ดิฉันอายุ 22 ปี กำลังเรียนมหาวิทยาลัยปีสุดท้าย เข้าวัดพระธรรมกายมาได้ 4 ปีแล้วคะ ดิฉันเป็นคนหน้าตาดี มีเพศตรงข้ามให้ความสนใจเยอะ ผู้หญิงที่มีอายุและเด็กๆก็รักและชื่นชมตัวดิฉัน จัดว่าเป็นคนมีมนุษย์สัมพันธ์ดีคนหนึ่ง เป็นคนมีเสน่ห์ แต่ไม่มีเพื่อนหญิง มีแต่เพื่อนชาย ไม่รู้เป็นเพาะกรรมใดและจะแก้ไขอย่างไร ดิฉันไปวัดทุกวันอาทิตย์ต้นเดือน เคยสร้างพระธรรมกายประจำตัว 1 องค์ อยากขอคำแนะนำว่าควรจะทำบุญอะไรอีกบ้าง ถึงจะมีคนรักเมตตาปรานีทุกเพศทุกวัย
![รูปภาพ](http://www.gravatar.com/avatar/76b3730b887fcd792f2d0569637c6f45?s=100&d=https%3A%2F%2Fwww.dmc.tv%2Fforum%2Fpublic%2Fstyle_images%2Fmaster%2Fprofile%2Fdefault_large.png)
คนดีไม่มีเพื่อน
เริ่มโดย วิวัฏฏะ, Jul 14 2009 05:11 PM
มี 5 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 14 July 2009 - 05:11 PM
#2
โพสต์เมื่อ 14 July 2009 - 06:57 PM
ลองศึกษา เรื่อง สังคหวัตถุ ๔ แล้วก็ ทำ อย่างต่อเนื่อง สิครับ
สังคหวัตถุ 4
(ธรรมเครื่องยึดเหนี่ยว คือยึดเหนี่ยวใจบุคคล และประสานหมู่ชนไว้ในสามัคคี, หลักการสงเคราะห์
- bases of sympathy; acts of doing favors; principles of service;
virtues making for group integration and leadership)
1. ทาน
(การให้ คือ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เสียสละ แบ่งปัน ช่วยเหลือกันด้วยสิ่งของตลอดถึงให้ความรู้และแนะนำสั่งสอน
- giving; generosity; charity)
2. ปิยวาจา หรือ เปยยวัชชะ
(วาจาเป็นที่รัก วาจาดูดดื่มน้ำใจ หรือวาจาซาบซึ้งใจ คือกล่าวคำสุภาพไพเราะอ่อนหวานสมานสามัคคี
ให้เกิดไมตรีและความรักใคร่นับถือ ตลอดถึงคำแสดงประโยชน์ประกอบด้วยเหตุผลเป็นหลักฐานจูงใจให้นิยมยอมตาม
- kindly speech; convincing speech)
3. อัตถจริยา
(การประพฤติประโยชน์ คือ ขวนขวายช่วยเหลือกิจการ บำเพ็ญสาธารณประโยชน์
ตลอดถึงช่วยแก้ไขปรับปรุงส่งเสริมในทางจริยธรรม
- useful conduct; rendering services; life of service; doing good)
4. สมานัตตตา*
(ความมีตนเสมอ** คือ ทำตนเสมอด้วยปลาย ปฏิบัติสม่ำเสมอกันในชนทั้งหลาย และเสมอในสุขทุกข์โดยร่วมรับรู้ร่วมแก้ไข
ตลอดถึงวางตนเหมาะแก่ฐานะ ภาวะ บุคคล เหตุการณ์และสิ่งแวดล้อม ถูกต้องตามธรรมในแต่ละกรณี
- even and equal treatment; equality consisting in impartiality, participation a
nd behaving oneself properly in all circumstances)
----------------------------------------------
* ในปกรณ์ฝ่ายสันสกฤตของมหายานะ เป็น สมานารฺถตา = บาลี:
สมานตฺถตา แปลว่า ความเป็นผู้มีจุดหมายร่วมกัน หรือความคำนึงประโยชน์อันร่วมกัน
(having common aims; feeling of common good)
** คำแปลนี้ถือตามที่แปลกันมาเดิม แต่ตามคำอธิบายในคัมภีร์
น่าจะแปลว่า 'ความมีตนร่วม' (participation) โดยเฉพาะมุ่งเอาร่วมสุขร่วมทุกข์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรรม
****************
ทบทวนเรื่อง มงคลชีวิต ๓๘ , กัลยาณมิตรธรรม ๗ , สิงคาลกะสูตร เกี่ยวกับบุคคลในทิศ ๖ ก็ดีนะครับ
กระทู้เก่าที่เกี่ยวข้อง
http://www.kalyanami...i...=8&Itemid=1
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=9099
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=2185
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=2558
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=7957
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=1988
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=2134
สังคหวัตถุ 4
(ธรรมเครื่องยึดเหนี่ยว คือยึดเหนี่ยวใจบุคคล และประสานหมู่ชนไว้ในสามัคคี, หลักการสงเคราะห์
- bases of sympathy; acts of doing favors; principles of service;
virtues making for group integration and leadership)
1. ทาน
(การให้ คือ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เสียสละ แบ่งปัน ช่วยเหลือกันด้วยสิ่งของตลอดถึงให้ความรู้และแนะนำสั่งสอน
- giving; generosity; charity)
2. ปิยวาจา หรือ เปยยวัชชะ
(วาจาเป็นที่รัก วาจาดูดดื่มน้ำใจ หรือวาจาซาบซึ้งใจ คือกล่าวคำสุภาพไพเราะอ่อนหวานสมานสามัคคี
ให้เกิดไมตรีและความรักใคร่นับถือ ตลอดถึงคำแสดงประโยชน์ประกอบด้วยเหตุผลเป็นหลักฐานจูงใจให้นิยมยอมตาม
- kindly speech; convincing speech)
3. อัตถจริยา
(การประพฤติประโยชน์ คือ ขวนขวายช่วยเหลือกิจการ บำเพ็ญสาธารณประโยชน์
ตลอดถึงช่วยแก้ไขปรับปรุงส่งเสริมในทางจริยธรรม
- useful conduct; rendering services; life of service; doing good)
4. สมานัตตตา*
(ความมีตนเสมอ** คือ ทำตนเสมอด้วยปลาย ปฏิบัติสม่ำเสมอกันในชนทั้งหลาย และเสมอในสุขทุกข์โดยร่วมรับรู้ร่วมแก้ไข
ตลอดถึงวางตนเหมาะแก่ฐานะ ภาวะ บุคคล เหตุการณ์และสิ่งแวดล้อม ถูกต้องตามธรรมในแต่ละกรณี
- even and equal treatment; equality consisting in impartiality, participation a
nd behaving oneself properly in all circumstances)
----------------------------------------------
* ในปกรณ์ฝ่ายสันสกฤตของมหายานะ เป็น สมานารฺถตา = บาลี:
สมานตฺถตา แปลว่า ความเป็นผู้มีจุดหมายร่วมกัน หรือความคำนึงประโยชน์อันร่วมกัน
(having common aims; feeling of common good)
** คำแปลนี้ถือตามที่แปลกันมาเดิม แต่ตามคำอธิบายในคัมภีร์
น่าจะแปลว่า 'ความมีตนร่วม' (participation) โดยเฉพาะมุ่งเอาร่วมสุขร่วมทุกข์
พจนานุกรมพุทธศาสตร์ ฉบับประมวลธรรรม
พระธรรมปิฎก (ประยุทธ์ ปยุตฺโต)
****************
ทบทวนเรื่อง มงคลชีวิต ๓๘ , กัลยาณมิตรธรรม ๗ , สิงคาลกะสูตร เกี่ยวกับบุคคลในทิศ ๖ ก็ดีนะครับ
กระทู้เก่าที่เกี่ยวข้อง
http://www.kalyanami...i...=8&Itemid=1
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=9099
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=2185
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=2558
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=7957
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=1988
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=2134
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม
#3
โพสต์เมื่อ 14 July 2009 - 06:58 PM
บำเพ็ญธรรมชื่อว่า "สังคหวัตถุ 4" ครับ อันประกอบด้วย ทาน (การให้) ปิยวาจา (คำพูดอ่อนหวาน) อัตถจริยา (การช่วยเหลือ) สมาณตัตา (ทำทั้งสามประการอย่างสม่ำเสมอต่อเนื่อง เสมอต้นเสอมปลาย หรืออีกนัยหนึ่งคือวางตนให้เหมาะสมกับสถานภาพของตน
นอกจากนี้ ยังมีอีกประการคือ การเจริญเมตตา คือ การหมั่นระลึกแผ่เมตตาไปยังผู้คนทั้งหลายที่เรารู้จักก็ดีไม่รู้จักก็ดีเสมอๆ โดยนึกปรารถนาให้เขาทั้งหลายเหล่านั้น จงมีความสุขทั้งกายและใจ เป็นต้น
นอกจากนี้ เวลาทำบุญอะไรแล้วอย่าลืมอธิษฐานจิตว่า ขอให้เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย
นอกจากนี้ ควรสำรวจการพูดของตนเองเสมอว่า ที่ตนเองพูดไปนั้นเหมาะสมกับผู้รับสารหรือไม่ ควรคิดให้ดีก่อนพูดเสมอ
ต้องใช้เวลาพอสมควรนะครับ ขอให้สู้ต่อไป
อาทร ศรสำแดง
นอกจากนี้ ยังมีอีกประการคือ การเจริญเมตตา คือ การหมั่นระลึกแผ่เมตตาไปยังผู้คนทั้งหลายที่เรารู้จักก็ดีไม่รู้จักก็ดีเสมอๆ โดยนึกปรารถนาให้เขาทั้งหลายเหล่านั้น จงมีความสุขทั้งกายและใจ เป็นต้น
นอกจากนี้ เวลาทำบุญอะไรแล้วอย่าลืมอธิษฐานจิตว่า ขอให้เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย
นอกจากนี้ ควรสำรวจการพูดของตนเองเสมอว่า ที่ตนเองพูดไปนั้นเหมาะสมกับผู้รับสารหรือไม่ ควรคิดให้ดีก่อนพูดเสมอ
ต้องใช้เวลาพอสมควรนะครับ ขอให้สู้ต่อไป
อาทร ศรสำแดง
#4
โพสต์เมื่อ 14 July 2009 - 07:48 PM
ขอ ให้ มี เจอ กัลยาณมิตร ทุก เพศ ทุก วัย นะ จ๊ะ ^ ^
เราพรางคนอื่นได้ แต่เราพรางตนเองไม่ได้
#5
โพสต์เมื่อ 15 July 2009 - 02:37 PM
"ผู้ให้ย่อมเป็นที่รัก" : พุทธพจน์
#6
โพสต์เมื่อ 15 July 2009 - 04:43 PM
ในเมื่อคุณมาวัดพระธรรมกายแล้ว ก็ให้มาวัดพระธรรมกายเป็นประจำสิครับ แล้วไปสมัครเป็นอาสาสมัครช่วยงานวัด ซึ่งมีให้เลือกมากมายเลยล่ะครับ พอสมัครได้แ้ล้ว ก็ให้บำเพ็ญสังควัตถุ 4 ตามที่เพื่อนนักเรียนแนะนำมาข้างต้น เดี๋ยวก็มีเพื่อนเองเชื่อผมเถิด
ขนาดผมตอนเป็นวัยรุ่น ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยคุย ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว พอไปเป็นอาสาสมัครเท่านั้น เพื่อนฝูงเพียบเลย ก็งานบุญบังคับให้ต้องติดต่อพูดคุย คุยกันบ่อยๆ เดี๋ยวก็กลายเป็นเพื่อนกันไปเอง อีกทั้งยังเป็นเพื่อนดี อีกด้วยล่ะครับ
ขนาดผมตอนเป็นวัยรุ่น ไม่ค่อยพูด ไม่ค่อยคุย ชอบเก็บตัวอยู่คนเดียว พอไปเป็นอาสาสมัครเท่านั้น เพื่อนฝูงเพียบเลย ก็งานบุญบังคับให้ต้องติดต่อพูดคุย คุยกันบ่อยๆ เดี๋ยวก็กลายเป็นเพื่อนกันไปเอง อีกทั้งยังเป็นเพื่อนดี อีกด้วยล่ะครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร