กับวันนี้มากมายนักเพราะด้วยได้ผ่านพ้นวัยทีน มานาน และได้รู้ซึ้งถึงคำ ๆ นี้นั่นเอง....แต่ที่เห็นหวานแหว๋วและ
ดูเหมือนจะ ตื่น....เต้ลลล ก็คงจะมีแต่พวกหนุ่ม-สาว และเด็ก ๆ วัยรุ่น วุ่นวาย คล้าย ๆ กับเด็ก ๆ ที่บ้านของน้ำใส
2-3 คนนั่นเอง
คำว่า "ความรัก" มิได้สงวนไว้เฉพาะความรักของหนุ่มสาว ในทัศนะ ของน้ำใส น่าจะหมายถึง ความรักสากล คือ
รักในทุกสรรพสิ่งที่อยู่ในโลกนี้ เช่น รักเพื่อนมนุษย์ รักสรรพสัตว์ทั้งหลาย รักต้นไม้ รักภูเขา รักสายน้ำ.............
และรักอื่น ๆอีกมากมายไหน ๆ ก็พูดถึง "ความรัก" กันแล้ว น้ำใสขอนำบทความบางตอนใน หนังสือ Lovely Love
(ความรักที่น่ารัก) ที่ประพันธ์โดย ตะวันธรรม ซึ่งเป็นบทความอันทรงคุณค่า มาถ่ายทอดเป็นบางตอน
เพื่อให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมในปัจจุบันค่ะ
ตกหลุมรักตัวเอง ความรักที่แท้จริงนั้น เริ่มต้น...จากการรักตัวเอง เกิดจากภายในตัว ไม่ได้มาจากคนอื่น
เมื่อใดที่เราคลายความผูกพันในทุกๆ สิ่ง นำใจของเราที่วนเวียนอยู่ภายนอกตัวอยู่เสมอ กลับเข้ามาสู่ที่ตั้งดั้งเดิมของใจ
เราจะค้นพบ...ความสุขที่แท้จริง ที่มาพร้อมกับความรักอันบริสุทธิ์ เพียงเราหลับตาเบา ๆ ผ่อนคลายสบาย วางใจนิ่ง ๆ
เฉย ๆ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ซึ่งเป็นที่ตั้งดั้งเดิมของใจ จนเกิดความสว่าง เป็นความสว่าง ที่มาจากดวงตะวันภายใน
มีความสุขเกิดขึ้น เราจะตกหลุมรักตัวเอง อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เพราะเราได้ค้นพบแล้วว่า... ในกลางกายของเรานั้น
มีความสุขอันยิ่งใหญ่ ที่เราหาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว เราจะเห็นคุณค่า ที่อยู่ในตัวของเรา รู้จักตัวเองจริง ๆ และรักตัวเอง
...ในระดับตกหลุมรักตัวเอง เป็นหลุมรักภายใน แล้วเราจะรู้ว่า ตกหลุมรักคนอื่นมักมีปัญหา กลุ้มอกกลุ้มใจ แต่ถ้า
ตกหลุมรักตัวเอง ใจจะไม่เป็นทุกข์ แถมมีความสุขมากมาย และให้ความพึงพอใจมากกว่า ที่เคยพึงพอใจเสียอีก
ตกหลุมรักตัวเองแล้ว ไม่ไปหลงรักใคร เพราะฉะนั้น ก็จะถึงจุดแห่งความพึงพอใจ...อันสูงสุด ไม่ต้องแสวงหาสิ่งใด
อีกแล้ว นี่คือชีวิต..ในอุดมคติ
ถ้าทั้งหญิงและชายหันมาประพฤติธรรมกันมาก ๆ ก็จะตกหลุมรักตัวเอง เพราะได้รู้ว่า.. ควรจะรักสิ่งใด ...
ที่จะทำให้ใจไม่เป็นทุกข์ แถมมีความสุขมากมาย และให้ความพึงพอใจมากกว่า...ที่เคยพึงพอใจ ความคิดผูกพัน
เกี่ยวกับเรื่อง กาม สมบัติ สตรี สตางค์ บุรุษ ลาภ ยศ สรรเสริฐต่าง ๆ จะหมดไป อยากจะออกห่างจากสิ่งเหล่านั้น
เห็น...สักแต่ว่า...เห็น ไม่ได้คิดอะไร ไม่ได้ผูกพัน เพราะมาถึงสุขภายในอย่างนี้แล้ว พบว่าตัวเราเองนี้ .. มีความ
น่าอัศจรรย์ เป็นบ่อเกิดแห่งความสุขอยู่ภายในตัว โดยเริ่มต้น....จากการหยุดใจ ณ ศูนย์กลางกายฐานที่ 7
ตรงนี้เราจะรู้สึกอยากนำใจมาอยู่กับเนื้อกับตัวของเรา มากกว่าอยู่กับตัวของคนอื่น และเห็นคุณค่าในสิ่งนี้
เหนือสิ่งอื่นใด
รักตัวเอง รักอะไรถึงจะไม่มีพิษภัย ก็ต้องรักตัวของเรานี่เอง ก่อนจะ
รักใครให้รักตัวเองก่อน รักตัวเองกับเห็นแก่ตัวนั้น ไม่เหมือนกัน เห็นแก่ตัวคือ...เติมความไม่บริสุทธิ์ให้ตนเอง
เอาตัวของเราไปคิดไม่ดี พูดไม่ดี ทำไม่ดี เพราะเห็นแต่เฉพาะตัวเรา แต่ถ้า...รักตัวเอง เราจะปรารถนาให้ตัวเอง
มีความสุข จึงต้องสร้างเหตุแห่งความสุข จะเติมแต่ความดี ผ่านมาทางกระบวนการทางความคิด คำพูด การกระทำ
ทำแต่ความดี ทั้งกาย วาจา ใจ สิ่งท่ผ่านมาทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ มีทั้งดีและชั่ว ซึ่งเราจะต้องเลือกว่า
จะเอาสิ่งไหน.ผ่านทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น ทางกาย ทางใจ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับว่าถ้าเรารักตัวเอง
ต้องเติมความบริสุทธิ์ให้เกิดขึ้นกับตัว รักตัวเอง...อย่างถูกหลักวิชชา ต้องคลายความผูกพันหยุดนิ่งอยู่ภายใน
แล้วจะเป็นสุขด้วยตัวของตัวเอง เหมือนอย่างดวงตะวัน ที่มีความสว่าง...โดยตัวเอง เรารัก ตัวเองได้...ฉันใด
เราก็จะรักเพื่อนมนุษย์ได้...ฉันนั้น เราจะไม่เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น ดังนั้น การรักตัวเองจึงไม่ใช่...ความเห็นแก่ตัว
การเห็นแก่ตัวคือ.....ไม่รักผู้อื่น และได้ชื่อว่าเบียดเบียนตัวเองด้วย ฉะนั้น...ถ้าเราจะรักตัวเองได้ เราก็ต้อง
ตกหลุมรักตัวเองเสียก่อนซึ่งเราจะทำได้...ก็ต่อเมื่อ เราลงมือประพฤติปฏิบัติธรรม เพื่อให้ตัวเองมีความสุข
ให้พ้นจากความทุกข์ และแจ่มแจ้งในเรื่องราวของชีวิตการปฏิบัติธรรมเท่านั้น ที่ทำให้เรา...เข้าถึงที่พึ่งที่ระลึก
ภายใน พึ่งได้....ทั้งในปัจจุบัน และในยาม...ที่ใกล้จะละโลก ละโลกไปแล้ว......ก็ยังพึ่งได้อีก เกิดมาใหม่ก็
พึ่งได้ พึ่งได้ตลอดเส้นทางไปจนถึงที่สุดแห่งธรรม
ถ้าเราไม่รักตัวเอง ด้วยการไม่ปฏิบัติธรรมแล้ว ก็ถือว่า...เป็นคนที่ชอบกลทีเดียว เพราะผู้ที่รักตัวเองต้องรับ
ผิดชอบตัวเอง เราจะให้คนอื่นมารับผิดชอบเรานั้น....เป็นไปไม่ได้ เวลาเรา....มีทุกข์ เราก็ทุกข์...ด้วยตัวของ
เราเอง ไม่สามารถ่ายเทความทุกข์...ไปยังผู้อื่นได้ หรือในยามเจ็บไข้ได้ป่วย ความป่วยก็ยังอยู่ในตัวเรา คนอื่น
ทำได้เพียงปลุกปลอบให้กำลังใจบ้างแต่ว่าเืมื่อรักษาอาการป่วยนั้นจนหาย ก็หายด้วยความรับผิดชอบในตัวของเราเอง
สุขได้...ก็ด้วยตัวของเรา ทุกข์...ก็ทุกข์ด้วยตัวของเราเราต้องรับผิดชอบตนเองทั้งสิ้น เราต้องรับผิดชอบสิ่งต่าง ๆ ที่กระทำลงไป รวมถึงวิบากกรรมที่จะเกิดขึ้นนั้น...ด้วยตนเอง จะไปแบ่งปันให้คนอื่นรับผิดชอบ...ไม่ได้เลย