วิธีระงับความโกรธ
ความโกรธ คืออารมณ์เดือดพล่านที่สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ในยามที่เราต้องเกี่ยวข้องผู้อื่น อ่านเทคนิควิธีทำให้หายโกรธแบบง่าย ๆ
ท่านสามารถนำเทคนิคเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตครอบครัวและการทำงาน
วิธีที่ ๑. ยามใดเมื่อเราโกรธ เราต้องรู้ตัวของเราเองว่า
เรากำลังได้รับพิษร้ายเข้าไปแล้วควรสร้างความรู้สึก"สะดุ้งกลัว"ขึ้นมาทันที
และ พยายามระงับความโกรธนั้นไว้
ไม่ให้พิษโกรธกำเริบแสดงเป็นกริยาอาการอะไรออกมาอย่างเด็ดขาด
ด้วยการพิจารณาโทษของความโกรธให้มากที่สุด
ตัวอย่างวิธีคิด
"หากเราโง่เขลาคิดตอบโต้ผู้อื่นด้วยความโกรธเมื่อใด
พิษร้ายของความโกรธก็จะเพิ่มขึ้นและหมักหมมอยู่ในใจมากขึ้นทุกที
มันจะคอยออกมาเผาลนจิตใจของเราไปชั่วกาลนาน
เสมือนหนึ่งเราได้สร้างนรกให้เกิดขึ้นในใจของตัวเอง "
(เป็นการนำคุณธรรมข้อ "โอตตัปปะ"หรือ "ความสะดุ้งกลัว" มาอธิบาย
ให้ตัวเองเห็นถึงผลร้ายของความโกรธ / สุตตันต.เล่ม ๑๓ ข้อ ๑๑ หน้า ๑๔ )
--------------------------------------------------------------------------------
วิธีที่ ๒. มองเห็นผลดีของการระงับความโกรธด้วยเมตตา ว่าทำให้เรานอนหลับฝันดี
มีเพื่อนเยอะแยะ ใครเห็นใครก็รักใคร่ มีสุขภาพจิตดี มีความสุขตลอดเวลา
โห..คุ้มค่าจริง ๆ เลย
(ดูอานิสงส์เมตตา ๑๑ ประการ / สุตตันต.เล่ม ๑๖ ข้อ ๒๒๒ หน้า ๓๖๑ )
-------------------------------------------------------------------------------
วิธีที่ ๓. เมื่อรู้สึกโกรธ หรือ เคืองใจใครก็ตาม
ให้ตั้งสติระลึกนึกถึงความดีของคน ๆ นั้นไว้ในใจ
เช่นเขาเคยทำดีอะไรให้แก่เราบ้างไหม หรือ เขามีส่วนดีอื่นๆ
ที่น่าประทับใจอะไรบ้าง นึกอย่างนี้มาแทนความคิดไม่ชอบใจ ความโกรธก็จะหายไปเอง
ตัวอย่าง
"นายมีโกรธนายแดงที่พูดจาดูถูกตน แต่พอนายมีนึกถึงเมื่อครั้งนายแดงเคยช่วยมา
ทาสีบ้านให้ทั้งวันเมื่อปีที่แล้ว นายมีก็หายโกรธนายแดง"
"คุณเจ ไม่ชอบหน้าคุณจอนเลย เพราะคุณจอนชอบพูดจากวนประสาท แต่คุณเจก็
พยายามคิดว่าคุณจอนถึงแกจะชอบพูดกวนประสาท
แต่แกก็ยังดีที่ไม่กินเหล้าสูบบุหรี่
คิดได้ดังนี้คุณเจ ก็เกิดความรู้สึกที่ดีต่อคุณจอนขึ้นมาบ้าง "
(ดู วิธีระงับความอาฆาต ด้วยการมองเห็นความดีของเขา /สุตตันต.เล่ม๑๔
ข้อ ๑๖๑-๑๖๒ )
--------------------------------------------------------------------------------
วิธีที่ ๔. เมื่อโกรธคนใกล้ตัว เช่น แฟน , พี่น้อง , เพื่อนร่วมงาน หรือ
โกรธคนไกลตัวเช่น นักการเมือง ฯลฯ
ให้ลองนึกมโนภาพหน้าตาของเขาให้เป็นเด็กเล็ก ๆ อายุสัก 1-2 ขวบ
โดยให้คิดเหมือนกับ ว่าเขาเป็นลูกของเรา สร้างความรู้สึกเอ็นดูเมตตาเหมือน
พ่อแม่รักลูก ความโกรธจะหายไปเป็น ปลิดทิ้ง วิธีนี้แม้ดูง่าย ๆ และ น่าขำ
แต่ก็ สามารถทำให้หายโกรธได้ผลเป็นอย่างดีเลยทีเดียว
( ดูคำสอนเรื่องให้รักผู้อื่นเหมือนมารดารักบุตร /สุตตันต เล่ม๑๗ ข้อ ๑๐ หน้า
๑๑ )
--------------------------------------------------------------------------------
วิธีที่ ๕. คิดตั้งหลายวิธีแล้วก็ยังไม่หายโกรธ มาลองใช้วิธี "ไม่คิด" ดูก็ได้
ด้วยการ
หายใจเข้าปอดลึก ๆ ยาว ๆ ทำลมหายใจให้ละเอียด (นึกจินตนาการว่าลมหายใจ
ของเราเป็นอะไรบางอย่างที่ละเอียด อ่อน บางเบา ในขณะที่หายใจ ) หายใจเข้า
ออกติดต่อกันสัก ๑๐ ครั้ง ความโกรธก็จะสลายหมดไป กลายเป็นความสบายใจ
มาแทนที่
(ดูอานิสงส์อานาปาสติ ทำให้เกิดปีติ สุข จิตใจสงบระงับ ร่าเริง / สุตตันต.เล่ม
๖ ข้อ ๒๘๘ ข้อ ๑๗๐)
--------------------------------------------------------------------------------
วิธีที่ ๖. วิธีนี้ง่ายที่สุด เหมาะสำหรับเพื่อนสนิท หรือ คู่รัก
ในยามที่เกิดความไม่เข้าใจกันหรือ ทะเลาะกันจนต่างฝ่ายต่างโกรธ นั่นคือ
"การให้ของขวัญ" เป็นวิธีแก้ไข
ปัญหาความโกรธที่ได้ผลดีอีกวิธีหนึ่ง วิธีนี้เป็นการแสดงออกที่ทำให้หายโกรธ
ทั้งผู้ให้และผู้รับ
(ดูสังคหวัตถุ ๔ คือ การให้ พูดจาไพเราะ ช่วยเหลือเจือจาน ร่วมทุกข์ร่วมสุข
สมานไมตรีไว้ตลอดกาล/ สุตตันต.เล่ม๓ ข้อ๒๖๗ หน้า๒๒๐)
--------------------------------------------------------------------------------
วิธีที่ ๗. ให้มองว่าทั้งตัวเราและคนที่เราคนโกรธ ต่าง
เป็นเพื่อนร่วมทุกข์ด้วยกันทั้งสิ้น คือ ไม่มีใครสามารถรอดจากความทุกข์ แก่
เจ็บ ตายได้สักคน ให้คิดจินตนาการ
มองเห็นคนที่เรากำลังโกรธอยู่ เห็นภาพในอนาคตสมมุติว่าเขากำลังป่วยหนัก
ใกล้ตาย เขาจะต้องพบกับความทุกข์ทรมานแค่ไหน จากนั้นให้หวนคิดถึงตัวเราเองว่า
เราเองสักวันหนึ่งก็ต้องพบกับความทุกขทรมานและความตายเหมือนเขาเช่นเดียวกัน
พวกเราล้วนตกอยู่ภายใต้ชะตากรรมเดียวกันด้วยกันทั้งนั้น
แล้วจะมามัวโกรธกันอยู่ทำไมกัน
(ดูบทสวดมนต์แผ่เมตตา) ข้อ ๒๘๘ ข้อ ๑๗๐)
------------------------------------------------------------------------------
วิธีที่ ๘. ใช้วิธีกราบพระเพื่อระงับความโกรธ
การกราบพระทำให้จิตใจเกิดความอ่อนน้อม หมดความมานะถือตัว สภาพจิตใจเช่นนี้
ความโกรธเกิดขึ้นไม่ได้
ดังนั้นหากท่านใช้วิธีระงับโกรธหลายวิธีแล้วยังไม่ได้ผล
ขอแนะนำให้ใช้วิธีกราบพระ ท่านว่าได้ผลชงัดนัก วิธีง่าย ๆ เมื่อใดที่โกรธ
ให้ก้มลงกราบพระทันที และในขณะที่ท่านกราบพระ ให้นึกถึงใบหน้าของ
คนที่ท่านโกรธ ท่านจะพบด้วยตนเองว่าตราบใดที่ท่านยัง
กราบพระอยู่ ความโกรธจะไม่สามารถจะเกิดขึ้นได้เลย
![รูปภาพ](/forum/uploads/photo-thumb-15721.jpg?_r=1192589748)
การระงับความโกรธ
เริ่มโดย น้ำใส, Jan 12 2009 11:17 AM
มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 12 January 2009 - 11:17 AM
เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม
น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม
#2
โพสต์เมื่อ 12 January 2009 - 11:34 AM
สาธุ อนุโมทนาบุญ หลายๆเด้อ
#3
โพสต์เมื่อ 12 January 2009 - 02:21 PM
ขอบคุณน่ะค่ะ พี่น้ำใส แม้เก่งจัง ไปหาอะไรๆ ดี มาให้น้อง ๆ ได้อ่าน
เมื่อสองสามวันนี้ก็เพิ่งโกรธคนเหมือนกัน ไม่ได้โกรธใครมานานแล้ว พอโกรธแล้ว เหมือนมันมีไฟเลย ใจวันร้อนๆ ยังไงไม่รู้ ไม่สบายตัว ไม่สบายใจเลย นั่งสมาธิก็ไม่ได้น่ะ มันล๊อคเลย ต้องเคกหัวตัวเองตั้งหลายครั้งแน่ะ เจ็บแล้ว ถึงได้สติ จะโกรธไปทำไมเนี่ย สงสัยเราจะบ้า
เนื่องจากไม่ได้โกรธใครมานานมาแล้ว ก็เลยจำไม่ได้ว่ามันทรมาณเหมือนกันน่ะ เจ้าไฟแห่งความโกรธเนี่ย หน้าเราคงเหมือนยักษ์แน่เลย คิดได้รีบยิ้มแทบไม่ทัน กลัวไปเกิดเป็นยักษ์ๆๆๆๆๆ
อย่าโกรธกันเลย หรือโกรธกันคนละเวลา แต่เสน่หาเวลาเดียวกัน เอ๊ะฟังคล้ายๆ ที่หลวงพ่อท่านเคยเตือนสติเราเนอะ
เมื่อสองสามวันนี้ก็เพิ่งโกรธคนเหมือนกัน ไม่ได้โกรธใครมานานแล้ว พอโกรธแล้ว เหมือนมันมีไฟเลย ใจวันร้อนๆ ยังไงไม่รู้ ไม่สบายตัว ไม่สบายใจเลย นั่งสมาธิก็ไม่ได้น่ะ มันล๊อคเลย ต้องเคกหัวตัวเองตั้งหลายครั้งแน่ะ เจ็บแล้ว ถึงได้สติ จะโกรธไปทำไมเนี่ย สงสัยเราจะบ้า
เนื่องจากไม่ได้โกรธใครมานานมาแล้ว ก็เลยจำไม่ได้ว่ามันทรมาณเหมือนกันน่ะ เจ้าไฟแห่งความโกรธเนี่ย หน้าเราคงเหมือนยักษ์แน่เลย คิดได้รีบยิ้มแทบไม่ทัน กลัวไปเกิดเป็นยักษ์ๆๆๆๆๆ
อย่าโกรธกันเลย หรือโกรธกันคนละเวลา แต่เสน่หาเวลาเดียวกัน เอ๊ะฟังคล้ายๆ ที่หลวงพ่อท่านเคยเตือนสติเราเนอะ
#4
โพสต์เมื่อ 13 January 2009 - 11:42 AM
สาธุ...ครับ คุณน้ำใส
- ประสบการณ์สดๆร้อนๆเช้านี้เลยถูกรถตู้ปาดชนิดกระทันหันและฉิวเฉียด....โอ...พิษซึมได้เร็วและแรงมาก...แว๊บเดียวใจขุ่น ขลั๊กเลย(ขนาดถือศีล8นะเนี่ย) ข้อ1-2,5,7 เอาไม่อยู่
- ต้องใช้ข้อ 3+8 ครับ นึกถึงหลวงปู่ฯ ตะโกนเรียกชื่อท่านในใจดังมากๆ...เรียกไปเรื่อยๆ เสียงตะโกนเรียกชื่อท่านก็เบาลงและนุ่มนวล กลายเป็น สัมมา อะระหัง ตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้...อิหยังหว่า
- พอตั้งหลัก คืนสติ ก็นึกได้ว่า หากหาทางออกด้วยใจที่ขุ่นมัว คงต้องเสียใจไปอีกนาน
...หวิดดำเนินชีวิตผิดพลาด
- ประสบการณ์สดๆร้อนๆเช้านี้เลยถูกรถตู้ปาดชนิดกระทันหันและฉิวเฉียด....โอ...พิษซึมได้เร็วและแรงมาก...แว๊บเดียวใจขุ่น ขลั๊กเลย(ขนาดถือศีล8นะเนี่ย) ข้อ1-2,5,7 เอาไม่อยู่
![mad.gif](style_emoticons/default/mad.gif)
![mad.gif](style_emoticons/default/mad.gif)
![mad.gif](style_emoticons/default/mad.gif)
- ต้องใช้ข้อ 3+8 ครับ นึกถึงหลวงปู่ฯ ตะโกนเรียกชื่อท่านในใจดังมากๆ...เรียกไปเรื่อยๆ เสียงตะโกนเรียกชื่อท่านก็เบาลงและนุ่มนวล กลายเป็น สัมมา อะระหัง ตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่รู้...อิหยังหว่า
![red_smile.gif](style_emoticons/default/red_smile.gif)
![red_smile.gif](style_emoticons/default/red_smile.gif)
![red_smile.gif](style_emoticons/default/red_smile.gif)
- พอตั้งหลัก คืนสติ ก็นึกได้ว่า หากหาทางออกด้วยใจที่ขุ่นมัว คงต้องเสียใจไปอีกนาน
![dry.gif](style_emoticons/default/dry.gif)
![dry.gif](style_emoticons/default/dry.gif)
![dry.gif](style_emoticons/default/dry.gif)
ไฟล์แนบ
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC
#5
โพสต์เมื่อ 13 January 2009 - 01:57 PM
สาธุ สาธุ ค่ะคุณWISH บุญรักษาจริง ๆ นะคะ
ผู้มีบุญ ....บุญย่อมรักษาให้ปลอดภัยในทุกสถานการณ์ค่ะ
ดีใจที่ คุณWISH ปลอดภัยค่ะ
ผู้มีบุญ ....บุญย่อมรักษาให้ปลอดภัยในทุกสถานการณ์ค่ะ
ดีใจที่ คุณWISH ปลอดภัยค่ะ
![happy.gif](style_emoticons/default/happy.gif)
![happy.gif](style_emoticons/default/happy.gif)
เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม
น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม
#6
โพสต์เมื่อ 14 January 2009 - 10:20 AM
![happy.gif](style_emoticons/default/happy.gif)
...อื้อ อื้อ เค้าหายโกดตัวเองแล้วล่ะ นี่งัยเค้ายิ้่มแว้วว
![happy.gif](style_emoticons/default/happy.gif)
#7
โพสต์เมื่อ 18 January 2009 - 07:45 PM
สาธุค๊า..........................