ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ฆ่าสัตว์เพื่องานวิจัย ไม่บาป


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 11 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ฟ้ายังฟ้าอยู่

ฟ้ายังฟ้าอยู่
  • Members
  • 2511 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 November 2009 - 12:14 PM

นักวิชาการส่วนใหญ่คิดกันแบบนี้ ลองอ่านดูนะคะ
http://www.sc.mahido...b...ic&Lang=Eng

ยกตัวอย่างคำอธิบายของนักวิชาการท่านหนึ่ง

QUOTE
จริงๆ โดยหลักแล้ว ผมเห็นด้วยกับอาจารย์ แต่ที่ต่างคือผมมองว่า "บาป" เป็นคำนิยามทางศาสนาที่ไม่ make sense และคำนี้ ก็มีนิยามที่อิงกับคำอธิบายในคัมภีร์ หรือคำสอนศาสนาเสียส่วนใหญ่ ที่ไม่ได้อยู่บนเกณฑ์ของความจริงในธรรมชาติที่เราได้รู้จักมันมากขึ้นทุกที - ด้วยความที่มันไม่สมเหตุสมผล การสร้างคำอธิบาย การให้คำนิยามใหม่ และการผลิตซ้ำ ก็ออกจะลักหลั่น และออกนอกทุ่งไปไกลสุดกู่ - จนเกิดคำอธิบายบางประเภทเช่น กินสัตว์ใหญ่เป็นบาปมากกว่าสัตว์เล็ก ?

ในสมัยสมณโคดม แนวคิดเรื่องสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กยังไม่ชัดเ้จน(แต่ก็มีมาแล้ว) การนิยามให้การทำลายสิ่งมีชิวิตกลุ่มนี้แล้วเป็น "บาป" ก็ยังไม่เกิด ถ้าเราเคร่งครัดกับนิยามของบาปจริงๆ โดย ประุุยุกต์กับยุคสมัยนี้ การที่เราอาบน้ำครั้งหนึ่ง เราได้สร้างบาปมากมายมหาศาล แล้วจริงๆ การกินผัก ก็นับเป็น "บาป" เหมือนกัน แต่ไม่หรอก คนที่นับถือศาสนาย่อมไม่สามารถยอมรับคำอธิบายนี้ได้ เพราะเขาจะเสนอว่า สิ่งที่เราสรุปนี้ มาจากการตั้งสมมติฐาน ในขณะที่ข้อสรุปของสมณโคดม(ที่พวกเขามองว่าเหนือมนุษย์)เป็น "ความจริงสูงสุด" (Absolute truth) เขาจึงมองว่าข้อเสนอนี้ไม่ถูกต้อง - ซึ่งผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรคือที่ถูกต้องกันแน่ - (นี่ก็เป็นการตัดสินโดยมนุษย์ที่นับถือศาสนาเองอีกนั่นแหละ)

ข้อเสนอของผมก็คือ เราควรจะเป็น secularism คือแยกประเด็นเรื่องของศาสนาไปจากงานวิจัย แต่แน่นอนว่า จริยธรรม ไม่ใช่ "ศาสนา"(เรื่องนี้ lecture ได้เป็นชั่วโมง) เรื่องการยอมรับจริยธรรมบางอย่างผมยอมรับได้อยู่ เพราะมันอยู่บนเงื่อนไขของการเคารพสิ่งมีชีวิตอื่น - แต่เฮ้ย เรื่องบาปกรรมนี่ไม่เกี่ยว อย่างที่อาจารย์บอกนั่นแหละ โดยเฉพาะ argument เรื่อง อาชีพฆ่าสัตว์-หมอ นี่ผมชอบมาก คือถ้าใช้คำอธิบายนี้ คนที่มีอาชีพฆ่าสัตว์ก็คงไม่ต้องผุดต้องเกิดเลยทีเดียว ^^

ด้วยความเคารพ

อติเทพ ไชยสิทธิ์
Nano_Biologist


ตอนนี้ในวงการ การศึกษา กลับมองกันว่า ศาสนาเป็นเรื่องของปรัชญา ความเชื่อ หรือแนวคิดเท่านั้น
ซึ่งหมายรวมถึง "พระพุทธศาสนา" ด้วย

แล้วถ้าไม่มีการ "ฆ่า เพื่องานวิจัย" มนุษย์ในปัจจุบัน คงตายกันเป็นเบือ เพราะไม่มียารักษา
สรุปว่า ตกลง "ฆ่า" เพื่องานวิจัย จัดว่าเป็นบุญหรือบาปละคะทีนี้ ?
"เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำจะเกิดมาทำไม
อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง ทำให้จิตเป็นห่วงเป็นใย.."
พระมงคลเทพมุนี (สด จันทสโร)


#2 WISH

WISH
  • Moderators
  • 3579 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 November 2009 - 01:04 PM

ปาณาติบาต...
เบียดให้เจ็บ เบียนให้ตาย ล้วนก่อบาปอกุศลทั้งสิ้น dont_tell_anyone_smile.gif

ผู้อยู่หลังฉาก เขากำหนดกฎนี้ไว้ แล้วครอบงำปุถุชนด้วยอวิชชา dont_tell_anyone_smile.gif
- อ้างว่าฆ่าเพื่อบูชายันต์นั้นไม่บาป
- อ้างว่าฆ่าอริราชศัตรูไม่บาป
- อ้างว่าฆ่าเพื่อให้เราอยู่รอด ฯลฯ


- ย้อนมาดูสิงสาราสัตว์ที่ถูกนำมาฆ่าเพื่อการวิจัย ถามว่าสัตว์เหล่านั้นยินดีตายเพื่อมนุษย์หรือไม่ เปล่าเลย ทุกตัวล้วนรักชีวิตและต้องการความอยู่รอดทั้งสิ้น glare.gif
- ตัวอย่างที่โชคดีเห็นจะมีหลินปิง ที่รอดจากการฆ่านะ...แต่ไม่รอดจากการอุ้ม...55 biggrin.gif
- กรณีที่สัตว์จะเสียสละชีวิตเพื่อสิ่งอื่น ล้วนเห็นในชาดกทั้งสิ้น เพราะสัตว์เหล่านั้นมีอุปนิสัยของพระโพธิสัตว์อยู่ เช่น ศศชาดก นิโครธชาดก ฯลฯ อาจจะเป็นเหตุหนึ่งที่อนิยตโพธิสัตว์สามารถพลัดมาเกิดในภูมินี้ คือไม่เล็กกว่านกกระจาบ ไม่ใหญ่เกินช้าง nerd_smile.gif

ดังนั้น ไม่ว่าปุถุชนจะอ้างกฎหมายหรือเหตุใดๆในการฆ่าสัตว์ ล้วนไม่ได้รับการยกเว้นจากเจ้ากรรมนายเวรทั้งสิ้น dont_tell_anyone_smile.gif

http://www.dmc.tv/fo...showtopic=13604
ทำไมต้อง หาคำตอบ ณ แดนไกล ลืมหรือไร ว่าอยู่ใกล้ DMC

#3 *innerspot*

*innerspot*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 21 November 2009 - 04:50 PM

ลองไปเกิดแล้วโดนวิจัยบ้างเจะ

#4 N22

N22
  • Members
  • 169 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 November 2009 - 08:20 PM

ต้องยอมรับ(แต่ไม่ใช่ยอมแพ้) เพราะปัจจุบันผู้คนที่มีทิฐิประเภทตรรกกะ แบบสุดโต่งยังมีอยู่มากจริงๆ เพื่อนผมเป็นเซียนพระแท้ๆ แถมยังนับถือหลวงปู่วัดปากน้ำด้วยครับ เคยคุยกับเค้าเรื่องนรกสวรรค์ เค้าอธิบายอย่างชนิด ดูดี มีชาติตระกูลแบบฉบับเดียวกับดอกเตอร์ทางโลกหลายคน เค้าบอกผมว่า มันเป็นกุศโลบาย ในสมัยโบราณเนื่องจากยุคนั้นปกครองกันยาก (เช่นยุคของพระเจ้าอโศก) ไม่มีกฎหมาย เลยกุความเชื่อเรื่องพวกนี้ให้คนไม่กล้าทำความผิด สุดท้ายปัจจุบัน เพื่อนผมคนนี้ ก็ยังดื่ม สูบ เล่นการพนัน ภายใต้แนวคิด (ที่เค้าคิดเอง) เชิงปรัชญา "ชีวิตไม่แน่นอน ชาติหน้าอาจไม่มี เรายังทำไม่ดีพออย่าเข้าวัด เพราะเรายังทำบาปอยู่"...
...เรื่องพวกนี้มีอยู่มาก แต่ที่สำคัญ มันทำให้เรารู้ว่า เราโชคดีมากๆ ที่ได้มาเจอหมู่คณะและความรู้ที่ล้ำค่าแห่งวิชชาธรรมกาย วิชชาที่แท้จริงของโลก ที่ผู้ที่เรียนจบ ไม่จำเป็นต้องเป็นดอกเตอร์..

#5 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 21 November 2009 - 08:32 PM

หากมนุษย์ทุกคนมีศีล 5 โรคภัยไข้เจ็บจะมลายครับ

มีเรื่องราวในสมัยพุทธกาล เมื่อครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จไปโปรดพระบิดา พระเจ้าสุทโธทนะท่านเล่าให้ฟังว่า สมัยตอนที่พระพุทธเจ้าเสด็จหนีออกจากวังไปบวช เทวดาได้มาบอกพระองค์หลายๆ ครั้งว่า พระพุทธเจ้าสิ้นชีวิตแล้ว แต่พระเจ้าสุทโธทนะไม่ทรงเชื่อเลย ทรงมั่นใจอย่างเปี่ยมล้นว่า พระพุทธเจ้าต้องตรัสรู้ธรรม

พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า ไม่เฉพาะแต่ยุคนี้เท่านั้น แม้ในอดีตกาลพระบิดาก็ไม่ทรงเชื่อมาแล้ว แล้วพระพุทธเจ้าก็ทรงตรัสเล่าให้ฟังว่า

ในอดีตกาล พระพุทธองค์เกิดเป็นมานพหนุ่ม ส่วนพระเจ้าสุทโธทนะเกิดเป็นบิดา ต่อมาบิดาได้ส่งมานพหนุ่มไปเรียนวิชายังสำนักตักสิลา
ต่อมาไม่นาน ลูกชายอาจารย์เป็นโรคปัจจุบันทันด่วนแล้วเสียชีวิต มานพหนุ่มประหลาดใจมาก ไปถามอาจารย์ว่า "เป็นไปได้ด้วยหรือ
ที่คนเราป่วยตายตั้งแต่ยังหนุ่มสาว"

อาจารย์เลยย้อนถามว่า "หมู่บ้านเจ้าไม่เคยมีใครตายตั้งแต่ยังหนุ่มสาวเลยเหรอ"
มานพตอบว่า "ใช่แล้วครับอาจารย์ หมู่บ้านผม ไม่เคยมีใครตายตั้งแต่ยังหนุ่มสาวเลย"

อาจารย์ไม่เชื่อ บอกว่า "เดี๋ยวเราจะพิสูจน์ดู"
ว่าแล้วก็ให้ศิษย์คนโต ดูแลสำนักชั่วคราว แล้วบอกกับศิษย์ทุกคนว่า ตนจะไปธุระสัก 3-4 วัน

จากนั้น อาจารย์ก็แอบไปซื้อกระดูกแพะ มาเผาไฟ(ทำเหมือนจัดงานศพ)ให้เกรียม แล้วก็ออกเดินทางไปบ้านของมานพหนุ่ม
พอไปถึง ก็ทำเป็นร้องไห้เสียใจ บอกกับบิดาของมานพหนุ่มว่า "ลูกชายทาน ป่วยเป็นโรคปัจจุบันทันด่วน เสียชีวิตไปแล้ว นี่ไงกระดูกลูกชายท่าน เราพึ่งจัดพิธีศพให้ แล้วรีบมาหาท่านนี่แหละ"

บิดามานพหนุ่มได้ฟัง ก็หัวเราะร่า บอกว่า "ฮ่าฮ่าฮ่า ท่านอย่ามาหลอกเราให้ยากเลย หมู่บ้านเราไม่เคยมีใครตายตั้งแต่ยังหนุ่มสาวกันหรอก นี่คงเป็นกระดูกแพะ กระดูกแกะ มากกว่าล่ะมั้ง"

อาจารย์ทึ่งมาก จึงกล่าวยอมรับ พรางถามว่า "เหตุใดท่านจึงมั่นใจมากขนาดนั้น"
บิดามานพบอกว่า "เป็นเพราะหมู่บ้านเรา รักษาศีล 5 กันทั้งหมู่บ้านไง จึงไม่เคยมีใครตายตั้งแต่ยังหนุ่มสาว"

สรุปนะครับ หากต้องการอายุยืน ไม่มีโรคภัย ต้องหยุดยั้งการฆ่าครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#6 usr23182

usr23182
  • Members
  • 114 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 November 2009 - 11:58 PM

คุณฟ้ายังฟ้าอยู่ค่ะ จะบาป หรือ ไม่บาป

ก่อนอื่นขอถามคุณก่อนค่ะ คุณสุขใจทุกครั้งไหมค่ะ ที่ต้องฆ่าสัตว์เพื่องานวิจัย

เมื่อทำบ่อย ๆ ความเคยชิน ชินชา กับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นประจำ ใจจะหยาบ ใจจะไม่คำนึงถึงศีล ใจจะไม่สนใจว่าจะถูกหรือผิด

และ ใจจะไม่หยุดนิ่ง ไม่ใส ไม่สว่าง ไม่สามารถเข้ากลาง ได้ ในสมาธิ

ความก้าวหน้าของสมาธิ จะไม่เกิด เพราะ ศีล ไม่ปรกติ


เราเชื่อว่า คุณฟ้ายังฟ้าอยู่ ไม่อยากทำบาป แต่ เพราะงานวิจัย บังคับให้ทำ แล้วคุณสุขใจไหมค่ะ ที่ต้องทำ

คุณเลี่ยงได้มั้ยค่ะ ไม่ต้องเป็นคนลงมือ เพราะมือที่เปื้อนเลือดบ่อย ๆ ก็เท่ากับคุณกำลังทำร้ายตัวเองอยู่

ขอให้คุณโชคดี ตัดสินใจได้ กับ สิ่งที่ควรทำ ในชีวิต ของคุณ มือของคุณ จะเป็นมือที่พาคุณไปสวรรค์ หรือ นรก

ไม่มีใครไปสวรรค์ นรก แทนคุณได้ อยู่ที่มือของคุณจะเลือกทำอะไร

สิ่งสำคัญที่สุด คือ การรักษาใจใน ศูนย์กลางกายฐานที่ เจ็ด



#7 somchet

somchet
  • Members
  • 900 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 November 2009 - 12:03 AM

อยากทำอะไร ก็กำหนดขี้นมาเองว่าไม่บาป ในสังคมไทยมีเยอะแยะ บอกว่าฆ่าสัตว์เอามากินไม่บาป แต่ถ้าไม่กินบาป

สรุปคือ อยากจะกินซะอย่าง จะทำไม

#8 Ozeria

Ozeria
  • Members
  • 879 โพสต์

โพสต์เมื่อ 22 November 2009 - 10:35 AM

น่าสงสาร ท่านนักวิชาการผู้นี้ จังเลย อุตส่าห์วิจัยอะไรตั้งมาก มาย ถ้าได้มาวิจัยพุทธศาสนาอย่างจริงจังคงจะช่วยเค้าได้มากกว่านี้นะคะ

อย่างนี้ในพระพุทธศาสนา ถือว่าเห็นผิด ถือเป็นบาปมากเลยนะคะ

มีความรู้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด

สาธุ อนุโมทนาบุญค่ะ

ลูกพระธัมฯ หลานหลวงปู่ หลานคุณยาย

#9 สาธุธรรม

สาธุธรรม
  • Members
  • 1124 โพสต์

โพสต์เมื่อ 23 November 2009 - 02:04 AM


พระเดชพระคุณ...คงต้องทำงานหนักอีกมาก เพื่อช่วยกุ้งหอยปูปลาให้ขึ้นมาจากทะเลกรด


เฮ้อ....

ขอให้บุญที่ท่านทั้งหลายได้กระทำเอาไว้ดีแล้ว จงรักษา ปกป้องท่านทั้งหลาย ให้คลายความเห็นผิด และ ทิฏฐิมานะ เทอญ...สาธู๊



อ้าวพี่น้อง...ท่านทั้งหลาย มามะ เรามาช่วยกัน
เห็นที เราต้องรีบกระจาย dmc.tv ให้เขาได้รู้จัก เขาจะได้หูตาสว่าง....

นี่เราคงเผยแพร่ให้รู้น้อยไปเป็นแน่.......มีชนิดส่งสัญญาณเข้าสมองเลยก็ดีเน๊อะ...... nano technology





ปล. ไม่ได้เกลียดใครนะ เมตตาทุกคน ^^


หึ หึ dry.gif

ไม่เห็นอเวจี ไม่หลั่งน้ำตา.....

คงไม่เคยรู้ว่า สัมมาทิฏฐิประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
อ้อ..ถึงรู้ ก็คงไม่เชื่อ.....
หยุดนิ่งนั้นแหละไซร้ พรหมจรรย์
พระผุดผ่านทุกวัน สะอาดเกลี้ยง
นิวรณ์หมดสุขสันต์ สดชื่น
ชีพรื่นธรรมหล่อเลี้ยง ผ่องทั้งกายใจ

สุนทรพ่อ

#10 หมอป๊อง

หมอป๊อง
  • Members
  • 761 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กทม.

โพสต์เมื่อ 23 November 2009 - 12:28 PM

glare.gif สาธุ สาธุ สาธุ
.....
"ธรรมเหล่าใดเกิดแต่เหตุ...."
.....
เมื่อคิดไม่ออก ให้ออกจากความคิด
ทำจิตสงบ แล้วจะพบทางออก
.....

ไฟล์แนบ

  • แนบไฟล์  pen1_67.gif   2.65K   10 ดาวน์โหลด


#11 กัลฯ ภาค 7

กัลฯ ภาค 7
  • Members
  • 93 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 24 November 2009 - 11:42 AM

อ่านแล้วน่าสลดใจจังเลยค่ะ ที่นักวิชาการที่ชื่อ "อติเทพ ไชยสิทธิ์ "
กล่าวถึงพระบรมศาสดา พระสัมมาสัมพุทธเจ้าของเรา

แค่ที่เอ่ยเรียกถึงพระองค์ว่า สมณโคดม เฉยๆ ก็แย่พอแล้ว

ยังบอกว่า "สมณโคดม เป็นคนแก่ที่ตายไปแล้ว เมื่อสองพันกว่าปี"

น่าสงสารนะคะ สำหรับนักวิชาการ "อติเทพ ไชยสิทธิ์" ผู้ไม่มีศาสนาคนนี้

เมื่อวาระสุดท้ายแห่งชีวิตของแกมาถึง เมื่อกายละเอียดหลุดออกจากร่าง
อยากรู้จังเลยค่ะว่า กายละเอียดของแก จะไปอยู่ที่ไหนเอ่ย?

พวกเราโชคดีและมีบุญ ที่ได้เกิดในบวรพระพุทธศาสนา ได้เกิดเป็น
ลูกหลาน หลวงปู่ฯ หลวงพ่อฯ และคุณยายฯ

ขอแบ่งบุญให้กับ "อติเทพ ไชยสิทธิ์" ผู้ไม่มีศาสนา และน่าสงสารคนนี้
เผื่อบุญนี้ จะช่วยให้เค้าตาสว่าง และใจเปิดกว้างมากขึ้น

แต่บุญนี้ ก็คงจะช่วยอะไรไม่ได้มากนัก ในสิ่งที่เค้า ลบหลู่ พระบรมศาสดา ของเรา

ไม่อยากจะคิดต่อเลยค่ะ มัน หยองงงงง ค่ะ

:-((

#12 tong_tong_tong

tong_tong_tong
  • Members
  • 169 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 November 2009 - 02:01 PM

บาปไม่บาปมาดูเรื่องจริงๆกันดีกว่า

อธิการบดี คณะสัตว์แพทย์ ม มหานคร
ตอนเรียนท่านได้เชือดไก่เป็น พันๆๆ ตัว เชือดหมู และ วัว
สุดท้าย หลังจากนั้นมา 30 ปี ท่านเป็นมะเร็งกล่องเสียง ต้องตัดกล่องเสียงไป พูดโดยใช้กระเพาะอาหาร
ท่านเล่าให้ฟังว่า ผมรู้ว่าผมเป็นแบบนี้เพราะอะไร ผมฆ่ามาแยอะ นักศึกษาจำไว้นะ เวลาที่เราทำบุญส่งไปให้สัตว์ทดลองทุกคนต้องมานะ(จัดขึ้นทุกปี) สุดท้ายแล้วท่านก็เสียชีวิตในวัย 50 กว่าๆ