![รูปภาพ](http://www.gravatar.com/avatar/88a47efa0af46c8ba0c14602945e8cd4?s=100&d=https%3A%2F%2Fwww.dmc.tv%2Fforum%2Fpublic%2Fstyle_images%2Fmaster%2Fprofile%2Fdefault_large.png)
บุญบารมี วัดยังไง
#1
โพสต์เมื่อ 08 April 2010 - 10:11 AM
ได้ยินมาว่า สามารถสอนตนเองได้ เพราะเป็นวิสัยของพระโพธิสัตว์
ดังเช่น เรื่อง ของพระกุมารยุธัญชัย
แม้เพียงแค่เห็น หยาดน้ำค้างบนปลายยอดหญ้า
ก็ทรงสลดพระทัยเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นหยาดน้ำก็จะเหือดแห้งหายไป
พระองค์จึงทรงดำริว่า "แม้ชีวิตและสังขารของตัวเรา
รวมทั้งสัตว์ทั้งหลายต่างก็เป็นเหมือนหยาดน้ำค้างบนปลายยอดหญ้า
จึงถือเอาความสิ้นไปของหยาดน้ำค้างนั้นมาเป็นอารมณ์ จึงได้ออกบวช"
อยากจะได้ตำตอบที่ชัดเจนมากกว่านี้จังเลยครับผม
เราพันธุ์ดีสุดขั้ว ชั่วลืมไปหมดแล้ว,จิตใจสูงส่งเหลือเกิน,มีปัญญา,มีมงคล,ทำที่ท่านได้ที่เรา
#2
โพสต์เมื่อ 08 April 2010 - 12:45 PM
ตอบ วัดที่ความแก่รอบของบารมีทั้ง 10 ทัศ ซึ่งถูกบันทึกไว้ในใจของแต่ละคนน่ะครับ หรือ ภาษาเข้าใจง่ายๆ คือ วัดที่ดวงบุญดวงบารมีที่สั่งสมอยู่ในใจแต่ละคนก็ได้ครับ
ใครเป็นผู้วัด
ตอบ ผู้ที่มีญาณทัศนะน่ะครับ ดังเช่น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเห็นความแก่รอบของบารมีที่บันทึกในใจของแต่ละคน ทำให้ทรงสามารถพยากรณ์ได้ว่า ผู้นี้อีกเท่านั้นชาติ จะได้เป็นพระอรหันต์ ผู้นั้นอีกเท่าโน้นชาติจะได้เป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ผู้โน้นอีกเท่านี้ชาติจะได้เป็น พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นต้นครับ เพราะทรงเห็นกำลังบารมีนั่นเองครับ
แล้วคนธรรมดา จะไปวัดบุญบารมีผู้อื่นได้อย่างไร
ตอบ วัดได้คร่าวๆ ด้วยประสาทสัมผัสทั้ง 6 ครับได้แก่ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ
คือ ดู ฟังว่า นายคนนี้ ฐานะร่ำรวย มีกินมีใช้หรือเปล่า มีพรรคพวกคอยช่วยเหลือมากไหม มีชื่อเสียงเก๊ยรติยศสูงไหม นี่คือ ทานบารมีขั้นต้น
นายคนนี้ หน้าตาผิวพรรณผ่องใส ไม่พิกลพิการ หรือเปล่า นี่คือ ศีลบารมี
นายคนนี้ ติดในกามคุณหรือเปล่า นี่วัด เนกขัมมะบารมี
นายคนนี้ คิดฉลาดหลักแหลมหรือไม่ นี้วัด ปัญญาบารมี
นายคนนี้ เป็นคนขยันหรือเปล่า นี่วัด วิริยบารมี
นายคนนี้ เป็นคนอดทนหรือเปล่า นี่วัด ขันติบารมี
นายคนนี้ เป็นคนมีสัจจะหรือเปล่า นี่วัด สัจจะบารมี
นายคนนี้ เป็นคนมีเป้าหมายชีวิตหรือเปล่า หรืออยู่ไปวันๆ นี่วัด อธิษฐานบารมี
นายคนนี้ เป็นคนเมตตาหรือเปล่า นี่วัดเมตตาบารมี
นายคนนี้ เป็นคนมีเหตุผลไม่เจ้าอารมณ์เอาแต่ใจตัวหรือเปล่า นี่วัดอุเบกขาบารมี
หากใช้ประสาทสัมผัสของเราสังเกตุคนรอบๆ ตัวออก ก็พอจะสังเกตุเบื้องต้นได้ครับว่า เขามีบารมีหรือเปล่า
#3
โพสต์เมื่อ 08 April 2010 - 01:01 PM
#4
โพสต์เมื่อ 08 April 2010 - 01:07 PM
#5
โพสต์เมื่อ 08 April 2010 - 02:25 PM
ขอบคุณมากๆ ครับ นรอ. หัดฝัน
สิ่งที่ยังไม่เคลียร์คือ
อยากเห็นดวงทุกๆดวง ของหลวงปู่ หลวงพ่อ คุณยาย จังเลย อิอิ
คงจะ ใหญ่อสงไขยอัปมานังลยเชียว อจินไตย~
เราพันธุ์ดีสุดขั้ว ชั่วลืมไปหมดแล้ว,จิตใจสูงส่งเหลือเกิน,มีปัญญา,มีมงคล,ทำที่ท่านได้ที่เรา
#6
โพสต์เมื่อ 08 April 2010 - 05:47 PM
ส่วนคุณน้ำค้าง ที่ถามว่า ผู้หญิงจะเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าได้ไหม
คำตอบคือ เมื่อไหร่ที่ผู้หญิง กลายเป็นผู้ชาย เมื่อนั้นก็มีโอกาสได้เป็นน่ะครับ
#7
โพสต์เมื่อ 08 April 2010 - 07:42 PM
ว่าแล้วก็ต้องตรวจตัวเองก่อนค่ะ
#8
โพสต์เมื่อ 08 April 2010 - 07:53 PM
คงจะ ใหญ่อสงไขยอัปมานังลยเชียว อจินไตย~
ท่านที่ยังมีความ "อยาก" ก็ยากที่จะบรรลุธรรม
แต่ท่านที่บรรลุธรรม กลับไม่มีความ "อยาก" ที่จะเห็น
โลกหนอโลก
ธรรมหนอธรรม
#10
โพสต์เมื่อ 09 April 2010 - 01:39 AM
เวลามีกิเลสเรื่องยั่วยุเข้ามา สามารถหักห้ามใจได้ สามารถสอนตัวเองไม่ให้ไปตามกระแสกิเลสได้
ยิ่งบุญมากยิ่งสอนตัวเองได้ จนเห็นภัยในวัฏฏะสงสาร แล้วออกบวช
เหมือนคุณ Tnawut กับคุณ หยุดนิ่งใส ไงคับ
เสริมอีกนิด
คุณยายอาจารย์กล่าวว่า คนมีบุญมาก คือ คนที่สอนตัวเองได้
#11
โพสต์เมื่อ 09 April 2010 - 02:59 AM
กระทู้สนทนาธรรม
#12
โพสต์เมื่อ 09 April 2010 - 10:20 AM
#13
โพสต์เมื่อ 09 April 2010 - 11:24 PM
ก็อธิษฐาน+เปล่งวาจา+สร้างบารมี อ่าครับ
แล้วทำไมถึงคิดอยากเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าละจ๊ะ
คิดใหม่ได้น๊า
น่าจะถามว่า เป็นผู้หญิงทำอย่างไรถึงจะได้บวช
คำตอบก็คือ ไปสมัครอุบาสิการุ่นห้าแสนคน จ้า
แฮะๆ
เราพันธุ์ดีสุดขั้ว ชั่วลืมไปหมดแล้ว,จิตใจสูงส่งเหลือเกิน,มีปัญญา,มีมงคล,ทำที่ท่านได้ที่เรา
#15
โพสต์เมื่อ 12 April 2010 - 04:08 AM
แนะนำเพิ่มเติม ตามแนววิชชาธรรมกายเบื้องกลาง จากคู่มือสมภาร ดังนี้
ลำดับที่๑๒ตรวจดูบารมี๑๐ทัศอุปบารมี๑๐ทัศปรมัตถบารมี๑๐ทัศ.
บุญที่เกิดจากการบริจาคทานนั้นเมื่อบริจาคบ่อยครั้งเข้ารวมกันได้ขนาดโตวัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้ประมาณ๑คืบหรือขนาดเท่าดวงจันทร์แล้วดวงบุญนั้นจะกลั่นตัวเองเป็นบารมีที่เรียกว่าทานบารมีได้ดวงทานบารมีราวๆวัดตัดเส้นผ่าศูนย์กลาง๑นิ้ว เมื่อดวงทานบารมีนี้มีมากขึ้นจนวัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้๑คืบหรือขนาดเท่าดวงจันทร์แล้วก็จะกลั่นตัวเองเป็นบารมีที่สูงกว่านั้นคือเรียกว่าทานอุปบารมีได้ดวงทานอุปบารมีราวๆวัดตัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้๑นิ้ว และดวงทานอุปบารมีนี้เมื่อมีมากขึ้นจนวัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้๑คืบหรือขนาดเท่าดวงจันทร์แล้วก็จะกลั่นตัวเองเป็นบารมีที่สูงสุดคือทานปรมัตถบารมีได้ดวงทานปรมัตถบารมีราวๆ๑นิ้ว.
ส่วนบุญที่เกิดจากการรักษาศีลการออกจากกามความมีปัญญาความเพียรความอดทนความสัตย์จริงความตั้งใจมั่นความเมตตาความมีอุเบกขาเหล่านี้เมื่อบุญแต่ละอย่างๆมีจำนวนมากขึ้นได้ขนาดที่จักกลั่นตัวเองแบบทานที่กล่าวแล้วก็จักกลั่นตัวเองเป็นบารมีอุปบารมีและปรมัตถมบารมีตามลำดับบุญและบารมีทั้ง๓ระดับจึงเป็นเหตุผลแก่กันดังนี้.
ต่อเมื่อไรบุญเหล่านี้ขยายส่วนกลั่นตัวเองเป็นบารมีอุปบารมีและปรมัตถบารมีได้เต็มจำนวนวัดเส้นผ่าศูนย์กลางได้๑คืบเสมอกันหมดแล้วสำหรับผู้ที่ปรารถนาเพียงนิพพานโดยการเป็นพระอริยสาวกองค์ใดองค์หนึ่งบารมีเพียงนี้ก็จะทำให้บรรลุความเป็นปกติสาวกได้ส่วนผู้ที่ปรารถนาจะสร้างบารมีเป็นพระอสีติมหาสาวกพระอัครสาวกและพระพุทธเจ้าเหล่านี้ก็ต้องสร้างบารมีแต่ละบารมีให้มีส่วนโตกว่าจำพวกแรกนี้ขึ้นไปเป็นลำดับ.
บารมีนี้อยู่ในศูนย์กลางของดวงธรรมที่ทำให้เป็นกายทุกกาย.
ในดวงทานบารมีก็มีดวงศีลสมาธิปัญญาวิมุตติวิมุตติญาณทัสสนะประกอบดวงเหล่านี้เป็นสมาบัติประกอบดวงทานบารมีเป็นกสิณ๑๐เดินสมาบัติในกสิณ. ในเมื่อดวงทานบารมีประกอบไปแล้วเช่นนี้ดวงอื่นๆคือศีลบารมีเนกขัมมบารมีปัญญาบารมีวิริยบารมีขันติบารมีสัจจบารมีอธิษฐานบารมีเมตตาบารมีและอุเบกขาบารมีเหล่านี้ต่างก็มีดวงศีลสมาธิปัญญาวิมุตติวิมุตติญาณทัสสนะเช่นเดียวกันเราก็ต้องประกอบเป็นสมาบัติและกสิณ๑๐เดินสมาบัติในกสิณไปทีละบารมีจนครบ๑๐ทัศ.
ส่วนพวกอุปบารมีและปรมัตถบารมีก็ทำเช่นเดียวกันทุกบารมีทำตลอดทุกกายจนสุดหยาบสุดละเอียด.
![](http://www.adintrend.com/upload_img/c345828.gif)
ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย