![รูปภาพ](http://www.gravatar.com/avatar/344c81df4973074811dd610a3e0a39b6?s=100&d=https%3A%2F%2Fwww.dmc.tv%2Fforum%2Fpublic%2Fstyle_images%2Fmaster%2Fprofile%2Fdefault_large.png)
ช่วยด้วยค่า!!!!!
#1
โพสต์เมื่อ 15 May 2009 - 11:35 PM
1.ทำไมต้องสร้างวัดใหญ่ และหรูหรา เอาเงินที่คนทำบุญมาใช้ฟุ่มเฟือยอย่างงี้ได้ยังไง
และเมื่อวันก่อนได้ไปเดินซื้อของที่พันธ์ทิพย์ค่ะ แล้วก็ได้เจอพระเณรกลุ่มหนึ่งกำลังเดินเลือกซื้อคอมพิวเตอร์ เพื่อนคนเดิมเค้าก็เลยถามดิฉันว่า
2.พระมาเดินช้อปปิ้งในห้างได้ด้วยเหรอ แล้วพระถือเงินเองได้ด้วยเหรอ มันบาปไม่ใช่เหรอ
3.ทำไมพระต้องใช้คอมพิวเตอร์ด้วย ไม่บาปเหรอ
ไม่ทราบว่าจะตอบคำถามเหล่านี้และคำถามอื่นๆยังไงให้เป็นไปในทางบวกดีคะ แล้วดิฉันจะทำยังไงให้เค้ายอมเปิดใจรับสิ่งดีๆที่ดิฉันคอยแนะนำให้เค้าดีคะ
#2
โพสต์เมื่อ 16 May 2009 - 07:22 PM
ตอบ.ตอบ:เราชาวพุทธเป็นลูกพระพุทธเจ้า การทำงานก็ควรดูแบบอย่างจากพระองค์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงทำอย่างไร จึงประดิษฐานพระพุทธศาสนาได้อย่างมั่นคง เป็นปึกแผ่นสืบทอดมาถึงเราได้ถึง 2,500กว่าปีแล้ว
ในแง่ศาสนสถาน เราพบว่า วัดที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าประทับอยู่นานที่สุดถึง 20กว่าพรรษา คือ พระเชตวันมหาวิหาร ซึ่งอนาถบิณฑิกเศรษฐีสร้างถวาย สิ้นทรัพย์ถึง 54โกฏิกหาปณะ คือ เท่ากับ 540ล้านกหาปณะ ซึ่ง 1กหาปณะนั้น เทียบค่าของเงินปัจจุบันแล้ว มีค่ามากกว่าดอลลาร์หลายเท่า ดังนั้นเมื่อเทียบค่าเงินปัจจุบัน การสร้างวัดพระเชตวันมหาวิหาร จึงสิ้นค่าใช้จ่ายหลายหมื่นล้านบาท อาจถึงแสนล้านบาท และพระเชตวันมหาวิหารนี่เอง ที่เป็นฐานที่มั่นสำคัญในการวางรากฐานการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ให้ขยายออกไปอย่างกว้างขวางในครั้งพุทธกาล และสืบทอดมาถึงเราในปัจจุบัน
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนให้พระภิกษุเป็นผู้อยู่ง่ายเลี้ยงง่าย ตั้งใจปฏิบัติธรรม ฝึกฝนอบรมตนเอง แต่ในแง่ศาสนสถาน การสร้างวัดซึ่งเป็นสถานที่เผยแผ่ธรรมแก่ประชาชนแล้ว พระองค์กลับทรงชื่นชมอนุโมทนา สนับสนุนการสร้างวัดใหญ่ๆจำนวนมาก นอกจาก เชตวันมหาวิหารแล้ว ก็ยังมีอีกมากมาย เช่น วัดบุพพาราม ซึ่งนางวิสาขามหาอุบาสิกาสร้างถวาย เป็นโลหะปราสาท สิ้นทรัพย์นับเป็นค่าเงินเป็นหมื่นๆล้านบาทเช่นกัน พระองค์ถึงขนาดทรงให้พระมหาโมคคัลลนะ อัครสาวกเบื้องซ้าย ไปเป็นผู้ดูแลการก่อสร้างตามคำของนางวิสาขา เพราะวัดใหญ่ๆ เมื่อสร้างขึ้นโดยมีการใช้ประโยชน์จริง ก็จะสามารถรองรับ ประชาชนได้เป็นจำนวนมาก นับว่าเป็นประโยชน์ต่อคนทั้งแผ่นดิน ผู้ที่ได้ประโยชน์ที่แท้จริง ก็คือประชาชนนั่นเอง
วัดพระธรรมกาย...เราเริ่มสร้างขึ้นจากวัดเล็กๆ มีศาลาปฏิบัติธรรมจุคนได้เพียง 450คน แต่เพราะการตั้งใจเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างจริงจัง ประชาชนที่มาวัดจึงเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ จนเป็นหลักหมื่นหลักแสน จึงจำเป็นต้องสร้างศาลาอาคารมารองรับ
มหาธรรมกายเจดีย์...สร้างขึ้นเพื่อเป็นศูนย์รวมใจปฏิบัติธรรมของพระภิกษุสงฆ์จำนวน 1หมื่นรูป สาธุชนจำนวน 1ล้านคน แม้ขณะกำลังก่อสร้างอยู่ ก็มีคนมาปฏิบัติธรรมกันในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา ครั้งละกว่าแสนคนแล้ว
สิ่งก่อสร้างในวัดพระธรรมกาย จึงสร้างขึ้นเพื่อการใช้งานจริง งบประมาณในการก่อสร้างก็มาจากประชาชนทำบุญ ผู้ใช้ก็คือประชาชน ประโยชน์ก็เกิดขึ้นกับชาวพุทธทั้งแผ่นดิน
Ref:http://www.dmc.tv/pages/guide/page15.html#q8
.................................................................
ตอบ.เป็นโลกวัชชะ ครับ คือชาวโลกติเตียน พระภิกษุที่มีความประพฤติไม่เหมาะสมกับความเป็นพระหรือสมณะสารูป ที่เป็นข่าวในสื่อแขนงต่าง ๆ และที่ไม่เป็นข่าวก็ตาม เป็นกรณีตัวอย่างที่ท้าทายการศึกษาสืบค้นถึงเหตุปัจจัย ที่ส่งผลต่อพฤติกรรม หรือปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น มองได้หลากหลายตามพลวัตรของสังคม ครับถ้ามองจากพระธรรมวินัย และความรู้สึกของสังคมชาวพุทธ ที่เรียกว่า ปัณณัตติวัชชะ โทษทางพุทธบัญญัติ และ โลกวัชชะ โทษทางโลก โทษทางสังคม จึงเสนอเพื่อให้ท่านผู้อ่านกระทู้นี้ ได้นำไปพิจารณาในประเด็น
ต่าง ๆ เพื่อสังคม เพื่อประชาชน และสื่อมวลชนจะได้เข้ามีส่วนในการตรวจสอบความประพฤติของพระสงฆ์เพื่อจะได้แสดงความเป็นพุทธศาสนิกชน ร่วมกันอย่างจริงจังและร่วมกันรักษาสืบทอดพระพุทธศาสนา
..................................................................
ถ้าใช้ในการสืบค้นศึกษาพระพุทธศาสนา สืบค้น ข้อมูลเพื่อเป็นไปในการประพฤติปฎิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงไตรสรณคมน์ ไม่ผิดครับ
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#3
โพสต์เมื่อ 16 May 2009 - 07:37 PM
เข้าใจในการสร้างบารมี ให้เขาเข้าใจ ได้ง่ายให้มากๆขึ้น ด้วยค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ
#4
โพสต์เมื่อ 16 May 2009 - 08:34 PM
#5
โพสต์เมื่อ 16 May 2009 - 08:57 PM
![happy.gif](style_emoticons/default/happy.gif)
![glare.gif](style_emoticons/default/glare.gif)
- แล้วต้องถามเขาต่อว่า...พระสงฆ์ในเมืองไทยมีทั้งหมดเกือบสามแสนรูป...ในชีวิตของเขาตั้งแต่เกิดมาเห็นพระสงฆ์มากสักเท่าใด...ถ้าไม่ได้มาวัดพระธรรมกายหรือโครงการตักบาตรพระ5แสนรูปหรืองานรวมสงฆ์...อย่างมากก็เห็นเพียงหลักพัน...หากการบริโภคสื่อในทางลบ...แล้วก่อให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์โดยเหมาเอาหมดว่าสงฆ์ทั้งสังฆมณฑลเป็นเยี่ยงข่าวนี้ไปหมด...ดูจะเป็นการตัดสินที่ไม่ยุติธรรมกับพระแท้ที่ยังมีอีกมากที่เขายังไม่มีโอกาสเห็นและสัมผัส...รวมถึงพระสุปะฏิปันโนผู้เป็นเนื้อนาบุญอันไม่มีประมาณ...เพราะสื่อคือข่าวสารประกอบไปด้วยข้อเท็จจริงเท่านั้น
![nerd_smile.gif](style_emoticons/default/nerd_smile.gif)
- พระรัตนตรัย อันประกอบด้วย พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นั้นถือเป็นที่พึ่ง ที่ระลึก อันสูงสุด ของชาวโลกและสรรพสัตว์ทั้งหลาย...จะพรากจากกันมิได้...หากยังมีข้อกังขาในพระสงฆ์...ต้องตอบว่า...อันพระสงฆ์นั้นประกอบด้วยอริยสงฆ์และสมมุติสงฆ์...ซึ่งเนื้อนาบุญนั้นหมายเอาถึงอริยสงฆ์เป็นหลัก...สำหรับสมมุติสงฆ์นั้นต้องถือว่าในระหว่างที่ท่านกำลังบำเพ็ญเพียรนั้นท่านได้....
1. ทำหน้าที่เสมือนเนื้อนาบุญ
2. เก็บรักษาพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้านับตั้งแต่พุทธกาล...มาสู่ชนรุ่นหลัง
3. นำธรรมะมาอบรมสั่งสอนให้กับชาวโลก
- หากเพื่อนผู้ช่างสงสัยเป็นชายเป็นผู้ได้โอกาส...คงต้องแนะให้ลองเป็นอุปัฏฐาก...จะได้ไม่เห็นภาพอันไม่งามในคำถามข้อ 2...และถ้าชำนาญทางคอมพิวเตอร์ก็จะหมดข้อสงสัยในข้อ3...ส่วนถ้าจะหมดความสงสัยในข้อ1 ก็ขอเชิญมาอุปสมบท ณ วัดพระธรรมกาย...เพราะหากไม่มาพิสูจน์ก็...คงจักต้องอยู่ในวังวนของสื่อต่อไป
![dry.gif](style_emoticons/default/dry.gif)
#6
โพสต์เมื่อ 16 May 2009 - 09:29 PM
#7
โพสต์เมื่อ 16 May 2009 - 11:30 PM
#8
โพสต์เมื่อ 17 May 2009 - 01:54 AM
#9
โพสต์เมื่อ 17 May 2009 - 04:51 PM
ขอแนะนำ จขกท เพิ่มเติมน่ะค่ะ ขอเดาว่า เพื่อนต้อง เป็นคนดื้อด้วยช่ายเปล่า อย่างนี้เห็นมาเยอะแล้ว แต่น่าจะเป็นคนมีปัญญาดีน่ะ เดาอีกแหล่ะ ขอแนะนำให้หา คำสอนของหลวงพ่อทัตตะไปฝากบ่อยๆ เอาไปให้ทีละแผ่นสองแผ่นน่ะ ทิ้งไว้ให้ แล้วหมั่นถามเรื่องต่างๆ ที่เทศน์ในซีดี ใหม่ๆ อาจไม่ฟัง พอเราถามไปถามมา เดี๋ยวก็อดฟังไม่ได้ คืออย่างนี้ บางคนบางครั้ง เราก็ไปอธิบายให้เขาฟังเองไม่ค่อยได้หรอก มันเท่าๆ กันน่ะ ไม่ค่อยฟังหรอก
ต้องหาผู้รู้ที่มีปัญญาสูง บารมีสูงๆ อย่างมหาปูชนียาจารย์ของเรา นิมนต์ท่านไปสอน เป็นซีดี เป็นหนังสือ ยิ่งถ้าได้ดูดาวธรรม ยิ่งง่าย แต่เดาอีกว่า ใหม่ๆ คงไม่ยอมติดหรอก เอาซีดีง่ายที่สุด ถ้าขึ้นรถเรา เราเปิดเลย หนีเราไปในไม่ได้ คำสอนของหลวงพ่อท่านมีหลากหลายเรื่อง จะค่อยๆ ให้ความกระจ่างกับเพื่อนได้ง่ายที่สุด ยิ่งคนดื้อๆ น่ะโดนคำสอนหลวงพ่อทัตตะไปน่ะ โอ๊ย มันโดนใจง่ะ คุณเองก็ต้องหมั่นฟังน่ะ เวลาเพื่อนๆ ถามอะไรแปลกๆ เอามาตอบเพื่อนต่อได้เลย บางคำถามน่ะ ฟังแล้วหงายหลังเลยค่ะ
#10
โพสต์เมื่อ 17 May 2009 - 06:41 PM
#11
โพสต์เมื่อ 17 May 2009 - 10:11 PM
ขอเพิ่มเติมเล็กน้อยดังนี้
(๑).คนไทยมักกินยาไม่ถูกกับโรค กล่าวคือ เวลาปวดหัวก็ไปกินยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อ , เวลาปวดท้องก็ไปกินยาแก้ปวดหัว เป็นต้น
พระพุทธศาสนามียาแก้โรคทุกชนิด , แต่คนมักหยิบยาผิด , ไม่ตรงกับโรค , แล้วก็ไปโทษว่าพระพุทธศาสนา"ไม่ดีล้าสมัย" , แต่สาเหตุที่แท้จริงก็เพราะว่า ตนเองไม่ยอมศึกษาพระธรรมคำสอนจากพระไตรปิฎกโดยตรง , แต่ชอบไปอ่าน pocket book ตามห้าง ซึ่งก็ผิดบ้างถูกบ้างตามความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนคนนั้นๆ.
ยกตัวอย่างเช่น
(๑.๑). "ในด้านชีวิตส่วนตัวของแต่ละคน", พระพุทธศาสนาสอนให้"มีความสุขความพอใจด้วยเครื่องเลี้ยงชีพที่หามาได้ด้วยความเพียรพยายามอันชอบธรรมของตน(สันโดษ)(มงคลชีวิตข้อ๒๔)", แต่ทุกวันนี้คนเป็นหนี้บัตรเครดิต, รายได้ต่ำรสนิยมสูง.
(๑.๒). "ในด้านส่วนรวม", พระพุทธศาสนาสอนให้เสียสละให้ส่วนรวม, กล่าวคือให้บำเพ็ญทานแก่สังคมส่วนรวม(มงคลชีวิตข้อ๑๕)และสงเคราะห์ญาติ,สงเคราะห์โลก(มงคลชีวิตข้อ๑๗), แต่คนไทยกลับตระบัด, คือบำเพ็ญทานให้ตนเอง, ให้รางวัลชีวิตตนเองอย่างมากมาย, สงเคราะห์ตัวเองอย่างมหาศาล, สร้างบ้านใหญ่อย่างกับปราสาทราชวัง, แต่ดันกลับไปสันโดษในเรื่องส่วนรวม,ทอดทิ้งวัดวาอารามโรงเรียนโรงพยาบาลและการเผยแผ่พระพุทธศาสนา,
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะหลายสิบปีที่ผ่านมา สื่อสารมวลชนทั่วโลกสอนมิจฉาทิฐิให้คน, จึงต้องมีสื่อสัมมาทิฐิอย่าง DMC. และโครงการเด็กดี V-STAR [ VIRTUOUS STAR = ดาวแห่งความดี ] สอนคนให้มีสัมมาทิฐิ.
#12
โพสต์เมื่อ 17 May 2009 - 10:39 PM
#13
โพสต์เมื่อ 18 May 2009 - 11:46 AM
![glare.gif](style_emoticons/default/glare.gif)
เจอแบบนี้ เป็นธรรมดาที่สุดเลย เจอกันทุกคนครับ
และขออนุโมทนาบุญกับทุกคำตอบครับ ดีจังเลย
...
แต่ทำใจนะครับ แม้ว่าตอบคำถามได้ดีแล้ว
ก็ยังขึ้นอยู่กับทิฏฐิของคนฟังครับ
ก็ทำใจใสใส แล้วก็เฉยเฉยไว้ครับ
วันที่ทิฏฐิลด ศรัทธาเกิด บุญได้ช่อง
นั้นแหล่ะครับ ถึงจะเข้าใจ
...
สาธุ สาธุ ครับ
![happy.gif](style_emoticons/default/happy.gif)
#14
โพสต์เมื่อ 18 May 2009 - 12:02 PM
บางทีเราก็ต้องเข้าใจด้วยนะครับว่า บางวัดไม่ได้มีอุบาสกมาก หรืออาจไม่มีเลย พระท่านก็เลยต้องมาเดินดูด้วยตัวเองน่ะครับ
หรือ บางวัด มัคทายกที่เข้าวัด ก็ล้วนแล้วแต่มีอายุ(มาก)ทั้งสิ้น เรื่องคอมพิวเตอร์เลยไม่ต้องพูดถึง หากจะฝากซื้อ ก็ซื้อไม่ถูกอีก ดังนั้น ท่านก็เลยอาจต้องมาด้วยตัวเอง
เอาอย่างนี้สิครับ บอกเพื่อนให้ไปสมัครเป็นมัคทายกวัดใดวัดหนึ่งสิ ยังหนุ่มยังแน่น คิดว่า สามารถดูแลพระเณรวัยเดียวกันได้สบายครับ
#15
โพสต์เมื่อ 18 May 2009 - 06:54 PM
3.ทำไมพระต้องใช้คอมพิวเตอร์ด้วย ไม่บาปเหรอ[/b]
เห็นด้วยกับคุณหัดฝันค่ะ
พระท่านอาจมาหาซื้ออุปกรณ์เพื่อการศึกษาธรรมะก็ได้ เหมือนพระวัดเราที่ต้องใช้สื่อทันสมัยในการสอนศีลธรรมแก่สาธุชนและในการศึกษาภาษาบาลี หากท่านไม่มีเจ้าหน้าที่อุบาสก/อุบาสิกาช่วยจัดหาให้ ท่านก็จำเป็นต้องไปจัดหาเอง ซึ่งก็ทำให้ต้องไปเดินห้าง ดังนั้นหากเป็นตนเองคงต้องพิจารณาว่าท่านเดินห้างไหน booth ไหน เดินด้วยอาการกิริยาอย่างไร และจัดหาซื้ออะไร ก่อนที่จะสรุปว่าท่านได้ทำสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่นะคะ
สมัยนี้เทคโนโลยีก้าวหน้าไปมาก การนำอุปกรณ์ที่ทันสมัยเช่นคอมพิวเตอร์ ฯลฯ มาใช้ช่วยในการศึกษาหรือเผยแผ่ธรรมะ ไม่อาจสรุปว่าเป็นเรื่องไม่ดีเสมอไป ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ของการนำมาใช้ เหมือนที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านใช้ดาวเทียมและ Website ในการเผยแผ่ธรรมะจากโรงเรียนอนุบาลฯ ซึ่งได้ช่วยปิดอบายให้ผู้คนมากมายนับไม่ถ้วนน่ะค่ะ
หวังว่าเพื่อนของคุณ SayNo2Lกฮ จะมีความเข้าใจที่ถูกต้องและศรัทธาในพระรัตนตรัยเพิ่มขึ้นนะคะ เพราะจากที่คุณ SayNo2Lกฮ เล่ามาสะท้อนให้เห็นว่าลึกๆ แล้ว เพื่อนของคุณ SayNo2Lกฮ ก็มีใจรักและเป็นห่วงพระพุทธศาสนาอยู่ จึงไม่อยากเห็นสิ่งที่ไม่ถูกไม่ควร แต่อาจจะมีความฝังใจว่าข้อวัตรปฏิบัติของพระภิกษุสงฆ์ต้องเป็นแบบในอดีตเท่านี้น จึงเห็นสิ่งที่ต่างจากในอดีตเป็นสิ่งที่ไม่เหมาะสม โดยลืมมองเหตุผลด้านอื่นๆ ไปน่ะค่ะ ขอเป็นกำลังใจให้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรต่อไปนะคะ
#16
โพสต์เมื่อ 19 May 2009 - 01:14 AM
ทำไมพระถึงจะใช้ไม่ได้ล่ะครับ
แต่ถ้าพระไปซื้อปืนซิครับ ไม่ถูก
#17
โพสต์เมื่อ 19 May 2009 - 11:03 PM
มาอ่านแล้วได้กำลังใจที่จะไปทำหน้าที่ต่อเลยค่ะ
ตอนนี้ก็จะพยายามตอบคำถามทุกคำถามให้ดีที่สุดค่ะ
โดยเฉพาะเวลาที่ชวนเค้ามาฟังหลวงพ่อในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝัน
แรกๆเค้าก็คำถามเยอะมากๆเลยค่ะ แต่รู้สึกว่าพักหลังมาเค้าจะเริ่มมีคำถามน้อยลงค่ะ
รู้สึกไม่ค่อยเหนื่อยมากอย่างเมื่อก่อนเลยค่ะ
ขอบคุณมากๆสำหรับกำลังใจของทุกๆท่านนะคะ
รักเวบนี้มากๆเลยค่ะ
ปล.ถ้าใครมีคำแนะนำดีๆที่อยากจะแนะนำก็เชิญเลยนะคะ ยินดีมากๆค่ะ