คืออยากจะสอบถามเรื่อง การห่มผ้าพระธาตุค่ะ
นอกจากบูชา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว เพื่ออะไรอีกค่ะ
ใครพอทราบ ตอบด้วยน่ะค่ะ
วันที่ 15-18 นี้ได้ไป ร่วมห่มพระธาตุ ในเขตอำเภอเชียงใหม่ ด้วยค่ะไว้จะเอาบุญมาฝากน่ะค่ะ
** ห่มผ้าพระธาตุ..
เริ่มโดย Arareในบุญ, Jan 07 2009 11:26 PM
มี 3 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 07 January 2009 - 11:26 PM
#2
โพสต์เมื่อ 08 January 2009 - 12:53 AM
ที่นครศรีธรรมราชก็มีนะครับ ผู้เฒ่าท่านบอกว่าเป็นการบูชาพระบรมสารีริกธาตุ
นอกจากนั้นไม่ทราบจริงๆ ครับ ท่าจะต้องรอผู้รู้มาตอบ
อย่างงัยก็ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยนะครับผม .... สาธุ ....
นอกจากนั้นไม่ทราบจริงๆ ครับ ท่าจะต้องรอผู้รู้มาตอบ
อย่างงัยก็ขอร่วมอนุโมทนาบุญด้วยนะครับผม .... สาธุ ....
#3
โพสต์เมื่อ 08 January 2009 - 12:41 PM
ค้นมาให้อ่านนะ
ความเป็นมา
ในสมัยที่พระเจ้าศรีธรรมโศกราชเป็นกษัตริย์ครองตามพรลิงค์(นครศรีธรรมราช) อยู่นั้น ได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุเจดีย์ครั้งใหญ่และแล้วเสร็จในปี พ.ศ.๑๗๗๓ ขณะที่เตรียมสมโภชพระบรมธาตุอยู่นั้น ชาวปากพนังมากราบทูลว่า คลื่นได้ซัดเอาผ้าแถบยาวผืนหนึ่งซึ่งมีภาพเขียนเรื่องพุทธประวัติมาขึ้นที่ชายหาดปากพนัง ชาวปากพนังเก็บผ้านั้นถวายพระเจ้าศรีธรรมโศกราช พระองค์รับสั่งให้ซักผ้านั้นจนสะอาดเห็นภาพวาดพุทธประวัติ เรียกว่า“ผ้าพระบฏ”จึงรับสั่งให้ประกาศหาเจ้าของ ได้ความว่าชาวพุทธจากหงสากลุ่มหนึ่ง จะนำผ้าพระบฏไปบูชาพระพุทธบาทที่ลังกา แต่ถูกพายุพัดพามาขึ้นชายฝั่งปากพนัง เหลือผู้รอดชีวิตสิบคนพระเจ้าศรีธรรมโศกราชทรงมีความเห็นว่าควรนำผ้าพระบฏไปห่มพระบรมธาตุเจดีย์ เนื่องในโอกาสสมโภชพระบรมธาตุ แม้จะไม่ใช่พระพุทธบาทตามที่ตั้งใจ แต่ก็เป็นพระบรมสารีริกธาตุซึ่งเจ้าของผ้าพระบฏก็ยินดี การแห่ผ้าขึ้นธาตุจึงมีขึ้นตั้งแต่ปีนั้นและดำเนินการสืบต่อมา จนกลายเป็นประเพณีสำคัญของชาวนครศรีธรรมราชในปัจจุบัน
ซึ่งประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ เป็นประเพณีท้องถิ่นที่มีจัดเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย จัดขึ้นในวันมาฆบูชา อันเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ที่ถือว่าเป็น “ วันจตุรงคสันนิบาต ” คือวันที่พระอรหันต์ซึ่งเป็นเอหิภิกขุ จำนวน ๑,๒๕๐ รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ในวันที่พระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ พุทธศาสนิกชนชาวไทย โดยเฉพาะชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้พร้อมใจกันประกอบศาสนพิธีในวันนี้ โดยการเวียนเทียนและแห่ผ้าที่เรียกกันว่า “ ผ้าพระบฏ ” เพื่อนำไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ และน้อมรำลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประจำทุกปี
วันเวลาจัดงาน และพิธีกรรม
แต่เดิมการแห่ผ้าขึ้นธาตุนิยมจัดปีละสองครั้ง ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสาม ( วันมาฆบูชา) และวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนหก (วันวิสาขบูชา) โดยนำผ้าไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ปัจจุบันนิยมทำกันในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสาม (วันมาฆบูชา) มากกว่า
สาระสำคัญของประเพณีนี้
๑. แสดงให้เห็นลักษณะสังคมของนครศรีธรรมราช ที่ยึดมั่นอยู่ในพระพุทธศาสนาการทำบุญเพื่ออุทิศเป็นพุทธบูชาเพื่อประสงค์ให้ใกล้ชิดกับพระพุทธเจ้า
๒. แสดงให้เห็นว่าองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เป็นศูนย์รวมจิตใจ ศูนย์รวมความศรัทธา พุทธศาสนิกชนทั่วไปทุกทิศจึงประสงค์มาห่มผ้าพระธาตุอย่างพร้อมเพรียงกัน
ระยะหลังมีการห่มผ้าพระธาตุที่สงขลา เชียงใหม่...
QUOTE
ประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ
ความเป็นมา
ในสมัยที่พระเจ้าศรีธรรมโศกราชเป็นกษัตริย์ครองตามพรลิงค์(นครศรีธรรมราช) อยู่นั้น ได้มีการบูรณะปฏิสังขรณ์พระบรมธาตุเจดีย์ครั้งใหญ่และแล้วเสร็จในปี พ.ศ.๑๗๗๓ ขณะที่เตรียมสมโภชพระบรมธาตุอยู่นั้น ชาวปากพนังมากราบทูลว่า คลื่นได้ซัดเอาผ้าแถบยาวผืนหนึ่งซึ่งมีภาพเขียนเรื่องพุทธประวัติมาขึ้นที่ชายหาดปากพนัง ชาวปากพนังเก็บผ้านั้นถวายพระเจ้าศรีธรรมโศกราช พระองค์รับสั่งให้ซักผ้านั้นจนสะอาดเห็นภาพวาดพุทธประวัติ เรียกว่า“ผ้าพระบฏ”จึงรับสั่งให้ประกาศหาเจ้าของ ได้ความว่าชาวพุทธจากหงสากลุ่มหนึ่ง จะนำผ้าพระบฏไปบูชาพระพุทธบาทที่ลังกา แต่ถูกพายุพัดพามาขึ้นชายฝั่งปากพนัง เหลือผู้รอดชีวิตสิบคนพระเจ้าศรีธรรมโศกราชทรงมีความเห็นว่าควรนำผ้าพระบฏไปห่มพระบรมธาตุเจดีย์ เนื่องในโอกาสสมโภชพระบรมธาตุ แม้จะไม่ใช่พระพุทธบาทตามที่ตั้งใจ แต่ก็เป็นพระบรมสารีริกธาตุซึ่งเจ้าของผ้าพระบฏก็ยินดี การแห่ผ้าขึ้นธาตุจึงมีขึ้นตั้งแต่ปีนั้นและดำเนินการสืบต่อมา จนกลายเป็นประเพณีสำคัญของชาวนครศรีธรรมราชในปัจจุบัน
ซึ่งประเพณีแห่ผ้าขึ้นธาตุ เป็นประเพณีท้องถิ่นที่มีจัดเพียงแห่งเดียวในประเทศไทย จัดขึ้นในวันมาฆบูชา อันเป็นวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ที่ถือว่าเป็น “ วันจตุรงคสันนิบาต ” คือวันที่พระอรหันต์ซึ่งเป็นเอหิภิกขุ จำนวน ๑,๒๕๐ รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ในวันที่พระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์ พุทธศาสนิกชนชาวไทย โดยเฉพาะชาวจังหวัดนครศรีธรรมราช จึงได้พร้อมใจกันประกอบศาสนพิธีในวันนี้ โดยการเวียนเทียนและแห่ผ้าที่เรียกกันว่า “ ผ้าพระบฏ ” เพื่อนำไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ และน้อมรำลึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นประจำทุกปี
วันเวลาจัดงาน และพิธีกรรม
แต่เดิมการแห่ผ้าขึ้นธาตุนิยมจัดปีละสองครั้ง ในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสาม ( วันมาฆบูชา) และวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนหก (วันวิสาขบูชา) โดยนำผ้าไปห่มองค์พระบรมธาตุเจดีย์ ณ วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ปัจจุบันนิยมทำกันในวันขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือนสาม (วันมาฆบูชา) มากกว่า
สาระสำคัญของประเพณีนี้
๑. แสดงให้เห็นลักษณะสังคมของนครศรีธรรมราช ที่ยึดมั่นอยู่ในพระพุทธศาสนาการทำบุญเพื่ออุทิศเป็นพุทธบูชาเพื่อประสงค์ให้ใกล้ชิดกับพระพุทธเจ้า
๒. แสดงให้เห็นว่าองค์พระบรมธาตุเจดีย์ เป็นศูนย์รวมจิตใจ ศูนย์รวมความศรัทธา พุทธศาสนิกชนทั่วไปทุกทิศจึงประสงค์มาห่มผ้าพระธาตุอย่างพร้อมเพรียงกัน
ระยะหลังมีการห่มผ้าพระธาตุที่สงขลา เชียงใหม่...
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC
#4 *innerspot*
โพสต์เมื่อ 08 January 2009 - 03:29 PM
ผมเคยไปห่มตอนเด็กๆ่อะครับ แต่แถวบ้านเขาไม่เรียกห่มผ้าพระธาตุ แต่เขาเรียกงาน"แต่งองค์พระเจดีย์" ก็คล้ายๆกันครับคือนำเอาผ้าจีวรไปพันรอบองค์สถูปเจดีย์ในวัด ทีทั้งองค์เก่าองค์ใหม่ ก็สนุกดีเหมือนกันครับ เป็ยบุญบันเทิงมากกว่าในตอนนั้น ที่ชอบคือมีย่า ยาย เอาขนมมาเพียบเลย ผมตอนนั้นอายุ 5 ขวบอิ่มท้องมากกว่าอิ่มบุญ อิอิ
ผมเคยไปห่มตอนเด็กๆ่อะครับ แต่แถวบ้านเขาไม่เรียกห่มผ้าพระธาตุ แต่เขาเรียกงาน"แต่งองค์พระเจดีย์" ก็คล้ายๆกันครับคือนำเอาผ้าจีวรไปพันรอบองค์สถูปเจดีย์ในวัด ทีทั้งองค์เก่าองค์ใหม่ ก็สนุกดีเหมือนกันครับ เป็นบุญบันเทิงมากกว่าในตอนนั้น ที่ชอบคือมีย่า ยาย เอาขนมมาเพียบเลย ผมตอนนั้นอายุ 5 ขวบอิ่มท้องมากกว่าอิ่มบุญ อิอิ
ผมเคยไปห่มตอนเด็กๆ่อะครับ แต่แถวบ้านเขาไม่เรียกห่มผ้าพระธาตุ แต่เขาเรียกงาน"แต่งองค์พระเจดีย์" ก็คล้ายๆกันครับคือนำเอาผ้าจีวรไปพันรอบองค์สถูปเจดีย์ในวัด ทีทั้งองค์เก่าองค์ใหม่ ก็สนุกดีเหมือนกันครับ เป็นบุญบันเทิงมากกว่าในตอนนั้น ที่ชอบคือมีย่า ยาย เอาขนมมาเพียบเลย ผมตอนนั้นอายุ 5 ขวบอิ่มท้องมากกว่าอิ่มบุญ อิอิ