World-PECIII exam
#1
โพสต์เมื่อ 18 January 2009 - 10:56 PM
สนามสอบที่ดิฉันไปร่วมสอบ คือ มหาวิทยาลัยราชภัฎราชนครินทร์ ฉะเชิงเทรา
เด็กๆ นักเรียน ไปสอบกันเยอะดี เกือบครึ่งห้องได้ ที่นี่มาสอบกัน 200 กว่าทีม (จำเศษไม่ได้ว่ากว่าเท่าไหร่ เพราะมัวแต่ตื่นเต้น) แต่ละคนก็ตั้งหน้าตั้งตาทำข้อสอบกันสุดฤทธิ์สุดเดช ไม่มองหน้ากันเลยล่ะ
มาทักทายสวัสดีหลังจากสอบเสร็จละกัน....
สอบคราวนี้แปลกมาก เด็กๆทำเสร็จกันไวสุดๆ ยังไม่ถึงชั่วโมงดี มีคนส่งข้อสอบแล้ว อะไรจะเร็วปานนั้น
ส่วนทีมดิฉัน ทำเสร็จก่อนเวลาหมด 15 นาทีด้วย ได้อ่านทวนคำตอบไปครึ่งนึงเอง เพราะมัวแต่คิดมากเป็นบางข้อ
คิดๆๆๆ จนแม่ของดิฉันเริ่มรำคาญ บอกให้ส่งไปเถอะ จะได้ไม่ต้องคิดมาก
ข้อสอบคราวนี้ปราบเซียนด้านภาษาบาลีจริงๆ
พอกลับมาอ่านทวนอีกครั้งหลังจากสอบเสร็จแล้ว ถึงรู้ว่า ผิดเยอะมาก ฮือๆๆ :'(
ปีหน้าจะต้องสอบใหม่ เอาที่หนึ่งให้ได้เลย คอยดู
#2
โพสต์เมื่อ 18 January 2009 - 11:18 PM
แต่ไม่ว่าผลสอบจะเป็นอย่างไร พวกเราก็ได้ความรู้กันถ้วนหน้าไม่มากก็น้อย ต้องกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่ดำริให้มีการสอบ หลวงพ่อทัตตะก็สุดยอด ท่านกลั่นและกรองทุกข้อความในหนังสือเล่มนี้มาเป็นอย่างดี ส่วนคนออกข้อสอบก็ต้องบอกว่าสุดยอดเช่นกันครับ โหดจริงๆ จะเดาแบบมีเหตุผลหรือแอบใช้ลอจิกนิดนึงเนี่ยก็ยังยากเลย
#3
โพสต์เมื่อ 18 January 2009 - 11:56 PM
#4
โพสต์เมื่อ 19 January 2009 - 01:39 AM
เนื่องจากเป็นการสอบตอบปัญหาธรรมะเพื่อสร้างสันติภาพโลก และผู้สอบต่างมีความหลากหลายทั้งในด้าน พื้นความรู้ทั้งทางด้านหลักธรรม และภาษา(บาลี) ความสนใจ วุฒิภาวะ ทางด้าน ความคิด ความรู้ และอารมณ์ จึงเป็นการยากมากที่ทางผู้ที่ทำหน้าที่ออกข้อสอบจะสามารถออกข้อสอบที่เหมาะสมกับทุกคนได้และยังคงคุณสมบัติของข้อสอบปรนัยที่ดี
ลักษณะข้อสอบปรนัยที่ดี และเหมาะสมก็คือข้อสอบต้องวัดองค์ความรู้ที่ได้จากการอ่านตำราเล่มนี้ และความรู้ที่จะสามารถนำไปบูรณาการณ์กับการใช้ชีวิตทางโลกได้อย่างดี และที่สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าที่ได้กล่าวมาแล้ว ข้อสอบปรนัยที่ดีต้องไม่สามารถเป็นที่โต้แย้งได้ว่า ตัวเลือกในข้อสอบสามารถเป็นคำตอบที่ถูกได้มากกว่า 1 ข้อ
ด้วยข้อจำกัดดังกล่าว ผู้เขียนเชื่อว่าทางวัด น่าจะพิจารณา ด้านความเป็นไปได้ในการตรวจคำตอบซึ่งผู้เข้าสอบมีจำนวนมาก และในด้านความถูกต้องแน่นอนของคำตอบเพื่อไม่ให้เกิดการโต้แย้งในภายหลัง ดังนั้นทางวัดน่าจะจำใจ ออกข้อสอบที่มีคำถาม ที่ถามเกี่ยวกับความเป็นจริง ข้อจริงแท้ ซึ่งก็หนีไม่พ้น ถามเกี่ยวกับความหมาย บทนิยาม ที่มีภาษาบาลีมาเกี่ยวข้อง
ดังนั้นผู้เขียนคิดว่า การสอบครั้งนี้ยังไม่ใช่การสอบตอบปัญหาธรรมะเพื่อสันติภาพโลกที่แท้จริง เพราะสันติภาพจะเกิดขึ้นได้จริงๆก็ต่อเมื่อ ทุกคนเข้าถึงสันติสุขภายใน และรู้สึกอยากจะแบ่งปันความสุขนี้ให้กับคนทั้งโลก จึงออกไปทำหน้าที่ เพื่อนผู้แนะประโยชน์ แล้วจะมีวิธีใดเล่าที่จะวัดได้ว่า สันติภาพเกิดขึ้นแล้วจริงๆ ผู้เขียนคิดว่า เราคงต้องคิดกันต่อไปว่า จะมีเครื่องมือใดเล่าที่จะสามารถวัดสันติภาพที่เกิดขึ้นได้ ทั้งนี้อาจเป็นเพราะเกินความสามารถของปุถุชนอย่างผู้เขียนจึงไม่สามารถเสนอแนวทางได้ จึงต้องเรียนถามท่านผู้รู้ต่อไป
อย่างไรก็ตามผู้เขียนก็ขอชื่นชม ยินดี และอนุโมทนาในความพยายามของหมู่คณะในการพยายามสร้างสันติภาพโลกในบังเกิดขึ้น โดยไม่ยอมแพ้ต่อความยากลำบากในทุกๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้าน การแต่งตำรา การออกข้อสอบ การแปลตำรา และข้อสอบเป็นภาษาต่างๆ การหาทุน การเชิญและประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีบุญมาสอบกันมากๆ การตรวจข้อสอบอัตนัย และอื่นๆอีกมากมาย ทั้งนี้เพื่อสนองต่อแนวทางที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ คุณครูไม่ใหญ่ได้ให้ไว้
ทั้งนี้ผู้เขียนเองก็มีความประทับใจในเนื้อหา องค์ความรู้ที่ถ่ายทอดออกมาทางตัวอักษร ในหนังสือ "ศรัทธา" ด้วยความสวยงามของการใช้ภาษา ทำให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย และ มีศรัทธาเพิ่มขึ้น ทำให้ผู้เขียนอดยินดีปรีดาไปด้วยไม่ได้ จึงคิดไปว่าทั้งชาตินี้เราได้อ่านหนังสือดีๆอย่างนี้ก็นับว่าไม่เสียชาติเกิดแล้ว และหนังสือเล่มนี้ยังสะท้อนให้เห็นว่า หลวงพ่อทัตตะ และ คณะกองวิชาการ มีความเข้าใจที่ลึกซึ้งในพระธรรมอย่างถ่องแท้ลึกซึ้ง ยากที่จะพบเจอได้ง่าย จึงเป็นบุญอย่างยิ่งที่ผู้เขียนได้อ่านหนังสือเล่มนี้ และขอกราบขอบพระคุณมา ณ.โอกาสนี้
#5
โพสต์เมื่อ 19 January 2009 - 06:50 AM
สิ่งแรกที่ได้จากการสอบครั้งนี้คือ เรามีเรื่องดี ๆ ที่จะพูด จะคุยกันมากขึ้น เพราะต้องคอยเตือน คอยปลอบ
ใจเด็ก ๆ ให้อ่านหนังสือ ได้พูด ได้ซักถาม กับกลุมเพื่อน ๆ ได้มีการทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น จัดนั่งสมาธิ จัดติว และได้
ความรู้มากมายจากการอ่านหนังสือเล่มนี้ ซึ่งทุกคนก็ประจักษ์แล้วว่าเป็นหนั้งสือที่ดีอย่างใด
การสอบ ก็คือการวัดความรู้ ที่ได้จากการอ่านหนังสือ การเข้าใจในเนื้องหาซึ่งสามารถนำมาวิเคราะห์กับเหตุการณ์
ในปัจจุบันได้ ถ้าใครไม่สนใจหรือไม่ทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้ว ก็ยากที่จะแยกแยะว่าข้อใดผิด ข้อใดถูก
ในความเห็นส่วนตัวแล้ว อยากให้มีการสอบแบบนี้ ไปทุกปี ๆ เพราะอย่างน้อย เมื่อผู้ที่เข้าสอบได้อ่าน เขาย่อมจะ
ได้ประโยชน์ต่อตัวและครอบครัวของเขา จาก 1 เป็น 2 3 .....ไปเรื่อย ๆ เมื่อทุกคนตระหนักถึง บุญ บาป ละชั่ว ทำดี
หลักปฏิบัติเพื่อการอยู่ร่วมกัน ...ฯลฯ อีกไม่นานสันติภาพโลกก็จะเกิดขึ้น แต่ในเบื้องต้นนี้ สันติภาพย่อมจะเกิดขึ้นแก่ตัวเรา
ครอบครัวและหมู่คณะก่อน....... ดังนั้น จึงขอให้มีการสอบอีกและเชื่อมั่นว่า สันติภาพโลกจะเกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง
การสอบ wp คือส่วนหนึ่งที่จะทำให้ถึงวันนั้น วันที่โลกสงบร่มเย็นค่ะ
เหมือนดอกบัวทะยานตัวขึ้นสู่ผิวน้ำ เปิดกลีบรับแสงตะวันธรรม
น้อมนำสู่วิถีอันดีงาม
#6
โพสต์เมื่อ 19 January 2009 - 09:11 AM
สำหรับศุนย์สอบผมนั้น นักเรียน นักศึกษา ก็มาสอบเยอะส่วนใหญ่ ก็ออกเร็วกันทั้งนั้น ออกแนวทำให้เสร็จๆ ไปแล้วรีบออก
ส่วนหนึ่งก็เกิดจากเพราะ เด็กและนักศึกษาไม่ได้อยากสอบอย่างแท้จริง ส่วนใหญ่ถูกครูบังคับมา
ที่ผมรู้เพราะนักศึกษาที่ไปสอบส่วนใหญ่เป็นเพื่อนๆ และรุ่นน้องผมทั้งนั้น ซึ่งอาจารย์ที่เป็นผู้คุมศูนย์สอบก็บังคับกลายๆ ให้มาสอบ เพราะมีผลกับคะแนนที่ของวิชาที่อาจารย์สอนอยู่ ผมถามพวกเขาก็ไม่มีใครอ่านหนังสือกันเลย หนังสือ ศรัทธา ก็ใหม่มากเหมือนไ้ด้มาสภาพยังไง วันสอบก็ยังคงสภาพเดิมอยู่ยังไงอย่างงั้นเลยอ่ะ เลยออกกันเร็วมากเพราะไม่อ่านข้อสอบกันเลย ในขณะที่ผมออกแทบจะสุดท้ายเลย (ทำไม่ทัน)
ซึ่งตรงนี้อยากฝากไว้หน่อยครับ เราโฆษณาประชาสัมพันธ์ได้ เราจูงใจให้เห็นถึงประโยชน์ของการมาสอบได้ แต่การเกณเด็กมาสอบผมว่าไม่น่าทำ ซึ่งการเน้นที่ปริมาณแต่ไม่เน้นคุณภาพผมว่ามันไม่สมควร
จะทำให้คนที่ถูกเกณมา เกลียดวัดเข้าไปอีก (ผมเห็นเพื่อนผมบ่นกันอุบเรื่องที่ต้องมาสอบ บ่นทั้งวัด บ่่นทั้งอาจารย์เลย )
เลยอยากฝากตรงนี้ไว้หน่อยครับ ลองเอาผลคะแนนสอบครั้งนี้มาวิเคราะห์ก็ได้ ผมคิดว่าระดับคะแนน ของคนอ่านกับคนที่ไม่ได้อ่านเลยน่าจะต่างกันอย่างชัดเจน
#8
โพสต์เมื่อ 19 January 2009 - 09:33 AM
อย่างน้อย คิดว่าเป็นการสร้างกระแสปลูกฝังการอ่านหนังสือธรรมะที่ดี
หากแม้ไม่ได้เปิดหนังสืออ่าน แต่ได้เห็นหนังสือ (หนังสือศรัทธานี้ มีหน้าปกเป็นรูปพระพุทธเจ้า ด้วย) ก็นับว่าเป็นการปลูกรากฐานที่ดีแล้ว คงต้องใช้เวลาในการสร้างศรัทธาให้เกิดขึ้น
และอีกไม่นานสันติภาพโลกก็จะเกิดขึ้นอย่างแท้จริง
สำหรับทีมของ My WAY ทุกคนตั้งใจสอบกันอย่างเต็มที่ น้องในทีม อ่านไป 6 รอบ
เป็นข้อสอบที่ต้องใช้ความจำและความคิดผสมปนแป
ทำแล้วก็สนุกดี มีถกเถียงเรื่องคำตอบกันเล็กน้อย .... จนพระอาจารย์เดินมาบอกว่าให้ทำใจใสๆๆ สนุกมากจริงๆๆ
สุดปลื้มๆๆๆๆๆ สำหรับการสอบ World PEC ในครั้งนี้
#9
โพสต์เมื่อ 19 January 2009 - 10:26 AM
แล้วก็จะไม่มีทางเข้าใจได้อย่างลึกซึ้งเลยว่า พระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตะชีโวของเรานั้น สุดยอดแบบว่า ที่สุดของที่สุดจริงๆ ในด้านของการเขียนที่ทั้งกลั่น ทั้งกรอง มาจากภาวนามยปัญญาขนานแท้ ไม่ใช่คิดเอาเองแล้วมาเขียน แบบที่หนังสือพุทธศาสนาจำนวนมากในปัจจุบันนี้ เขาผลิตออกมาขายกัน
แล้วฟ้าร้างเอง ก็คงจะยังเป็นคนประเภทที่เรียกว่า ทัพพีไม่รู้รสแกง เพราะไม่คิดจะศึกษาธรรมะ ที่มีภาษาบาลีเยอะๆ
ฟ้าร้างคงไม่ได้รับรู้ว่า เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ตัว ของคุณเทพบุตร ของพี่น้ำใส ที่พวกเรา dmc.tv 4 คนไปจัดติวกันถึงบ้านของพี่น้ำใส ทำให้เทพบุตรองค์นี้ ตอนแรก ปฏิเสธ ธรรมะดีดี จากวัดพระธรรมกาย เพียงเพราะเขาเป็นถึง ดร. และไม่มีเวลา ไม่มีวันหยุด ที่จะมาวัด ทำให้เขาเริ่มหันมาสนใจว่าพวกเราทำอะไรกันอยู่ ปกติจะต้องเดินหนีไปนอน แต่นี่ เดินไปเดินมา ฟังพวกเราติวกัน ตอนเช้าถึงกับเปิดเทปธรรมะเอง โดยที่ไม่เคยทำ แล้วพูดว่า พระอาจารย์รูปนี้เทศน์ดีจัง
ฟ้าร้าง ก็คงไม่ได้มิตรภาพดีดี จากเหล่าสมาชิกในเว็บบอร์ดแห่งนี้ เช่นจากคุณ Innerspot, น้อง Sky noi, และจากพี่ Wish ที่ไปปรากฏตัว ณ เสา D9 เพื่อติวให้ฟ้าร้างและทุกคน ทำให้ฟ้าร้างฉลาดขึ้นอีกนิดนึง
จากทีมของพวกเรา 13 ทีม ที่มาสอบจาก dmc.tv ก็ทำให้พวกเราได้สนุกสนาน เฮฮา ปาร์ตี้บุญบันเทิง alert กันสุดขีด ที่จะทำความดี
นี่แค่ตัวอย่างคร่าวๆ ที่ทำให้พิสูจน์ได้จริงแท้ที่หลวงพ่อท่านว่า "เมื่อเราสว่าง โลกก็สว่างด้วย"
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#10
โพสต์เมื่อ 19 January 2009 - 10:47 AM
ยากครับ สำหรับการสอบครั้งนี้ ทุกท่าน (หลายท่าน) ที่ร่วมสอบ ก็น่าจะคิดเช่นเดียวกัน
ได้อ่านกระทู้ของคุณ broke man ฯ ก็รู้สึกเห็นด้วยเช่นกันครับ แต่อย่างไรเสีย ใจผมคิดว่า (ความคิดส่วนตัวผม) ในการสอบครั้งนี้ วัตถุประสงค์ ไม่ได้อยู่ที่ข้อสอบ ที่การเข้าสอบ หรือผลของการสอบ แต่ วัตถุประสงค์หลักคือ ทุกคนทั่วโลกได้อ่านตำราเล่มเดียวกัน เข้าใจในเรื่องเดียวกัน (ถึงแม้บางคนอาจเข้าใจผิดเพี้ยนไปบ้าง แต่ก็ยังเป็นไปในแนวทางเดียวกัน) ได้พูดภาษาเดียวกัน (ภาษาธรรมมะ) และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน อันส่งผลสู่ สันติภาพโลก
ดังนั้นแนวข้อสอบจะเป็นอย่าไร ผู้เข้าสอบจะเข้าใจหรือไม่ ผู้ออกข้อสอบจะทบทวนดีหรือไม่ จึงไม่ใช่ประเด็นหลัก เพราะการสอบธรรมมะ เพื่อสันติภาพโลกนั้น ผลการสอบได้ออกก่อนที่จะมีการสอบ นั่นคือเมื่อทุกคนได้อ่านหนังสือเล่มนี้ สันติภาพในการเบื้องต้นก็เกิดขึ้นแล้ว
ปีหน้าก็ตั้งใจ เอาใหม่ครับ คราวนี้จะส่งทีมครอบครัว 2 ทีมเลย
อนุโมทนา สาธุ กับทุก ๆ ท่านด้วยครับ
#11
โพสต์เมื่อ 19 January 2009 - 10:58 AM
ข้อสอบคร้ังนี้ถ้าใครไม่ได้อ่านหนังสือเล่มนี้คงจะตอบไม่ได้เลยที่เดียวคะ...
ขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ ที่ทำให้ดิฉันแต่ครอบครัวมีส่วนร่วมในการเผยแพร่พระศาสนาและได้ศึกษาพระพุืทธศาสนาเพิ่มขึ้นคะ.....
สาธุักับทุกๆท่านด้วยนะคะ
ไฟล์แนบ
#12
โพสต์เมื่อ 19 January 2009 - 11:20 AM
นานาจิตตัง ครับ แต่ผมว่า หลวงพ่อ สุดยอด มโนปณิธานยิ่งใหญ่
ข้อสอบอัตนัยข้อสอง เนื้อหามีอยู่ในหนังสือทางก้าวหน้า ไม่ได้พกเข้าไปด้วย เสียดายจัง...
#13
โพสต์เมื่อ 19 January 2009 - 01:28 PM
แต่ทีมเรา ร่วมกันสอบอย่างมีความสุขและมุ่งมั่นตั้งใจ (เพราะตระหนักดีว่าเนื้อหาสอดแทรกความศักดิ์สิทธิ์เกี่ยวกับเรื่องราวและพระธรรมคำสอนขององค์พระบรมศาสดาของเรา) ต้องอาศัยความเข้าใจที่ละเอียดอ่อนและลึกซึ้ง แต่ถ้าเราหมั่นทบทวนอยู่บ่อยๆ เหมือนสวดมนต์ ทำวัตรเช้า-เย็น ก็จะเป็นเรื่องที่เราคุ้นเคย และเข้าใจได้ไม่ยากอย่างที่คิดนะคะ
ส่วนตัวแล้ว....เห็นว่าเป็นหนังสือที่ทรงคุณค่ามากๆ เป็นคัมภีร์แห่ง"ศรัทธา"
ถึงแม้จะล่วงเลยการสอบไปแล้วก็ตาม แต่มีความรู้สึกผูกพันกับเนื้อหา ที่ทำให้เกิดความรู้สึกว่าอยากศึกษาให้ละเอียดถ่องแท้มากยิ่งๆขึ้นไปอีกค่ะ
ถ้าไม่ได้รับเมตตาจากคุณครูไม่ใหญ่ของพวกเรา ดิฉันคงไม่มีโอกาสได้ทำกิจกรรมที่มีคุณค่าและได้บุญมากมายขนาดนี้เลยคะ
สาธุ
ขอบคุณทีมงาน DMC ที่จัดสอบด้วยนะคะ
#14
โพสต์เมื่อ 19 January 2009 - 06:44 PM
- ทั้งยังได้ความรู้จากผู้รู้แจ้ง ซึ่งท่านได้ขยายอรรถและความ นำมาตีพิมพ์ให้ผู้อ่านได้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง...
- ในเรื่อง ตถาคตโพธิสัทธา นั้นจัดว่าเป็นแหล่งที่มาของความรู้อันนำไปสู่ขุมทรัพย์อันประเสริฐคือปัญญาโดยแท้...เมื่อนำไปพิจารณา...ศรัทธาเกิดขึ้นจะเพิ่มพูนทับทวีปัญญา...นำไปสู่ความสำเร็จในทุกๆเป้าหมาย...ทั้งบนดิน บนฟ้า และ เหนือฟ้า
- การมาสอบนอกจากได้วัดผลจากการเตรียมตัวแล้ว ยังได้เรียนรู้จักการวางแผน ไม่ใช่แข่งกับทีมอื่นๆเพื่อรางวัล เพราะถือว่ารางวัลนั้นเป็นผลพลอยได้...แต่เมื่อเข้าสู่สนามสอบนั้น...เราจะรู้ว่าคู่แข่งตัวจริงของเราคือ...กาลเวลา...นั่นเอง
#15
โพสต์เมื่อ 19 January 2009 - 10:36 PM
ผมเชื่อว่าสันติภาพอาจไม่ได้เกิดทันทีที่เราสอบหรือทันทีที่เราอ่านหนังสือเล่มนี้ แต่มันคือจุดเริ่มต้นที่จะเปลี่ยนแสงธรรมจากเทียนเล่มน้อยให้กลายเป็นแสงธรรมจากดวงตะวัน ที่ให้ความอบอุ่นแก่คนทั้งโลก เป็นจุดเริ่มต้นที่จะทำสันติภาพภายในให้แปรเปลี่ยนเป็นสันติภาพของคนทั้งโลก กราบอนุโมทนาบุญกับผู้มีส่วนร่วมทุกๆ ท่าน
จริงครับพี่ วันคืนล่วงไปๆ บัดนี้เราทำอะไรอยู่
#16
โพสต์เมื่อ 19 January 2009 - 10:49 PM
#17
โพสต์เมื่อ 20 January 2009 - 11:28 PM
1.เพื่อให้นักศึกษามีเป้าหมายในการทบทวนเนื้อหา ว่าจะทบทวนจบเมื่อไหร่
2.ใช้ข้อสอบเป็นเครื่องมือหนึ่งในการวัดความรู้ที่ นศ.ได้มาจากการเรียน หรือ การอ่านหนังสือ
3.ใช้ข้อสอบเป็นเครื่องมือหนึ่งในการประเมินความสามารถ ความตั้งใจ สติปัญญา โดยผ่านระบบเกรด A B C D F
4.ใช้ผลสอบเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจให้ รางวัล แก่ผู้มีผลการเรียนดี และลงโทษแก่ผู้มีผลการเรียนไม่ดี
จากวัตถุประสงค์ดังกล่าว ผมขอใช้วิจารณญาณส่วนตัวในการวิเคราะห์นะครับ จะว่าไปทีละข้อทีละข้อ
1. ชัดเจนที่สุดครับ ถ้าไม่มีการกำหนดวันสอบ หลายๆคน คงอ่านหนังสือเล่มนี้ไม่จบ ไม่ได้สนทธนาธรรม
2. ถ้าเราไม่ใช้ข้อสอบเราจะทราบได้อย่างไรว่า ผู้อ่านเข้าใจเนื้อหาอยู่ถูกต้อง ตรงตามความเป็นจริง
3. ถ้าเราไม่มีระบบข้อสอบ เราจะให้นักเรียนมาประเมินตนเองว่า ตนเองได้รับความรู้จากการอ่านหนังสือมาน้อยแค่ไหน
สำหรับคนที่ไม่เคยรู้มาเลย พอมาอ่าน จึงบอกว่า รู้เพิ่่มขึ้นมาก ส่วนคนที่รู้มากเป็นทุนเดิมอยู่แล้วพอมาอ่าน จึงบอกว่า
รู้เพิ่มขึ้นเล็กน้อย ถ้าเราเชื่่อว่า นักศึกษาจะประเมินตนเองอย่างยุติธรรม ผลการสอบworld pec ครั้งนี้คงมีคนได้ทิ่งหนึ่ง หลายหมื่นคนแ่น่นอน
4. แน่นอนว่า การตอบแทนโดยให้รางวัลเป็นสิ่งหนึ่งที่ครูใช้ เพื่อเพิ่มแรงผลักดันให้คนที่ยังไม่เชี่ยวชาญใ้ห้พยายามมากขึ้น ในการสอบครั้งต่อไป และเป็นการยกย่องเชิดชูผู้ที่ตั้งใจศึกษา อ่านหนังสือหลายๆรอบ คิดวิเคราะห์ทุกแง่มุม ให้เป็นที่ชื่นชม
ให้ตัวผู้สอบได้ดีเองมีความภาคภูมิใจ และเป็นตัวอย่างที่ดีแก่ผู้ที่กำลังจะศึกษาต่อๆไป
จากวัตถุประสงค์ของการสอบและบทวิเคราะห์ดังที่ได้กล่าวข้างต้น ผมคิดว่า มีความจำเป็นต้องออกข้อสอบให้ได้มาตรฐาน ในการวัดองค์ความรู้ที่เกิดขึ้นจากการศึกษา โดยเฉพาะในบริบท หนังสือเรื่อง ศรัทธา และผู้ศึกษาเองก็ควรได้รับทราบว่าตนเองมีความรู้ความเข้าใจ ที่ถูกต้อง ลึกซึ้งมากแค่ไหน โดยดูที่ผลของการสอบเป็นตัวตัดสินตัวหนึ่ง