ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

ทำไมถึงเป็นขนาดนี้ ช่วยหน่อยค่ะ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 28 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 usr18368

usr18368
  • Members
  • 42 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 February 2010 - 02:53 PM

ปัญหาของดิฉันคือ รักกับแฟน มา 10 กว่าปี แฟนเป็นคนดีค่ะ แต่เรื่อง บนเตียงเราเข้ากันไม่ได้ เขาอยากมีแต่เราไม่อยาก มีอะไรกันก็เหมือนโดนข่มขืนเรยค่ะ ทั้งๆที่รักมากน่ะค่ะ แล้วปัญหานี้ก็บานปลาย เขามีคนอื่นบ้างจับได้ พอเราเสียใจมาก ทรมานมากค่ะตอนนั้น เขาก็กลับมาดีกัน
พอตอนนี้เราปรับตัวค่ะ แต่เขาไม่ค่อยปรับ เขาจะชอบพูดเวลาเรา โกรธบางเรื่อง ว่าน่าเบื่อ ย้ำๆๆๆว่าเป็นแบบนี้อีกแล้ว แล้วก็เลิกกันได้ 2-3 วันก็ดีกันอีก
ตอนนี้ก็เริ่มเป็นเช่นนั้นอีก เริ่มเบื่อมากค่ะ แต่รักเขามาก เวลาคิดว่าจะจากกันใจมันเหมือนจะขาดทุกที ร้องเป็ฯบ้านเป็นหลัง ทั้งที่เป็ฯคนวัดน่ะค่ะ เข้าวัดมา 2-3 ปี รู้เรื่องอะไรหลายเรื่อง หลวงพ่อสอนเรื่อง ศีล 8 อะไรก็รู้น่ะค่ะ แต่ทำไม มันทำยากจัง อยากจะเลิกแต่เลิกไม่ได้ คิดถึงสิ่งดีดีร้องไห้ทุกที ช่วยชี้แนะหน่อยค่ะ ทรมานมาก พยายามนัน่งสมาธินึกถึงหลวงปู่ อยู่ตอนนี้ ขอบคุณน่ะค่ะ
BoMBOmPaLmY-072-JO-oY

#2 somch

somch
  • Members
  • 249 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 February 2010 - 03:29 PM

ปัญหานี้แก้ได้ไม่ยาก

ถ้าจะอยู่ด้วยกัน ต้องปรับตัวกันทั้งสองฝ่าย ให้ศรัทธา ศีล ทิฐิ เสมอกัน
คิดว่าถ้าแฟนคุณมาวัด เขาคงไม่มีผู้หญิงอื่น

ส่วนเรื่องบนเตียงปรึกษาแพทย์ได้นี่ครับ
รายการชูรักชูรส ช่องสาม เห็นมีแพทย์มาแนะนำประจำ
แนะนำทางนี้คงไม่สะดวก

มันเหมือนเป็นกรรมของผู้หญิงที่แต่งงานแล้วอย่างนึง
ที่มักโดนสามีข่มขืนโดยถูกกฏหมาย

แต่ถ้ารักกันจริงแฟนคุณควรซื่อสัตย์มากกว่านี้
แต่ผมว่าคุณรักเขาข้างเดียวมากกว่า

ลองคุยกันดีๆ รัษาศีลห้าพร้อมๆกัน
ทำทาน และนั่งสมาธิด้วยกันบ่อยๆ

มันอาจจะเป็นกรรมเก่าของเราแต่เป็นกรรมใหม่ของเขา
แก้ไม่ยาก แต่ต้องแก้พร้อมๆกัน

#3 จั๊ว

จั๊ว
  • Members
  • 1 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 February 2010 - 03:49 PM

ผู้ใดไม่มีสิ่งอันเป็นที่รัก ผู้นั้นก็ไม่มีความทุกข์ เรากล่าวว่าผู้นั้น ไม่มีความเศร้าโศก ปราศจากกิเลสดุจธุรี ไม่มีอุปายาสคือ ความตรอมใจ ความกลุ้มใจ โบราณท่านสรุปเป็นข้อเตือนใจไว้ว่า "มากรัก ก็มากน้ำตา หมดรัก ก็หมดน้ำตา มากรักก็มากทุกข์ หมดรักษ์ ก็หมดทุกข์"

พวกเรา ปุถุชนทั่วไป แม้ยังไม่สามารถตัดรักได้เด็ดขาด แต่ถ้าหมั่นทำ สมาธิ เจริญมรณานุสติเป็นประจำ ก็จะทำให้ ความรัก มามีอิทธิพล เหนือใจเราไม่ได้มาก มีสติ มีความเด็ดเดี่ยว ก็จะมีจิตโศกน้อยกว่าคนทั่วไป อาการ ไม่หนักหนาสาหัสนัก เพราะนึกถึง ความตายแล้ว ทำให้ใจคลายออกจาก รัก ซึ่งเป็นต้นทางของความโศก พอคิดว่า เราเองก็ต้องตาย จะตายเมื่อไหร่ ก็ไม่รู้ เท่านี้ ก็เริ่มจะได้คิด ความโศก ความรักเิริ่มหมดไปจากใจ มีสติ มาพิจารณาตนเอง ไม่ประมาท ขวนขวายในการสร้างความดี จากนั้น ตั้งใจเจริญสมาธิ ภาวนาเต็มที่ ก็จะสามารถทำนิพพานให้แจ้งได้ และตัดความรัก ตัดความโศก ออกจากใจ ได้อย่างเด็ดขาดในที่สุด

ข้อเตือนใจ
"ความโศก ความร่ำไร ความทุกข์" อันมากมายอย่างนี้ อยู่ในโลก ก็เพราะ อาศัยสัตว์ หรือ สังขาร อันเป็นที่รัก เมื่อไม่มีสัตว์ สังขาร อันเป็นที่รัก ความโศก ความร่ำไร ความทุกข์ เหล่านี้ย่อมไม่มี

ผู้ใด ไม่มีสัตว์ หรือ สังขาร อันเป็นที่รักในโลกไหน ๆ ผู้นั้น ย่อมเป็นผู้มีความสุข ปราศจากความโศก เพราะเหตุนั้น ผู้ใดปรารถนา ความไม่โศก อันปราศจาก กิเลสดุจธุรีแล้ว ไม่พึงทำสัตว์หรือ สังขารใด ๆ ในโลกไหน ๆ ให้เป็นที่รักเลย....


#4 อินทกะ

อินทกะ
  • Members
  • 13 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 February 2010 - 03:54 PM

สูตร ๕ ย ของของพ่อแก้ปัญหาครอบครัว ยิ้มแย้ม เยือกเย็น ยินยอม ยกย่อง เยินยอ และนอกจากนี้มีสิ่งหนึ่งที่จะต้องทำความเข้าใจ คำของหลวงพ่อท่านมักจะบอกเสมอว่า ให้เราทำหน้าที่ของแต่ละห้องให้สมบูรณ์ เช่น เวลาอยู่ในห้องครัวเราก็เป็นแม่ครัว ห้องรับแขกเราก็ต้องทำหน้าที่เจ้าของบ้าน เวลาอยู่ในห้องนอนก็ทำหน้าที่ในห้องนอนให้สมบูรณ์ อย่าใช้คำพูดรุนแรง หรือดูถูกเขา แต่ให้พูดให้ไพเราะ อ่อนหวาน ผู้ชายส่วนมากก็เป็นแบบนี้แหละ ต้องใจเย็นๆ อธิบายให้เขาฟัง บอกเขาว่าเขาให้ความสุขหรือทุกข์กับเราแบบตรงๆแต่ต้องประกอบด้วยความรักไม่ใช่หงุดหงิด และกระแทกกระทั้นแบบไม่ให้เกรียรติเขา ถ้าเราให้เกียรติเขา เขาจะให้เกรียรติเรา และถ้าเขารักเราจริงเขาจะยินดี เราเองก็ต้องให้ระยะห่างในเรื่องนี้ที่พอดี การครองเรือนถ้าไม่รักษาระยะห่างในสิ่งนี้จะกลายเป็นเรื่องใหญ่เพราะ "คนยังมีกิเลสอยู่" ถ้ามากไปก็กลายเป็นมักมาก และที่สำคัญต้องทำให้บ้านเย็นอยู่เสมอ คือ ถ้ามีลูกแล้วอย่าดุด่าลูก ต้องอดทน อดทน และอดทน มีเรื่องอะไรให้หยุด นิดหนึ่ง ไม่ต้องหาเหตุผลเพื่อเอาชนะ ลองหยุดคิดถึงสิ่งที่ดีของเขา แล้วใช้สูตร ๕ย ของหลวงพ่อดู ลองปรับดูนะครับ จากผู้ชายที่มีครอบครัวแล้ว

#5 @--แสงตะวัน--@

@--แสงตะวัน--@
  • Members
  • 723 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Thailand

โพสต์เมื่อ 01 February 2010 - 04:05 PM

โฮ่ โฮ่ โฮ่ ช่วงนี้ปัญหารักๆ ใคร่ๆ เยอะแฮะ :-)
ปัญหาบางปัญหามันก็เป็นอารมณ์โลกนะว่าไหม แนะนำเจ้าของกระทู้อ่านหรือฟัง case study เยอะๆ ครับ เกือบทุก case จะมีแนวทางการแก้ปัญหาในเรื่องเหล่านี้อยู่ มีข้อแนะนำสั้นๆ สองอย่างครับ

1. ถ้ายังไม่แต่งงาน แนะนำให้เลิกครับ (หนักไปเปล่าเนี่ย) แต่ก่อนเลิกต้องประเมินตามคุณ somch บอกเรื่อง ศรัทธา ศีล และ ทิฐิ เพราะถ้าไม่เสมอหรือใกล้เคียงกันอยู่ด้วยกันไปก็มีแต่จะทรมาณหนักเข้าไปอีก ปล. ด้วยความเคารพ ตอนประเมินตนเองต้องใจเป็นกลางด้วยนะครับ เพราะเรามักคิดเข้าข้างตัวเองเสมอ

2. ถ้าแต่งงานแล้ว แนะนำอ่านหนังสือ lovely love และ at last you win น่าจะพอบรรเทาได้ และพยายามอย่างเต็มที่ ใช้กุลศโลบายทุกวิถึทางเพื่อให้เค้า มีศรัทธา ศีล และทิฐิ ใกล้เคียงหรือเสมอเรา (มากน้อยอีกเรื่องนะครับ) และเชื่อว่าอย่างไร "เราก็ตัดสินใจแล้ว" ดังนั้นต้องยอมรับการตัดสินใจของเราเอง จะสุขหรือทุกข์ ก็เราเอง สุดท้าย "ปรับที่ตัวเรา" อย่า "ปรับที่ตัวเค้า" อันนี้สำคัญ อย่าพยายามเปลี่ยนคนอื่น ซักวันเพื่อบุญส่งผลชีวิตคู่เราอาจจะดีจนใครๆ ต้องอิจฉาก็ได้ครับ เชื่อดิ

ปล. เรื่องเจ้าชู้ ปล่อยๆ ไปเถอะครับ กระแสโลกมันแรงจริงๆ ให้เค้าไปตกนรกคนเดียว เราอย่าไปร้อนใจเพราะเขาเลย ทำเฉยๆ ปล่อยไป แต่ที่สำคัญคือต้องทำบ้านให้อบอุ่น ให้เค้ากลับมาแล้วสบายใจ เดี่ยวสุดท้ายเจ้าตัวแสนมันก็กลับมาตายรังเองหละครับ เพราะเรื่องบนเตียงไม่ใช่สิ่งที่เค้าต้องการจริงๆ หรอกครับ เชื่อดิ
"ชีวิตนี้อุทิศเพื่อพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย"

#6 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 February 2010 - 04:25 PM

ความรักจะหวานหอม ถ้ายอมๆกันเสียบ้าง
ความรักจะเลิกร้าง หากจะเอาได้อย่างใจ
ความรักจะยาวไกล หากสองใจใจเย็นๆ
ความรักเหมือนเหล็กร้อนที่กอดนอนทุกเช้าเย็น
เผาใจอยู่ไม่เว้นไม่เลิกรักไม่เลิกร้อน
หากยังรักกันอยู่เราทั้งคู่พึงสังวรณ์
สักวันต้องจากจรไม่จากเป็นก็จากตาย
ถึงวันเขาจากไปทนได้ไหมหัวใจเรา
ความทุกข์ทรมานดุจหมู่มารที่รุมเร้า
ล้วนเกิดในใจเรา แล้วแผดเผาใจเราเอง

#7 usr18368

usr18368
  • Members
  • 42 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 February 2010 - 05:11 PM

ขอบคุณทุกๆคนน่ะค่ะ ขอบคุณมากๆค่ะ

rolleyes.gif rolleyes.gif rolleyes.gif

อนุโมทนาบุญด้วยน่ะค่ะ -|-
BoMBOmPaLmY-072-JO-oY

#8 ~เด็กวุ่นวาย~

~เด็กวุ่นวาย~
  • Members
  • 156 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 February 2010 - 05:28 PM

"ความรักก็เหมือนการจับไฟนั่นแหละ ทางที่จะไม่ให้มือพองเพราะไฟเผามีอยู่ทางเดียว คืออย่าจับไฟอย่าเล่นกับไฟ ทางที่จะปลอดภัยจากรักก็ฉันนั้น มีอยู่ทางเดียวคืออย่ารัก"


"ภคินี - ร่างกายนี้เป็นเหมือนเรือนซึ่งสร้างด้วยโครงกระดูก มีหนังและเลือดเป็นเครื่องฉาบทา ที่มองเห็นเปล่งปลั่งผุดผาดนั้นเป็นเพียงผิวหนังเท่านั้น เหมือนมองเห็นความงามแห่งหีบศพ อันวิจิตรตระการตา ผู้ไม่รู้ก็ติดในหีบศพนั้น แต่ผู้รู้ เมื่อทราบว่าเป็นหีบศพ แม้ภายนอกจะวิจิตรตระการตาเพียงไรก็หาพอใจยินดีไม่เพราะทราบชัดว่า ภายในแห่งหีบอันสวยงามนั้นมีสิ่งปฏิกูลพึงรังเกียจ"


ผู้ใดตกอยู่ในความรัก ดวงใจของผู้นั้นย่อมเป็นทาส ทาสของความรัก ทาสรักนั้นจะไม่มีใครสามารถช่วยปลดปล่อยได้ นอกจากเจ้าของดวงใจจะปลดปล่อยเอง


แต่ความรักต้องมีวงจรของมัน จนกว่ารักนั้นจะสุดสิ้นลง ชีวิตมันจะเป็นอย่างนี้เสมอ เมื่อใครคนหนึ่งพยายามดิ้นรนหาความรัก เขามักจะไม่สมปรารถนา แต่พอเขาทำท่าจะหนีความรักก็ตามหา ความรักจึงมีลักษณะคล้ายเงา เมื่อบุคคลวิ่งตาม มันจะวิ่งหนี แต่เมื่อเขาวิ่งหนี มันจะวิ่งตาม

จักรวาลนี้ไม่มีไฟอะไรร้อนแรงและดับยากเท่าไฟรัก ความรักเป็นความเรียกร้องของหัวใจ มนุษย์เราทำอะไรลงไปเพราะเหตุเพียงสองอย่างเท่านั้น คือเพราะหน้าที่อย่างหนึ่ง และเพราะความเรียกร้องของหัวใจอีกอย่างหนึ่ง ประการแรกแม้จะทำสำเร็จบ้าง ไม่สำเร็จบ้าง มนุษย์ก็ไม่ค่อยจะเดือนร้อนเท่าใดนัก เพราะคนส่วนมากหาได้รักหน้าที่เท่ากับความสุขส่วนตัวไม่ แต่สิ่งที่หัวใจเรียกร้องนี่ซิ ถ้าไม่สำเร็จ หรือไม่สามารถสนองได้ หัวใจจะร่ำร้องอยู่ตลอดเวลา มันจะทรมานไปจนกว่าจะหมดฤทธิ์ของมัน หรือมนุษย์ผู้นั้นตายจากไป

ส่วนหนึ่งจากธรรมบาทพระอานนท์พุทธอนุชา ตอนความรักความร้าย




ความรักก็เหมือนการจับไฟนั่นแหละ ทางที่จะไม่ให้มือพองเพราะไฟเผามีอยู่ทางเดียว คืออย่าจับไฟอย่าเล่นกับไฟ
ทางที่จะปลอดภัยจากรักก็ฉันนั้น มีอยู่ทางเดียวคืออย่ารัก

#9 Love Boon

Love Boon
  • Members
  • 176 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 01 February 2010 - 06:10 PM

ใจเย็นๆ ค่ะ ปัญหาทุกอย่างมีทางออกเสมอ ทำใจใสๆ ใช้สติในการแก้ไขปัญหา หาทางพาคู่ของคุณมาที่วัด มาเจอสังคมที่ดี สังคมใหม่ๆ ไม่แน่คุณทั้งคู่อาจจะได้ถือศีลแปด ไปพร้อมๆ กัน สู่ๆๆนะค่า

#10 Apple072

Apple072
  • Members
  • 10 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 February 2010 - 06:28 PM

เตรียมใจไว้เลย เลิกกันแน่นอน แต่จะหาวิธีแบบไหน ที่เลิกแบบไม่เจ็บเขา ไม่เจ็บเรา ยกตัวอย่างน้องคนใกล้ตัวเป็นแบบนี้เด๊ะเลยค่ะ
แนะนำให้คบคนที่แก่บุญแก่บารมี แล้วจะพบทางออก แบบไม่เจ็บ (เพราะหลงรักตัวเองเข้าแล้ว)






#11 ดินสอแห่งธรรม

ดินสอแห่งธรรม

    สร้างบารมีเป็นหมู่คณะ = ฝึกตนให้เป็นผู้ใจกว้าง

  • Members
  • 1478 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ดุสิตบุรี
  • Interests:สร้างบารมีแบบเต็มกำลัง

โพสต์เมื่อ 01 February 2010 - 06:56 PM

...เป็นวิบากกรรมน่ะครับ ตอนเป็นชายเมื่ออดีตชาติคงไปทำประมาณนี้เอาไว้ ตอนนี้ก็ต้องทน และทนล่ะครับ ยิ่งผูกโกรธก็อาจต้องเจอกันอีกชาติหน้า ผมคงไม่แนะนำอะไรนอกจาก ทน กับ ทนน่ะครับ นึกถึงคำคุณยายไว้ "...ยายน่ะสู้ ...สู้จนหัวชนฝา"
..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....

#12 เดือนฉายงามแสง

เดือนฉายงามแสง
  • Members
  • 214 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 February 2010 - 07:48 PM

ขอตอบในฐานะที่มีครอบครัวมาแล้วละกันนะ
แต่ตอนนี้ก็เหมือนโสดอีกรอบ
เพราะคนข้างกายได้ถวายเป็นพุทธบุตรช่วยงานหลวงพ่อแล้ว

สิ่งที่อยากให้ลองคิดและตอบตัวเองอย่างตรงไปตรงมาและชัดเจน คือ

1.ตัวเราต้องการอะไรในชีวิตครอบครัว แต่งงาน มีลูก เลี้ยงลูก ดูแลสามี ชอบใช้ชีวิตอย่างนี้หรือเปล่า

2.ตัวเราเข้าวัด เป้าหมายของเราคืออะไรในการเข้าวัด เข้ามาเพื่อสงบจิตใจเป็นระยะ ๆ มา ๆ ไป ๆ
แบบสาธุชนทั่วไป หรือมาเพื่อต้องการเรียนรู้ ศึกษา วิชชาธรรมกายอย่างจริงจัง มุ่งมั่นอยากรักษาพรหมจรรย์
(ซึ่งทำได้ทั้ง ๆ ที่แต่งงานและมีครอบครัวแล้ว)

3.ต้องคุยกับคนข้างตัวให้เข้าใจ ว่าเราสนใจพระพุทธศาสนา สนใจแบบไหน อย่างไร และที่สำคัญ
คนข้างตัวเขาสนใจกับเราด้วยหรือไม่ สนใจแค่ไหน ระดับไหน

4.คุณ 2 คน จะปรับเข้าหากันในลักษณะไหน อย่างไร
ไม่ว่าคุณจะเ้ลือกทางไหน ต้องทางสายกลางจะดีที่สุดนะคะ

คนเป็นสามีภรรยากันแล้ว ไม่ควรจะปิดบังอะไรกันเลย ควรจะคุยเปิดเผยนะคะ

สิ่งที่สำคัญเวลานั่งสมาธิขอให้ทิ้งทุกสิ่ง อารมณ์สบายอารมณ์เดียว ฟังเสียงหลวงพ่อนำนั่งสมาธิด้วย
จะยิ่งเยี่ยม บอกตัวเองว่าขอเวลาหยุดนิ่งสัก 30 นาทีในโลกส่วนตัวของฉันกับเสียงหลวงพ่อละกันนะ
พอใจนิ่ง ๆ ให้อธิษฐานทันที ขอให้สามีสนใจธรรมะ และอยากปฏิบัติธรรมเหมือนตัวเรา ย้ำ ๆ ถี่ ๆ นะคะ
แล้วไม่นานคุณจะรู้ผลของการอธิษฐานเอง แต่ต้องทำสม่ำเสมอทุกวันนะคะ





#13 informal

informal
  • Members
  • 28 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 February 2010 - 09:23 PM

ทุกข์เพราะยึดติดถือมั่น เหมือนต้นไม้ใหญ่ ยังโตไม่เต็มที่
จึงไม่ถ่องแท้ว่า แม้กิ่ง ใบ หรือต้น ก็ไม่อาจรักษาเอาไว้ได้
กิเลสมารุมเร้าให้ไหวเอน เดี๋ยวสุข .. เดี๋ยวเศร้า..
เวลา.. สติ.. กัลยณมิตร.. จะช่วยให้ผ่านไปได้อย่างปลอดภัย
เอาใจช่วยคะ

#14 หยุด นิ่ง ใส

หยุด นิ่ง ใส
  • Members
  • 167 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 February 2010 - 09:30 PM

เรื่องชีวิตคู่นี่ ไม่เข้าใครออกใคร ปัญหาร้อยแปด เกิดจากวิบากกรรม ในอดีตชาติ
และกรรมกาเม ตามมาส่งผล
ผมเชื่อโดยส่วนตัวนะครับว่า ทุกครอบครัวมีปัญหาด้วยกันทั้งนั้น
จากเรื่องที่เล็กมาก ๆ ไปจนถึงใหญ่มาก ๆ

ปัญหาทุกปัญหามีทางออกเสมอครับ

ลองศึกษาจากเคสที่หลวงพ่อเล่า และวิธีแก้ไขดูนะครับ
จากเวปเรานี่หล่ะเรื่องของคุณคล้าย ๆ กันก็มีครับ
เข้าเวปบ่อย ๆ นะครับ
หากมีปัญาความรัก อย่าฟังเพลงทางโลกเด็ดขาดครับ ให้ฟังเพลงวัด

เกิดเป็นลูกหลวงพ่อ เป็นหลานคุณยาย เป็นเหลนหลวงปู่
ปัญหาทางโลกแก้ได้หมดครับผมคิดแค่นี้ เรื่องอื่น ๆ นอกนั้นเขามาหลอกล่อเรา

ที่สำคัญอย่าท้อครับ ไม่ลืมเป้าหมายของตนเอง อย่าลืมนะครับว่าเราเกิดมาสร้างบารมี
เกิดมาเพื่อขัดเกลากิเลส ชาติต่อไปจะได้เกิดเป็นชาย
และอย่าไปผูกโกรธเขานะครับ หมั่นแผ่เมตตาให้เขาเวลาอธิฐานจิต

ชวนเขานั่งสมาธิ รักษาศีล ตามแบบฉบับคนวัดเลยจะยิ่งดีมาก ๆ




#15 kissy

kissy
  • Members
  • 589 โพสต์

โพสต์เมื่อ 01 February 2010 - 09:34 PM

QUOTE
แต่เรื่อง บนเตียงเราเข้ากันไม่ได้ เขาอยากมีแต่เราไม่อยาก มีอะไรกันก็เหมือนโดนข่มขืนเรยค่ะ ทั้งๆที่รักมากน่ะค่ะ แล้วปัญหานี้ก็บานปลาย


เหอ ๆ ๆ

เรื่องของผู้ใหญ่

kissy ไม่รู้..

ยังไงก็ ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ





#16 voyager

voyager
  • Members
  • 23 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 01 February 2010 - 11:52 PM

หลังจากตัดสินใจใช้ชีวิตด้วยกันแล้ว ถ้ารักกันก็น่าจะปรนนิบัติซึ่งกันและกันได้ พระอริยะบุคลคลขั้นพระโสดาบัน เช่น นางวิสาขา ก็มีครอบครัวมีลูกมากมาย และอีกหลายท่านแต่จำชื่อไม่ได้(บางท่านต้องการจะทำบุญอย่างมากกลัวสามีจะไม่มีใครปรนนิบัติต้องไปจ้างหญิงบริการมาดูแลสามีแทนในช่วงเวลาหลายวันที่ท่านต้องการทำอาหารถวายพระพุทธเจ้าด้วยตนเอง) ลองคุยกันพากันเข้าวัดฟังธรรม เผื่อบุญกุศลจะส่ง อยากให้คนมีบุญแต่งงานกันให้คนมีบุญได้มาเกิดจะได้ช่วยกันสืบทอดพระศาสนาให้ยีนยงอยู่ได้นาน ๆ

#17 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 02 February 2010 - 02:12 AM

สงสัยคงต้องยืมคำพูดหลวงพ่อ ที่ว่า เบื่อๆ อยากๆ เดี๋ยวก็เบื่อชีวิตคู่ เดี๋ยวก็อยากมีคู่
ทั้งๆที่รู้ว่ามีคู่แล้วมีทุกข์ มากกว่ามีสุข แต่ก็ยังยินดีที่จะเลือกมีคู่

คำแนะนำแบบทางโลกนะคะ
หากให้หลัก ๕ ย แล้วไม่ได้ผล
ให้ลองใช้สมองนะคะ ส่วนเรื่องหัวใจเก็บไว้ก่อน แล้วลองถามตัวเองดูซิคะว่า ตัวเองมีคุณงามความดีอะไรบ้าง มีค่ามากแค่ไหน
แล้วคนที่หลงรัก และทำให้คุณเจ็บปวด ขาดความภาคภูมิใจ คนๆ นั้นมีค่ามากแค่ไหน ที่เราจะยอมเสียความภาคภูมิใจไป
ไม่เห็นว่าจะต้องเอาชีวิตของตัวเราเองไปผูกกับชีวิตของผู้อื่น แล้วต้องเจ็บปวดเสียใจ ทนทุกข์ทรมาน
หากใช้สมองตรองด้วยหลักเหตุและผลแล้ว ก็ควรใช้ความกล้าในการตัดสินใจที่จะเลือกทางของตัวเอง

QUOTE
คิดถึงสิ่งดีดีร้องไห้ทุกที

ลองเอาสิ่งที่ดีๆ เทียบกับสิ่งที่ไม่ดีดูซิคะ ให้เขียนในกระดาษแล้วลิสต์เป็นข้อๆ ดู พร้อมให้คะแนนด้วยก็ได้

QUOTE
อยากจะเลิกแต่เลิกไม่ได้

หลวงพ่อบอกว่า
ทำไม่ได้ เพราะ ไม่ได้ทำ
ทำได้ เพราะ ได้ทำ



ทุกอย่างมันอยู่ที่ใจของเรานะคะ ให้กล้าที่จะก้าวเดิน ให้กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง หากยังไม่กล้าที่จะเปลี่ยนแปลง ก็ลองถามตัวเองดูนะคะว่า เจ็บพอหรือยัง? ยินดีที่จะต้องเจ็บปวดซ้ำๆ แบบที่ผ่านมาหรือไม่?
และที่สำคัญเหนืออื่นใดในเรื่องของความรักนะคะ ให้รักตัวเองให้มากขึ้น หากยังไม่รู้จักที่จะรักตัวเอง ก็คงยากที่จะสามารถรักผู้อื่นได้อย่างมีความสุข
หากใช้หัวใจมามากพอแล้ว ก็ให้ใช้สมองบ้าง และให้เชื่อและใช้สมองในการตัดสินใจบ้าง

ดูๆ แล้วรู้สึกเหมือนว่า ศีล ศรัทธา ทิฐิ ไม่เสมอกันนะคะ
สุดท้ายก็ขอฝาก...ให้ลองอ่านหนังสือ "ความรักที่น่ารัก" ของหลวงพ่อดูนะคะ
http://www.tawandham...velylove_th.exe

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป


#18 @--แสงตะวัน--@

@--แสงตะวัน--@
  • Members
  • 723 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Thailand

โพสต์เมื่อ 02 February 2010 - 03:01 AM

QUOTE
ให้ลองใช้สมองนะคะ ส่วนเรื่องหัวใจเก็บไว้ก่อน แล้วลองถามตัวเองดูซิคะว่า ตัวเองมีคุณงามความดีอะไรบ้าง มีค่ามากแค่ไหน
แล้วคนที่หลงรัก และทำให้คุณเจ็บปวด ขาดความภาคภูมิใจ คนๆ นั้นมีค่ามากแค่ไหน ที่เราจะยอมเสียความภาคภูมิใจไป
ไม่เห็นว่าจะต้องเอาชีวิตของตัวเราเองไป ผูกกับชีวิตของผู้อื่น แล้วต้องเจ็บปวดเสียใจ ทนทุกข์ทรมาน
หากใช้สมอง ตรองด้วยหลักเหตุและผลแล้ว ก็ควรใช้ความกล้าในการตัดสินใจที่จะเลือกทางของตัวเอง


ท่อนนี้ขอซื้อเลยนะครับ ใจมาก มาก :-) ขอเสริมนิดเดียว ผมว่าค่าของคนไม่มีมากมีน้อยหรอกครับ ปัญหาจริงอยู่ที่เราเห็นค่าของตัวเราเองมากแค่ไหน และเราเข้าใจคุณค่าของเราเองจริงๆ หรือเปล่า
"ชีวิตนี้อุทิศเพื่อพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย"

#19 Suranat

Suranat
  • Members
  • 1 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 02 February 2010 - 08:58 AM

ดูเป้าหมายของชีวิตนะครับ ว่าเราเกิดมาเพื่ออะไร เหมือนที่ท่านคุณครูไม่ใหญ่ท่านบอกเรา
เกิดมาเพื่อสร้างบารมี เรื่องอื่นไว้ทีหลังไว้ท้ายๆเลยก็ได้ ถ้าอยากมีแต่ความสุข เสวยสุข ก็สั่งสมบุญแล้วไปสวรรค์
ชั้นใดชั้นหนึ่ง ไปดูเทพบุตรสุดหล่อดีกว่า ท่านว่าทั้งหล่อทั้งสวย หาใครบนโลกมนุษย์มาแปลบไม่ได้
ผมก็หนึ่งคน อยากไปดูไปชม เลยเริ่มสั่งสมบุญ เลยลืมเรื่องนี้ไปเลย รักกันไม่นานก็จาก รักมากรักน้อย ก็จากอยู่ดี
ไปในเส้นทางตัวเองดีกว่า

#20 Boonlai

Boonlai
  • Members
  • 3 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 February 2010 - 10:02 AM

คนจริงมักจะเป็นแบบนี้ล่ะครับ เป็นวิสัยธรรมดาของคนที่รักจริง วิธีแก้ก็ดังที่หลาย ๆ ท่านแนะนำไว้ดีแล้ว หากหักดิบได้ง่าย ก็สบายเยอะครับ ฟังเพลงแนวอกหักของรักทางโลก แต่ไม่ต้องไปผูกโกรธน่าจะ OK น่ะครับ แหม่ ไปมัวงมโข่งทำไมหนอเรา ...ถอนหายใจลึก ๆ จบเลย ..ง่ายนิ้ดเดียว อยู่ที่ใจจริง ๆ ล่ะครับ

#21 Lucky Girl

Lucky Girl
  • Members
  • 653 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 02 February 2010 - 10:20 AM

ตอนอยู่ในปัญหา มันก็คิดไม่ออกซิจ้ะ เหมือนหัวหมุนอยู่ในทอร์นาโด
ต้องหาที่พัก หลบภัย แล้วค่อยมองย้อนไป แล้วจะรู้ว่า อุ้ยตาย มัวไปเสียเวลารักเขาหัวปักหัวปำอยู่ตั้งนาน เสียดายเวลาจัง
เวลาเจ็บ เราก็เจ็บคนเดียว
เวลาตาย เราก็ตายคนเดียว

รีบๆ วางเสียเถอะ ของปลอมๆ อย่างนี้
มาจับของจริงดีกว่าจ๊ะ
เวลาน่ะ วิ่งเร็วจะตาย เดี๋ยวก็วัน เดี๋ยวก็คืนแล้ว

อ้าว แก่เสียแล้ว (คนตอนจ้ะ)


#22 น้ำแข็งใส

น้ำแข็งใส
  • Members
  • 47 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 February 2010 - 10:37 AM

ไม่มีคำแนะนำค่ะ มีแต่คำปลอบใจ
ขอให้ จขกท. มีกำลังใจที่เข็มแข็งนะค่ะ


#23 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 02 February 2010 - 12:29 PM

กระทู้แนวนี้ คำแนะนำดีๆ เพียบ ผมว่า คุณเจ้าของกระทู้ต้องพยายามทำความรู้จักตัวเองเพิ่มเติม อย่างที่หลายๆ ท่านแนะนำมานั่นแหละครับ ว่าเจ้าของกระทู้อยากใช้ชีวิตแบบไหน

อยากจะใช้ชีวิตแบบ นางวิสาขา ผู้เป็นพระโสดาบัน แต่ก็อยู่ครองเรือน
อยากจะใช้ชีวิตแบบ ภรรยาของพระมหากัสสปะ(ตอนช่วงยังเป็นฆราวาส) ที่ต่างก็รักกัน แต่อยู่กันเหมือนพี่น้องทั้งคู่ นั่นก็อีกแบบหนึ่ง
อยากจะใช้ชีวิตแบบ ภิกษุณี ในสมัยพุทธกาล คือ เข้าวัด ประพฤติพรหมจรรย์ เลิกยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลก นั่นก็อีกแบบหนึ่ง ลองเลือกดูนะครับ นี่ก็ไม่ทราบว่า ถึงขั้นแต่งงานมีลูกด้วยกันแล้วหรือเปล่า หากมีลูกแล้ว ถ้าคิดจะเลือกวิธีนี้ ก็ต้องพิจารณาให้มากนิดนึงนะครับ ว่ามีใครดูแลลูกแล้วหรือยัง

ลองดู Case Study นี้เป็นตัวอย่างก็ได้ครับ ว่าภรรยาเริ่มเบื่อ การประกอบกิจบนเตียง แต่สามียังทำใจไม่ได้ แล้วคุณครูแนะนำอย่างไร
http://www.dmc.tv/pa...2548-04-20.html
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#24 usr25998

usr25998
  • Members
  • 38 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 February 2010 - 07:57 PM

ช่วงนี้ให้เอาบุญงานบวชแสนรูปสิคะ ปัญหาก็เป็นเรื่องเล็ก เลิกกังวลเรื่องไม่เป็นเรื่องเถอะค่ะ

#25 *Namkhang*_*

*Namkhang*_*
  • Members
  • 41 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 February 2010 - 10:17 PM

ผู้ชายแบบนี้น่าจับไปบวชไม่ต้องสึกออกมาเลย


#26 *Namkhang*_*

*Namkhang*_*
  • Members
  • 41 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 February 2010 - 10:30 PM

เป้นกำลังใจให้คุณusr18368เจ้าของกระทู้ค่ะ คุณเป็นผู้หญิงที่ดีและประเสริฐกว่าเขานะ
มองดูนะคะว่า ผู้หญิงอีกหลายๆคนบนโลกใบนี้ก็เจอมรสุมชีวิตที่ทำให้ซ้ำหัวใจ ที่คุณตัดเขาไม่ได้ก็เพราะคนเจ้าชู้มักจะทำให้สาวๆตกหลุมรักหัวปักหัวปำอยุ่เป็นประจำ นั่นก็คือความสุขของเขา และเขาจะรู้ด้วยว่าเวลาไหนที่ควรจะให้ความสำคัญกับใคร และยากที่คำสอนของเราที่กลั่นออกมาจากความรักและความปรารถนาดีจะซึมซับเข้าหัวอกหัวใจเขา คุณลองหาวิธีทางอ้อม ชวนเขาไปล้างป่าช้า ไปดูศพ ดูรูปภาพ นำสื่อมาเปิดทำทีเป็นเล่นๆอ่ะค่ะ จะได้เข้าหูเขาบ้าง ทุกคนที่เคยทำผิดก้ไม่มีใครคนไหนอยากลงนรกหรอกค่ะ อยากมีความสุขทั้งโลกนี้และโลกหน้ากันทั้งนั้น อย่าพูดตรงๆนะคะเพราะเขาจะต่อต้าน หากรักที่จะให้เขาได้มีความสุขที่แท้จริงทั้งโลกนี้และโลกหน้าก็ใช้วิธีอ้อมๆสอนเขานะค่ะ

#27 ใจใสปิ๊งปิ๊ง

ใจใสปิ๊งปิ๊ง
  • Members
  • 75 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 February 2010 - 11:19 PM

ถึงคุณusr18368 ถ้าเจอเหตุการณ์แบบนี้ให้คุณคิดได้เลยค่ะว่ามันเป็นวิบากกรรมระหว่างคุณและสามีค่ะก็ขอให้คุณทำตามที่หลวงพ่อบอก
อ่ะค่ะว่าในเมื่อเรามีครอบครัวแล้วก็ให้ดูแลสามีเสมือนเทพบุตรถึงเค้าจะทำไม่ดีกับเราแค่ไหนเพราะในอดีตชาติคุณอาจจะเป็นผู้ชายและสามี
คุณเป็นผู้หญิงและคุณก็ได้กระทำแบบเดียวกับเค้าเหมือนที่คุณโดนกระทำในขณะนี้และเค้าอาจจะเจ็บปวดยิ่งกว่าเราก็ได้และก็ให้คุณกราบ
สามีคุณก่อนนอนและกล่าวคำอโหสิกรรมซึ่งกันและกันถ้าสามีคุณไม่ยินยอมทำตามคุณก็แอบทำตอนที่เค้าหลับก็ได้น่ะค่ะทำทุกวันทำไปเรื่อยๆๆ
และยิ่งถ้าเป็นวันพระ ให้คุณนำพวงมาลัยมากราบสามีก็จะยิ่งดีใหญ่เลยค่ะเวลานั่งสมาธิพอใจหยุดใจใสดีแล้วคุณก็แผ่เมตตาให้สามีแผ่เมตตาให้
บ่อยๆๆและก็อธิษฐานจิตขอให้สามีมีดวงตาเห็นธรรม เป็นครอบครัวแก้วครอบครัวธรรมกายด้วยกัน มีศิลเสมอกัน มาเป็นลูกหลานหลวงปู่
หลวงพ่อ คุณยายด้วยกัน ลองทำดูน่ะค่ะเริ่มคืนนี้เลยน่ะค่ะ

ตั้งใจมากได้บุญมาก

#28 ใจใสปิ๊งปิ๊ง

ใจใสปิ๊งปิ๊ง
  • Members
  • 75 โพสต์

โพสต์เมื่อ 02 February 2010 - 11:37 PM

ออ!ลืมบอกค่ะ เวลาคุณอธิษฐานจิตทุกครั้งอย่าลืมอธิษฐานกำกับว่า"เกิดมาทุกภพทุกชาติขอให้ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ ให้ได้เพศบริสุทธิ์
ได้บวชเรียนทุกภพทุกชาติตั้งแต่ยังเยาว์วัย ได้ประพฤติพรมจรรย์" ด้วยน่ะค่ะเพราะชาตินี้คุณก็รู้ก็เห็นแล้วนี้ค่ะว่าการมีครอบครัวมันทรมาน
มากขนาดไหน สร้างบุญสร้างบารมีก็ไม่สะดวก รักษาศีลก็ไม่สะดวก แต่ในเมื่อชาตินี้คุณมีครอบครัวไปแล้วก็ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะ ก็ขอให้
คุณทำให้ดีที่สุดทำตามที่เราแนะนำดูน่ะค่ะ ใจใสปิ๊งปิ๊งขอเป็นกำลังใจให้คุณน่ะค่ะ สักวันต้องเป็นวันของคุณค่ะ ใจใสปิ๊งปิ๊งเอาบุญทุกบุญ
ที่ได้ทำมาดีแล้วทุกๆบุญมาฝากน่ะค่ะ ให้คุณมีส่วนในบุญเท่าๆกันด้วยน่ะค่ะ สาธุ สาธุ

ตั้งใจมากได้บุญมาก

#29 PTDL

PTDL
  • Members
  • 175 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Chicago, USA

โพสต์เมื่อ 03 February 2010 - 01:54 PM

กำลังใจส่งกันมาล้นหลาม...
เวรกรรมมันก็ร้ายอย่างนี้ ผมว่าอย่างแรกคุณต้องมีฉันทะก่อน
ว่าแต่คุณแต่งงานกันรึยัง ต้องลองถามใจตัวเองว่า จะให้เวรกรรมมันบีบคั้นไปถึงไหน