โรงเรียนอนุบาลฯแห่งนี้ เปลี่ยนตัวคุณอย่างไร ?
#1
โพสต์เมื่อ 10 March 2009 - 10:50 PM
คุณ คือนักเรียนอนุบาลฝันฝันวิทยา คุณได้อะไรบ้างจากโรงเรียนแห่งนี้ และสิ่งที่คุณได้รับจากคุณครูไม่ใหญ่
คุณได้นำไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวัน และ แก้ไขปัญหาต่างๆอย่างไร หลังจากที่คุณได้เข้าโรงเรียนแห่งนี้ ...
มาร่วมกันแบ่งปันประสบการณ์ เพื่อเป็นวิทยาทาน ในการดำเนินชีวิต ในสังคมปัจจุบันต่อไป...
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ...
#2
โพสต์เมื่อ 11 March 2009 - 05:26 AM
ให้คุณค่ามหาศาล จากความรู้ผิด ๆ ถูก ๆ มาเป็นรู้ถูกและเข้าใจความแตกต่างระหว่างวิชาชีพ
และวิชาชีวิต รู้แล้วนำไปปฎิบัติจริงก็เห็นผลจริง เช่น สุขภาพ ดีขึ้น รู้คุณค่าเวลา กริยามารยาท
อ่อนน้อมถ่อมตนมากขึ้น เข้าใจคนรอบข้างมากขึ้น จับดีมีเมตตามากก่ว่าจับผิดอย่างที่เคยเป็น
ช่วยเหลือคนอื่นมากขึ้น เป็นต้น และที่สำคัญที่สุดคนไกลบ้าน แทนที่จะเหงาเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย
อย่างผู้ชรา กลับชอบ TO BE ALONE NOT LONELY AT ALL แต่ กลับตรงกันข้าม
ได้ความวิเวก เสาะแสวงหากายธรรม แข่งขันกับเวลาที่มีอยู่น้อยนิดในชีวิตความเป็นมนุษย์
ต้องกราบขอบพระคุณ คุณครูไม่ใหญ่ ที่ท่านได้จัดตั้งขึ้นและเสียสละเวลาที่มีค่ามหาศาลของท่านมา
นั่งสอนอยู่ทุก ๆ วัน แม้ว่าวันอาทิตย์จะมิใช่ใน โรงเรียนก็ตาม หากไม่มีตะวันธรรม โลกของฉันก็คง
จะมืดมน และโลกของคนอื่น ๆก็คงเฉกเช่นเดียวกัน
#3
โพสต์เมื่อ 11 March 2009 - 07:21 AM
#4
โพสต์เมื่อ 11 March 2009 - 09:19 AM
- ให้ทุกท่านที่ชม...มีใจอาจหาญร่าเริงอยู่ในบุญตลอดเวลา....ไม่ประมาทในธรรม
- ตระหนักถึงความสำคัญของการเป็นผู้ได้โอกาสของการสร้างบารมี
ที่มาก็...ประมาณปี พ.ศ.2497 มีการถ่ายทอดทีวีครั้งแรกในประเทศไทย ถือเป็นข่าวใหญ่ของเมืองไทย ศิษย์หลวงปู่วัดปากน้ำท่านหนึ่งแบกทีวีขาวดำมาวัดปากน้ำเพื่อให้พระเปิดหูเปิดตาว่าเครื่องนี้คืออะไร ทีวีมีการถ่ายทอดข่าว ตกกลางคืนมีการละเล่น หลวงปู่วัดปากน้ำเห็นปุ๊บตบเข่าท่านฉาด พร้อมกับอุทานว่า ฉิบหายใหญ่!
พวกญาติโยมเขากำลังดีใจที่ได้เอาทีวีมาให้พระดู พระเองก็ตื่นตาตื่นใจ พอหลวงปู่ฯอุทานมาอย่างนั้น ทุกคนเงียบหมดเลย ท่านนั่งเงียบมองไปสุดสายตา โยมที่เอาทีวีมาให้ดูก็เข้ามากราบหลวงปู่ฯแล้วถามว่า มันไม่ดีอย่างไร รัฐบาลหวังอย่างยิ่งเลยว่า ต่อแต่นี้ไปในเรื่องการสื่อสาร รัฐบาลจะกระจายข่าวให้ประชาชนได้เปิดหูเปิดตากว้างขวางทั่วโลก แล้วทำไมหลวงปู่ฯว่าไม่ดีล่ะ หลวงปู่ฯท่านก็ตอบว่า “นี่น่ะฉิบหายใหญ่ เรื่องได้กับเสียมันไม่คุ้มกันหรอก โดยเฉพาะกับคนไทยเรามีวินัยหย่อน จะไม่มีการควบคุมที่ดี คอยดูนะ เราแพ้มารอีกแล้ว...นี่ต้องเรียกว่ามาร มันเอาอบายมุขส่งเข้าถึงห้องนอน แต่พระเทศน์ไม่มีสิทธิเข้าไปถึงห้องนอนใครหรอก ถูกจำกัดเวลา ถูกจำกัดสถานที่ แต่นี่มารมันแซงหน้าเราไป เราแพ้มัน มารมันแซงหน้าเราเข้าไปถึงห้องนอน เมื่อก่อนนี้พวกโขน ละคร ยี่เก ถ้ามีก็ต้องไปแสดงตามวัด พูดง่ายๆเขาไปแสดงตามงานวัด พระเทศน์ก็เทศน์ที่ศาลาวัด อย่างนี้ยังพอสู้ แต่ตอนนี้พระเทศน์ที่ศาลาวัด ส่วนมารมันมุดเข้ามุ้ง เข้าห้องนอนได้ขึ้นเตียงไปฉิบ เราแพ้มารมันอีกแล้ว”
DMC จึงเป็นหนึ่งในสื่อสีขาวที่จะมาสู้รบกับ Dark site ในที่ส่วนตัว ซึ่งพระเดชพระคุณหลวงพ่อฯท่านต้องเหน็ดเหนื่อยและให้เวลากับสื่อนี้ เพราะยังไม่อาจหาผู้ที่สามารถทำแทนท่านได้ คงมีบางกลุ่มที่ช่วยแบ่งเบาท่านฯ
ยังไงก็...ท่านว่าอย่างไร ก็ว่าตามกันนะ
ไฟล์แนบ
#5
โพสต์เมื่อ 11 March 2009 - 10:25 AM
ว่ายังสนใจฟังหรือไม่ ได้ความรู้มากมาย มีความอบอุ่น มีกำลังใจ หัวเราะได้ ยิ้มได้ ร้องเพลงได้ ไม่มีเหงา ไม่เศร้าซึมเซ็ง เป็นสุขมากๆค่ะ ช่องนี้ช่องเดียวจริงๆ ไม่ไปช่องอื่นเลย กราบขอบพระคุณในความเมตตาของครูไม่ใหญ่อย่างสูงสุด
รวมถึงทีมงานทุกท่านค่ะ
#6
โพสต์เมื่อ 11 March 2009 - 02:30 PM
โรงเรียนนี้ถึงแม้มีเด็กในชั้นมากที่สุดในโลก แต่ก็เป็นห้องเรียนที่เราอบอุ่นใจ มีความสุขและมีเพื่อนดี ๆ มากมายมารวมกัน
มีคุณครูไม่ใหญ่ใจดีสอนให้เราเป็นคนดี ให้เราเข้าใจชีวิตที่แท้จริงของการเกิดมา
ทำให้เรารักบุญ กลัวบาป ทำให้เราเชื่อกฎแห่งกรรม มีแต่ความเมตตา ใจคิดแต่จะเป็นผู้ให้
เดี๋ยวนี้แม้แต่มดแค่ตัวเดียวก็ไม่กล้าฆ่าอีกเลย
อบอุ่นใจทุกครั้ง อย่างบอกไม่ถูก เวลาเปิด DMC แล้วเห็นคุณครูไม่ใหญ่
ลูกขอกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่อย่างสุดซึ้งที่มีบุญใหญ่ให้ลูกทำ แนะนำทางสว่างให้กับลูก และขอขอบคุณ เป็นกำลังใจให้กับทีมงานอนุบาลฝันในฝัน ทีมงาน DMC ทุกๆท่านด้วยค่ะ
100กะรัต
#7
โพสต์เมื่อ 11 March 2009 - 03:27 PM
#8
โพสต์เมื่อ 11 March 2009 - 06:02 PM
#9
โพสต์เมื่อ 11 March 2009 - 08:44 PM
ขอกราบขอบพระคุณพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยที่ได้แนะหนทางสว่างให้แก่ลูกและครอบครัว
และขอให้เป็นกำลังใจให้พี่ๆทีมงาน DMC ด้วยนะครับ
#10
โพสต์เมื่อ 11 March 2009 - 10:07 PM
ได้เป็นชาวพุทธที่แท้จริง ได้รู้เรื่องราวต่างๆ ที่เราได้เคยได้รู้มาก่อนจนทำให้เราสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองไปในทางที่ดีขึ้นได้ เพราะฉะนั้นเป็นอะไรที่อัศจรรย์ใจมากที่ได้รู้จักกับ DMC และวัดพระธรรมกาย
และที่สำคัญที่สุดคือพระเดชพระคุณหลวงพ่อค่ะ ท่านอยู่ในใจของลูก ๆ ทุกคนไปทั่วโลกค่ะ
#11
โพสต์เมื่อ 12 March 2009 - 12:10 AM
#12
โพสต์เมื่อ 12 March 2009 - 01:50 AM
ที่สอนคนไม่รู้อะไร ให้เดินมาบนเส้นทางนี้อย่างไม่ลังเล
เราชอบหมู่คณะตรงนี้มาก ๆ ...ว่าอย่างไร ว่าตามกัน ถ้าเราไม่เป็นทีม อย่าว่าแต่เค้า ตัวเราเองก็ยังชนะไม่ได้
แล้ว.. ป๋าเราก็สุขภาพดีขึ้นมาก ๆ จากที่เคยล้มป่วย หนัก หนักที่สุดในชีวิต แต่กลับดีเร็วจนทุกคนที่มาเยี่ยมแปลกใจ
เส้นทางสายนี้.. บุญทั้งนั้นค่ะ
กราบขอบพระคุณ คุณครูไม่ใหญ่ ที่มอบโอกาสให้กับลูก ๆ ทุกคน ท่านไม่เคยทอดทิ้งพวกเราเลย
จะขอเป็นเรี่ยวแรงเล็ก ๆ ที่ช่วยขยายงานพระพุทธศาสนาค่ะ
#14
โพสต์เมื่อ 13 March 2009 - 10:18 AM
เกิดมาทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี
#15
โพสต์เมื่อ 14 March 2009 - 01:10 AM
ทำให้รู้ความเป็นจริงของชีวิตตามเหตุและผล
ทำให้เข้มแข็งขึ้น แกร่งขึ้นกว่าเมื่อก่อน รักในสิ่งที่ควรรัก
รู้ลึกซึ้งถึงก้นบึ้งของใจและซาบซึ้งว่าที่พี่งที่ระลึกอันสูงสุด คือพระรัตนตรัย
รู้เป้าหมายของชีวิต ว่าเกิดมาทำไม
ร.ร. สร้างให้คนมี่ยังไม่เป็นสัมมาทิฐิ กลายเป็นคนมีสัมมาทิฐิได้
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป