เคยเอาทุเรียนไปให้คนกินเหล้า แล้วเค้าช๊อค(ไม่ทราบว่าทุเรียนจะมีผลออกมาอย่างนี้) ต่อมาเสียชีวิตไป รู้สึกผิดมาตลอด จะทำอย่างไรดีคะ และจำมีวิบากกรรมอย่างไร
ช่วยตอบหน่อยค่ะ
เริ่มโดย usr32872, Apr 28 2010 02:50 PM
มี 5 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 28 April 2010 - 02:50 PM
#2
โพสต์เมื่อ 28 April 2010 - 03:30 PM
ความผิดพลาดในอดีตลืมให้หมด (เพราะไม่สามารถย้อนไปได้แล้ว)
ทำความดีให้มากยิ่งขึ้น (แล้วอุทิศให้เขาผู้นั้นด้วย ให้เขาอโหสิกรรมให้ได้)
หากไม่อยากเจอวิบากกรรมนี้ต้องเข้าถึงพระธรรมกายเท่านั้น
หากยังไม่ถึง วิบากกรรมที่จะเจอก็เจอแบบที่เราไปทำเขานั้นแหละ คือมีคนเอาของแสลง (ไม่ถูกกัน) มาให้ทานแล้วเกิดตาย
ผิดพลาดประการใด ขออภัยและน้อมรับไว้คนเดียว (ไม่เกี่ยวกับหมู่คณะ)
เพราะความคิดเห็นส่วนตัวครับผม
ทำความดีให้มากยิ่งขึ้น (แล้วอุทิศให้เขาผู้นั้นด้วย ให้เขาอโหสิกรรมให้ได้)
หากไม่อยากเจอวิบากกรรมนี้ต้องเข้าถึงพระธรรมกายเท่านั้น
หากยังไม่ถึง วิบากกรรมที่จะเจอก็เจอแบบที่เราไปทำเขานั้นแหละ คือมีคนเอาของแสลง (ไม่ถูกกัน) มาให้ทานแล้วเกิดตาย
ผิดพลาดประการใด ขออภัยและน้อมรับไว้คนเดียว (ไม่เกี่ยวกับหมู่คณะ)
เพราะความคิดเห็นส่วนตัวครับผม
#3
โพสต์เมื่อ 28 April 2010 - 05:26 PM
ตอบเหมือนคุณ เด็กผู้น้อยครับ เพียงแต่เสริมว่า กรรมนี้เป็นกรรมไม่เจตนา เพราะฉะนั้น เป็นกรรมที่จะให้ผลเป็นลำดับสุดท้าย คือ เมื่อกรรมที่เจตนาทั้งหลายให้ผลกันเต็มที่แล้ว กรรมที่ไม่เจตนาถึงค่อยให้ผล
ดังนั้น วิธีการแก้ไข ก็ง่ายๆ คือ ทำกรรมดีอย่างเจตนาให้เต็มที่ จนไม่มีช่องว่างให้กรรมไม่ดีที่ไม่เจตนามาให้ผลได้ ไงล่ะครับ
ดังนั้น วิธีการแก้ไข ก็ง่ายๆ คือ ทำกรรมดีอย่างเจตนาให้เต็มที่ จนไม่มีช่องว่างให้กรรมไม่ดีที่ไม่เจตนามาให้ผลได้ ไงล่ะครับ
ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร
#4
โพสต์เมื่อ 28 April 2010 - 06:55 PM
จากอดีตที่เคยเมา... ทุเรียน ลำไย ฯลฯ ที่กินตอนกินเหล้าจะร้อนครับ แต่ไม่ตาย กินน้ำเย็นๆจัดๆเข้าไปก็หายครับ แต่ที่ตายคงเป็นเพราะหมดอายุขัยพอดีมากกว่าครับ ไม่เกี่ยวกับของกินหรอก เขาหมดอายุขัย แม้คุณเอานำเปล่าให้เขา เขาก็ตายครับ อาจสำลักตายก็ได้ ฯลฯ อย่าคิดมาก หมั่นสร้างบุญสร้างกุศลแล้วอุทิศให้เขาก็ได้ เพื่อความสบายใจนะครับ
..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....
#5
โพสต์เมื่อ 30 April 2010 - 02:17 AM
การตอบสนองของกรรม ไม่จำเป็นต้องเป็นแบบ "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" เสมอไป มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อนลึกซึ้งเกินกว่าจะอธิบาย แต่พูดได้แค่ว่า มันจะตอบสนองเรายังไง ขึ้นอยู่กะระดับของจิตวิญญาณของคุณ ทุกสิ่งจะเป็นไปอย่างเหมาะสมกะตัวคุณเอง ถ้าคุณเป็นคนที่มีจิตใจหยาบช้า ก็อาจมีแนวโน้มที่ต้องรับผลแบบรุนแรงเท่าๆกะที่คุณได้ทำให้ผู้อื่นได้มีประสบการณ์
ในประเทศตะวันตก ได้มีการศึกษาเรื่องการสะกดจิตระลึกชาติมานานแล้ว มีการบันทึกอย่างเป็นหลักฐานเป็นหมื่นเป็นแสนกรณี การสะกดจิตเพื่อระลึกชาติ หรือการสะกดจิตเพื่อเข้าถึงดินแดนแห่งชีวิตระหว่างภพ หรือพูดง่ายๆคือช่วงที่เราเป็นวิญญาณที่ไม่มีกายเนื้อ ได้ค้นพบความจริงที่น่าทึ่ง
ในกรณีที่ผมอยากจะยกมาเป็น ตย. มีคนผู้หนึ่งซึ่งชาติก่อนเคยฆ่าคนตายมากมาย และพอในชาติต่อๆมา เขาผู้นั้นต้องชดใช้ด้วยการเกิดมาเป็นคุณหมอเพื่อมาอุทิศชีวิตทำหน้าที่รักษาร่างกายและอาการบาดเจ็บของผู้อื่น
หลายๆกรณีในชีวิตระหว่างภพ ผู้ที่ทำกรรมเอาไว้กะผู้อื่น ก็อาจจะเลือกที่รอให้ผู้ที่ถูกเขาทำนั้น มาอยู่ในชีวิตระหว่างภพด้วยก่อน เพื่อที่จะตกลงกันเองเลยว่าในชาติต่อๆไป ผู้นั้นจะอยากให้เขาชดใช้อย่างไร หลายๆคนอาจถูกกำหนดให้ต้องมาเกิดเป็นครอบครัวคนใกล้ชิดกะผู้ที่ตัวเองได้เคยทำเวรทำกรรมกะผู้นั้นไว้ ประมานว่าคุณจะได้รับโอกาสครั้งใหม่ในการที่จะแก้ไขความสัมพันธ์กะผู้นั้น อย่างน้อยคุณถูกคาดหวังว่าจะต้องเลือกทำได้ดีกว่าที่คุณเคยทำเอาไว้ในชาติก่อนหน้า
จากหลายๆกรณีจะเห็นได้ชัดว่า ไม่มีการกำหนดตายตัวในเรื่องของเวรกรรม
แต่ดูก่อน ในอดีตเคยมีพระถามองค์พระพุทธเจ้าว่า พระภิกษุเนี่ย สามารถดูดวงดูชาติกำเนิดให้ผู้อื่นได้หรือไม่
พระพุทธเจ้าท่านตอบว่า "ดูได้ แต่ไม่ควรดูอย่างยิ่ง เพราะชาติกำเนิดเปลี่ยนแปลงได้ด้วยกรรม ส่วนกรรมก็เปลี่ยนแปลงได้ด้วยจิต"
"กรรมก็เปลี่ยนแปลงได้ด้วยจิต" นี่อาจจะเป็นคำอธิบายถึงคำว่า "อโหสิกรรม"
และอาจเป็นอีกหนึ่งคำอธิบายว่า ทำไมผมถึงบอกว่า กรรมจะตอบสนองอย่างไรขึ้นอยู่กับระดับจิตวิญญาณของคุณ
และนี่คืออีกคำอธิบายว่า ทำไมคำที่ว่า "ทำความดี ละเว้นความชั่ว และทำจิตใจให้บริสุทธิ์" จึงต้องมาควบคู่กัน แต่คนเราส่วนมากไม่ค่อนสนใจและให้ความสำคัญกับตัวจิต ถึงจำทำความดีแต่จิตหาได้บริสุทธิ์ ก็อาจไม่ได้อานิสงค์เต็มที่ เช่นกันแม้คุณอาจเผลอทำชั่ว แต่จิตของคุณเป็นจิตที่ดีและบริสุทธิ์ กรรมก็อาจไม่จำเป็นต้องสนองคุณเต็มที่หรอก
เพราะกรรม นั้นแท้จริง คือโอกาส ไม่ใช่วิกฤตหรือความทุกษ์เสมอไป กรรมคือโอกาสที่คุณจะได้เรียนรู้ความผิดพลาดที่คุณทำไป คือโอกาสที่คุณจะได้ยกระดับจิตวิญญาณของตัวเอง
เพราะฉะนั้นอย่ากลัวกรรม เมื่อมันมาถึง ให้คุณคิดเสมอว่า คุณได้โอกาสแล้ว ทีนี้ก็คิดต่อไปว่า คุณจะทำอย่างไรให้กรรมที่คุณได้รับนี้ เปลี่ยนจากความทุกข์ทรมาน มาเป็นประโยชน์ให้กับตัวเองและผู้อื่น เมื่อคุณเปลี่ยนกรรมให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเองและผู้อื่นได้ เท่ากะคุณได้บรรเทาหรืออาจถึงขั้นก้าวพ้นเคราะห์กรรมนั้น เมื่อคุรได้ใช้ประโยชน์จากมันเท่านั้น คุณถึงจะบรรลุวัตถุประสงค์ของกรรมนั้น
เข้าเรื่อง คุณทำสิ่งที่เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คุณกลัวกรรมสนอง วึ่งมันก็คงต้องสนองอยู่แล้ว แต่คุณเปลี่ยนกรรมได้ อย่างที่พระพุทธเจ้าว่าไว้
คุณก็อาจแค่เอาเรื่องนี้ ไปบอกเล่าแก่ผู้อื่นให้มากที่สุด เพราะในโลกนี้อาจมีผู้ที่ยังไม่รู้อย่างคุณอีกมาก ในวันๆเดียวอาจมีคนอีกเป็นร้อย ที่เอาทุเรียนให้คนดิ่มเหล้าทานอยู่ก็ได้ อาจมีคนที่ทำอย่างคุณอีกในตอนนี้หรือในอนาคต สิ่งที่คุณทำได้คือ ทำกรรมของคุณให้เป็นประโยชน์แก้ผู้อื่น เตือนผู้คนที่ไม่รู้เหล่านั้น บอกกล่าวแก่เขา เมื่อคุณทำได้ มันหมายความว่าไง คุณอาจฆ่าคนตาย1คน แต่ผลสืบเนื่องล่ะ คุณอาจช่วยคนได้อีกเป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่น
เมื่อคุณทำดังนี้ จากกรรมเพียง 1 สร้างโอกาสให้คุณสร้างบุญกุศลช่วยชีวิตคนได้มหาศาล ทีนี้คุณยังเกรงกลัวผลกรรมเพียง 1 นั้นอยู่อีกไหม
แล้วคุณยังมองคำว่า"กรรม" ว่าเป็น วิกฤต อีกไหม
อนุโมทนาสาธุครับ
ในประเทศตะวันตก ได้มีการศึกษาเรื่องการสะกดจิตระลึกชาติมานานแล้ว มีการบันทึกอย่างเป็นหลักฐานเป็นหมื่นเป็นแสนกรณี การสะกดจิตเพื่อระลึกชาติ หรือการสะกดจิตเพื่อเข้าถึงดินแดนแห่งชีวิตระหว่างภพ หรือพูดง่ายๆคือช่วงที่เราเป็นวิญญาณที่ไม่มีกายเนื้อ ได้ค้นพบความจริงที่น่าทึ่ง
ในกรณีที่ผมอยากจะยกมาเป็น ตย. มีคนผู้หนึ่งซึ่งชาติก่อนเคยฆ่าคนตายมากมาย และพอในชาติต่อๆมา เขาผู้นั้นต้องชดใช้ด้วยการเกิดมาเป็นคุณหมอเพื่อมาอุทิศชีวิตทำหน้าที่รักษาร่างกายและอาการบาดเจ็บของผู้อื่น
หลายๆกรณีในชีวิตระหว่างภพ ผู้ที่ทำกรรมเอาไว้กะผู้อื่น ก็อาจจะเลือกที่รอให้ผู้ที่ถูกเขาทำนั้น มาอยู่ในชีวิตระหว่างภพด้วยก่อน เพื่อที่จะตกลงกันเองเลยว่าในชาติต่อๆไป ผู้นั้นจะอยากให้เขาชดใช้อย่างไร หลายๆคนอาจถูกกำหนดให้ต้องมาเกิดเป็นครอบครัวคนใกล้ชิดกะผู้ที่ตัวเองได้เคยทำเวรทำกรรมกะผู้นั้นไว้ ประมานว่าคุณจะได้รับโอกาสครั้งใหม่ในการที่จะแก้ไขความสัมพันธ์กะผู้นั้น อย่างน้อยคุณถูกคาดหวังว่าจะต้องเลือกทำได้ดีกว่าที่คุณเคยทำเอาไว้ในชาติก่อนหน้า
จากหลายๆกรณีจะเห็นได้ชัดว่า ไม่มีการกำหนดตายตัวในเรื่องของเวรกรรม
แต่ดูก่อน ในอดีตเคยมีพระถามองค์พระพุทธเจ้าว่า พระภิกษุเนี่ย สามารถดูดวงดูชาติกำเนิดให้ผู้อื่นได้หรือไม่
พระพุทธเจ้าท่านตอบว่า "ดูได้ แต่ไม่ควรดูอย่างยิ่ง เพราะชาติกำเนิดเปลี่ยนแปลงได้ด้วยกรรม ส่วนกรรมก็เปลี่ยนแปลงได้ด้วยจิต"
"กรรมก็เปลี่ยนแปลงได้ด้วยจิต" นี่อาจจะเป็นคำอธิบายถึงคำว่า "อโหสิกรรม"
และอาจเป็นอีกหนึ่งคำอธิบายว่า ทำไมผมถึงบอกว่า กรรมจะตอบสนองอย่างไรขึ้นอยู่กับระดับจิตวิญญาณของคุณ
และนี่คืออีกคำอธิบายว่า ทำไมคำที่ว่า "ทำความดี ละเว้นความชั่ว และทำจิตใจให้บริสุทธิ์" จึงต้องมาควบคู่กัน แต่คนเราส่วนมากไม่ค่อนสนใจและให้ความสำคัญกับตัวจิต ถึงจำทำความดีแต่จิตหาได้บริสุทธิ์ ก็อาจไม่ได้อานิสงค์เต็มที่ เช่นกันแม้คุณอาจเผลอทำชั่ว แต่จิตของคุณเป็นจิตที่ดีและบริสุทธิ์ กรรมก็อาจไม่จำเป็นต้องสนองคุณเต็มที่หรอก
เพราะกรรม นั้นแท้จริง คือโอกาส ไม่ใช่วิกฤตหรือความทุกษ์เสมอไป กรรมคือโอกาสที่คุณจะได้เรียนรู้ความผิดพลาดที่คุณทำไป คือโอกาสที่คุณจะได้ยกระดับจิตวิญญาณของตัวเอง
เพราะฉะนั้นอย่ากลัวกรรม เมื่อมันมาถึง ให้คุณคิดเสมอว่า คุณได้โอกาสแล้ว ทีนี้ก็คิดต่อไปว่า คุณจะทำอย่างไรให้กรรมที่คุณได้รับนี้ เปลี่ยนจากความทุกข์ทรมาน มาเป็นประโยชน์ให้กับตัวเองและผู้อื่น เมื่อคุณเปลี่ยนกรรมให้เป็นประโยชน์ต่อตัวเองและผู้อื่นได้ เท่ากะคุณได้บรรเทาหรืออาจถึงขั้นก้าวพ้นเคราะห์กรรมนั้น เมื่อคุรได้ใช้ประโยชน์จากมันเท่านั้น คุณถึงจะบรรลุวัตถุประสงค์ของกรรมนั้น
เข้าเรื่อง คุณทำสิ่งที่เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิตด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ คุณกลัวกรรมสนอง วึ่งมันก็คงต้องสนองอยู่แล้ว แต่คุณเปลี่ยนกรรมได้ อย่างที่พระพุทธเจ้าว่าไว้
คุณก็อาจแค่เอาเรื่องนี้ ไปบอกเล่าแก่ผู้อื่นให้มากที่สุด เพราะในโลกนี้อาจมีผู้ที่ยังไม่รู้อย่างคุณอีกมาก ในวันๆเดียวอาจมีคนอีกเป็นร้อย ที่เอาทุเรียนให้คนดิ่มเหล้าทานอยู่ก็ได้ อาจมีคนที่ทำอย่างคุณอีกในตอนนี้หรือในอนาคต สิ่งที่คุณทำได้คือ ทำกรรมของคุณให้เป็นประโยชน์แก้ผู้อื่น เตือนผู้คนที่ไม่รู้เหล่านั้น บอกกล่าวแก่เขา เมื่อคุณทำได้ มันหมายความว่าไง คุณอาจฆ่าคนตาย1คน แต่ผลสืบเนื่องล่ะ คุณอาจช่วยคนได้อีกเป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่น
เมื่อคุณทำดังนี้ จากกรรมเพียง 1 สร้างโอกาสให้คุณสร้างบุญกุศลช่วยชีวิตคนได้มหาศาล ทีนี้คุณยังเกรงกลัวผลกรรมเพียง 1 นั้นอยู่อีกไหม
แล้วคุณยังมองคำว่า"กรรม" ว่าเป็น วิกฤต อีกไหม
อนุโมทนาสาธุครับ
#6
โพสต์เมื่อ 01 May 2010 - 07:53 PM
เคยได้ยินมาว่า ดื่มเหล้าความดัดเลือดมันก็สูงอยู่แล้ว แล้วก็คนที่ดื่มจะรู้สึกร้อนอยุ่แล้ว (ถูกใช่มั้ยค่ะ - -;
แล้วทานทุเทีนทที่เป็นผลไม้ให้ความรู้สึกร้อน
ก็เลยเกิดอาการช็อกนะค่ะ ^-^"
แล้วทานทุเทีนทที่เป็นผลไม้ให้ความรู้สึกร้อน
ก็เลยเกิดอาการช็อกนะค่ะ ^-^"
きみだけをきみだけを kimi dake wo... kimi dake wo...