ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

อารมณ์เริ่มแปรปวน หงุดหงิด โมโห แก้ยากมาก ๆ ค่ะ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 8 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 คณนันท์ ค่ะ

คณนันท์ ค่ะ
  • Members
  • 73 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 June 2009 - 11:50 AM

เป็นเพราะอะไรไม่รู้ค่ะ เปิดร้านไม่ค่อยมีลูกค้าเลย พยายามว่าจะไม่ท้อ สวดมนต์นั่งสมาธิ นึกถึงบุญ แต่ก็เคลียดค่ะ

#2 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 June 2009 - 02:44 PM

ปฏิปทาหลวงปู่ฯ....จิตเกษมผ่องใส เงินไหลเข้า...ในทางโลก...ถ้าต้องทำสิ่งใดให้เอาใจจรดไว้ตรงนั้น...

ส่วนเรื่องทางภายนอก...เป็นเรื่องบริหารจัดการ...คน...สินค้า...อาคารสถานที่...ประชาสัมพันธ์...กลยุทธ...ความต้องการลูกค้า...รายรับรายจ่าย
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#3 ลูกอินทรีย์หัดบิน

ลูกอินทรีย์หัดบิน
  • Members
  • 369 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 June 2009 - 05:22 PM

เงินน่ะมาแน่ ๆ ขอแต่ทำใจให้รื่นเริง ผ่องใสเบิกบาน

ลองนั่งสมาธิ เริ่มจากไม่คิด ว่างจากอารมณ์เหมื่อนตอนใกล้จะนอนหลับ

แล้วนึกถึงภาพตอนถวายปัจจัย 20 บาท ร้อยบาทดู แต่ละสตางค์ล้วนเอามาช่วยคนบรรลุธรรมกันทั้งนั้น

รายการชีวิตในสังสารวัฏ

ยืนยันตัวจริงเสียงจริงเจ้าของกรณีศึกษากฎแห่งกรรม

http://video.dmc.tv/programs/life_in_samsara/page5.html


หนังสือเรียนธรรมะ DOU           http://book.dou.us/d...ya-book-gl.html

GL 101 จักรวาลวิทยา                            http://book.dou.us/gl101.html
GL 102 ปรโลกวิทยา                              http://book.dou.us/gl102.html
GL 203 กฎแห่งกรรม                             http://book.dou.us/gl203.html
GL 305 ปฏิปทามหาปูชนียาจารย์           http://book.dou.us/gl305.html


#4 ดอกอุบล

ดอกอุบล
  • Members
  • 926 โพสต์

โพสต์เมื่อ 07 June 2009 - 06:57 PM

หมั่นสั่งสมบุญคือ ทาน ศีล ภาวนา ให้มากๆทุกวันๆแล้วอธิษฐานจิตล้อมกรอบเอาไว้ให้ดีๆ แล้วก็สังเกตดูอาชีพของเราว่าเป็นสัมมาอาชีวะหรือไม่ถ้าเป็นสัมมาอาชีวะก็ลุยรวยได้เลยครับ

#5 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 07 June 2009 - 07:10 PM

สวัสดีครับ ยอดกัลยณมิตรที่ผ่านมาอ่านทุกๆ ท่านครับ

วันนี้อ่านหนังสือ "เส้นทางแห่งคุณค่า เส้นทางอุบาสก" โดย.พระ ดร. นพ.ปวิทัย วชิรวิชโช

ทำให้คิดได้ว่า เรามีชีวิตในภาวะแบบนี้ ยังไม่ใช่เส้นทางที่จะสู่ชีวิตอันประเสริฐ

การครองเรือนสุขน้อยทุกข์มาก

ดังบาลีที่กล่าวใน วัจฉนชาดก บางตอนว่า

QUOTE
บุคคลที่เป็นผู้ครองเรือน ถ้าหากไม่มีมานะพยายาม ทำการงานก็ดี ไม่กล่าวคำมุสาก็ดี

ไม่ใช้อำนาจในการลงโทษผู้อื่นก็ดี การครองเรือนก็เป็นไปโดยยาก เมื่อเป็นเช่นนี้ใครเล่าจะครองเรือน

โดยไม่ให้บกพร่อง ให้เกิดความยินดีนั้นยากแสนยาก


ผมเห็นใจนะครับท่าน จขกท. เปิดร้านลูกค้าไม่มี ก็ทุกข์ครับ แต่ไงต้องสู้ต่อไปครับ

คิดเสียว่าบุญเรายังอยู่ก้นแก้วอยู่ หมั่นเติมไปเรื่อยๆ ก็จะสำเร็จ ครับ

เป็นธรรมดาครับ เวลาเราเจอปัญหาหรือแก้ไขไม่ได้...เช่น หุ้นขึ้นหุ้นลง เราไปบังคับมันไม่ได้ แต่เราเห็นมัน

ถ้าไม่ได้อย่างที่คิด เรามักขาด "สติ" สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาคือ "คำถาม"

และคำตอบก็คือ "ความว่างเปล่า"...

ผลที่ได้รับจากความว่างเปล่านั้นก็คือ "ความฟุ้งซ่าน"

บ่อยครั้งที่ใครหลาย ๆ คนฟุ้งซ่านไปกับการคิดอะไรไม่ออกเมื่อต้องเผชิญกับปัญหา...

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ หรือเรื่องความรัก...

แม้ว่าบางคนพยายามจะเป็นนักแก้ปัญหาที่ดี แต่ยิ่งคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก...

"เหตุผลเดียวที่แก้ปัญหาไม่ได้คือ การใช้อารมณ์และความรู้สึกแก้ไขปัญหา.."

เวลาคนเราใช้อารมณ์เป็นที่ตั้ง...เรามักจะทำอะไรโดยไม่มีมีเหตุผล เหมือนคนบ้า

เหมือนคนปัญญาอ่อน พูดง่าย ๆ ก็คือ "งี่เง่า"...

เลยทำให้คำตอบของทุก ๆ คำถามคือความว่างเปล่า...

ไม่มีทางออกใด ๆ ให้กับปัญหานั้น ลองเปรียบเทียบดูว่า

ระหว่างคนสองคนที่เจอทางตันเป็นกำแพงสูงใหญ่

คนแรกทำทุกวิถีทางที่จะทุบกำแพงนั้น...

ในขณะที่อีกคนพยายามหาวิธีป ีนกำแพงเพื่อจะข้ามไปให้ได้...

อยากถามว่าวิธีไหนจะได้ผลกว่ากัน..

การแก้ปัญญหาที่ดีจึงควรมีสติเป็นตัวช่วยเสมอ...

เจอปัญหาก็อย่าเพิ่งมุทะลุ...อย่าโวยวาย...อย่าทำให้ตัวเองเครียดกับปัญหานั้น ๆ

ทุบกำแพง ก็เหมือนทำร้ายตัวเองทางอ้อม เหนื่อยก็เหนื่อย เจ็บตัวอีกต่างหาก

ลองถอยหลังออกมาทีละก้าว ๆ เราจะได้มีเวลาสำรวจดูว่า

กำแพงนั้นสูงใหญ่แค่ไหน กว้างแค่ไหน ลึกแค่ไหน มีหนทางปีนป่ายข้ามมันไปได้อย่างไร...

ทุกปัญญหาย่อมมีทางออกเสมอ..เหมือนคำกล่าวที่ว่า..

"จะกลัวความมืดไปทำไม...พรุ่งนี้ก็เช้าแล้ว..."

บางทีปัญญหาก็ต้องอาศัยเวลามาเป็นตัวขับเคลื่อน ให้เกิดความคิดที่จะหาหนทางแก้ไข..

เมื่อเราคิดอย่างถี่ถ้วน..เราจะรู้ว่าควรทำอะไร ไม่ควรทำอะไร ทำอะไรก่อน ทำอะไรหลัง...

และเราควรจะใช้เวลาแก้ไขปัญหานั้นมากน้อยเพียงใด...

เร็วไปก็ไม่เกิดประโยชน์ ช้าไปก็อาจทำให้ปัญหานั้นบานปลาย และแก้ไม่ได้...

เชื่อมั่นเถอะว่า...มีสติเมื่อไหร่ เราก็จะพบทางออกเมื่อนั้น...

บางทีทางที่มันตันก็จะช่วยสอนให้เรารู้ว่า...

ถ้าไม่ประมาทกับการใช้ชีวิต เราก็จะไม่ประมาทกับการแก้ไขปัญหา

และเมื่อใดที่เรารู้จักแก้ไขปัญหาด้วยความรอบคอบ เราจะรู้จักคุณค่าที่มีอยู่ในตัวเอง...

อ่านเจอข้อความดี ๆ จากหนังสือฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึง

ของอาจารย์สมชาติ กิจยรรยง เขากล่าวไว้ว่า...

"ปัญหา ทำให้เราเข้มแข็ง
เวลาทำให้เราเชี่ยวชาญ
สถานการณ์ ทำให้เรารู้จักแก้ไข
การตัดสินใจ ทำให้เรารู้ว่าถูกหรือผิด
ความคิด ทำให้เราเลิศทางปัญญา..."

หากวันนี้พบเจอทางตัน...ถอยหลังก้าวออกมาอย่างมีสติ...

แล้วเราจะค้นพบอะไรบางอย่าง...อะไรที่ว่านั้น...

มันอยู่ในความคิดที่นิ่งสงบของเราแล้วนั่นเอง...


ผมมีปัญหาของคนในโลกนี้มาฝาก จขกท.และทุกๆ ท่าน ลองดูปัญหาของพวกเขา เทียบกับเราดูครับ

ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  3.JPG   37.21K   44 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  1.JPG   36.58K   50 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  2.JPG   27.37K   47 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  4.JPG   30.48K   52 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  5.JPG   40.83K   51 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  6.JPG   37.74K   44 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  7.JPG   52.81K   40 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  8.JPG   39.38K   41 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  9.JPG   46.14K   44 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  10.JPG   40.99K   37 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  11.JPG   45.1K   47 ดาวน์โหลด
  • แนบไฟล์  12.JPG   37.73K   40 ดาวน์โหลด


ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#6 usr17578

usr17578
  • Members
  • 161 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 June 2009 - 09:24 AM

ขอแบ่งปันประสบการณ์ที่เพิ่งผ่านมาหมาดๆค่ะ ต้งแต่วันแรกที่ได้รู้ข่าวการสร้างองค์พระปิดเจดีย์ตอนนั้นปัจจัยจะทำบุญถวายภัตตาหารพระ 1000 รูปที่เคยทำทุกเดือนเดือนละ 1000 ก็ยังแทบไปวัดก็ได้ปัจจัยที่น้องชายแบ่งให้ใช้ เพราะเป็นช่วงที่เงินขาดมือเอามากๆน้องชายก็แบ่งมาให้ใช 400-500 บาทซึ่งเราก็ต้องใช้ให้ได้ทั้งเดือน แต่ด้วยความที่กำลังไม่ตกและรู้สึกเฉยๆกับสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งๆที่ตัวเองจะต้องหาเงินให้ได้เดือนละประมาณ 40,000 หมื่นบาทเพื่อให้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่ตัวเราเป็นคนสร้างขึ้นไว้ก่อนหน้านี้ แต่ด้วยกำลังใจทที่ไม่ตกถึงแถมรู้สึกดีมากๆเพราะช่วงนั้นได้ดู DMC ตอนที่ย้อนหลังประวัติการสร้างวัดการอัญเชิญพระบรมพุทธเจ้า การสร้างถาวรวัตถุที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อท่านเมตตาเอามาให้ลูกๆของท่านดูย้อนหลัง ซึ่งภาพต่างๆเหล่านั้นเราไม่ได้มีส่วนร่วมกับเขาเลยแม้แต่เล็กน้อยทั้งๆที่บ้านก็ยอู่ อำเภอติดกับวัดแท้ๆแต่ไม่เคยได้รับรู้อะไรเลยไม่ว่าจะด้านบวกหรือลบก็ตาม แต่พอดูแล้วน้ำตาแห่งความปีติไหลอาบแก้มเราทั้งวันจนสอื้นรู้สึกดีใจและอนุโมทนาบุญกับทุกท่านที่มีบุญมาร่วมกันสร้างวัด ทำให้คิดได้ว่าพวกเขาช่างมีชิตใจที่ยิ่งใหญ่เหลือเกิน และนี่เองที่ทำให้เป็นวัดพระธรรมกายมาได้ทุกวันนี้ ดีใจมากที่ได้ดูภาพนั้นและก็คิดว่าจะจององค์พระรุ่นปิดเจดีย์ 12 องค์ ทั้งๆที่ไม่มีปัจจัยเลย(ก็ขนาดจะกินไปแต่ละมื้อน้องชายยังต้องแบ่งเงินให้แล้วจะไปเอาปัจจัยที่ไหนมาทำบุญ) แต่สิ่งนั้นไม่ได้เป็นอุปสรรคเลยแค่เรามีใจที่เป็นใหญ่และผ่องใสอยู่เสมอนึกถึงบุญนั้นๆแล้วก็เกิดความปีติทุกครั้ง กำลังใจไม่เคยตก เชื่อมั่นในคุณของพระรัตนตรัย เชื่อว่าเราต้องทำได้ และก็อดทนยอมรับกับวิบากกรรมที่เกิดขึ้น หลังจากนั้น 2 เดือนเราก็บอกบุญสร้างองค์พระได้ 30 องค์รวมทั้งที่ตัวเองจองด้วย ทำเต็มองค์ด้วย ณ.วันนี้เป็นองค์ที่ 31 แล้วและอาจจะมีตามมาอีกเร็วๆนี้ อยากให้กำลังใจค่ะ

#7 สาธุธรรม

สาธุธรรม
  • Members
  • 1124 โพสต์

โพสต์เมื่อ 08 June 2009 - 10:37 AM

สวดมนต์ นั่งสมาธิแล้ว
อย่าลืม อธิษฐานให้

ใจของเราผ่องใส ไร้ซึ่ง ความเครียดเซ็งเศร้าเบื่อกลุ้ม ด้วยค่ะ

ให้เห็นทุกข์ เข้าใจในทุกข์ที่เห็น โดยไม่ต้องไปประสบเองค่ะ


หยุดนิ่งนั้นแหละไซร้ พรหมจรรย์
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ

สุนทรพ่อ

#8 usr29468

usr29468
  • Members
  • 99 โพสต์

โพสต์เมื่อ 09 June 2009 - 01:02 PM

ต้องแก้ไขด้วยการ ทำแบบนี้

แนะนำให้นำเงินติดตัวไป เพื่อไปเสียค่า อาแปะเจี๊ย ให้กับตัวเอง ด้วยการ

ปิดร้านแล้ว ไปเที่ยว พักผ่อน นั่งสมาธิ ตามรีสอร์ทสวยๆ วิวทะเล หรือ ภูเขา ดีกว่า พอใจใส,ใจสบายแล้วค่อยมาเปิดใหม่

ระหว่างทางอาจจะได้พบกับ ทางออก ของปัญหา หรือแนวทางแก้ไขให้กับตัวเอง หรืออาจได้ องค์พระใสๆติดตัวมา

ดีกว่า เสียค่า อาแปะเจี๊ย ให้กับ อารมณ์เริ่มแปรปวน หงุดหงิด โมโห ไป ฟรีรีรีรรีรีรีวววววว(นอกนึกดูดีๆครับ เสียมากกว่านี้อีก)

เสียดายจังงงงงงง
cool.gif


#9 sirirat

sirirat
  • Members
  • 13 โพสต์
  • Location:32 ถ.ชลประทาน ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่

โพสต์เมื่อ 13 June 2009 - 11:25 AM

แวะเข้ามาเยี่ยมให้กำลังใจ จขกท ค่ะ happy.gif

เลยได้ ข้อคิด ดี ๆ จาก นักเรียนอนุบาล เถลิงเกียรติ

ขออนุโมทนาบุญค่ะ happy.gif