http://www.sc.mahido...b...ic&Lang=Eng
ยกตัวอย่างคำอธิบายของนักวิชาการท่านหนึ่ง
ในสมัยสมณโคดม แนวคิดเรื่องสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กยังไม่ชัดเ้จน(แต่ก็มีมาแล้ว) การนิยามให้การทำลายสิ่งมีชิวิตกลุ่มนี้แล้วเป็น "บาป" ก็ยังไม่เกิด ถ้าเราเคร่งครัดกับนิยามของบาปจริงๆ โดย ประุุยุกต์กับยุคสมัยนี้ การที่เราอาบน้ำครั้งหนึ่ง เราได้สร้างบาปมากมายมหาศาล แล้วจริงๆ การกินผัก ก็นับเป็น "บาป" เหมือนกัน แต่ไม่หรอก คนที่นับถือศาสนาย่อมไม่สามารถยอมรับคำอธิบายนี้ได้ เพราะเขาจะเสนอว่า สิ่งที่เราสรุปนี้ มาจากการตั้งสมมติฐาน ในขณะที่ข้อสรุปของสมณโคดม(ที่พวกเขามองว่าเหนือมนุษย์)เป็น "ความจริงสูงสุด" (Absolute truth) เขาจึงมองว่าข้อเสนอนี้ไม่ถูกต้อง - ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรคือที่ถูกต้องกันแน่ - (นี่ก็เป็นการตัดสินโดยมนุษย์ที่นับถือศาสนาเองอีกนั่นแหละ)
ข้อเสนอของผมก็คือ เราควรจะเป็น secularism คือแยกประเด็นเรื่องของศาสนาไปจากงานวิจัย แต่แน่นอนว่า จริยธรรม ไม่ใช่ "ศาสนา"(เรื่องนี้ lecture ได้เป็นชั่วโมง) เรื่องการยอมรับจริยธรรมบางอย่างผมยอมรับได้อยู่ เพราะมันอยู่บนเงื่อนไขของการเคารพสิ่งมีชีวิตอื่น - แต่เฮ้ย เรื่องบาปกรรมนี่ไม่เกี่ยว อย่างที่อาจารย์บอกนั่นแหละ โดยเฉพาะ argument เรื่อง อาชีพฆ่าสัตว์-หมอ นี่ผมชอบมาก คือถ้าใช้คำอธิบายนี้ คนที่มีอาชีพฆ่าสัตว์ก็คงไม่ต้องผุดต้องเกิดเลยทีเดียว ^^
ด้วยความเคารพ
อติเทพ ไชยสิทธิ์
Nano_Biologist
ตอนนี้ในวงการ การศึกษา กลับมองกันว่า ศาสนาเป็นเรื่องของปรัชญา ความเชื่อ หรือแนวคิดเท่านั้น
ซึ่งหมายรวมถึง "พระพุทธศาสนา" ด้วย
แล้วถ้าไม่มีการ "ฆ่า เพื่องานวิจัย" มนุษย์ในปัจจุบัน คงตายกันเป็นเบือ เพราะไม่มียารักษา
สรุปว่า ตกลง "ฆ่า" เพื่องานวิจัย จัดว่าเป็นบุญหรือบาปละคะทีนี้ ?