ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

ถามผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับธรรมะค่ะ


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 9 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 prem

prem
  • Members
  • 128 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 17 February 2010 - 09:48 PM

สวัสดีค่ะผู้มีบุญทุกท่าน,

มีข้อสงสัยเกี่ยวกับองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าค่ะ คือว่า

1. หลังจากที่พระองค์ได้เสด็จประรินิพพานแล้วนั้น พระพุทธศาสนาเป็นเช่นไร ใครเป็นผู้สืบทอดเจตนาของพระองค์ท่านให้เจริญรุ่งเรืองมาจนยุคเราคะ

2. ส่วนพระไตรปิฎก 84,000 พระธรรมขันธ์นั้น ใครเป็นผู้บันทึกคะ
.."การนั่งธรรมะ คือ ความสุขที่เป็นยิ่งกว่าความสุขทั้งมวล"..

#2 -'๑'-ต:วัu☼สัuติิ-'๑'-

-'๑'-ต:วัu☼สัuติิ-'๑'-
  • Members
  • 61 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 February 2010 - 10:11 PM

เอามาจากอินเตอร์เน้ตนะ พุทธทำนาย ถอดความจากศิลาจารึก เขตมหาวิหาร ประเทศอินเดีย


พระอรหันต์สัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นพระสัพพัญญูรู้แจ้งโลกทั้งในอดีตและใน อนาคต ทรงมีเมตตากรุณาแก่สัตว์โลกเป็นล้นพ้นเมื่อครั้งพระองค์ดำรงพระชนม์อยู่ ได้ตรัสแก่พระอานนท์ว่า

ดูก่อนอานนท์ เมื่อศาสนาของของตถาคตล่วงเลยไปถึง กึ่งพุทธกาล สัตว์โลกทั้งหลาย ที่เกิดในยุคนั้น จะพบแต่ความลำบาก ทุกชาติ ทุกศาสนา ตามธรรมชาติอันหมุนเวียนของโลก ที่หมุนไปใกล้ความแตกสลาย แผ่นดิน แผ่นน้ำจะลุกเป็นไฟ มนุษย์และสัตว์จะได้ รับภัยพิบัติสารพัดทั่วทุกทิศ คนในสมัยนั้นจะมีนิสัยโหด ดุจกำเนิดจากสัตว์ป่า อำมหิตจะรบราฆ่าฟันกันเองถึงเลือดนองแผ่นดินแผ่นน้ำ ส่วนเวไนยสัตว์ผู้ขวนขวาย ในกุศลตามวจนะของตถาคตก็จะระงับร้อนไม่รุนแรง บ้านเมืองใดมีความเคารพยำเกรงใน พระรัตนตรัยและคุณบิดามารดา เหตุร้ายภัยพิบัติจะเบาบางแต่ก็จะหนีกฎธรรมชาติไม่พ้น

เริ่มแต่พุทธศาสนาล่วงเลย ๒,๕๐๐ ปี เป็นต้นไป ไฟจะลุกลามมาทาง ทิศตะวันออก ไหม้วัดวาอาราม สมชีพรามณ์จะอดอยากยากเข็ญ ลูกไฟจะตกจากฟ้าเป็น เพลิงผลาญ(ลูกระเบิดดีๆ นี่เอง) เหล็กกล้า จะทะยานจากน้ำ(เรือดำน้ำ) มหาสมุทธจะชอกซ้ำ สงครามจากทั่วทิศ ศึกจะติดเมือง ข้าวจะขาดแคลน ทั่วแคว้นจะอดอยาก ผีโขมดป่าจะเข้าเมือง พระเสื้อเมืองทรงเมือง จะหนีเข้าไพร ผู้เป็นใหญ่มีอำนาจ จะเรียกแมลงผีเสื้อเหล็กนับแสนตัว มาปล่อยไข่เป็นไฟผลาญ(ลูกปืน) ยักษ์หินที่ถูกสาบเป็นเวลานาน จะตื่นขึ้นมาอาละวาด โลก ดิน ฟ้าอากาศจะแปรปรวน ตลิ่งจะพัง แผ่นดินจะถล่มเป็นทะเล โลกมนุษย์จะดิ่งสู่ความหายนะ นักปราชญ์จะถูกทำร้ายให้สิ้นสูญ

ในระยะนั้นศาสนาของตถาคตจะเสื่อมลงมาก เพราะพุทธบริษัทไม่อยู่ในศิลธรรม เชื่อคำคนโกง กล่าวคำเท็จ ไม่เคารพรักธรรมนิยม คนประจบสอพลอได้รับความเชื่อถือในสังคม ผู้ที่มีศิลธรรม ประพฤติดี ประพฤติชอบ กลับไม่มีใคร เคารพยำเกรง

พระธรรมจะเริ่มเปล่งรัศมีฉายแสงส่องโลกอีกวาระหนึ่งก็ต่อเมื่อ มีธรรมิกราช โพธิญาณบังเกิดขึ้น อยู่ในความอุปถัมภ์ของพระเถระผู้ทรงธรรมฤทธิ์ ทั้งสองพระองค์สถิตย์ ณ เบื้องต้นตะวันออกของมัชฌิมประเทศ จะเสด็จมาเสริมสร้างศาสนาของตถาคต ให้รุ่งเรืองสืบไปถึง ๕,๐๐๐

(หลวงปู่จะพา จักรพรรดิวงบุญพิเศษ ลงมารอบ2 +หลวงพ่อลง รอบ2 (เทศจาก ฉฉ.)




ดูก่อนอานนท์ เวลานั้นพลโลกเหลือน้อย คำทำนายของตถาคตนี้ ย่อมยังเวไนยสัตว์ให้ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ผู้ใดรู้แล้วไม่เชื่อ นับว่าเป็นกรรมของสัตว์ ที่ต้องสิ้นสุดไปตามกรรมชั่วของตน ผู้ใดปรารถนารอดพ้นจากภัยพิบัติ ให้รักษาศิล ๕ ประการ เจริญเมตตาภารนา ประกอบสัมมาอาชีพ มีใจสันโดษ รู้จักพอ ไม่โป้ปดคดโกง ไม่หลงมัวเมาอำนาจและลาภยศ ตั้งใจปฏิบัติตน ตามคำสอนของตถาคต ให้มั่นคง จึงจะพ้นอันตรายในกึ่งพุทธกาล"


แหะๆ ไมได้เป็นผู้เชี่ยวชาญอะไรเลย แค่เอาข้อมูลมาให้ทราบกันครับ

+^^ Just You Make ^^+


#3 -'๑'-ต:วัu☼สัuติิ-'๑'-

-'๑'-ต:วัu☼สัuติิ-'๑'-
  • Members
  • 61 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 February 2010 - 10:23 PM

ข้อ 2 ไม่ทราบเลย งับ

คุ้นๆว่า สืบทอดมาจากพระอรหันต์

แล้วรวบรวมทำสังคยานามั้งครับ (<< ทะแม่งๆ เหมือนเขียนผิดเลย)

ใครรู้ก็ช่วยทำให้กระจ่างทีนะครับ

+^^ Just You Make ^^+


#4 tong_tong_tong

tong_tong_tong
  • Members
  • 169 โพสต์

โพสต์เมื่อ 17 February 2010 - 11:32 PM

1. หลังจากที่พระองค์ได้เสด็จประรินิพพานแล้วนั้น พระพุทธศาสนาเป็นเช่นไร ใครเป็นผู้สืบทอดเจตนาของพระองค์ท่านให้เจริญรุ่งเรืองมาจนยุคเราคะ
พระเจ้าอโศก พระเจ้าอชาติศัตรู และราชาแคว้นต่างๆที่ได้รับอัฐธาตุพระพุทธเจ้า เหล่าพระอรหัน และ พระในวิทยาลัยนารันธาครับ แต่หลังจากนั้น พระถังซัมจั๊งก็อัญเชิญพระไตรปิฏกที่จีนแล้ว และ ที่ศรีลังกาก็มีพระอรหันต์(ถ้าจำไม่ผิดเป็นพระมหากัสปะเถระ) ไปเผยแพร่ตั้งแต่ พระพุทธเจ้ายังไม่ปรินิพาน แต่แล้วก็หายไปจากอินเดียโดย มุสลิมและ ฮินดู

แม้กระทั่งศรีลังกาก็เหลือแต่เณร เพราะพระโดนจับสึกไปหมด จนต้องขึ้นเรือมาขอพระสงฆ์ไทยไปบวชให้ (เหตุการณ์ล้วนแต่ มีพระราชาที่เปลี่ยนศาสนา เนื่องจากมีเมีย ต่างศาสนา แม้กระทั้งมาเลเซีย แต่ก่อนก็นับถือพุทธ แต่แล้ว มีเมียเลยเปลียนศาสนา)

2. ส่วนพระไตรปิฎก 8,400 พระธรรมขันธ์นั้น ใครเป็นผู้บันทึกคะ

หลักๆ คนที่จำได้แยะมากสุดคือ พระอานนท์ครับ เพราะท่านใกล้ชิดพระพุทธเจ้ามากที่สุด และยังขอให้ซักถามได้ตลอดเวลาด้วย
ส่วนอื่นๆ ก็เป็นเหล่าพระอรหันต์ ซึ่งการสังคายนาครั้งแรก มีแต่เหล่าพระอรหันครับ พระอานนท์ก็เป็นพระอรหันต์ก่อนวันนั้นเพียงไม่กี่ชั่วโมง
ได้ดำดินไป โผล่ที่ประชุมเพื่อแสดงให้เหล่าพระอรหันต์ รู้ว่าตนเองได้บรรลุแล้ว ไม่เช่นนั้น ไม่อาจจะอยู่ในที่ประชุมได้


ใครรู้ลึกกว่านี้ช่วยตอบหน่อยครับ ผมเองก็พอรู้ ไม่ได้เก่งมาก

#5 Torres

Torres
  • Members
  • 49 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 February 2010 - 09:36 AM

QUOTE
8,400 พระธรรมขันธ์

จริงๆ ต้อง 84,000 พระธรรมขันธ์ครับ

#6 bluelotus

bluelotus
  • Members
  • 45 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 February 2010 - 01:26 PM

1. หลังจากที่พระองค์ได้เสด็จประรินิพพานแล้วนั้น พระพุทธศาสนาเป็นเช่นไร ใครเป็นผู้สืบทอดเจตนาของพระองค์ท่านให้เจริญรุ่งเรืองมาจนยุคเราคะ


ตอบ ถ้าอยากทราบแบบละเอียด ลองหาหนังสือประวัติศาสตร์พุทธศาสนามาอ่าน เช่น 'ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาในอินเดีย' ซึ่งเขียนและรวบรวมโดยพระมหาดาวสยาม วชิรปัญโญ จะมีบันทึกเหตุการณ์ไว้ตามลำดับเหตุการณ์สำคัญ และมีให้อ่านแบบย่อใน web เช่น http://server.thaigo....com/node/10479



2. ส่วนพระไตรปิฎก 8,400 พระธรรมขันธ์นั้น ใครเป็นผู้บันทึกคะ

ตอบ พระไตรปิฏก 84,000 พระธรรมขันธ์นั้น สืบทอดมาตั้งแต่การสวดแบบมุขปาฐะ โดยทำสังคยนาครั้งแรกหลังพุทธปรินิพพาน 3 เดือน โดยมีพระมหากัสสปะเป็นประธาน พระเจ้าอชาติศัตรูเป็นผู้สนับสนุน ต่อมาจึงเริ่มใช้การจารึกด้วยตัวหนังสือ ถ้าอยากทราบแบบละเอียดลองหาอ่านด้วย key word คำว่า "สังคยนาพระไตรปิฏก" จ้ะ

#7 usr25998

usr25998
  • Members
  • 38 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 February 2010 - 04:46 PM

มิได้เป็นผู้เชี่ยวชาญขอจำคำครูท่านมาบอกต่อ ตอบโดยรวมแล้วกันนะคะ
พระพุทธองค์ทรงดำเนินงานสั่งสอนพุทธธรรมให้แก่สังคมชาวโลกตลอด 45 ปี พระองค์ชักจูงให้คนชั้นสูงออกบวชศึกษาพระธรรมเป็นจำนวนมาก จากนั้นก็ร่วมทำงานประกาศหลักธรรมให้เข้าถึงชนทุกชั้นวรรณะ ผู้เลื่อมใสก็เข้ามาบวชได้ทุกวรรณะ จนถึงพรรษาที่ 45 ทรงปลงอายุสังขาร เพราะทรงเห็นว่าพุทธบริษัท 4 มีคุณสมบัติ 3 ประการที่จะช่วยกันสืบทอดอายุพระพุทธศาสนาได้ต่อไป คือ
1. ตนเองมีความเข้าใจหลักพุทธธรรมและปฏิบัติได้ถูกต้อง
2. มีความสามารถที่จะนำธรรมที่ตนรู้เข้าใจไปสอนผู้อื่นได้ และ
3. มีความเข้าใจชัดแจ้งในหลักพุทธรรมจนสามารถกล่าวชี้แจงแก้ไขต่อผู้ที่ติเตียนจ้วงจาบหรือแสดงคำสอนผิดพลาดได้
(ที.ม.๑๐/๙๕/๑๒๒-๑๒๔)
คุณสมบัติทั้ง 3 ประการนี้พุทธบริษัทควรจะต้องทำให้เกิดให้มีขึ้นในตนเพื่อจะได้ช่วยกันสืบต่อพระพุทธศาสนาไปได้ จากนั้นพระพุทธองค์ก็ทรงประทานหลักการที่สำคัญของศาสนาว่า พระธรรมวินัยที่พระองค์ได้ทรงแสดงและบัญญัติไว้จะเป็นศาสดาของเหล่าพุทธบริษัททั้งหลาย
(ที.ม.๑๐/๑๔๑๑๑๗๘)
เป็นการย่อๆนะคะสามารถหาอ่านเพิ่มเติมได้ทั้งทาง online และตำราทั่วไปทางพระพุทธศาสนาค่ะ
หลังจากพระพุทธองค์เสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว พระสาวกที่สืบต่อพระศาสนาได้จัดการทำสังคายนาและบันทึกไว้เป็นพระไตรปิฎก

#8 หยุด นิ่ง ใส

หยุด นิ่ง ใส
  • Members
  • 167 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 February 2010 - 06:08 PM

พระไตรปิฎก (อังกฤษ: Tripiṭaka, สิงหล: ත්‍රිපිටකය, เทวนาครี: त्रिपिटक) เป็นคัมภีร์ที่บรรจุคำสอนของพระพุทธศาสนา ซึ่งเรียกรวมๆ ว่า พุทธธรรม คำว่าพระไตรปิฎกมาจากภาษาบาลี ติปิฏก แปลว่า ตะกร้าสามใบ หรือคำสอนสามหมวด (ติ หมายถึง สาม ปิฏก หมายถึง ตำรา คัมภีร์ หรือกระจาด) สันนิษฐานว่าที่มาของคำว่าพระไตรปิฎกน่าจะมาจากการที่พระภิกษุจดจารึกคัมภีร์ใส่ลงในใบตระกูลปาล์มและใส่ลงในตระกร้า ถ้าอาศัยหลักฐานทางวิชาการ เชื่อว่าไตรปิฎกเป็นชื่อที่ใช้กันมาก่อนจะสังคายนาครั้งที่ 3 เพราะมีการใช้คำพูดว่า "ไตรปิฎก" ในประวัติศาสตร์ยุคพระเจ้าอโศกก่อนการสังคายนาครั้งที่ 3 จึงเชื่อได้ว่าหลังสังคายนาครั้งที่ 2 พระสงฆ์มีการแยกพระอภิธรรมออกจากพระสูตรแล้วเมื่อสังคายนาครั้งที 3 จึงแยกอย่างเป็นเรื่องเป็นราวจริง ซึ่งคำสอนสามหมวดนี้ ได้แก่

พระวินัยปิฎก หรือ พระวินัย ได้แก่ประมวลระเบียบข้อบังคับของบรรพชิตที่พระพุทธเจ้าทรงบัญญัติไว้สำหรับภิกษุและภิกษุณี
พระสุตตันตปิฎก หรือ พระสูตร ได้แก่ประมวลพระพุทธพจน์ที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงยังที่ต่างๆ ให้เหมาะกับบุคคล สถานที่ และเหตุการณ์ มีเรื่องราวประกอบ
พระอภิธรรมปิฎก หรือ พระอภิธรรม ได้แก่ประมวลคำสอนที่เป็นหลักวิชาการล้วนๆ ไม่เกี่ยวด้วยบุคคลหรือเหตุการณ์ ไม่มีเรื่องราวประกอบ
พระไตรปิฎกมีเนื้อหารวมทั้งสิ้น 84,000 ธรรมขันธ์ ฉบับพิมพ์ภาษาไทยนิยมจัดแยกเป็น 45 เล่ม เพื่อหมายถึงระยะเวลา 45 พรรษาแห่งพุทธกิจ

พระพุทธเจ้าได้ตรัสไว้ครั้งหนึ่งว่า พระธรรมวินัยจะเป็นศาสดาแทนพระองค์ภายหลังที่พระองค์ล่วงลับไปแล้ว[2] พระไตรปิฎกจึงเปรียบเสมือนตัวแทนของพระพุทธองค์ และเป็นที่ที่ชาวพุทธสามารถเข้าเฝ้าพระศาสดาของตน [3] พุทธศาสนิกชนสามารถศึกษาปริยัติศาสน์จากพระไตรปิฎก เพื่อใช้เป็นแนวทางในการปฏิบัติตนให้พ้นจากความทุกข์ อันเป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิตตามนัยแห่งพระพุทธศาสนาสืบไป

พระไตรปิฎกมีจุดเริ่มต้นมาจากการจัดรวบรวมคำสอนของพระพุทธเจ้า ออกเป็นหมวดหมู่ และซักซ้อมทบทวนกันจนลงตัว ในระยะแรก พระไตรปิฎกถ่ายต่อกันมาโดยการท่องจำปากเปล่า จนกระทั่งราว พ.ศ. 460 จึงมีการจารึกลงเป็นลายลักษณ์อักษร กล่าวได้ว่าพระพุทธศาสนาสืบทอดมาพร้อมกับพระไตรปิฎก จากสมัยพุทธกาลจนถึงวันนี้เป็นเวลากว่า 2,500 ปี พระไตรปิฎกบาลีของพระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท เป็นที่ยอมรับกันว่า เป็นบันทึกคำสอนของพระพุทธเจ้าที่เก่าแก่ที่สุด ดั้งเดิมที่สุด สมบูรณ์ที่สุด และถูกต้องแม่นยำที่สุด ที่ยังคงมีอยู่ในปัจจุบัน

สมัยพุทธกาล

พระไตรปิฎกฉบับสยามรัฐการรวบรวมคำสอนของพระพุทธศาสนาเริ่มมีขึ้นเมื่อครั้งที่นิครนถนาฏบุตร ศาสดาของศาสนาเชนสิ้นชีวิตลง และสาวกของท่านไม่ได้เก็บรวบรวมคำสอนไว้ ทำให้เหล่าผู้นับถือศาสนาเชนจึงเกิดการแตกแยก และถกเถียงกันว่าแท้จริงแล้วศาสดาของตนสอนไว้เช่นไร พระจุนทเถระทราบเรื่องจึงนำความขึ้นกราบทูลพระพุทธเจ้า พระองค์จึงได้ตรัสแนะนำให้พระสงฆ์ทั้งปวงร่วมกันทำสังคายนา[4] เพื่อรักษาคำสอนที่แท้จริงของพระพุทธศาสนาให้คงอยู่สืบไป[5]

เมื่อพระสารีบุตรทราบถึงเรื่องราวปัญหาของศาสนาเชน ก็ได้แสดงวิธีสังคายนาไว้เป็นตัวอย่างต่อหน้าที่ประชุมคณะสงฆ์ โดยรวบรวมข้อธรรมต่างๆ ให้อยู่ตามลำดับหมวด ตั้งแต่หมวดหนึ่ง ไปจนถึงหมวดสิบ เมื่อพระสารีบุตรแสดงธรรมจบแล้ว พระพุทธเจ้าก็ทรงประทานสาธุการแก่หลักธรรมที่พระสารีบุตรแสดงไว้[6]

ทั้งนี้ ในสมัยพุทธกาลยังไม่มีการรวบรวมคำสอนของพระพุทธเจ้าเป็นพระไตรปิฎก แต่ก็มีคำเรียกพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าว่า พฺรหฺมจริย หรือพรหมจรรย์[7] และ ธมฺมวินย หรือธรรมวินัย [2]


การทำสังคายนาครั้งแรก เกิดขึ้นภายหลังจากที่พระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพาน 3 เดือน ที่ถ้ำสัตตบรรณคูหา ข้างเวภารบรรพต ใกล้กรุงราชคฤห์ ประเทศอินเดีย ในพระราชูปถัมภ์ของพระเจ้าอชาตศัตรู โดยมีพระมหากัสสปเถระทำหน้าที่เป็นประธาน และเป็นผู้คอยซักถาม มีพระอุบาลีเป็นผู้นำในการวิสัชนาข้อวินัย และมีพระอานนท์เป็นผู้นำในการวิสัชนาข้อธรรม การทำสังคายนาครั้งนี้มีพระอรหันต์มาประชุมร่วมกันทั้งหมด 500 รูป ดำเนินอยู่เป็นเวลา 7 เดือน จึงเสร็จสิ้น

มูลเหตุในการทำสังคายนาครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อพระมหากัสสปเถระทราบข่าวการปรินิพพานของพระพุทธเจ้าหลังจากพระองค์ปรินิพพานแล้วได้ 7 วัน บรรดาลูกศิษย์พระมหากัสสปเถระ เมื่อได้ทราบข่าวต่างพากันร้องไห้คร่ำครวญ แต่มีภิกษุอยู่รูปหนึ่งชื่อสุภัททะ ซึ่งเป็นภิกษุแก่ กล่าวว่า ท่านทั้งหลายจะร้องไห้กันไปทำไม เมื่อสมัยที่พระพุทธเจ้ายังอยู่ พระองค์ทรงเข้มงวดกวดขัน คอยชี้ว่านี่ถูก นี่ผิด นี่ควร นี่ไม่ควร ทำให้พวกเราลำบาก บัดนี้พระองค์ปรินิพพานไปแล้ว พวกเราจะได้ทำอะไรตามใจชอบเสียที เมื่อพระมหากัสสปเถระได้ฟังดังนี้ก็รู้สึกสลดใจ ดำริว่าแม้พระพุทธเจ้าปรินิพพานไปใหม่ๆ ยังปรากฏผู้มีใจวิปริตจากธรรมวินัยถึงเพียงนี้ ถ้าปล่อยไว้นานเข้า คำสอนทางพระพุทธศาสนาอาจถูกบิดเบือนไปได้ จึงริเริ่มวางแผนการทำสังคายนา

อ่านต่อได้ที่นี่ครับ พระไตรปิฎก

#9 tong_tong_tong

tong_tong_tong
  • Members
  • 169 โพสต์

โพสต์เมื่อ 19 February 2010 - 09:30 AM

พระสาลีบุตรท่านเคยถามกับพระพุทธเจ้าว่า หลังปรินิพานของพระพุทธเจ้าองค์ก่อนๆ ศาสนาหายไปอย่างรวดเร็วมีไหม
ท่านบอกว่ามี คือ พระสิกขีพระพุทธเจ้า เพราะสมัยนั้น คนฉลาดมีบุญแยอะมาก แค่ฟังธรรมประโยคเดียวก็บรรลุแล้ว
ดังนั้น ไม่ต้องมีพระไตรปิกฏเพื่อทบทวนคำสอนของพระพุทธเจ้า ดังนั้นเมื่อหลังปรินิพานของพระพุทธเจ้า ศาสนาจึงหายไปอย่างรวดเร็ว



#10 ตะกร้าอีกใบ

ตะกร้าอีกใบ
  • Members
  • 1297 โพสต์

โพสต์เมื่อ 21 February 2010 - 10:49 PM

QUOTE
พระสารีบุตร

พระสารีบุตรนะครับ nerd_smile.gif
อย่าขาดการปฏิบัติธรรมแม้แต่เพียงวันเดียว
เพราะขาดแม้เพียงวันเดียว ใจเราจะหยาบ ทำให้ผังวิตกกังวลได้ช่อง

7 ส.ค. 48