![รูปภาพ](/forum/uploads/photo-thumb-1565.jpg?_r=1166040289)
ตัดสินใจไม่ถูก
#1
โพสต์เมื่อ 20 January 2006 - 06:38 PM
คือ เค้าดูที่เกรดกันค่ะ โดย สาย วิทย์-คณิต 3.00 up(ไม่เลือกอยู่แล้วค่ะ) ศิลป์-คำนวณ 3.00 up ศิลป์ ภาษา-จีน และ - ฝรั่งเศส 2.50 up แล้วนู๋ได้เกรด ไม่ค่อยดีค่ะ 2.97 ใน สองปีที่ผ่านมา ทราบค่ะว่า จีนเนี่ยต่อไปจะเป็นภาษาอันดับสองของโลก(รึป่าวไม่แน่ใจ) แต่มี นร. จำนวนมากเลยค่ะ ที่เลือกโอกาสติดก็มี 95% แล้วก็ ฝรั่งเศส คนเลือกน้อย นู๋จะเลือกจีนเพราะเพื่อนๆ ไปจีนกันหมด ที่บ้านมี ปู่กะ ย่าเป็น มีพูดจีนบ้างเลยคิดว่าเรียนไปมันใชประโยชน์ได้เยอะ แต่มาคิดอีกที ฝรั่งเศสไม่ค่อยมีคนเรียนนู๋เลยอยากจะเรียน ที่คนน้อยๆ อีกอย่างถ้าเราเรียนเก่งจริงต่อให้ไม่เป็นภาษา ที่ 1หรือ 2 เราก็นำไปใช้ได้ค่ะ เพราะว่านู๋ก็ พอเรียนภาษาอังกิดได้ แล้วก็ระหว่างตัดสินใจไม่มีคำปรึกษาเลยค่ะ เลยติดสินใจไม่ค่อยถูก มาคราวนี้เพื่อนมาบอกอีกว่า ถ้าเลือกศิลป์-คำนวณนั้น จะมีเรียนอังกิด ถึง 8 คาบด้วยกัน พอนู๋ได้ยืนก็รู้สึกอยากเรียนมาก เพราะว่าอยากเรียนภาษาอังกิดให้เก่ง แล้วไปศึกษาภาษาอื่นทีหลัง หรือค่อยเรียนควบคู่กันไป แต่นู๋ ไม่ค่อยชอบคณิต ให้เรียนก็เรียนได้ค่ะถ้าตั้งใจ เรียนได้ดีอีกต่างหาก นู๋เรียนรู้เร็ว เลยตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเรียนอะไรดี หลวงพี่เคยบอกกับพี่สาวนู๋ว่า ตัดสินใจครั้งแรกถ้าพลาดไปแล้ว การตัดสินใจครั้งต่อไปก็ จะพลาดไปตลอด จริงรึเปล่าค่ะ _ _???
แต่ถ้าไม่ได้โควต้านี้ นู๋ก็จะสอบเข้า รร เดิมนี่แหละค่ะ เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าจะทำไงดี เข้าอะไรดี เลยลองเสี่ยงลงศิลป์-คำนวณ เผื่อมีคนสละสิทธ แล้วค่อยไปสอบอีกครั้งนีง จะทำอย่างไรได้ มีพี่ก็ไม่ได้คุยกันเลย สรุปว่า ได้พี่ของเพื่อน เป็นที่ปรึกษา แต่ไม่ชัวร์เท่าไหร่
#2
โพสต์เมื่อ 20 January 2006 - 06:53 PM
พี่ว่าเรียนอะไรก็ได้นะคะ เรียนในสิ่งที่น้องรัก เลือกในสิ่งที่ตัวเองรักและคิดว่าเหมาะกับตัวเองมากที่สุดดีกว่าค่ะ เพราะถ้าเรารักจะทำอะไรแล้ว ธรรมชาติของคนเราก็ย่อมที่จะมีความกระตือรือร้น ขวนขวายทำในสิ่งที่รักอย่างดีที่สุด (ต้องคิดทบทวนดีๆ ให้เวลากับตัวเอง นั่งสมาธิบ้าง อย่าไปกังวลกับอนาคต หรือเพื่อนๆ มากเกินไปจนตัดสินใจไม่ได้) อย่าเลือกเพราะคนอื่นบอกว่าดี เพราะคนอื่น ไม่ได้เรียนกับเรา เค้าย่อมไม่รู้จักตัวเราดีไปกว่าตัวเราเองนะคะ หรืออย่าเลือกเพียงเพราะแนวโน้มในอนาคตมีคนทำนายว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้เลยค่ะ เพราะโลกนี้ไม่มีความแน่นอน วันนี้เราเห็นว่าภาษาจีนอาจจะมีแนวโน้มที่ดี แต่ถึงที่สุดแล้ววันนั้นอาจจะไม่ใช่ก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่ากังวลจนเกินเหตุ (แต่ภาษาอังกฤษยังไงๆ ก็จำเป็นอยู่ดีนะจ้ะ)
คนเราไม่ได้ประสบความสำเร็จเพียงเพราะเกรดเฉลี่ย นะคะ แต่คนเราจะประสบความสำเร็จตรงที่ มีความคิดสร้างสรรค์ มีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม เข้ากับคนอื่นได้ดี รับฟังความคิดของคนอื่น และพร้อมที่จะทำในสิ่งที่ตัวเองคิดสร้างสรรค์แล้วนั้นมากน้อยแค่ไหน ความรู้ไม่ได้มีแต่เฉพาะในตำราเรียน หรือห้องเรียน เท่านั้นค่ะ
พิจารณาให้ดี ว่าความฝันของเราคืออะไร และถ้าหากได้ตัดสินใจไปแล้ว อย่าไปคิดว่าเราตัดสินใจผิดหรือถูก ถ้าหากว่าตัดสินใจแล้ว ก็จงเดินตามความฝันนั้นไปนะจ้ะ
ขอให้พระคุ้มครองนะคะ จบมาเป็นคนดีก็โอเคแล้วละค่ะ แล้วรีบๆมาช่วยงานพระพุทธศาสนาด้วยน๊า
![smile.gif](style_emoticons/default/smile.gif)
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)
#3
โพสต์เมื่อ 20 January 2006 - 07:06 PM
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"
![](http://i60.photobucket.com/albums/h38/mooatoontaonoy/cartoon%20one/streamdharma.gif)
#4
โพสต์เมื่อ 20 January 2006 - 08:02 PM
หนูตอบคำถามของตัวเองแล้วนะคะ
:D
#5
โพสต์เมื่อ 20 January 2006 - 08:21 PM
1) ฉันทะ คือ มีความชอบ
2) วิริยะ คือ มีความเพียร
3) จิตตะ คือ มีความเอาใจใส่
4) วิมังสา คือ มีความช่างสังเกตพัฒนาสิ่งที่ทำให้ดีขึ้น
การเรียนก็เช่นกัน ต้องเริ่มต้นจากสิ่งที่หนูชอบ ชอบอะไรก็เรียนอันนั้นเถอะ เพราะสิ่งที่น้องเรียน คือสิ่งที่น้องจะต้องเอาไปต่อยอดในการเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย และเอาสิ่งที่น้องเรียนมาจนจบการศึกษาในอนาคตจะเป็นความรู้พื้นฐานในการเอาไปประกอบอาชีพในสิ่งที่ตนชอบต่อไปได้ ซึ่งมันจะเป็นลูกโซ่เกี่ยวเนื่องโยงกัน นี่คือสิ่งที่หลวงพี่บอกว่า ถ้าตัดสินใจก้าวแรกผิด ก็จะผิดตลอด เนื่องจากหนูเลือกเดินทางผิดตั้งแต่ต้นไง จะเปลี่ยนเส้นทางในอนาคตก็ยากแล้ว
ดังนั้นพี่ไม่อยากให้เลือกหนูเพราะความฮิต หรือ เพราะเพื่อน แต่อยากให้เลือกสิ่งที่น้องสนใจจริงๆ เพราะความชอบจะเป็นพื้นฐานให้เกิด ความตั้งอกตั้งใจเรียน ไม่มีความเบื่อหน่ายในสิ่งที่เรียน และจะมีผลไปถึงหน้าที่การงาน ซึ่งน้องมีสิทธิที่จะได้ทำงานในสิ่งที่ชอบด้วย อย่าลืมนะจ้ะ ว่าการเรียนนั้น น้องใช้ชีวิตเป็นนักเรียน นักศึกษาทั้งหมด 16 ปี คือ ประถม 6 ปี มัธยม 6 ปี ปริญญาตรี 4 ปี แต่น้องจะต้องออกใช้ชีวิตในการทำงานในอนาคต ถึง 30-40 ปี ดังนั้นถ้าได้เรียนในสิ่งที่ชอบ จะทำให้น้องมีโอกาสได้ทำงานในสิ่งที่ชอบ ซึ่งน้องจะต้องคลุกคลีกับการทำงานถึง 30-40 ปีอย่างที่บอกเอาไว้ ดังนั้นอย่าเลยครับ อย่าเลือกเรียนเพราะแฟชั่น ความฮิต หรือ เพราะเพื่อน เพราะมันจะเป็นการก้าวผิดตั้งแต่ก้าวแรกแบบที่หลวงพี่เตือนหนูเอาไว้
#6
โพสต์เมื่อ 20 January 2006 - 09:44 PM
#7
โพสต์เมื่อ 21 January 2006 - 12:40 AM
![happy.gif](style_emoticons/default/happy.gif)
จริงๆแล้วน่าจะเลือกโดยมองว่าปริญญาตรีอยากเรียนอะไรมากกว่านะครับ
เหมือนที่คุณ miracle dream กับ คุณฟ้าร้างบอกนั่นแหละ
แต่มีอย่างนึงที่พี่ม่ายค่อยจาเข้าจายครือ ทามมายน้องๆนู๋ๆสมัยนี้
เขียนภาษาไท ด้วยคำแปลกๆแบบนี้ก้อม่ายรุ งุงิงุงิ
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#8
โพสต์เมื่อ 21 January 2006 - 10:28 AM
.......................................................................
ไม่ควรหวังสิ่งที่ยังมาไม่ถึง...Don't worry about the future.
..........................................................................
คุณหมูตอนตัวน้อยลองใช้ ปัจจัยสําคัญในการสร้างปฏิสัมพันธ์..ในข้อ การเป็นตัวของตัวเอง (Autonomy) ด้วยตนเองดูสิครับ..ทดลองหลับตาหยุดใจสำรวจใจตนเองดูครับ..นั่นแหละจะเป็นทางออกดีที่สุด..ครับ.....
...........................................................................................
การเป็นตัวของตัวเอง (Autonomy) การเป็นตัวของตัวเองเป็นความสามารถในการพึ่งพาตนเอง การทดลองทําสิ่งต่าง ๆ ด้วยตนเองซึ่งจะทําให้เกิดความภาคภูมิใจเมื่อทําสําเร็จ ดังนั้น ถ้าผู้ใหญ่ให้กำลังใจในสิ่งที่เด็กทําได้ตามความสามารถและวิธีการของเด็กแต่ละคน เด็กจะพัฒนาความเป็นตัวของตัวเอง รู้สึกว่าตนเองเป็นผู้มีความสามารถพึ่งตนเองและนําตนเองได้
.................................................................................................
ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม
#9
โพสต์เมื่อ 21 January 2006 - 10:59 AM
เมื่อพลาดหวัง ก็ไม่ควรเศร้าโศก
เมื่อสมหวัง ก็ไม่ควรตื่นเต้น
เมื่อมีสุข ก็ไม่ควรประมาท
เมื่อมีทุกข์ ก็ไม่ควรหมองใจ
เมื่อมีเกียรติ ก็ไม่ควรหลงระเริง
เมื่อไร้เกียรติ ก็ไม่ควรเสียใจ
เมื่อมีอุปสรรค ก็ไม่ควรย่อท้อ ดังนี้
#10
โพสต์เมื่อ 21 January 2006 - 05:00 PM
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"
![](http://i60.photobucket.com/albums/h38/mooatoontaonoy/cartoon%20one/streamdharma.gif)
#11
โพสต์เมื่อ 21 January 2006 - 08:14 PM
พี่เชื่อว่าน้องหมูตอนตัดสินใจได้ดีแน่นอนค่ะ
![happy.gif](style_emoticons/default/happy.gif)
#12
โพสต์เมื่อ 22 January 2006 - 05:54 AM
ศิลป-ทั่วไป... ไม่ค่อยได้ใส่ใจในการเรียนเท่าไร...(..บอกคนอื่นทำไมเนี่ย)
ไม่ค่อยซีเครียด กะชีวิต... นุ่มๆเบาๆสบายๆ...
ประมาณว่ารีบเรียนให้มันจบๆไป
จะได้มาช่วยงานที่วัดไม่ก็บวช...
#13
โพสต์เมื่อ 22 January 2006 - 11:09 AM
#14
โพสต์เมื่อ 22 January 2006 - 12:10 PM
มหาวิหาร จรัสฟ้า ค่ายิ่งใหญ่
รูปทอง ผ่องผุด ดุจยองใย
สะท้อนถึง ห้วงดวงใจ สุดบูชา
*********************
ยอดเยี่ยม "ธรรมกาย" ผล ..... ผ่องแผ้ว
เลอเลิศล่วงกุศล ..... ใดอื่น
เชิญท่านถือเอาแก้ว ..... ก่องหล้าเรืองสกล
พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
#15
โพสต์เมื่อ 22 January 2006 - 07:47 PM
แต่ว่าขืนถ้าไปรำไทยก็ไม่ได้นะค่ะ เพราะว่า คิดจะถือศีล แปดนะค่ะ ตอนนี้ก็ยังถือศีล
แปดค่ะเฉพาะในวันพระ
แต่อยากเรียนเป็นนักการฑูตอ่า งั้น ถ้าอธิษฐานจิตเจริญปัญญาบ่อยๆ คุณยาย จะช่วยให้ผ่านการคัดเลือกให้ได้อยู่สายศิลป์-คำนวณ ไม๊ค่ะ อิอิ
ย่อมมีแสงอรุณขึ้นก่อน
เป็นบุพนิมิตฉันใด
ความเป็นกัลยาณมิตรก็เป็นตัวนำ
เป็นบุพนิมิตแห่งการเกิดขึ้น
ของหนทางพระนิพพาน ฉันนั้น"
![](http://i60.photobucket.com/albums/h38/mooatoontaonoy/cartoon%20one/streamdharma.gif)
#16
โพสต์เมื่อ 22 January 2006 - 07:55 PM
#17
โพสต์เมื่อ 06 February 2007 - 10:41 AM