster%2Fprofile%2Fdefault_large.png)
ได้เกิดเป็นคน นี่ถือว่าโชคดีแล้วหรือไม่
#1
โพสต์เมื่อ 17 December 2008 - 09:56 AM
แบบนี้ถือว่าโชคดี นะที่เกิดเป็นคน .... ผมก็เลยสงสัยว่า เมื่อก่อนคนในโลกแสนน้อยนิด แต่ปัจจุบันมากมายมหาศาล แบบนี้แสดงว่ามีบุญกันทั้งนั้นเลย ที่เกิดมาเป็นคน เป็นนักสร้างบารมี ใช่หรือไม่ครับ
อีกอย่าง คนในวัดบอกว่า หลวงพ่อว่าอย่างไร ก็ว่าตามกัน ใช่หรือไม่ครับ จริงๆ บางครั้งผมก็อยากหาเหตุผลเหมือนกัน ว่าทำไมต้องทำแบบนั้นแบบนี้ ( อย่าเชื่อเพราะผู้พูดน่าเชื่อ )
#2
โพสต์เมื่อ 17 December 2008 - 10:26 AM
![happy.gif](style_emoticons/default/happy.gif)
--ว่าอย่างไรก็ต้องว่าตามกัน เพราะถ้าไม่ว่าตามกันก็จะมีโอกาสพลัดจากหมู่คณะได้เป็นพุทธันดรหรือเป็นกัปๆทีเดียว ซึ่งได้เคยเห็นตัวอย่างในCase Studyมาบ้างแล้วครับ!!
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าพระบอกว่าไม่ให้ฆ่าสัตว์ เป็นบาป คนที่มักจะหาเหตุผลก็มักจะหาเหตุผลว่า อืม..สัตว์มีไว้เป็นอาหารของมนุษย์ ฆ่าไม่บาป นี่คือการหาเหตุผลของคนที่ไม่เชื่อฟังคำครู ผลก็คือ ความเสียหายและเป็นอันตรายที่เกิดขึ้นต่อชีวิตในปัจจุบันและในปรโลกครับ
![happy.gif](style_emoticons/default/happy.gif)
![happy.gif](style_emoticons/default/happy.gif)
#3
โพสต์เมื่อ 17 December 2008 - 10:45 AM
#4
โพสต์เมื่อ 17 December 2008 - 11:17 AM
![glare.gif](style_emoticons/default/glare.gif)
เอาแบบที่พอรู้สำหรับตัวเองนะ...
1.เกิดเป็นคน(มนุษย์) โชคดี มาก ..จริง
เพราะสามารถปฏิบัติธรรมจนกำจัดกิเลสได้หมดบรรลุเป็นพระอรหันต์
ออกจากวัฏฏสงสาร เข้าสู่พระนิพพานได้
ซึ่งเกิดเป็นอย่างอื่น ทำไม่ได้!!
2.จำนวนคนเยอะ ..ไม่จริง
เอาแค่เท่าที่ตาเห็นบนโลก มีน้อยกว่าแมลง สัตว์เดรัจฉาน เป็นต้น
อย่างเทียบกันไม่ได้ แล้วถ้าเทียบกับสัตว์นรก ยิ่งน้อยกว่ามาก
3.ว่าอย่างไรก็ต้องว่าตามกัน...
มันเป็นอย่างนี้ คือ เรามีปัญญาน้อยกว่าท่านมาก
อีกทั้งศรัทธา ศีล ก็น้อยกว่า ยังมีทิฎฐิมาขวางอีก
เบื้องต้นเลยต้องให้ว่าอย่างไรว่าตามกัน
พอมาปฏิบัติธรรม ได้ธรรมะละเอียดยิ่งๆขึ้นไป
ก็สามารถไตร่ตรองตามไป แล้วก็เข้าใจในสิ่งที่ท่านว่า
...คนส่วนใหญ่ มักใช้ความรู้อันน้อยนิดของตัวเองบวกกับทิฎฐิมาก
มาขัดขวางเส้นทางการสร้างบารมีของตัวเอง
แล้วก็พลาดพลั้ง พลัดไปอบายก็มาก
....
ก็ขออนุโมทนาบุญกับเจ้าของกระทู้ด้วยครับ
แล้วจะเข้ามาอ่านอีกทีครับ สาธุ
![happy.gif](style_emoticons/default/happy.gif)
ไฟล์แนบ
#5
โพสต์เมื่อ 17 December 2008 - 01:01 PM
- แต่ไม่ว่าใครจะมาจากที่ใด ทุกคนมีโอกาสทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี เพราะมีอัตตภาพเป็นมนุษย์ หากมีโยนิโสมนสิการ และได้พบยอดกัลยาณมิตร ย่อมก่อประโยชน์ทั้งภายภาคนี้และภพหน้า
- แต่เมื่อพิสูจน์ได้ว่าสิ่งที่พระเดชพระคุณกล่าวนั้นเป็นธรรมสัจจะในเวลาต่อมา เป็นผลของวิสัยทัศน์และญานทัศนะที่แม่นยำ ก็จักเข้าใจทันทีว่า ตถาคตโพธิสัทธา คือทางลัด ไม่ควรเสียเวลามาโต้แย้ง เพราะจะกลายเป็นการหน่วงหมู่คณะไปเสียเปล่า ทำไม? ก็เพราะเราต่างย้อนเวลากลับไปไม่ได้ อายุขัยมนุษย์ยุคนี้สั้นนัก เวลาเป็นสิ่งที่มีค่า เป็นคู่แข่งตราบเท่าที่ลมหายใจมนุษย์ยังคงอยู่ตลอดเวลา
- ว่าอย่างไร ก็ว่าตามกัน เป็นไปเพื่อไตร่ตรองความเห็นความคิดชอบให้เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สร้างวินัยของหมู่คณะ ก่อให้เกิดพลังแห่งศรัทธาและความงดงามอันน่าอัศจรรย์ ประหนึ่งกองทัพมดเลยทีเดียว...มิได้หมายความถึงเชื่อจนไม่ลืมหูลืมตาจนขาดปัญญาในการไตร่ตรอง ไม่ลอง ไม่รู้
ไฟล์แนบ
#6
โพสต์เมื่อ 17 December 2008 - 01:08 PM
เพราะแค่ โลกมนุษย์นั้นก็มี พวกสัตว์และแมลง และอื่นๆอีกเยอะแยะมากมาย แล้วยังไม่รวมภพภูมิอื่นๆอีกนะครับ
ตอนแรกผมก็ยังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่อ่าครับ แต่ตอนนี้เข้าใจเลย แล้วการเกิดมาแล้วถ้าไม่สร้างความดี กว่าจะมาเกิดอีกทีก็ยากมากเลยนะครับ ถึงแม้ว่าเราจะไปเป็นเทวดา เสวยสุขอยู่บนสวรรย์ พอหมดบุญแล้วก็ลงอบายต่อเลยก็ยังมี ขึ้นอยู่กับการช่วงชิงของบุญและบาป
ส่วนเรื่องว่าอย่างไรว่าตามกันนั้นผมก็เห็นด้วยนะครับว่าอยากรู้เหตุและผลก่อน ซึ้งก็เป็นปกติครับ เมื่อเรารู้มโนปนิทานแล้ว รู้เป้หมายแล้วก็ว่าอย่างไรว่าตามกันไปเลย แล้วงานจะสำเร็จอ่าครับ เช่นถ้าผู็นำบอกซ้าย เราก็ซ้าย บอกขวาเราขวา งานทุกอย่างก็จะสำเร็จครับ ขออนุโมทนาด้วยนะครับ
สาธุ
#7
โพสต์เมื่อ 17 December 2008 - 02:23 PM
ลองคิดซิว่า ถ้าไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉาน(ผู้มีรำตัวขวาง) อะไรจะเกิดขึ้น...
เกิดเป็นมนุษย์ ประเสริฐสุดแล้ว...
2 ใช่ทุกคนเกิดมาสร้างบารมี(จะรู้หรือไม่ก็ตาม ทุกชาติ ทุกศาสนาด้วย)
3 จะสร้างบารมีได้ตลอดรอดฝั่งนั้น ต้องมีกัลยาณมิตร...
และหลวงพ่อก็เป็นยอดกัลยาณมิตร ที่หาไม่ได้อีกแล้ว...ว่าไงว่าตามกัน(แบบคนมีปัญญาและมีบุญนะ)
หยุดให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้ ง่ายนิดเดียว เดี๋ยวก็ได้
ทิ้งทุกอย่าง วางทุกสิ่ง นิ่งอย่างเดียว เดี๋ยวก็ได้ ง่ายนิดเดียว
ajvj
#8
โพสต์เมื่อ 17 December 2008 - 02:49 PM
#9
โพสต์เมื่อ 17 December 2008 - 06:01 PM
#10
โพสต์เมื่อ 17 December 2008 - 06:44 PM
ว่าเกิดเป้นคนนี่ยากเเล้ว ยิ่งได้เกิดในบวรพระพุทธศาสนา ยิ่งยากอีก
ได้เกิดในบวรพระพุทธศาสนา เเล้วมีศรัทธา เข้าใจในพระพุทธศาสนา ยิ่งยากมากๆ
#11
โพสต์เมื่อ 17 December 2008 - 11:15 PM
#12
โพสต์เมื่อ 18 December 2008 - 08:48 AM
ผมขอถามกลับสักนิด เวลาคุณครูที่โรงเรียนสอนเราว่า 1+1เป็น2 คุณเจ้าของกระทู้ว่าถูกไหมครับ เป็นเรื่องจริงไหม แน่นอนว่า 1+1ต้องเท่ากับ2อยู่แล้วจะเป้น3เป็น4คงไม่ได้ เป็นความจริงที่ถูกต้องใช่ไหมครับ ทีนี้ผมถามต่อ คุณครูไม่ใหญ่ท่านเอาความจริงของชีวิตซึ่งเป็นเรื่องที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงค้นพบมาสอน คุณเจ้าของกระทู้คิดว่าน่าเชื่อถือไหมล่ะครับ แล้วการที่คุณครูไม่ใหญ่ทั้งมุ่งหวังสั่งสอนให้คนเป็นคนดีคุณเจ้าของกระทู้คิดว่าน่าเชื่อไหมล่ะครับ สำหรับผมนะแม้จะไม่ใช่คุณครูไม่ใหญ่ แต่ถ้าสอนให้ผมเป็นคนดีได้ สอนให้ผมรู้หนทางแห่งการหลุดพ้นจากความทุกข์ ผมเชื่อหมดครับ
2) พระศรัทธาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 40 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 8 อสงไขย กับ แสนมหากัป) (อย่างน้อย)
3) พระวิริยาธิกพุทธเจ้า สร้างบารมีรวม 80 อสงไขย กับอีก แสนมหากัป (รวมระยะเวลาสร้างบารมีหลังรับพุทธพยากรณ์ คือ 16 อสงไขย กับ แสนมหากัป) เช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป คือ พระศรีอาริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้า (เป้าหมาย
#13
โพสต์เมื่อ 22 December 2008 - 10:43 AM
แต่เชื่อไหม น้องผมตอบว่า 11 เพราะเขาลบเครื่องหมายบวกทิ้ง 555