ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

อาภัพยังไง ทำไมถึงอาภัพ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 November 2009 - 04:57 PM

บางข้อ ก็พอเข้าใจ แต่บางข้อก็ไม่เข้าใจ ว่าทำไมถึงเรียกได้ว่า อาภัพ น่ะค่ะ


ความอาภัพ 18 ประการ

1. ไม่เป็นคนมีจักษุบอดมาแต่กำเนิด
อ่านหนังสือไม่ได้ ?

2. ไม่เป็นคนหูหนวกมาแต่กำเนิด
ไม่ได้ยินบทธรรม ?

3. ไม่เป็นคนบ้า
ไม่สามารถรับรู้อะไรได้เลย ฝึกไม่ได้เลย ?

4. ไม่เป็นคนง่อยเปลี้ย
ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เลยไม่สามารถเข้าถึงธรรมได้ ?

5. ไม่เป็นคนใบ้
คนใบ้ สนทนาธรรมไม่ได้ ?? แต่เดี๋ยวนี้ก็มีภาษามือแล้ว ยังจัดว่าอาภัพอยู่ไหม ?

6. ไม่เกิดในประเทศป่าเถื่อน
อันนี้คงไม่ต้องเดา เพราะมัวแต่ป่าเถื่อน เลยไม่มีเวลามาคิดเรื่องสร้างบุญ ?

7. ไม่เกิดในท้องแห่งนางทาสี
เป็นลูกทาส แล้วหมดสิทธิ์ รู้รสพระธรรม ?

8. ไม่เป็นคนมีความเห็นผิดเป็นนิยตมิจฉาทิฐิ
อันนี้เข้าใจได้ไม่ยาก

9. ไม่เป็นสตรีเพศ
อันนี้ก็บวชไม่ได้ กายหยาบไม่รองรับธรรมได้ รวมถึงจิตใจด้วย ? แต่ก็เห็นมีพระอรหันตเถรีอยู่นินา ? nerd_smile.gif

10. ไม่ประกอบกรรมอันเป็นอนันตริยกรรม
อันนี้ก็เข้าใจได้ไม่ยาก

11. ไม่เป็นคนมีโรคเรื้อน
อันนี้ไม่เข้าใจค่ะ่ ถ้าเป็นโรคเรื้อน เข้าถึงธรรม ไม่ได้หรอคะ?

12. เมื่อไปเกิดในกำเนิดแห่งสัตว์เดียรฉาน ย่อมเป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในประเภทมีกายไม่เล็กกว่านกกระจาบ และมีกายไม่ใหญ่กว่าช้าง
อันนี้ก็ไม่เข้าใจค่ะ

13. ไม่ไปเกิดในกำเนิดแห่งขุปปิปาสิกเปรต นิชฌามตัณหิกเปรต แลกาลกัญชิกาสุรกาย
อันนี้ก็ไม่เข้าใจค่ะ

14. ไม่ไปเกิดในอเวจีมหานรก และโลกันตนรก
อันนี้พอเข้าใจ ว่าใช้เวลาในนรกนานเกินไป เลยหมดสิทธิ์

15. เมื่อไปเกิดเป็นเทวดาในกามาวจรสวรรค์ คือสวรรคเทวโลก ๖ ชั้น ก็ไม่เกิดเป็นเทวดาซึ่งนับเนื่องเข้าในเทวดาจำพวกหมู่มาร
อันนี้น่าจะคล้ายๆ กับข้อ 8 ?

16. เมื่อเกิดเป็นองค์พระพรหม ณ เบื้องบรมรูปาพจรพรหมโลก ก็ไม่ไปเกิดในปัญจสุทธาวาสพรหมโลก ทั้งนี้ก็เพราะว่าพรหมโลกชั้นปัญจสุทธาวาสนี้ เป็นภูมิที่อยู่แห่งพรหมอนาคามีอริยบุคคลโดยเฉพาะ
ถ้าเป็นชั้นของพระอนาคามี แล้วอาภัพยังไงคะ?

17. ไม่ไปเกิดใน อรูปพรหมโลก เลยเป็นอันขาด
เพราะอะไรหรอคะ ?

18. ไม่ไปเกิดในจักรวาลอื่นเลยเป็นอันขาด

จักรวาลอื่น ก้อมีพระพุทธเจ้าไปตรัสรู้เหมือนกันไม่ใช่หรอคะ เคยได้ยิน เมื่อครั้งที่พระโมคคัลลานะ เหาะไปหาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอีกจักรวาลหนึ่ง เพราะคิดว่าเป็นพระสมณโคดม แต่ปรากฎว่าไม่ใช่ พระสัมนโคดม ต้องไปตามกลับมา แล้วจักรวาลอื่น อาภัพยังไงหรอคะ


ขอความเมตตา อนุเคราะห์ ความรู้ เพื่อเป็นธรรมทานแด่ผู้ไม่รู้ด้วยเถิดค่ะ ^^
Thank you in advance.. biggrin.gif

"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#2 n00m

n00m
  • Moderators
  • 637 โพสต์
  • Location:Patumthanee

โพสต์เมื่อ 12 November 2009 - 05:10 PM

ผมขอเดาข้อ 16-17 ว่าน่าจะเป็นเพราะเวลาไปเกิดในเขตนั้นเนี่ยมีระยะเวลาค่อนข้างนาน อาจจะเป็ฯความสุขเจือทุกข์เพราะงดเว้นจากการสร้างบารมี น่าจะเป็นแค่เสี้ยวนิดๆ นะครับ รอผู้รู้มาอธิบายให้กระจ่างอีกที

#3 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 12 November 2009 - 09:46 PM

แวะนำกระทู้เก่ามาให้พิจารณา ครับ

ความอาภัพ 18 ประการ
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=4568

ฐานะแห่งความอาภัพ ๑๘ ประการ
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=5894

เหตุใดไปเกิดในสุทธาวาสพรหมจึงเป็น 1 ในอาภัพ 18 ประการ
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=15387

ฐานะแห่งความอาภัพ ๑๘ ประการ, ข้อที่ ๙
http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=5898
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#4 ตะกร้าอีกใบ

ตะกร้าอีกใบ
  • Members
  • 1297 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 November 2009 - 10:24 PM

QUOTE
12. เมื่อไปเกิดในกำเนิดแห่งสัตว์เดียรฉาน ย่อมเป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในประเภทมีกายไม่เล็กกว่านกกระจาบ และมีกายไม่ใหญ่กว่าช้าง
อันนี้ก็ไม่เข้าใจค่ะ


อันนี้
เพราะเนือ่งจากเป็นสัตว์เล็กมากก็ไม่มีเรี่ยวแรงที่จะมาทำกิจเพื่อเข้าถึงความบริสุทธิ์กาย วาจา ใจ
ถ้าเป็นสัตว์ใหญ่มากก็ต้องเอาเวลาไปหากิน เนื่องจากต้องใช้พลังงานมาก ไม่มีเวลามาทำความบริสุทธิ์ หิวทั้งวัน
อย่าขาดการปฏิบัติธรรมแม้แต่เพียงวันเดียว
เพราะขาดแม้เพียงวันเดียว ใจเราจะหยาบ ทำให้ผังวิตกกังวลได้ช่อง

7 ส.ค. 48



#5 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 November 2009 - 10:28 PM

QUOTE
ทำไมถึงเรียกได้ว่า อาภัพ
- อาภัพ แปลว่า ไม่สมควร, ไม่สามารถ, วาสนา น้อย, ตกอับ, อับจน
- เป็นอุปสรรคต่อการบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์ nerd_smile.gif

QUOTE
11. ไม่เป็นคนมีโรคเรื้อน
- โรคเรื้อน ถ้าไม่ได้รักษา จะก่อให้เกิดปลายประสาทชา...นำไปสู่ความพิการทางกาย อาทิ นิ้วมือ-นิ้วเท้ากุดด้วน จมูกแหว่ง เป็นที่น่ารังเกียจในชุมชน จึงไม่สมควรแก่ฐานะของพระโพธิสัตว์

QUOTE
12. เมื่อไปเกิดในกำเนิดแห่งสัตว์เดียรฉาน ย่อมเป็นสัตว์ที่จัดอยู่ในประเภทมีกายไม่เล็กกว่านกกระจาบ และมีกายไม่ใหญ่กว่าช้าง
- เล็กกว่านี้จะเป็นพหุปทติรัจฉาน จำพวกมด ปลวก ตะขาบ กิ้งกือ ฯลฯ เป็นสัตว์ที่มีวิวัฒนาการต่ำ ไม่สามารถประกอบเหตุในการสร้างบารมีในฐานะพระโพธิสัตว์
- ส่วนใหญ่น่าจะหมายเอาถึง สัตว์ 2เท้า สี่เท้า และ จำพวกไม่มีเท้าบางประเภท ได้แก่ ปลา...ซึ่งมีวิวัฒนาการด้านความรู้สึกนึกคิดมาก ทั้งยังสามารถสื่อ หรือ มีโอกาสใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับมนุสภูมิได้มากกว่า เช่นเป็นสัตว์เลี้ยง หรือแม้เป็นสัตว์ป่าประเภทกินพืชก็มักจะเป็นหัวหน้าฝูงมีโอกาสพบเห็นทั้งเนื้อนาบุญ-นายพราน แม้เป็นนักล่าอย่างราชสีห์ก็ยังประกอบเหตุบุญได้ด้วยศรัทธาแห่งพุทธวิสัย จึงยังมีวาสนาพอจะระลึกถึงความปรารถนาในการบำเพ็ญบารมีได้มากกว่า

QUOTE
13. ไม่ไปเกิดในกำเนิดแห่งขุปปิปาสิกเปรต นิชฌามตัณหิกเปรต แลกาลกัญชิกาสุรกาย

- ขุปปิปาสิกเปรต คือ เปรต มีรูปชั่วช้าลามก มีความหิวกระหายเป็นกำลัง ชอบกินรากเสลดของเหม็น เพราะทำบาปที่ถวาย ของเป็นเดนแก่สมณพราหมณ์ หรือบ้วนเสลด น้ำลายลงที่ปูชนียสถานและปูชนียวัตถุ เป็นมิจฉาทิฐิจึงไม่สมควรแก่วิสัยของพระโพธิสัตว์ ซึ่งท่านเคารพและบูชาสมณพราหมณ์
- นิชฌามตัณหิกเปรต คือ เปรตมีรูปกายเหมือนเสาและตอไม้ สูงดำน่าเกลียด มีกลิ่นเหม็น ริมฝีปาก บนห้อยทับริมฝีปากล่าง มีฟันยาว มีเขี้ยวงอก มีความอยากข้าวและน้ำตลอดเวลา คนที่ตายมาเป็นเปรตชนิดนี้ ก็เพราะบาปที่หลอกล้อเลียนสมณพราหมณ์ ผู้เฒ่าผู้แก่ ด้วยท่าทางต่างๆ เป็นมิจฉาทิฐิจึงไม่สมควรแก่วิสัยของพระโพธิสัตว์
- กาลกัญชิกาสุรกาย หัวปักลงมาข้างล่าง เอาตีนชี้ฟ้า ก็เพราะบาปจากการประทุษร้ายสมณพราหมณ์ผู้ทรงศีลเป็นนิตย์ เข้าใจว่าเป็นจำพวกเดียวกับนิรยอสูร ในโลกันตนรกซึ่งเป็นมิจฉาทิฐิ จึงไม่สมควรแก่วิสัยของพระโพธิสัตว์

QUOTE
16. เมื่อเกิดเป็นองค์พระพรหม ณ เบื้องบรมรูปาพจรพรหมโลก ก็ไม่ไปเกิดในปัญจสุทธาวาสพรหมโลก ทั้งนี้ก็เพราะว่าพรหมโลกชั้นปัญจสุทธาวาสนี้ เป็นภูมิที่อยู่แห่งพรหมอนาคามีอริยบุคคลโดยเฉพาะ
- สุทธาวาสภูมิจะก่อกำเนิดขึ้นในเวลาที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นเท่านั้น เพื่อรองรับเหล่าพระอนาคามี และสูญเมื่อท่านบรรลุอรหัตตผล ในระหว่างบำเพ็ญเพียรที่ไม่มีพระสัมมาสัมพุทธเจ้าบังเกิดจึงไม่มีภูมินี้
- หากนิยตโพธิสัตว์บังเกิดในพุทธกาลย่อมได้รับพุทธพยากรณ์ เกิดญานทัศนะและความปรารถนาในโพธิญานอันแรงกล้า ย่อมไม่ประกอบเหตุมรรคผลในชาตินั้นเพื่อไปจุติเป็นพระอนาคามี ณ ปัญจสุทธาวาส

QUOTE
17. ไม่ไปเกิดใน อรูปพรหมโลก เลยเป็นอันขาด
- เวลาในอรูปภพยาวนานมากๆกินเวลาในการบำเพ็ญบารมี
- อรูปภพนั้นจัดเป็นอภัพพสัตว์ ไม่สามารถตรัสรู้หรือตรัสรู้ได้ในชาตินั้น(ต่างจากเทวภูมิ พรหมโลก) เพราะติดในอรูปฌานอันยาวนาน ไม่สมควรแก่การบำเพ็ญบารมีของพระโพธิสัตว์

QUOTE
18. ไม่ไปเกิดในจักรวาลอื่นเลยเป็นอันขาด
- จักรวาล โดยทั่วไป หมายถึง ปริมณฑล, ประชุม, หมู่; เทือกเขาในนิยาย เป็นกําแพงล้อมรอบโลกและเป็นเขตกั้นแสงสว่างกับความมืด, บริเวณโดยรอบของโลก, ทั่วโลก
- คำว่าจักรวาลในที่นี้มีความนัยถึงทวีปทั้ง4...ไม่ได้หมายถึงจักรวาลตาม Cosmology
- เมื่ออนิยตโพธิสัตว์ได้รับพุทธพยากรณ์ยกระดับเป็นหน่อพุทธางกูรอันเที่ยงแท้จากการประชุมวงภาคโปรดแล้ว หากต้องบังเกิดเป็นมนุษย์เพื่อสั่งสมบารมีให้เต็มเปี่ยมนั้น ย่อมต้องเกิดเฉพาะในชมพูทวีป(จักรวาลนี้)เท่านั้น จักไม่ไปเกิดใน3ทวีปที่เหลือ(จักรวาลอื่น)
- เพราะชมพูทวีป เป็น จักรวาลที่มนุษย์มีคุณสมบัติ 3ประการอันก่ออัธยาศัยแห่งพระโพธิสัตว์ ได้แก่
1.มีจิตใจกล้าแข็งในการกระทำความดี
2.มีสติตั้งมั่นในพระรัตนตรัย
3.สามารถประพฤติพรหมจรรย์
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#6 Nee-Sansanee 2

Nee-Sansanee 2
  • Members
  • 893 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 12 November 2009 - 10:49 PM

สาธุค่ะ.......เต็มไปด้วยสาระธรรม.

#7 สิริปโภ

สิริปโภ
  • Members
  • 1766 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เรื่องลึกลับ

โพสต์เมื่อ 13 November 2009 - 06:47 PM

ความอาภัพ ก็คือความทุกข์จำพวกหนึ่งครับ

เหตุที่อาภัพก็เพราะมันไม่ได้ดังใจของเราเป็นข้อๆไป บางข้อก็ทุกข์น้อย บางข้อก็ทุกข์มาก

แต่เพิ่มเติมตรงข้อ9 ในพระไตรปิฏกอาจไม่ได้บันทึกไว้ (หรือป่าวไม่รู้) เพศสตรีเป็นเพศที่มีฮอโมนบางอย่าง หรือมีประสาทสำผัสสูงกว่าผู้ชายหลายเท่า ลองสังเกตุดู บางทีผู้หญิงเห็นดอกไม้แค่ดอกเดียวก็หลงไหลได้ปลื้ม ดมดอมหอมฟอดๆๆๆ หรือดมกลิ่นน้ำหอมก็สูดหอมเอาๆ หรือเวลาฟังบทเพลงทั้งหลายก็ อินในอารมมากกว่าผู้ชาย เหมือนเข้าไปเป็นนางเอกมิวสิกเสียเอง แล้วอีกอย่างคือของกินขนมนมเนยต่างๆ ฯลฯ ของอย่างนี้ ถ้าเอามาให้เพศชายรับรู้ ก็จะเฉยๆชิลๆแค่นั้นเอง

ตรงนี้เองครับ ที่เป็นเครื่องยืนยันว่าผู้หญิงมีประสาทสัมผัสรับรู้ทางหูตาจมูกลิ้น กายใจ ลุ่มลึกกว่าผู้ชาย อันเกิดมาจากความปราถนาและยึดติดหลงไหลในกาม ( ซึ่งรวมถึง รูป รส กลิ่น เสียง สำผัส ธรรมารม ไม่ใช่แค่เรื่องเพศอย่างเดียว ) ประกอบกันจึงทำให้มาเกิดและได้รูปกายที่เป็นเพศหญิงที่มีคุณสมบัติทางชีวะภาพเหมาะสมกับดวงจิตลักษณะแบบนั้น

พระพุทธเจ้าท่านคงเล็งเห็นคุณสมบัตินี้ จึงไม่แนะนำให้เพศหญิงเข้ามาบวชเป็นภิกษุในพุทธศาสนา เพราะว่าความที่ดวงจิตของสตรีมีความผูกพันธ์เหนียวแน่นกับกามมาก ยากที่จะเอาใจสละออกจากสิ่งนั้นมากกว่าบุรุษ ถ้าหากยอมให้เพศสตรีเข้ามาบวช อาจจะเป็นสาเหตุ ทั้งจากภายนอก(สาวออฟฟิตทั้งหลายจะทราบดี) และจากภายในพุทธบริษัท4ด้วยกันเอง ที่ประกอบเข้าด้วยกันจนเป็นเหตุให้ศาสนาของพระพุทธองค์มีอายุลดลงถึงครึ่งหนึ่ง

ทั้งนี้ก็มิได้ว่าเพศหญิงเป็นเพศที่ไม่ดีนะครับ จิตใจของผู้หญิงมีสิ่งที่ดีมากอยู่อย่างหนึ่งที่ผู้ชายไม่มีก็คือ "คำว่ายอม ไม่ดื้อ และอ่อนโยน" คุณสมบัตินี้เอง ที่ทำให้ทุกวันนี้เราเห็นผู้หญิงเข้าวัดมากกว่าผู้ชาย ถ้าเอาก้อนหินทับกามฉันทะเสียได้ ผู้หญิงจะประคองใจให้หยุดและบรรลุธรรมได้อย่างง่ายดายทีเดียว




#8 *Namkhang*_*

*Namkhang*_*
  • Members
  • 41 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 November 2009 - 03:23 PM

เป็นผู้หญิงตั้งความปรารถนาที่จะเป็นพระโพธิสัตว์จะสำเร็จได้รึเปล่าคะ
ถ้าได้....จะต้องปฏิบัติอย่างไรคะ

#9 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 14 November 2009 - 08:11 PM

ชาติในอดีต พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราก็เคยเกิดเป็นหญิงน่ะครับ

พระองค์มีนามว่า เจ้าหญิงสุมิตรา ตอนนั้น พระองค์ได้สร้างบุญใหญ่ต่อหน้าพระพุทธเจ้าในอดีต
แล้วตั้งความปรารถนาขอเป็นพระพุทธเจ้าในภายภาคหน้า
แต่พระพุทธเจ้าพระองค์นั้น ไม่ทรงพยากรณ์ ทรงบอกให้รอพระพุทธเจ้าองค์ต่อๆไป จนกระทั่งละจากชาตินั้นแล้ว เจ้าหญิงสุมิตราก็ได้ไปเกิดเป็นผู้ชาย แล้วก็ได้รับพุทธพยากรณ์ในภพชาติต่อๆ มา ครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#10 ชาตินี้เอาดีให้ได้

ชาตินี้เอาดีให้ได้
  • Members
  • 46 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 November 2009 - 08:52 PM

คุณพี่หัดฝัน....นี่ ข้อมูลแน่นจริงๆครับบบสาธุ


#11 somchet

somchet
  • Members
  • 900 โพสต์

โพสต์เมื่อ 14 November 2009 - 10:07 PM

อาภัพ ไม่ได้หมายถึง เข้าถึงธรรมไมไ่ด้นะครับ ผู้หญิงก็สามารถบรรลุธรรมได้ เพียงแต่ทำอีกหลายๆอย่างไมไ่ด้ครับ

คำไทย คนอาภัพ อับโชค ก็คือคนไม่มีวาสนา ซึ่งก็คือ เป็นคนขาดโอกาสดีๆในบางประการนั่นเอง
เช่นคนอาภัพรัก ก็คือคนไม่มีวาสนาในเรื่องความรักไงครับ : )

#12 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 15 November 2009 - 01:30 PM

เพิ่มเติมข้อมูลให้อีกนิดนึงนะครับ ก่อนหน้าที่พระโพธิสัตว์จะมาบังเกิดเป็นเจ้าหญิงสุมิตรา ท่านเกิดเป็นชายหนุ่มช่างทองหน้าตาหล่อเหลาขั้นเทพ เลยทีเดียว

ครั้งหนึ่ง ท่านเศรษฐีตระกูลหนึ่ง จะแต่งงานกับลูกสาว จึงได้ให้หนุ่มช่างทองไปทำทองให้ลูกสาว แต่ด้วยความที่หนุ่มช่างทอง มีความหล่อระดับเทพ ดังนั้น ท่านเศรษฐีจึงไม่อาจวางใจ เลยให้กั้นม่าน แล้วให้ลูกสาว ยื่นเฉพาะมือมาให้หนุ่มช่างทองดู เพื่อทำเครื่องประดับให้ขนาดพอดีมือ

ทีนี้ลูกสาวเศรษฐีเลยสงสัยว่า กั้นม่านทำไม จึงแอบแหวกม่านนิดๆ ก็เลยเห็นหนุ่มช่างทอง ทันทีที่เห็นเท่านั้น นางลืมสิ้นว่า จะต้องแต่งงานแล้ว จึงส่งกระดาษลับ แอบนัดหนุ่มช่างทองมาพบตอนตี 2 ตี 3

หนุ่มช่างทองก็มาตามนัด แต่บุญชิงช่วงเข้ามาทัน จึงบันดาลให้หนุ่มช่างทองง่วงนอนอย่างหนัก เลยเผลอหลับไป พอลูกสาวเศรษฐีมาตามนัด เห็นหนุ่มช่างทองหลับ เลยไม่กล้าปลุก บาปก็ไม่เกิดขึ้น

แต่ลูกสาวเศรษฐีไม่ยอมแพ้ แอบนัดอีก 2 ครั้ง ซึ่งหนุ่มช่างทองก็หลับทั้งสองครั้ง จนลูกสาวเศรษฐีต้องแต่งงานกับคนอื่นไปจริงๆ

หนุ่มช่างทองเสียใจมาก ที่ตนดันหลับเสียนี่ ว่าแล้วจึงทำทองอย่างดีเลิศ ไปถวายเจ้าเมืองขอให้เจ้าเมืองช่วยบางอย่าง เจ้าเมืองจึงช่วย โดยการให้หนุ่มช่างทอง ปลอมตัวเป็นน้องสาวเจ้าเมือง

แล้วทำทียกกองทัพไปปราบโจร กองทัพเดินทางผ่านมาถึงหน้าบ้านเศรษฐี เจ้าเมืองจึงบอกเศรษฐีว่า ตนต้องไปปราบโจร ขอฝากน้องสาว(หนุ่มช่างทองปลอม) ไปกับลูกสาวเศรษฐี ให้อยู่เป็นเพื่อนนาง และห้ามให้ใครมารบกวน เศรษฐีและลูกเขยต้องจำใจรับปาก

หลังจากนั้น หนุ่มช่างทองก็เลยได้อยู่กับลูกสาวเศรษฐีหลายเดือนทีเดียว (ซึ่งก็ไม่ต้องพูดถึงศีลข้อ 3 ว่าอะไรจะเหลือ)

ด้วยกรรมนั้น ทำให้ต่อมา หนุ่มช่างทองตกนรก พ้นจากนรกแล้ว ก็มาเกิดเป็นเจ้าหญิงสุมิตรา นั่นแหละครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร