ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ปุจฉา ปราชญ์ทั้งหลาย เชิญ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 14 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 เพียงพอ

เพียงพอ

    I |\|EE|) S()|\/|E |3()DY |_()\/E.

  • Members
  • 724 โพสต์
  • Location:ไม่มีข้อมูล
  • Interests:ไม่มีข้อมูล

โพสต์เมื่อ 23 January 2006 - 09:26 PM

ปุจฉา
พระพุทธเจ้ามีปรกติตรัสกับเหล่าภิกษุสงฆ์ว่าอย่างไร?


หวังว่าจะได้คำตอบที่ดีอย่างเช่นเคย แล้วจะมาอนุโมทนาเป็นรายบุคคลไปนะคร้าบบบบ....



ปล. อ๋อลืมไป อย่าว่าอย่างเดียวนะครับช่วยตอบคำถามด้วย ท่านผู้รู้


#2 extra

extra
  • Members
  • 409 โพสต์

โพสต์เมื่อ 23 January 2006 - 09:59 PM

ที่เคยเห็นมา คือ
"ดูก่อน ภิกษูทั้งหลาย"
ถูกไหมคะ happy.gif

#3 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 January 2006 - 09:07 PM

บังเอิญไม่ใช่ผู้รู้ซะด้วยสิ ตอบงัยดีหว่า???
คิดว่าคำตอบมีอยู่ในใจน้องบูมอยู่แล้วนะครับ !?

หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน

#4 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 24 January 2006 - 09:50 PM

ดูก่อน ภิกษุทั้งหลาย พวกท่านพอทนกันไหวไหม?

ถูกไหมคะ? nerd_smile.gif

#5 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 24 January 2006 - 09:52 PM

QUOTE
พระพุทธเจ้ามีปรกติตรัสกับเหล่าภิกษุสงฆ์ว่าอย่างไร?

...............................................................................
ความเห็นของผมนะครับ...น่าจะเป็นการสอนให้เหล่าภิกษุทั้งหลายสำรวมใน "โอวาทปาฎิโมกข์" ถือว่าเป็นหัวใจพระพุทธศาสนา โอวาทปาฎิโมกข์ น่าจะเป็นคำสอนที่เป็นประธานของคำสอนทั้งหมด และ พระพุทธองค์มีปรกติตรัสกับเหล่าภิกษุสงฆ์...(ขอความเห็นสนับสนุนจากนักเรียนอนุบาลฝันในฝันด้วยนะครับ เผื่อผมเข้าใจผิดจะได้ปรับความเข้าใจให้ตรงกันครับ).....สรุปพุทธพจน์ง่ายๆ สั้นๆ ว่า "เว้นชั่ว ทำดี ทำใจให้บริสุทธิ์" ครับ ภาษาพระหรือภาษาบาลีว่า.....
" สพฺพปาปสฺส อกรณํ กุสลสฺสูปสมฺปทา สจิตฺตปริโยทปนํ เอตํ พุทฺธานสาสนํ "
"การไม่ทำความชั่วทั้งปวง การทำความดีให้เพรียบพร้อม การชำระจิตของตนให้บริสุทธิ์ผ่องใส นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย"
.............................................................................................
เรื่องการ..ละชั่วและทำดี..นั้นเป็นคำสอนระดับพื้นฐาน(ศีลธรรม)ครับ...ซึ่งเป็นคำสอนง่ายๆสำเร็จรูป แม้ไม่ต้องใช้ปัญญาพิจารณาก็สามารถนำไปปฏิบัติได้ทันที เช่น คำสอนเรื่องการมีศีล, การให้ทาน, มีความขยันอดทน ,มีความเสียสละ,มีการให้อภัย เป็นต้น ซึ่งเอาไว้สอนแก่บุคคลทั่วๆไป ที่ยังมีสติปัญญาไม่มากนัก โดยมีผลเป็นความปกติสุขไม่เดือดร้อน(สันติสุขและสันติภาพ) คำสอนเรื่องการทำจิตให้บริสุทธิ์นี้เป็นคำสอนระดับสูง(ปรมัตถธรรม) ซึ่งเป็นการสอนที่เน้นไปที่เรื่องการดับทุกข์ โดยสรุปอยู่ที่เรื่องอริยสัจ ๔ ซึ่งจะเอาไว้สอนแก่คนที่ค่อนข้างมีปัญญาบ้างแล้ว โดยมีผลเป็นความพ้นจากทุกข์ทั้งปวง(นิพพาน) ครับ..
.........................................................................
อนุโมทนาบุญในการสนทนาธรรม นะครับ..ธรรมเสวนามัย...บุญสำเร็จด้วยการสนทนาธรรมครับ..สาธุ..


ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#6 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 24 January 2006 - 10:24 PM

สาธุ..


#7 Pro

Pro
  • Members
  • 134 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 January 2006 - 07:38 PM

สาธุครับ
ยิ้มแล้วรวย อ่านกระทู้อยู่ก็ยิ้มได้ครับ

#8 นิ่งๆ นุ่มๆ

นิ่งๆ นุ่มๆ
  • Members
  • 618 โพสต์

โพสต์เมื่อ 27 January 2006 - 02:17 AM

ตกลงคำตอบที่แท้จริงคืออะไรเหรอคะ?
อย่าทำตัวเหมือนเรือ ที่เก็บขยะในมหาสมุทร ใครเขาจะพูดอะไร จะว่าอะไรเราให้ใจขุ่น ก็อย่าไปสนใจ ปากก็ของเขา ความคิดก็ของเขา อย่าเอามาแบกไว้ เพราะสุดท้ายเรือจะล่มอยู่กลางมหาสมุทร ไปไม่รอด
น้าจี้

#9 เพียงพอ

เพียงพอ

    I |\|EE|) S()|\/|E |3()DY |_()\/E.

  • Members
  • 724 โพสต์
  • Location:ไม่มีข้อมูล
  • Interests:ไม่มีข้อมูล

โพสต์เมื่อ 28 January 2006 - 09:27 AM


QUOTE
ความเห็นของผมนะครับ...น่าจะเป็นการสอนให้เหล่าภิกษุทั้งหลายสำรวมใน "โอวาทปาฎิโมกข์" ถือว่าเป็นหัวใจพระพุทธศาสนา โอวาทปาฎิโมกข์ น่าจะเป็นคำสอนที่เป็นประธานของคำสอนทั้งหมด และ พระพุทธองค์มีปรกติตรัสกับเหล่าภิกษุสงฆ์...(ขอความเห็นสนับสนุนจากนักเรียนอนุบาลฝันในฝันด้วยนะครับ เผื่อผมเข้าใจผิดจะได้ปรับความเข้าใจให้ตรงกันครับ).....สรุปพุทธพจน์ง่ายๆ สั้นๆ ว่า "เว้นชั่ว ทำดี ทำใจให้บริสุทธิ์" ครับ ภาษาพระหรือภาษาบาลีว่า.....
" สพฺพปาปสฺส อกรณํ กุสลสฺสูปสมฺปทา สจิตฺตปริโยทปนํ เอตํ พุทฺธานสาสนํ "
"การไม่ทำความชั่วทั้งปวง การทำความดีให้เพรียบพร้อม การชำระจิตของตนให้บริสุทธิ์ผ่องใส นี้เป็นคำสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย"
.............................................................................................
เรื่องการ..ละชั่วและทำดี..นั้นเป็นคำสอนระดับพื้นฐาน(ศีลธรรม)ครับ...ซึ่งเป็นคำสอนง่ายๆสำเร็จรูป แม้ไม่ต้องใช้ปัญญาพิจารณาก็สามารถนำไปปฏิบัติได้ทันที เช่น คำสอนเรื่องการมีศีล, การให้ทาน, มีความขยันอดทน ,มีความเสียสละ,มีการให้อภัย เป็นต้น ซึ่งเอาไว้สอนแก่บุคคลทั่วๆไป ที่ยังมีสติปัญญาไม่มากนัก โดยมีผลเป็นความปกติสุขไม่เดือดร้อน(สันติสุขและสันติภาพ) คำสอนเรื่องการทำจิตให้บริสุทธิ์นี้เป็นคำสอนระดับสูง(ปรมัตถธรรม) ซึ่งเป็นการสอนที่เน้นไปที่เรื่องการดับทุกข์ โดยสรุปอยู่ที่เรื่องอริยสัจ ๔ ซึ่งจะเอาไว้สอนแก่คนที่ค่อนข้างมีปัญญาบ้างแล้ว โดยมีผลเป็นความพ้นจากทุกข์ทั้งปวง(นิพพาน) ครับ..

สาทุ คัยรู้อีกเชิญนะครับ

QUOTE
ตกลงคำตอบที่แท้จริงคืออะไรเหรอคะ?

คำตอบที่แท้จริง เด่วก็คงมีคนที่รู้จิงมาตอบเองและครับ รออออ หน่อยน้าาาาาา...
เพียง. . .เพื่อดำรงชีวิตอยู่ให้มีคุณค่า
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.

เพียงพอ


#10 เถลิงเกียรติ

เถลิงเกียรติ
  • Members
  • 760 โพสต์
  • Interests:N/A

โพสต์เมื่อ 28 January 2006 - 09:43 AM

QUOTE
QUOTE ธรรมจักร
ตกลงคำตอบที่แท้จริงคืออะไรเหรอคะ?

........................................................
เรียน..ท่านธรรมจักร ครับ.
ทวนคำถามนะครับ.."พระพุทธเจ้ามีปรกติตรัสกับเหล่าภิกษุสงฆ์ว่าอย่างไร?"
ตอบ..เกิดมาว่าจะมาหาแก้ว พบแล้วไม่กำ
จะเกิดมาทำไม
.....อ้ายที่อยากมันก็หลอก อ้ายที่หยอกมันก็ลวง
ทำให้จิตมันเป็นห่วงเป็นใย
.....เลิกอยากลาหยอก รีบออกจากกาม
เดินตามขันธ์สามเรื่อยไป
.....เสร็จกิจสิบหก ไม่ตกกันดาร เรียกว่า "นิพพาน" ก็ได้
.............................................................
เลิกอยากลาหยอก รีบออกจากกาม " เดินตามขันธ์สามเรื่อยไป "
........ท่านหมายถึง เป็นผู้ตามรู้ดูการปรุงแต่ง ใน " กามภพ " อันได้แก่ " ขันธสันดาน " ที่ประกอบด้วย
.......1.ราคะ
.......2.โทสะ
.......3.โมหะ
......เมื่อรู้แล้วก็ละเสียออกจาก กามภพนั้น ด้วยการปฏิบัติจิตต์ให้เข้าถึง ความ " เสร็จกิจสิบหก ไม่ตกกันดาร เรียกว่า "นิพพาน" ก็ได้ "
.......กิจ 16 อย่างได้แก่
...........1.ดวงจิตต์แห่งความใสสอาด แห่ง " ดวงทาน "
...........2..ดวงจิตต์แห่งความใสสอาด แห่ง " ดวงศีล "
...........3..ดวงจิตต์แห่งความใสสอาด แห่ง " ดวงธรรม "
...........4..กายมนุษย์ หยาบ
...........5..กายมนุษย์ ละเอียด
...........6..กายเทวดา หยาบ
...........7..กายเทวดา ละเอียด
...........8..กายพรหม หยาบ
...........9.กายพรหม ละเอียด
...........10.กายพระโสดาปฏิมรรค์
...........11..กายพระโสดาปฏิผล
...........12.. กายสกิทาคาปฏิมรรค์
...........13..กายสกิทาคาปฏิผล
...........14. กายอนาคาปฏิมรรค์
...........15. กายอรหัตตมรรค์
........... 16.กายอรหัตตผล
...........กระทำโดยสม่ำเสมอจะไม่ตกต่ำ สามารถที่จะก้าวเข้าสู่แดนนิพพานได้
.............................................................

ในฐานะที่ข้าพเจ้าเรียนมาทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ กระทู้ต่างๆ ที่ข้าพเจ้าแสดงความเห็นใน DMC.tv นี้
อาจเป็นเรื่องที่แตกต่างหรือเกี่ยวข้องกับ วิทยาศาสตร์ หรือ วิศวกรรมศาสตร์
ดังนั้นเรื่องที่ข้าพเจ้าเขียนถ้าไม่ตรงกับความคิดเห็นของท่านใด ขออย่าได้มีอคติก่อน
แต่ถ้าตรงกับความคิดเห็นของท่านผู้ใด ขออย่าได้เชื่อไปก่อน
ข้าพเจ้าขอยืนยันว่าเรื่องที่แสดงความเห็นเป็นแนวคิดของข้าพเจ้า
และข้อมูลที่ค้นคว้าเพื่อเสริมสร้างศรัทธาในพระพุทธศาสนาให้มั่นคง
ซึ่งอาจจะถูกบ้างผิดบ้างเป็นธรรมดา แต่ก็จะเป็นประโยชน์ เป็นข้อมูลหนึ่ง กับท่านที่ศึกษาทางพุทธศาสตร์
ข้าพเจ้ามีความเชื่อว่า แต่ละคนก็มีกรรมเป็นของตนเอง เราเป็นทายาทแห่งกรรม
ทำดีตามครูไม่ใหญ่ ต้องได้ดีแน่นอน
และสรุปได้ว่า การเอาธรรมในพุทธศาสนามาใช้ในการดำรงชีวิตไม่เคยล้าสมัย สามารถใช้ได้กับทุกยุคทุกสมัย

ถึงจะเป็นตะเกียงดวงน้อยด้อยแสง แต่ไฟแรงจุดติดดวงอื่นได้
ไม่เสียดายให้แสงสว่างกับผู้ใด ชักนำใจให้สว่างเพียงแต่ธรรม



#11 เพียงพอ

เพียงพอ

    I |\|EE|) S()|\/|E |3()DY |_()\/E.

  • Members
  • 724 โพสต์
  • Location:ไม่มีข้อมูล
  • Interests:ไม่มีข้อมูล

โพสต์เมื่อ 28 January 2006 - 12:38 PM

ไม่ต้องเรียกท่านก้ได้ครับผมแก่กว่าพี่11ปีนะ เด่วขี้กลากขึ้นหัว
เพียง. . .เพื่อดำรงชีวิตอยู่ให้มีคุณค่า
พอ. . .แล้วกับความรู้สึกที่ว่าอยากมีอยากเป็น
One word will suffice.

เพียงพอ


#12 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 29 January 2006 - 01:19 PM

อืม... "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย" เหมือนกันล่ะมั้งคะ

#13 xlmen

xlmen
  • Members
  • 978 โพสต์

โพสต์เมื่อ 30 January 2006 - 05:49 PM

ดูกร เธอรู้หรือ??
ดูกร เธอไม่รู้หรือ??
ดูกร อิคิวซังเธอเป็นเณรน้อยเจ้าปัญหาหรือ??
หยุดเหมือนรถเบรค นิ่งเหมือนน้ำในโอ่งที่ปราศจากลม แน่นเหมือนหลักที่ปักลงในเลน
ไม่สั่นคลอน ใสเหมือนน้ำที่ปราศจากตะกอน

#14 *ผู้มาเยือน*

*ผู้มาเยือน*
  • Guests

โพสต์เมื่อ 07 February 2006 - 07:30 PM

พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้สั่งสอนแบบ วิพัชวาที คือ มีปรกติตรัสสั่งสอนเหล่าพุทธบริษัทแบบจำแนกธรรมไปเป็นเรื่องๆไป ไม่เอนซ้ายเอนขวา ไม่หนักไปทางใดทางหนึ่ง แต่พระองค์ทรงตรัสสอนเหล่าพุทธบริษัทเป็นไปตามเหตุและผล
คำถามนี้เป็นคำถามที่พระที่พระเจ้าอโศก ทรงใช้ถามภิกาทุกองค์ ในตอนที่พระอง๕ทรงสังคายนาพระพุทธศาสนา
อิอิ..

#15 ปัจเจกชน บนทางสายกลาง

ปัจเจกชน บนทางสายกลาง
  • Members
  • 4109 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:จ. สงขลา

โพสต์เมื่อ 06 February 2007 - 01:26 PM

อืม ครับ happy.gif ดูกรภิกษุทั้งหลายเหมือนกัน