ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

บวชเป็นพระทำอย่างนี้ได้มั้ย


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 8 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 usr34073

usr34073
  • Members
  • 30 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 April 2010 - 03:25 AM

คือผมมีรุ่นน้องคนหนึ่ง พ่อแม่แยกทางกันเพราะปัญหาเศรษฐกิจ
ฝ่ายพ่อก็ได้บวชเป็นพระ แต่ก็ส่งเงืนมาให้ทางครอบครัว
เพราะภรรยาเงินเดือนไม่มากนัก อย่างนี้ท่านเห็นว่าอย่างไร
ขอบคุณครับ

#2 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 11 April 2010 - 09:08 AM

ข้อมูลไม่พอครับ

เพราะถ้าเป็นรายได้ส่วนตัว เงินเก็บส่วนตัวตั้งแต่ก่อนบวช หรือผลตอบแทนจากการลงทุนด้วยเงินส่วนตัวโดยมีผู้ดูแล ก็ไม่เห็นแปลกอะไร
ผมรู้จักพระนักพัฒนารูปหนึ่งทางภาคอีสาน ท่านก็นำเงินเก็บก่อนบวชมาลงทุนทางการเงินเหมือนกันโดยมีผู้ดูแลให้ ด้วยเหตุผล ท่านไม่อยากเป็นภาระพระศาสนาเมื่อท่านแก่ตัวลง เวลาเจ็บไข้ได้ป่วย ท่านก็จะใช้เงินก้อนนี้ดูแลตัวท่านเองไม่ต้องเป็นภาระใครๆ

จะมีปัญหาอยู่บ้างก็ตรงที่ อาจจะมีคนที่เห็นแล้วไม่เข้าใจ คิดเตลิดเปิดเปิงไปถึงการนำเงินที่มีผู้ศรัทธาทำบุญมา มาใช้ในการเลี้ยงดูครอบครัว
ยังไงก็มองท่านดีๆนะครับ เดี๋ยวจะเป็นการเข้าใจผิดกัน

ส่วนถ้าเป็นเงินจากการทำบุญมา ก็คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของท่านเจ้าอาวาสท่านจัดการแหละครับ เราไม่ต้องไปทำอะไร แต่ถ้าไม่สบายใจเราก็ไม่ต้องไปทำบุญกับท่านก็เท่านั้นครับ เลี่ยงๆไปซะ พระที่เป็นเนื้อนาบุญแท้ๆยังมีอีกเยอะครับ


สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#3 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 April 2010 - 05:01 PM

ทรงมีพุทธานุญาตให้ภิกษุบิณฑบาตรเลี้ยงบิดา-มารดาได้,ส่วนบุตร-ภรรยานั้นอาจถือเป็นการสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์หากไม่ให้มากจนดูเป็นการปรนเปรอและใช้ปัจจัยที่มีผู้ถวายท่านเป็นการตัวเท่านั้น,หากจะเอาของที่เขาถวายเป็นสังฆทานหรือถวายวัดไปให้ต้องได้รับอนุญาตจากคณะสงฆ์ในที่นั้นหรือในวัดก่อนมิเช่นนั้นท่านจะต้องอาบัติปาราชิกเพราะถือเอาทรัพย์อันมีค่าเกินกว่า5มาสก(1บาท) ไปโดยเจ้าของมิได้ให้เว้นแต่ของนั้นเป็นของที่สงฆ์ได้อนุญาตไว้ว่าถ้ามีผู้ถวายเป็นของสงฆ์ให้ภิกษุผู้เป็นตัวแทนรับหรือภิกษุรูปใดนำไปใช้เป็นการส่วนตัวได้
หลวงปู่ก็ยังเคยช่วยเหลือพี่สาวในยามยากโดยให้พี่สาวเอารูปท่านไปขายให้คนบูชาโดยก่อนทำหลวงปู่ได้ขออนุญาตจากคณะสงฆ์วัดปากน้ำก่อน(จะไม่ขอก็ได้)เพื่อกันคำครหา
เมื่อไม่มีใครคัดค้านท่านจึงได้ให้ความอนุเคราะห์ ไปดังกล่าวแล้ว

#4 Jeabka

Jeabka
  • Members
  • 248 โพสต์

โพสต์เมื่อ 11 April 2010 - 10:38 PM

แล้วตัวรุ่นน้องจขกทล่ะคะ อายุเท่าไหร่ ทำงานเหรอยัง น่าหางานทำช่วยเหลือผู้เป็นแม่ได้แล้วคะ ควรให้ครอบครัวยืนได้ด้วยตัวเอง และก็ต้องรู้จักการประมาณตนด้วย คนบางคนมีเงินเดือนเป็นหมื่นๆ ไม่พอใช้ก็มี บางคนมีไม่ถึงหมื่นเค้าก็ยังอยู่กันได้
หากพระท่านสงเคราะห์ไปเรืื่อยๆ เราว่า มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะ ถึงแม้ท่านเจตนาบริสุทธิ์ แต่ฝ่ายรับไม่ตะขิดตะขวงใจบ้างเหรอ
หากครอบครัวควรยืนได้ด้วยตัวเอง พระก็ควรหยุดการสงเคราะห์ได้แล้ว

#5 Airy

Airy
  • Members
  • 162 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 April 2010 - 12:34 AM

โดยส่วนตัวของพระเองแต่ละรูปมีลาภสักการะ..เฉพาะตัวจากการรับปัจจัยไม่เท่าไร...

แม้จะเป็นวัดไหนๆ ก็ตาม...

การบวชเพื่อเลี้ยงชีพเลี้ยงครอบครัวจริง...ย่อมทำไม่ได้แน่ (ไม่เชื่อรองบวชดูได้ครับ)

แต่การสะสมปัจจัยเล็กน้อย..แล้วช่วยครอบครัวบ้างตามโอกาสจำเป็น...จากปัจจัยส่วนตัวก็ทำได้ครับ

ไม่ได้มีข้อห้าม...แต่การเอาปัจจัยวัดมาช่วยครอบครัวนั้น...ทำไม่ได้ครับ...

...เพื่อความบริสุทธิ์ในการบวช...ควรถวายปัจจัยทำบุญ..ให้วัดไปทั้งหมดเมื่อสึกเป็นคราวาส..

อย่านำปัจจัยกลับ...ยกเว้นค่ารถกลับบ้านหลังสึก..ไม่งั้นกลับบ้านไม่ได้

(คิดถึงความจริงมากๆ ครับ.. อย่ามองแต่จุดอ่อน.. แล้วสร้างประเด็นครับ.. เพราะทำให้ใจเราเองหมองเปล่าๆ ครับ)

ไม่เกิดเป็นบุญกุศล.. หากคำถามเป็นตัวอย่างที่เห็นมาจริง ก็ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ..

หากอยากเผยแพร่ความเชื่อแล้วมีเงินเดือน.. ตอนนี้มีความเชื่ออื่น (+) กำลังทำอยู่ครับ รับตำบลละ 1 คนครับ

ตำบลใหญ่รับได้มากกว่า 1 คน แต่ต้องมีการศึกษาและผ่านการฝึกอบรมตามมาตรฐานของเขา มีครอบครัวได้ด้วย

รองสังเกตุ ดูได้ตามตรอกซอกซอยต่างๆ...ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดซิครับ..ถ้าไม่สนใจก็ไม่สังเกตุเห็นครับ

ในช่วง 10 ปีนี้มีหนาตาขึ้นเรื่อยๆ ครับ (แต่ทำแล้วไม่คุ้มจริงๆ รองศึกษาดูได้ครับ เรื่องนี้คงไม่ต้องอธิบายมากนะครับ)

#6 PTDL

PTDL
  • Members
  • 175 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Chicago, USA

โพสต์เมื่อ 12 April 2010 - 03:01 PM

อย่าจับผิดกันให้มากเลยครับ ถึงแม้มันอาจจะไม่ดี ก็ไม่ได้จำเป็นต้องมาประกาศให้คนอื่นรู้

#7 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 12 April 2010 - 08:07 PM

กระทู้ในทำนอง negative thinking เกี่ยวกับพระ, โดยมีข้อมูลน้อยมากหรือข้อมูลฝ่ายเดียว, ไม่สมควรที่จะถามและตอบ, จะเป็นวิบากกรรมทั้งผู้ถามและผู้ตอบ, ก็ขนาดสื่อสารมวลชนกล่าวร้ายพระ, พวกเรายังไม่ส่งเสริม, แล้วเราจะเป็นเสียเองทำไม, webboard นี้ก็เป็นสาธารณะ, อยากขอร้องให้ webmaster ช่วยลบกระทู้ทำนองนี้ด้วย.

#8 usr34073

usr34073
  • Members
  • 30 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 April 2010 - 12:02 AM

คือรุ่นน้องเพิ่ง20 ยังไม่ได้ทำงาน แต่เพื่อนเขาบอกมาอีกที ก็กลัวว่าน้องเค้าจะต้องไปรับผลกรรม
ในสัมปรายภพ จึงถามเพื่อขอความเห็น ไม่ได้มีเจตนาจับผิดอะไร
คนผู้ถาม ตายไปก้อยากไปสุคติ ทุคติไม่ได้อยากไปเลย
เรื่องอะไรจะทำเรื่องให้ไปอบาย แต่เราชาวพุทธ ควรช่วยธำรงซึ่งพระศาสนา
ดูดังครั้งอดีต พระเจ้าอโศก จับเหล่าเดียรถีย์ให้ศึกจากพระศาสนา
หลายหมื่นคน ช่วยทำให้ศาสนาบริสุทธิ์ยิ่งขึ้น

#9 DJ.

DJ.
  • Members
  • 1212 โพสต์

โพสต์เมื่อ 16 April 2010 - 08:54 PM

เจตนาดี แต่วิธีการไม่ถูกนะ.
ขอแนะนำให้ pm ถามเป็นการส่วนตัว.
เพราะคำถามจะถูกแตกประเด็น เป็นคำตอบที่ negative.

พระเจ้าอโศกทำถูกต้อง เพราะ
(๑).เป็นหน้าที่ของพระราชา
(๒).ก่อนจับสึก มีการสืบสวนสอบสวนข้อมูลมากมายทุกฝ่ายอย่างละเอียด,
ประเด็น main point คือ """"""""""ข้อมูลทุกฝ่ายโดยละเอียด"""""""""".
ผู้ถามเองก็ฟังมาจาก "เพื่อนเขาบอกมาอีกที", จะถามข้อมูลโดยละเอียดก็คงไม่รู้,

การดูแลพระพุทธศาสนาให้บริสุทธิ์ มีคณะสงฆ์ดูแลอยู่,
พม่าและศรีลังกา สื่อมวลชนจะแตะต้องในทางลบต่อพระสงฆ์ไม่ได้เลย, ประชาชนไม่ยอม.
เพราะศีลไม่เสมอกัน และพระพุทธองค์ก็ให้สงฆ์ดูแลสงฆ์กันเอง, โยมไม่รู้ธรรมวินัยโดยละเอียด,
โยมพม่า,ศรีลังกา ไม่จับผิดพระ, เคารพพระมาก.