คือว่าที่วัดใกล้บ้านของผมมีพระรูปหนื่งชอบทำพิธีสวดกระทงสะเดาะเคราะห์,ทำตะกรุด,ทำคาถาแผ่นเงิน...ให้ชาวบ้านที่มาขอแต่ผมก็ชอบทำบุญกับท่านนะครับคือผมตักบาตรกับท่านเกือบทุกวันและเคยซื้อเครื่องไทยทานไปถวายท่านที่กุฏิอีกด้วยเช่น:นมถั่วเหลือง,น้ำผลไม้,ผงซักฟอง,สบู่และน้ำยาปรับผ้านุ่มแต่มันติดอยู่ที่ใจของผมนี้ซิครับก็คือเมื่อผมเห็นท่านแล้วชอบติท่านในใจว่า:ทำไมพระท่านถึงชอบพวกไสยเวทจังครับ.ผมคิดแบบนี้แหละครับทำยังไงดีครับผมไม่อยากคิดแบบนี้เลยครับผมกลัวจะบาปแต่เห็นท่านทีไรชอบคิดแบบนี้ทุกทีช่วยแนะนำผมด้วยครับว่าจะทำอย่างไรดี?ขอกราบขอบพระคุณทุกๆท่านนะครับที่ให้คำปรึกษาแก่ผมเสมอมาขอบคุณครับ
ข้องใจมานาน
เริ่มโดย ดอกอุบล, Jan 22 2009 10:29 PM
มี 6 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 22 January 2009 - 10:29 PM
#2
โพสต์เมื่อ 22 January 2009 - 10:37 PM
ทำตะกรุด ??? May be it's not too hard to find a better place to make merits.
PS could you put some space between sentences so it's not long line?
PS could you put some space between sentences so it's not long line?
#3
โพสต์เมื่อ 22 January 2009 - 11:15 PM
ก็ให้สำรวจ กาย วาจา และใจ ของเรา อย่าเผลอสติ ไปนึกตำหนิท่านก็พอค่ะ ลองถวายหนังสือศรัทธาให้ท่านดูก็ได้นะคะ
#4
โพสต์เมื่อ 23 January 2009 - 01:55 AM
เอาเถิดครับ ทำบุญกับท่านไปเถิด พระรัตนตรัย
แต่ึึความเห็นของคุญ kasaporn นี่น่าสนใจนะครับ ถ้าท่านได้อ่านก็ึคงดี
แต่ึึความเห็นของคุญ kasaporn นี่น่าสนใจนะครับ ถ้าท่านได้อ่านก็ึคงดี
#5
โพสต์เมื่อ 23 January 2009 - 08:04 AM
ผมเห็นว่า
1. เราเองต้องนั่งสมาธิเยอะๆ และต้องหมั่นมาวัดเราทุกสัปดาห์ หรือบ่อยๆ
2. แสดงความเครพ อ่อนน้อมช่วยเหลือการงาน ตามแบบอย่างวัฒนธรรมของวัดเราอย่างสมำเสมอ
3. หาโอกาสถวายสือธรรมะของวัดเราให้ท่าน เช่น พระแท้, เข้าใจ,ศรัธา,ยมโลก,สวรรค์,นำนั่งสมาธิ เป็นต้น
4. หาโอกาสนิมนต์ท่ามมาวัดเราผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการพระกัลยมิตร, โครงการสอบตอบปัญหา เป็นต้น
5. หาโอกาสไปกราบอาราธนาให้ท่านแสดงธรรมให้ฟังตามกาลที่เหมาะสม เช่น วันโกน, วันพระ เป็นต้น
จบแล้วครับ...แมว
1. เราเองต้องนั่งสมาธิเยอะๆ และต้องหมั่นมาวัดเราทุกสัปดาห์ หรือบ่อยๆ
2. แสดงความเครพ อ่อนน้อมช่วยเหลือการงาน ตามแบบอย่างวัฒนธรรมของวัดเราอย่างสมำเสมอ
3. หาโอกาสถวายสือธรรมะของวัดเราให้ท่าน เช่น พระแท้, เข้าใจ,ศรัธา,ยมโลก,สวรรค์,นำนั่งสมาธิ เป็นต้น
4. หาโอกาสนิมนต์ท่ามมาวัดเราผ่านโครงการต่างๆ เช่น โครงการพระกัลยมิตร, โครงการสอบตอบปัญหา เป็นต้น
5. หาโอกาสไปกราบอาราธนาให้ท่านแสดงธรรมให้ฟังตามกาลที่เหมาะสม เช่น วันโกน, วันพระ เป็นต้น
จบแล้วครับ...แมว
#6
โพสต์เมื่อ 23 January 2009 - 01:23 PM
ลองศึกษาCase Study พระกับไสยเวทนี้ดูนะครับ
http://www.dmc.tv/pr...2547-03-11.html
ส่วนที่เรานำไปถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระภิกษุสงฆ์ เราก็ได้บุญแล้วครับ เพียงแต่ว่าจะได้มากได้น้อย ขึ้นอยู่กับ
1 เจตนาบริสุทธิ์
2 วัตถุทานบริสุทธิ์
3 ผู้รับบริสุทธิ์ เนื้อนาบุญอันเลิศ ในข้อนี้เป็นตัวคูณให้อานิสงค์แห่งบุญนั้นทวีคูณขึ้นตามความบริสุทธิ์ของผู้รับ ผู้ให้ก็ย่อมได้รับผลบุญนั้นตามความบริสุทธิ์แห่งศีล สมาธิ ปัญญา ของผู้รับด้วย
และวาระของการทำทานที่ได้ผลมากครบองค์ประกอบ 3 ประการ คือ
1. ก่อนทำ.. ใจต้องแช่มชื่นในบุญที่กำลังจะทำ
2. ขณะทำ.. ใจต้องแช่มชื่นในบุญที่กำลังทำอยู่หลังจากทำแล้ว หมั่นตรึกระลึกถึงด้วยใจที่ปลื้มปีติในทานที่ทำไปแล้ว
ห้ไปด้วยใจที่ไม่ได้รู้สึกเสียดาย และปลื้มในทานนั้นอย่างมาก
3.หลังจากทำแล้ว หมั่นตรึกระลึกถึงด้วยใจที่ปลื้มปีติในทานที่ทำไปแล้ว
ให้ไปด้วยใจที่ไม่ได้รู้สึกเสียดายและปลื้มในทานนั้นอย่างมาก
http://www.dmc.tv/pr...2547-03-11.html
ส่วนที่เรานำไปถวายเครื่องไทยธรรมแด่พระภิกษุสงฆ์ เราก็ได้บุญแล้วครับ เพียงแต่ว่าจะได้มากได้น้อย ขึ้นอยู่กับ
1 เจตนาบริสุทธิ์
2 วัตถุทานบริสุทธิ์
3 ผู้รับบริสุทธิ์ เนื้อนาบุญอันเลิศ ในข้อนี้เป็นตัวคูณให้อานิสงค์แห่งบุญนั้นทวีคูณขึ้นตามความบริสุทธิ์ของผู้รับ ผู้ให้ก็ย่อมได้รับผลบุญนั้นตามความบริสุทธิ์แห่งศีล สมาธิ ปัญญา ของผู้รับด้วย
และวาระของการทำทานที่ได้ผลมากครบองค์ประกอบ 3 ประการ คือ
1. ก่อนทำ.. ใจต้องแช่มชื่นในบุญที่กำลังจะทำ
2. ขณะทำ.. ใจต้องแช่มชื่นในบุญที่กำลังทำอยู่หลังจากทำแล้ว หมั่นตรึกระลึกถึงด้วยใจที่ปลื้มปีติในทานที่ทำไปแล้ว
ห้ไปด้วยใจที่ไม่ได้รู้สึกเสียดาย และปลื้มในทานนั้นอย่างมาก
3.หลังจากทำแล้ว หมั่นตรึกระลึกถึงด้วยใจที่ปลื้มปีติในทานที่ทำไปแล้ว
ให้ไปด้วยใจที่ไม่ได้รู้สึกเสียดายและปลื้มในทานนั้นอย่างมาก
#7
โพสต์เมื่อ 23 January 2009 - 10:23 PM
ใช่ครับผมจะสำรวจกาย,วาจาและใจ จะไม่เผลอสติคิดตำหนิท่านครับและจะนั่งสมาธิภาวนาให้มากครับขอบคุณมากๆครับ