ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

คลื่นวิทยุ กลิ่น เสียง จัดเป็นของละเอียดหรือไม่ครับ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 16 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 28 December 2008 - 06:33 PM

คลื่นวิทยุ คลื่นไม่โครเวฟ คลื่นต่างๆ รังสีต่างๆ กลิ่น เสียง และอนุภาคไฟฟ้า
จัดเป็นของละเอียดหรือไม่ครับ สิ่งเหล่านี้เราสามารถรับรู้ได้สำผัสได้ เอามาใช้ประโยชน์ได้ ถ้าเทียบตามหลักพุทธศาสนา ภพที่อยู่ไกล้ตัวมนุษย์ที่สุด คือพวกบังบด สัมภเวสี ถ้าเทียบกับพวกคลื่นต่างๆเหล่านั้น จัดว่าเป็นสิ่งละเอียดเหมือนกัน หรือไกล้เคียงกัน หรือยังห่างกันมากครับ

ผมก็ไม่รู้ว่าจะถามว่าอะไรดี แบบว่าถามไปถามมาก็งงตัวเอง เพราะฉนั้น ขอเชิญท่านผู้รู้มาช่วยกันวิเคราะเป็นความรู้เป็นปกิณกะกันหน่อยครับ

(ห้ามตอบว่า ให้นั่งไปดูเอง ห้ามตอบว่า รู้ไปก็ไม่ได้ประโยชน์ครับ)




#2 พจน์เอง

พจน์เอง
  • Members
  • 44 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 December 2008 - 09:00 PM

ตามความคิดของผมน่ะครับ

พวกกายละเอียดจะมีมวลครับ

ดุได้จาก สูตรคำนวณไอส์ไตน์ครับ ที่บอกว่าเกี่ยวกับเวลาง่ายๆ เช่นมวลมากเวลาสถานที่นั้นจะยาวนานครับ เเต่มีตัวเเปรอื่นอยู่ด้วยครับ
เพราะฉะนั้น สวรรค์ชั้นที่1 1วันน้อยมาก เมื่อเทียบกับนรกขุมที่1ครับ
(ทำให้ทราบปริมาณมวลคราวๆ ความจริงสุตรจะมีตัวเเปรหลายอย่างเช่นระยะทางเเละอื่นๆครับ)

เเต่ถ้าพูดง่าย มวลจะมีการปล่อยรังสี พวกคลื่นต่างๆมาครับ ทำให้บ้างคนเชื่อว่าพวกวิญญา เป้นคลื่นชนิดหนึ่งครับ

ทำให้สรุปได้ว่า กายละเอียด ไม่น่าใกล้เคียงกับพวกคลื่น รังสี อะไรเลยครับ

#3 *innerspot*

*innerspot*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 28 December 2008 - 09:11 PM

ตอบมะได้ เพราะผมก็งงกะคำถามขอรับ

ปล. จขกท หายไปนานเลยนะครับ คิดฮอดหลาย กลับมาไวไว มาม่า ยำยำ นะครับ

#4 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 December 2008 - 09:33 PM

เท่าที่ทราบคร่าวๆ ปัจจุบัน กล่าวว่า มวลสาร กับ พลังงาน เป็นสิ่งเดียวกัน เปลี่ยนแปลงกลับไปกลับมาได้

มวลสารเมื่อเจือจางจนถึงที่สุดแล้ว ก็เป็นพลังงาน

พลังงานเมื่อเข้มข้นจนถึงที่สุดแล้ว ก็เป็นสสาร

(ส่วนกลิ่น เป็นสารเคมี เป็นสสาร)

#5 kasaporn

kasaporn
  • Members
  • 870 โพสต์

โพสต์เมื่อ 28 December 2008 - 11:09 PM

กลับมาไวไว มาม่า ยำยำ ??? บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเลยเหรอจ๊ะ น้องInnerspot สงสัยตักบาตรด้วย ไวไว มาม่า ยำยำ บ่อยล่ะสิ อิ อิ

#6 น้ำใส

น้ำใส
  • Members
  • 778 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 28 December 2008 - 11:29 PM

คุณสิริปโภ กลับมาด่วน.......คิดฮอดจริง ๆ ด้วย

อย่าหายไปนานนะ........ใจหายอ่ะ

แล้วมาเจอกันที่เสา C6 นะ ปล.มีของอร่อย ๆ ให้รัปทานด้วยนะจะบอกให้

( น้ำใสชอบรัปทาน เลยเอาของกินเข้าล่อ.......อิอิอิ)


เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม

น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม


#7 tnawut

tnawut
  • Moderators
  • 2398 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Laksi
  • Interests:Internet, Computer, Electronic, Security, Merit, Meditation, อินเตอร์เน็ต, คอมพิวเตอร์, ทำบุญ, ปล่อยปลา, บูชาเจดีย์, ฝันในฝัน, DOU, หมู่บ้านปฏิบัติธรรม, บวช, บรรพชา, Web, CU, Chula

โพสต์เมื่อ 29 December 2008 - 09:22 AM

QUOTE
คลื่นวิทยุ คลื่นไม่โครเวฟ คลื่นต่างๆ รังสีต่างๆ กลิ่น เสียง และอนุภาคไฟฟ้า

เป็นพลังงาน... ในความคิดผมของละเอียดจะมีวิญญาณธาตุ และอาจจะมีพลังงานออกมาได้เช่นกัน



#8 พักผ่อน

พักผ่อน
  • Members
  • 422 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 29 December 2008 - 11:08 AM

คิดว่าเป็นนามธรรม แต่ไม่ใช่ของละเอียด
เช่น เสียงที่มนุษย์ได้ยิน เสียงที่สัตว์ได้ยิน
เสียงหยาบและเสียงทิพย์ ก็มีความละเอียดไม่เท่ากัน
เสียงหยาบผ่านสิ่งกีดขวางไม่ได้ แต่เสียงทิพย์ผ่านสิ่งกีดขวางที่เป็นของหยาบ ๆ ได้
ส่วนของที่มนุษย์รับรู้ไม่ได้ด้วยวิธีปกติแต่รับรู้ได้ด้วยเครื่องมือ
ก็น่าจะละเอียดกว่าสิ่งที่มนุษย์รับรู้ได้เอง
แต่ก็ยังไม่ละเอียดไปกว่าของละเอียดอื่น ๆ
กายทิพย์สามารถเดินทางไปไกลได้พริบตาเดียว แสงก็ยังช้ากว่า

#9 somchet

somchet
  • Members
  • 900 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 December 2008 - 01:42 PM

งงกับคำถามครับ

คลื่น ในความคิดผม ก็มีทั้งหยาบและละเอียด หยาบคือสัมผัสได้ ด้วยอายตนหยาบ คือ หู ตา จมูก ลิ้น กาย ของกายมนุษย์หยาบ ละเอียดก็ต้องสัมผัสด้วย อายตนที่ละเอียดกว่า เช่น กายทิพย์ หูทิพย์ โสตทิพย์

คลื่นในมหาสมุทร เป็นของหยาบสุด ไล่ไปเรื่อยๆ เป็นคลื่นเสียง คลื่น Infrared, Ultra Violet เริ่มเป็นคลื่นละเอียดเกินกว่ามนุษย์จะสัมผัสได้ แต่สัตว์บางประเภทยังสัมผัสได้ เรื่อยไปจนถึง เสียงที่เทวดาคุยกัน ที่ยังไม่รุ้ว่าเป็นคลื่นหรือเปล่า เพราะยังไม่มีการพิสูจน์ แต่ผมก็เดาว่าน่าจะเป็นคลื่นเหมือนกัน แต่ละเอียดมากๆๆ

ตอบไปตอบมา งง เหมือนกัน เวลาพระธรรมกายคุยกัน ท่านคุยกันยังไง

#10 homer324

homer324
  • Members
  • 522 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 December 2008 - 06:25 PM

คุณสิริปโภเน้นนัก..เน้นหนาว่า..

"..ห้ามตอบว่า ให้นั่งไปดูเอง ห้ามตอบว่า รู้ไปก็ไม่ได้ประโยชน์ครับ.."

ผมขอตอบว่า..เป็นอจินไตยครับ อิ อิ

รอดตัวไหมเนี่ยเรา..

ที่ว่าอจินไตย ก็เพราะบางอย่างอยู่เหนือสติปัญญากายหยาบอย่างเราๆท่านๆ ที่จะรู้ จะเห็นได้..

1.คลื่นวิทยุ ผมว่าน่าจะหยาบกว่ากายละเอียด เพราะมนุษย์สร้างคลื่นพวกนี้ได้โดยอาศัยเครื่องส่ง-เครื่องรับได้ ไม่ยาก..

2.กายละเอียด ผมว่าน่าจะละเอียดกว่าอะไรก็ตามที่มนุษย์ประดิษฐ์ขึ้น เพราะมนุษย์ไม่สามารถสร้างเครื่องทำกายละเอียดได้..และไม่เห็นมีใครสร้างเครื่องดักจับวิญญง วิญญาณได้สำเร็จสักที..

3.ถ้าจะให้รู้โดยละเอียด คุณสิริปโภจะต้องทำกายให้ละเอียด เค้าเรียกปรับธาตุธรรมให้ละเอียดเหมือนๆกัน เช่น ผีก็จะเห็นผีด้วยกันเอง..เทวดา ก็จะเห็นเทวดาด้วยกันเอง ผีและเทวดาเห็นมนุษย์ แต่มนุษย์กลับไม่เห็นผีและเทวดา เอ้อ..เอากะเค้าสิ

ตั้งข้อสังเกตุนิดนึงครับ..

ถ้านักวิทยาศาสตร์สามารถค้นพบเครื่องทำกายละเอียดได้ สร้างสมการผีและเทวดาได้ ผมว่าป่านนี้เราคงเห็นหมดเลยครับทั้งภพสาม ไม่ต้องรอให้พระพุทธองค์มาเปิดโลกให้เห็นหรอก..แต่ที่นักวิทยาศาสตร์ยังทำไม่ได้ ก็เพราะมัวแต่ค้นหาสิ่งนอกตัวอยู่นั่นแหล่ะครับ วนไปก็วกมา..ไม่ยอมหาสิ่งที่มีอยู่แล้วในตัว ใครบอกก็ไม่ยอมเชื่อ หาว่าเหลวไหล ไร้สาระ แต่สิ่งที่ทำคุณอยู่นี่น่ะ คุณไม่คิดว่ามัน rubbish มากเกินไปหรือเปล่าล่ะ? (ผมหมายถึง ไอ้นักวิทยาศาสตร์น่ะ)..

สรุปว่า..เป็นอจินไตย คือเรื่องบางอย่างก็สมควรรู้ แต่เรื่องบางอย่างยังไม่ถึงเวลา (กระมังครับ)

สาธุ..

#11 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 December 2008 - 08:34 PM

QUOTE
คลื่นวิทยุ คลื่นไม่โครเวฟ คลื่นต่างๆ รังสีต่างๆ กลิ่น เสียง และอนุภาคไฟฟ้า จัดเป็นของละเอียดหรือไม่ครับ
- ยังเป็นของหยาบ ที่เรามองว่าเป็นของละเอียด เพราะเกินขีดจำกัดการรับรู้ของมนุษย์
- เช่น ประสาทตามนุษย์ทั่วไปรับ Visible light ได้เท่านั้น ไม่สามารถเห็น Infrared หรือ Ultraviolet ได้(แต่ก็รู้จากทฤษฎีความร้อนจากแสงแดดคือ infrared) ขณะที่โสตประสาทมนุษย์ก็รับความถี่ได้ 20-20000 Hz. ขณะที่สุนัข ค้าวคาวรับความถี่ได้สูงกว่ามนุษย์ ถ้าจะรับรู้ที่เกินขีดกว่านี้มนุษย์ก็ต้องคิดค้นอุปกรณ์หยาบช่วยแปรสัญญาน
QUOTE
สิ่งเหล่านี้เราสามารถรับรู้ได้สำผัสได้ เอามาใช้ประโยชน์ได้
- เพราะจินตมยปัญญา บวก ภาวนามยปัญญาในสมาธิจิตระดับหนึง นำมาสู่การคิดค้นทฤษฎีต่าง ทำให้เรารู้ว่าโลกหมุนรอบตัวเอง แต่เราไม่สามารถสัมผัสแรงเหวี่ยงของโลกได้ หรือ แรงโน้มถ่วงกระทำต่อศูนย์กลางกายซึ่งก็คือน้ำหนักนั่นเอง(หากกระโดดก็จะรู้ว่าหนัก) รวมถึงวงจรไฟฟ้าซึ่งมนุษย์มองไม่เห็นแต่รู้จากทฤษฎีว่ามีการเคลื่อนที่ของอีเลคตรอน
QUOTE
ภพที่อยู่ไกล้ตัวมนุษย์ที่สุด คือสัมภเวสี ถ้าเทียบกับพวกคลื่นต่างๆเหล่านั้น จัดว่าเป็นสิ่งละเอียดเหมือนกัน หรือไกล้เคียงกัน หรือยังห่างกันมากครับ
- ขึ้นกับอายตนะในแต่ละอณูของภพภูมินั้นๆ ว่ามีขีดสามารถ และ ขีดจำกัด ของการรับรู้อย่างไร
- เดรัฐฉาน ก็อยู่ร่วมกับมนุษย์ และมีอายตนะซ้อน-เหลื่อมกับมนุษย์มากที่สุด
- สัมภเวสีซึ่งอาศัยในภพซ้อนภพของมนุษย์สามารถรับโอชารสจากการเครื่องเซ่นสรวงได้
- แสงอาทิตย์-แสงจันทร์ ที่ให้ความสว่างต่อภพมนุษย์ ยังโคจรไปจาตุมหาราชิจนถึงดาวดึงส์
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#12 voyager

voyager
  • Members
  • 23 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 30 December 2008 - 11:23 AM

คลื่นวิทยุ คลื่นโทรทัศน์ คลื่นไมโครเวฟ คลื่นแสง รังสีเอ็กซ์ รังสีแกมมา จัดเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เคลื่อนที่ไปได้โดยไม่ต้องอาศัยตัวกลาง และมีอัตราเร็วสูงมาก คือ 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที ส่วนคลื่นผิวน้ำ คลื่นเสียง จัดเป็นคลื่นกล ต้องมีตัวกลางจึงจะเคลื่อนที่ออกจากแหล่งกำเนิดคลื่นได้ และมีอัตราเร็วไม่สูงมากนัก
ประสาทสัมผัสของคนมีขีดจำกัดในการรับรู้ สิ่งที่คนไม่สามารถรับรู้ได้เราก็บอกว่ามันเป็นของละเอียด ในภาวะปกติ คนไม่สามารถเห็นผี หรือเทวดาได้ แต่หมาเห็นผีได้ แต่ก็ยังไม่สามารถเห็นเทวดาได้ ผีจึงเป็นของหยาบ และเทวดาเป็นของละเอียดสำหรับหมา แสดงว่าในสภาพความละเอียดนั้นยังแบ่งเป็นอีกหลายระดับ
พระอริยะบุคคลระดับพระอรหันต์ท่านสามารถระลึกชาติได้ เห็นอดีต เห็นอนาคตได้ แสดงว่าสภาวะจิตของท่านต้องเคลื่อนที่ได้เร็วมาก อย่างน้อยก็ต้องเร็วกว่าคลื่นแสง เพราะว่าการที่เรามองเห็นวัตถุต่าง ๆ ได้ เกิดจากมีแสงสะท้อนจากวัตถุนั้นมาเข้าสู่ตาเรา (ถ้าเราอยู่ในห้องมืดไม่มีแสงเลยเราจะไม่เห็นอะไรทั้งสิ้น) แสงจากดวงอาทิตย์เดินทางมาถึงโลกเราใช้เวลา 8 นาที ( ถ้าเราเห็นจุดระบิดบนผิวดวงอาทิตย์ การระเบิดนั้นได้ผ่านไปแล้ว 8 นาที) ดังนั้นถ้าเราต้องการรู้ว่าเมื่อ 100 ปีที่แล้วเกิดอะไรขึ้นบนโลกตรงนี้ เราจะต้องเดินทางไปดักหน้าแสงที่สะท้อนออกไปเมื่อ 100 ปีก็สามารถเห็นเหตุการณ์นั้น ๆ ได้ สภาวะจิตของพระอริยะ จึงน่าจะเป็นอะไรสักอย่างที่ละเอียดยิ่งกว่า และเร็วกว่าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ
การใช้ มวลของวัตถุเป็นตัวจัดแบ่ง หยาบ ละเอียด น่าจะต้องมีปัจจัยอื่น ๆ มาจับด้วย เช่น อนุภาคอิเล็กตรอนมีมวลน้อยมาก บางครั้งก็แสดงสมบัติเป็นคลื่นได้ แสงไม่มีมวล บางครั้งก็แสดงสมบัติเป็นอนุภาคได้ เช่นฉายแสงบางความถี่ไปบนโลหะทำให้อิเล็กตรอนกระเด็นหลุดออกมาได้ (เหมือนกับเราปาก้อนหินไปกระทบก้อนหินอีกก้อนกระเด็นออกไป)
ความเห็นที่ร่วมเสนอนี้เป็นความเห็นทางเหตุผลด้านวิทยาศาสตร์ที่พอมีความรู้อยู่บ้างเท่านั้น ความจริงเรื่องกายละเอียด เรื่องจิตประภัสสร ผมก็ยังอยู่ในขั้นอนุบาลครับ


#13 homer324

homer324
  • Members
  • 522 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 December 2008 - 08:30 PM

ม่ะจ่ะป่ะบ่ะ..สุดยอดดดด คร้าบบบบบ

#14 Kodomo_kung

Kodomo_kung
  • Members
  • 323 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 30 December 2008 - 11:03 PM

5555 คำถามอ่ะเปงแบบ Meta physic แต่ตอบกระทู้เป็น 2 แบบ คือ ประกาศคนหาย(ไปซะนานเชียว),ละก็คำตอบแบบที่เจ้าของกระทู้ต้องการ คุณสิริปโภ กลับมาด่วนที่เสา C6

#15 บ่าวอุบล

บ่าวอุบล
  • Members
  • 632 โพสต์

โพสต์เมื่อ 31 December 2008 - 01:56 PM

คารวะท่าน wish ตอบได้ชัดเจนมีหลักฐาน ผมติดตามคำตอบของท่านมานาน ถือว่าเป็นผู้ให้ความรู้เป็นวิทยาทานที่ยอดเยี่ยมทีเดียว อนุโมทนาบุญด้วยครับ ส่วนผู้น้อยด้อยความรู้บ่าวอุบล ก็จะมาอาศัยคำตอบของทุกท่าน เก็บเอาคิด ไปทบทวนต่อไป
เรื่องนี้บ่าวอุบลก็คิดเล่น ๆ ตามสูตร ที่ว่า อีเท่ากับเอ็มคูณซียกกำลังสองน่ะครับ คิดแล้วเพลินดี เข้ากับคำตอบของ
อาวุโสDJ และคุณโวยาเกอร์ด้วย อิ อิ

#16 บ่าวอุบล

บ่าวอุบล
  • Members
  • 632 โพสต์

โพสต์เมื่อ 31 December 2008 - 02:06 PM

ว่าแต่ว่าคุณสิริปโภหายไปไหนเหรอครับ ผมนึกว่าไปแอ่วเมืองเหนือกับ www.dmc.tv
(ห้ามตอบว่า รู้ไปก็ไม่ได้ประโยชน์)

ล้อเล่น 5 5 5

#17 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 31 December 2008 - 10:17 PM

nerd_smile.gif ขอบคุณคุณบ่าวอุบลครับ...เดิมผมก็ไม่ได้รู้มาก...ได้ฟังธรรมจากกัลยาณมิตรหลายท่าน...โดยเฉพาะพระเดชพระคุณคุณครูไม่ใหญ่...ท่านแนะให้นักสร้างบารมีฝึกอุปนิสัย...
QUOTE
1.รักการฝึกฝนอบรม ปรับปรุงตนเองเป็นอย่างมาก
2.ฝึกแสดงธรรมอย่างสม่ำเสมอให้เชี่ยวชาญยิ่งขึ้น
3.สอนตัวเองได้ เพื่อรองรับงานบุญอันยิ่งใหญ่ในอนาคต
4.พัฒนาพื้นฐานวิชาการทางด้านศาสนา เพื่อรับมือกับภาระกิจอันท้าทายยิ่ง


ยิ่งเป็นคำชมยิ่งทำให้ผมนึกสิ่งที่พระเดชพระคุณฯกล่าวว่า ด่าแล้วไม่โกรธ mad.gif ยังง่ายกว่าชมแล้วไม่ยิ้ม happy.gif เพราะคำชื่นชมเยินยอนั้นอาจทำให้ปลื้มจนหลงใหลลืมตัว...ท่านเล่าว่าคำชมนี่ไม่ธรรมดา...เดินตรงๆประเดี๋ยวก็เป๋ได้ถ้าชมหนักเข้าหนักเข้า

คุณสิริปโภ หายไปนาน ทราบว่าไปต่างประเทศ กลับมาพักฟื้นสภาพแล้วกลับมาชุบตัวในทะเลบุญกันนะ เดี๋ยวเพื่อนๆในเว็บแซง

ไฟล์แนบ


ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC