ไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบวันแห่งความรักนี้ ในที่สุดก็มาถึงและก็ผ่านไป........น้ำใสเก็บบทความ
นี้ไว้อ่านและเห็นว่าดีมาก ๆ ที่พูดถึง"ความรัก" อย่างมีสติ คิดว่าน่าจะมีประโยชน์ต่อ เพื่อน พ้อง น้องพี่
ชาว dmc.tv จึงขอนำมาเล่าให้ฟังค่ะ
ผู้ใด ไม่มีสิ่งอันเป็นที่รัก ผู้นั้นก็ไม่มีความทุกข์ เขากล่าวว่า
ผู้นั้นไม่มีความเศร้าโศกปราศจากกิเลสดุจธุรี ไม่มีอุปายาสคือ ความตรอมใจ ความกลุ้มใจ
โบราณท่านสรุปเป็นข้อเตือนใจไว้ว่า "มากรักก็มากน้ำตา หมดรัก ก็หมดน้ำตา มากรัก
ก็มากทุกข์ หมดรักก็หมดทุกข์"
พวกเราปุถุชนทั่วไป แม้ยังไม่สามารถตัดรักได้เด็ดขาด แต่ถ้าหมั่นทำสมาธิ
เจริญมรณานุสติ (การระลึกถึง"ความตาย") เป็นประจำ ก็จะทำให้ความรักมามีอิทธิพลเหนือใจเรา
ไม่ได้มาก มีสติ มีความเด็ดเดี่ยวก็จะมีจิตโศกน้อยกว่าคนทั่วไป อาการไม่หนักหนาสาหัสนัก
เพราะนึกถึงความตายแล้ว ทำให้ใจคลายออกจากรัก ซึ่งเป็นต้นทางของความโศก พอคิดว่า
เราเองก็ต้องตาย จะตายเมื่อไหร่ก็ไม่รู้เท่านี้ก็เริ่มจะได้คิด ความโศก ความรัก เริ่มหมดไปจากใจ
มีสติมาพิจารณาตนเอง ไม่ประมาทขวนขวายในการสร้างความดี จากนั้นตั้งใจเจิญสมาธิภาวนา
(กำหนดจิตให้นิ่ง ๆ ว่าง ๆ ) เต็มที่ก็จะสามารถทำนิพพานให้แจ้งได้ และตัดความรัก ตัดความโศก
ออกจากใจได้อย่างเด็ดขาดในที่สุด....