6.ท่านพระนาลกะ
[attachmentid=1468]
พระนาลกะเป็นลูกของน้องสาว อสิตะดาบส หรือกาฬเทวิลดาบส ที่อาศัยอยู่ในกรุงกบิลพัสดุ์ เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าประสูติใหม่ๆ กาฬเทวิลดาบส ได้เห็นลักษณะมหาบุรุษ32ประการของพระพุทธเจ้า ถูกต้องตามตำราของพราหมณ์ว่า หากออกบวชจะได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้า จึงได้แนะนำให้ท่านนาลกะผู้เป็นหลานชาย ออกบวชประพฤติพรตตามลัทธิของพราหมณ์เพื่อคอยเจ้าชายสิทธัตถะออกบวช ท่านนาลกะก็ทำตามคำแนะนำของกาฬเทวิลดาบส
อุปสมบถ เมื่อเจ้าชายสิทธัตถะออกบวชแล้วได้ตรัสรู้เป็นพระพุทธเจ้าแล้วท่านนาลกะได้ทราบข่าว จึงไปเข้าเฝ้ากราบพระพุทธเจ้า เพื่อทูลถามปัญหาโมไนย* พระพุทธเจ้าก็ทรงตรัสตอบว่า พึงทำจิตให้เสมอในสัตว์ทั้งปวงโดยเท่ากัน อย่าโกรธ อย่าโทมนัสขัดเขืองเมื่อถูกบริภาษ เมื่อพระองค์ทรงตรัสจบ ท่านนาลกะจึงบังเกิดความเลื่อมใสพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงทูลขอบรรพชาอุปสมบทในธรรมวินัย
บรรลุมรรคผล ครั้นบวชแล้ว พระนาลกะได้ทูลลาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไปอยู่ในป่า อุตสาหะทำความเพียรในโมไนยอย่างอุกฤษฎ์ ไม่ทำความสนิทสนมกับชาวบ้าน ไม่ติดในบุคคลและสถานที่อยู่ เป็นผู้มักน้อยในการเห็น เป็นผู้มักน้อยในการฟัง เป็นผู้มักน้อยในการถาม ท่านบำเพ็ญสมณะธรรมอยู่ ในไม่ช้า ท่านก็บรรลุเป็นพระอรหันต์ และเป็นธรรมเนียมของผู้ปฏิบัติโมไนยอย่างอุกฤษฎ์เป็นอย่างสูง ใน ศาสนา ของพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ จะมีพระสาวกผู้บำเพ็ญโมไนยเช่นนี้เพียงองค์เดียวเท่านั้น
ดับขันธปรินพพาน เพราะฉะนั้นในศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นามว่า สมณโคดม พระนาลกะถือว่าเป็นผู้บำเพ็ญเพียรโมไนยปฏิบัติอย่างอุกฤษฎ์ นับตั้งแต่วันที่ท่านได้บรรลุเป็นพระอรหันต์เป็นต้นมา ท่านดำรงอายุสังขารอยู่เพียงแค่ 7 เดือนเท่านั้น ก็ ดับขันธปรินิพพาน ในอิริยาบถยืนเฉพาะพระพักตร์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ดับขันธปรินพพาน เพราะฉะนั้นในศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า นามว่า สมณโคดม พระนาลกะถือว่าเป็นผู้บำเพ็ญเพียรโมไนยปฏิบัติอย่างอุกฤษฎ์ นับตั้งแต่วันที่ท่านได้บรรลุเป็นพระอรหันต์เป็นต้นมา ท่านดำรงอายุสังขารอยู่เพียงแค่ 7 เดือนเท่านั้น ก็ ดับขันธปรินิพพาน ในอิริยาบถยืนเฉพาะพระพักตร์ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
*โมไนยะ (โม-ไน-ยะ)หมายถึง ความเป็นมุนี ความเป็นนักปราชญ์ คุณธรรมของนักปราชญ์ ธรรมที่ทำให้เป็นมุนี ในเรื่องราวของท่านที่ปรากฏอยู่ในที่ต่างๆ กล่าวว่าท่านดำรงอยู่ในตำแหน่งเอตทัคคะด้วย คือ เป็นยอดเยี่ยมกว่าภิกษุทั้งหลาย ในด้านการประพฤติ โมไนยปฏิบัติ แต่ในเอตทัคคะในบาลีไม่ปรากฏ จึงไม่ได้กล่าวไว้ในประวัติของท่าน
สัพเพ สัตตา อะเวรา อัพพะยาปัชฌา อะนีฆา สุขีอัตตานัง ปะริหะรันตุ.
ด้วยผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำนี้ ขอให้เจ้ากรรมนายเวร พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ตลอดจนวงศาคณาญาติทั้งหลาย ทั้งอดีตและปัจจุบัน และผู้ที่อาศัยอยู่ทั้ง 4โลก อันได้แก่ มนุษย์ นรก บาดาล สวรรค์ จงมีส่วนบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำด้วยเทอญ
ด้วยผลบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำนี้ ขอให้เจ้ากรรมนายเวร พ่อแม่ ปู่ย่าตายาย ตลอดจนวงศาคณาญาติทั้งหลาย ทั้งอดีตและปัจจุบัน และผู้ที่อาศัยอยู่ทั้ง 4โลก อันได้แก่ มนุษย์ นรก บาดาล สวรรค์ จงมีส่วนบุญที่ข้าพเจ้าได้ทำด้วยเทอญ