ขอออกตัวก่อนนะคะว่า
ไม่ได้เป็นผู้ที่เข้าใจในเรื่อง บุญ มากมายนัก
อาศัยเอาความคิดความอ่าน ความเชื่อ และการปฏิบัติของตัวเองเป็น บรรทัดฐาน
อยากจะถามว่า
การที่เราเห็นคนอื่นทำบุญ แล้วเรารู้สึกยินดีในบุญอันนั้น หรือที่เรียกว่า ปลื้มบุญ
แน่นอนคนที่ทำบุญนั้นย่อมได้รับผลบุญไปเต็มเต็ม
แต่ที่อยากจะทราบคือ เรา ซึ่ง รู้สึกยินดีในบุญนั้นด้วย
จะได้รับผลบุญตรงนั้นด้วยไหม?
อย่างไร?
การยินดีกับบุญของคนอื่น
เริ่มโดย เด็กน้อย...หัดเดิน, Jan 09 2009 09:55 AM
มี 9 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 09 January 2009 - 09:55 AM
#2
โพสต์เมื่อ 09 January 2009 - 10:34 AM
ส่วนตัวนะครับ ผมคิดว่าน่าจะได้รับอานิสงค์อย่างน้อยเหมือนกับการอนุโมทนาบุญนั่นหละเพราะการที่เรายินดีหรือปลื้มกับบุญที่เขาทำเหมือนเราได้ทำเองนั้นส่งผลให้ สักวันหนึ่งเราจะต้องมีโอกาสเหมือนเขาบ้างเช่นหลายๆตัวอย่างของผู้นำบุญที่เห็นตัวอย่างในการสร้างบุญที่ดีๆและเก็บความประทับใจเป็นแรงผลักดันในการสร้างบารมีของตัวเอง
#3
โพสต์เมื่อ 09 January 2009 - 11:05 AM
การอนุโมทนาบุญ คือการรู้สึกยินดี และปลื้มปิติเวลาเห็นผู้อื่นทำความดี เรียกว่ามีจิตอนุโมทนาครับ
ได้บุญเหมือนกับการอนุโมทนา คือประมาณ 30% ของบุญที่เกิดขึ้น(ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับใจของเราว่าปลื้มแค่ไหน)
การพนมมือและกล่าวอนุโมทนา หากจิตใจไม่ปลื้มในบุญที่เขาทำจริงๆ ก็ได้บุญ แต่บุญก็จะหย่อนไปด้วยตามส่วน
แต่ถ้าการปลื้มในบุญที่คนอื่นกระทำ จนความปลื้มนั้นทำให้เราต้องยกมือขึ้นอนุโมทนาอย่างนี้ได้ไปเต็มที่เลย(30%)
แต่ให้ดีที่สุดเราควรทำเองด้วยจะได้บุญไป100%เลย และยังได้บุญจากการให้ผู้อื่นอนุโมทนาและอุทิศส่วนกุศลอีกด้วย
ทับทวีหลายชั้น และถ้าทำบุญเป็นหมู่คณะ แล้วมีจิตอนุโมทนาซึ่งกันและกันยิ่งทับทวี
แต่ว่าการที่ท่านเจ้าของกระทู้บอกว่ายงไม่ค่อยเข้าใจเรื่องบุญ อันนี้ต้องระวังการมีจิตอนุโทนาหน่อย
เพราะถ้าเข้าใจผิดว่า บาปเป็นบุญ จะกลายเป็นอนุโมทนาบาปไป ควรศึกษาเรื่องกุศลกรรมบท 10 และกฎแห่งกรรม
หากทำได้ลองหา Case Stady ไปศึกษาจะเข้าใจ และอนุโมทนาได้ถูกบุญ
พระพุทธศาสนา น่าศึกษาครับ ศึกษาแล้วจะมีความสุขมากๆเลย
ได้บุญเหมือนกับการอนุโมทนา คือประมาณ 30% ของบุญที่เกิดขึ้น(ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับใจของเราว่าปลื้มแค่ไหน)
การพนมมือและกล่าวอนุโมทนา หากจิตใจไม่ปลื้มในบุญที่เขาทำจริงๆ ก็ได้บุญ แต่บุญก็จะหย่อนไปด้วยตามส่วน
แต่ถ้าการปลื้มในบุญที่คนอื่นกระทำ จนความปลื้มนั้นทำให้เราต้องยกมือขึ้นอนุโมทนาอย่างนี้ได้ไปเต็มที่เลย(30%)
แต่ให้ดีที่สุดเราควรทำเองด้วยจะได้บุญไป100%เลย และยังได้บุญจากการให้ผู้อื่นอนุโมทนาและอุทิศส่วนกุศลอีกด้วย
ทับทวีหลายชั้น และถ้าทำบุญเป็นหมู่คณะ แล้วมีจิตอนุโมทนาซึ่งกันและกันยิ่งทับทวี
แต่ว่าการที่ท่านเจ้าของกระทู้บอกว่ายงไม่ค่อยเข้าใจเรื่องบุญ อันนี้ต้องระวังการมีจิตอนุโทนาหน่อย
เพราะถ้าเข้าใจผิดว่า บาปเป็นบุญ จะกลายเป็นอนุโมทนาบาปไป ควรศึกษาเรื่องกุศลกรรมบท 10 และกฎแห่งกรรม
หากทำได้ลองหา Case Stady ไปศึกษาจะเข้าใจ และอนุโมทนาได้ถูกบุญ
พระพุทธศาสนา น่าศึกษาครับ ศึกษาแล้วจะมีความสุขมากๆเลย
#4
โพสต์เมื่อ 09 January 2009 - 11:07 AM
สันติภาพโลกเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ถ้าถุกคนยินดี ปลึ่มใจ กัีบการทำความดีของผู้อื่น
#5
โพสต์เมื่อ 09 January 2009 - 12:30 PM
น้องช้างบ้าน ตอบได้แหลมคมน่ะค่ะ ช้างป่าอย่างพี่ก็เห็นด้วยค่ะ
#6
โพสต์เมื่อ 09 January 2009 - 01:10 PM
QUOTE
เรา ซึ่ง รู้สึกยินดีในบุญนั้นด้วย
จะได้รับผลบุญตรงนั้นด้วยไหม?
จะได้รับผลบุญตรงนั้นด้วยไหม?
ได้นิดๆ แต่ถ้าทำด้วยและชวนเขาทำก็ได้เน็ตๆ
#7
โพสต์เมื่อ 09 January 2009 - 01:49 PM
ถ้าอนุโมทนา จากใจจริง ๆ ก็ได้แน่นอนครับ เป็นบุญที่เกิดจากการอนุโมทนา
แต่ถ้าคิดว่า อนุโมทนา เพื่อที่จะมีส่วนในบุญของเขา หรือว่าเราอนุโมทนาแล้วคิดว่าเราจะได้บุญเท่านั้นเท่านี้
ก็ได้อกุศลแทนล่ะครับ จิตมีโลภะ โลภในบุญ
ถ้าถามว่าเราอนุโมทนาเพื่ออะไร เราอนุโมทนาเรายินดีกับเขาเพื่อลดความ อิจฉา ลงจากจิตใจ
ไ ม่ใช่อนุโมทนาเพื่อต้องการบุญ ถ้าอนุโมทนาเพื่อต้องการบุญ จิตจะถูกโลภะครอบงำ เป็นอกุศล
แต่ถ้าคิดว่า อนุโมทนา เพื่อที่จะมีส่วนในบุญของเขา หรือว่าเราอนุโมทนาแล้วคิดว่าเราจะได้บุญเท่านั้นเท่านี้
ก็ได้อกุศลแทนล่ะครับ จิตมีโลภะ โลภในบุญ
ถ้าถามว่าเราอนุโมทนาเพื่ออะไร เราอนุโมทนาเรายินดีกับเขาเพื่อลดความ อิจฉา ลงจากจิตใจ
ไ ม่ใช่อนุโมทนาเพื่อต้องการบุญ ถ้าอนุโมทนาเพื่อต้องการบุญ จิตจะถูกโลภะครอบงำ เป็นอกุศล
#8
โพสต์เมื่อ 09 January 2009 - 02:28 PM
การอนุโมทนาเพื่อขอมีส่วนในบุญของเขา ก็ได้บุญนะครับ ไม่ได้เป็นอกุศลนะ
เพราะการทำบุญของแต่ละคนมีเป้าหมายไม่เหมือนกัน การขอมีส่วนในบุญของผู้อื่นมีมาตั้งแต่ในสมัยพุทธกาลแล้ว
ขนาดขอซื้อบุญก็ยังมีเลย เช่นมียาจกเข๊ญใจได้ทำบุญกับพระพุทธเจ้าพระราชายังขออนุโมทนาด้วยทรัพย์มากมายเลย
ความอยากได้บุญ ไม่ใช่ความโลภนะครับ เพราะจิตเป็นกุศลอยู่ รายละเอียดให้พระอาจารย์อธิบายจะดีกว่า
เพราะการทำบุญของแต่ละคนมีเป้าหมายไม่เหมือนกัน การขอมีส่วนในบุญของผู้อื่นมีมาตั้งแต่ในสมัยพุทธกาลแล้ว
ขนาดขอซื้อบุญก็ยังมีเลย เช่นมียาจกเข๊ญใจได้ทำบุญกับพระพุทธเจ้าพระราชายังขออนุโมทนาด้วยทรัพย์มากมายเลย
ความอยากได้บุญ ไม่ใช่ความโลภนะครับ เพราะจิตเป็นกุศลอยู่ รายละเอียดให้พระอาจารย์อธิบายจะดีกว่า
#9
โพสต์เมื่อ 09 January 2009 - 03:47 PM
ถูกต้องตามที่คุณตำรวจรักบุญบอกมานั่นแหละครับ แต่ผมไม่ใช่พระอาจารย์นะครับ แหะ แหะ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#10
โพสต์เมื่อ 10 January 2009 - 03:04 AM
มาร่วมกันอนุโมทนาบุญกันเถิดครับ สาธุ ...................
และอีกอย่างจะได้เป็นกำลังแก่ผู้ทำบุญด้วยนะครับ
กำลังใจ .... ครับ
และอีกอย่างจะได้เป็นกำลังแก่ผู้ทำบุญด้วยนะครับ
กำลังใจ .... ครับ