![รูปภาพ](/forum/uploads/profile/photo-thumb-3154.jpg?_r=1393042602)
ปรึกษาหารือว่าเราสามารถดำเนินการใด ๆ ได้บ้างครับ
#1
โพสต์เมื่อ 29 April 2010 - 02:40 PM
ได้มีคนรวบรวมกระทู้เกียวกับกรณีของที่วัดพระธรรมกาย
และวิพากวิจารย์อย่างรุนแรง
ผมอ่านแล้วไม่ค่อยสบายใจอย่างมากและไม่อยากให้
ผู้ที่ยังไม่เข้าใจได้เข้าใจไปตามข่าวเก่า ๆ
ที่ขาดการชี้แจงทั้ง 2 ด้าน
ซึ่งอาจทำให้เข้าใจวัดและหลวงพ่อในทางที่ผิดครับ
และบาง LogIn เชื่อได้ว่ามีการมา Monitor ในเวปบอร์ดของ DMC แน่นอน
เพราะมีการพูดถึงกรณีที่หลวงพ่อไม่ได้ลงเทศน์ช่วงเย็นหลายวัน
เนื่องจากปัญหาเรื่องควันเผาขยะ
ถ้าใครอยากทราบรายละเอียดเพิ่มเติมส่งข้อความ/email มาได้ครับ
อยากให้ร่วมด้วยช่วยกันปกป้องวัดและหลวงพ่อครับ
อยากให้มีกรณีตัวอย่างไม่ใช่ใครอยากพูดอะไรเสีย ๆ หาย ๆ ก็ทำได้
#2
โพสต์เมื่อ 29 April 2010 - 03:18 PM
ใครจะมีมุมมองที่แตกต่างผมว่าเป็นเรื่องปกติ แต่การที่พยายามว่าร้ายกล่าวร้ายแบบนี้มันเกินเลยไปมาก
และมีชาวต่างศาสนา กับพวกไม่นับถือศาสนาด้วย ที่มาร่วมแจม
แต่บอกไว้ก่อนว่า แม้ชาวศาสนาอื่น ที่มีนิกายต่างกันเองนั้น ต่างก็ว่ากันเองถึงขนาดบอว่านิกายนั้นนิกายนี้ต้องตกนรก ไม่ได้รับความรอด และว่ากันไปว่ากันมา กงเกีวนกำเกวียนครับ เขาก็ไม่มีความสงบสุขเช่นกัน
นี่แหละโลกมนุษย์ ถูกอกุสลาธรรมายึดสุดละเอียดให้ล้างผลาญกันเอง
เห็นด้วยที่เราจะชี้แจงบ้าง เรื่อยๆ แต่ไม่สนับสนุนให้เราไปด่าเขากลับ ทำให้จิตใจเราเสียหายไปด้วยนะครับ ทำเท่าที่ทำได้ ตามกาละเทศะ ตามความเหมาะสม
![](http://www.adintrend.com/upload_img/c345828.gif)
ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย
#3
โพสต์เมื่อ 29 April 2010 - 03:26 PM
#4
โพสต์เมื่อ 29 April 2010 - 03:42 PM
อยากให้มีหนังสือเป็นทางการถึงเจ้าของเวปบอร์ดนั้น
ทราบว่ามันน่าจะหมิ่นเหม่ต่อคดีความมั้ย
หากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น
ไม่อยากให้ย้ำคิด ย้ำทำ จนไม่สามารถแก้ไขอะไรได้
ภาพที่วัดเคยถูก สื่อสาธารณะ ย่ำยียังหลอกหลอนผมอยู่เลยครับ
#5
โพสต์เมื่อ 29 April 2010 - 04:10 PM
แต่ทางสำนักงานพุทธ ที่เป็นเลขาให้ มส. อีกที ผมแนะนำให้เข้าหา ดร. อำนาจ บัวศิริ ครับ ท่านนี้เขาเชียร์วัดเราอยู่ ท่านต้องช่วยเราได้แน่
ผมก็ไม่ทราบว่าทางวัดเรามีปฏิสัมพันธืกับ ดร.อำนาจ แค่ไหน แต่ถ้ายัง บอกได้เลยว่า รีบทันทีครับ เพราะเขาชอบกิจกรรม และสื่อของวัดเรามาก ถึงกับพูดชมบ่อยๆตามงานสัมมนาต่างๆ
เห็นด้วยว่าควรจะทำหนังสือตักเตือนไปบ้าง ไม่ให้ก่อเกิดความแตกแยกในสังคม
แต่ไม่อยากให้ซีเรียสมากจนใจขุ่นมัวไปด้วย แต่ก็ไม่ควรหยุดนิ่งดูดายนะครับ
![](http://www.adintrend.com/upload_img/c345828.gif)
ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย
#6
โพสต์เมื่อ 29 April 2010 - 04:44 PM
อย่าไปจมกับอกุศลกรรมเช่นนั้น
คิดว่ามาช่วยกันเผยแพร่ พระพุทธศาสนา ให้เจริญรุ่งเรืองกันดีกว่า
เดี๋ยวนี้กับเมื่อสิบปีก่อน วัดเรามีคนเข้าใจมากขึ้นกว่าเดิมมาก
อีกทั้งชาวต่างชาติก็รับรู้ ฉะนั้นพวกนั้น(ไม่รู้คนต่างศาสนิกมาสวมรอยว่าหรือป่าว)ก็ปล่อยไปตามกรรม
อีกไม่นานพวกนั้นคงได้เห็นว่าผลแห่งกรรมจะตอบสนองกันอย่างไร
ว่าแล้วก็นั่งฟังเพลง ศึกสายเลือด ไปเพลินๆใจดีกว่า เอ็มวีการ์ตูนทำได้น่ารักมากกกฮาๆๆ
เลือกเอา ใจใสๆ
#7
โพสต์เมื่อ 29 April 2010 - 05:02 PM
อนุโมทนาบุญ...มุ่งหน้าที่สุดแห่งธรรมค่ะ
#8
โพสต์เมื่อ 29 April 2010 - 05:22 PM
แค่อยากให้ทำหนังสือแสดงความไม่สบายใจไปยังเจ้าของเวป นะครับ
ไม่ใช่เสรีกันเกินขอบเขต
#9
โพสต์เมื่อ 29 April 2010 - 05:30 PM
แต่ว่า ถ้าเป็นเรื่องพระศาสนาให้เอาอุเบกขาวาง ไม่ใช่เหรอค่ะ
อย่างวันนี้พี่ๆ ที่ทำงานก็ forward mail เรื่องร่วมกันไม่ใช้สินค้าเสื้อแดง
ใน mail ก็มี logo บริษัทต่างๆ และมีสัญญาลักษณ์ของวัดเราในนั้นด้วยค่ะ
Kay:) ก็เลย Reply all ว่าขอปรับความเข้าใจ ที่วัดพระธรรมกายไม่ใช่เสื้อแดงค่ะ มีแต่ชุดขาวและผ้ากาสาวพัสตร์ค่ะ
ก็ไม่แน่ใจ 100% ค่ะ ว่าทำถูกไหม แต่ก็ไตร่ตรองดูแล้วว่า ไม่อยากให้พี่ๆ เพื่อนๆ ต้องมีส่วนบาปที่เข้าใจผิดค่ะ
#10
โพสต์เมื่อ 29 April 2010 - 05:45 PM
ตอนนี้ก็มีกิจกรรมดีๆ หลายๆ อย่างที่ออกมาเป็นรูปธรรมที่ปรากฏต่อสายตาคนทั่วไป โดยมีวัดพระธรรมกายเป็นแกนนำ หากผู้ที่เข้าไปอ่านไม่มีอคติ ย่อมต้องเห็นสิ่งที่วัดพระธรรมกายทำ มากขึ้นเรื่อยๆ
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#11
โพสต์เมื่อ 29 April 2010 - 05:54 PM
..ถ้าเราเสมือนเป็นหนึ่งในลูกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้เป็นลูกพระเจ้าองค์ไหน ก็ให้ลองให้เชื่อมั่นในวิธีแก้ปัญหาของพระองค์ท่าน ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปด้วยวิธีแบบพระองค์ท่าน.. สงบนิ่ง ทำสมาธิให้หนัก ให้มาร หงอกันไปเลย...
#12
โพสต์เมื่อ 29 April 2010 - 06:38 PM
ว่าอย่างไร ก็ต้องว่าตามกัน
#13
โพสต์เมื่อ 29 April 2010 - 07:33 PM
#14
โพสต์เมื่อ 29 April 2010 - 08:27 PM
อยากบอกว่า ไม่ต้องเข้าไปทำอะไรหรอก
เข้าไปโพสต์ชี้แจงอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์
เพราะคนโพสต์เขาจงใจหาเรื่อง ไม่ได้ต้องการคำชี้แจงอธฺิบาย
พฤติกรรมแบบนี้ เป็นพฤติกรรมของคนพาล
ขืนไปเสวนาด้วย ก็เข้าข่ายเสวนากับคนพาล
ใจขุ่น ติดเชื้อพาลมาเปล่าๆ
พวกที่โพสต์หาเรื่อง จุดประสงค์เขา คือ
ต้องการให้เราเข้าไปโต้ตอบกับเขา
หากเราหลงกลเข้าไปตอบโต้
เท่ากับเข้าไปต่อความยาวสาวความยืด ไม่รู้จบ
หลงกลไปเป็นเครื่องมือให้เขาว่าวัดว่าหลวงพ่อมากขึ้น
กับพวกนี้นะ วิธีดีที่สุด คือ ไม่ตอบโต้ ไม่สนใจ
มันก็จะหยุดไปเอง
เอาเวลาที่ไปโพสต์โต้ตอบ มานั่งธรรมะทำใจใสๆ ดีกว่า
หรือไม่ก็เอาเวลาไปช่วยงานหลวงพ่อด้านอื่นๆ
จะมีประโยชน์กว่ามาก เพราะตอนนี้งานหลวงพ่อขยายไปมาก
#15
โพสต์เมื่อ 29 April 2010 - 08:35 PM
แต่ไม่ได้ผลครับ พวกเขาก็ยังคงโจมตีวัดต่อไปอีกเช่นเดิม แต่ถ้าเราปล่อยให้เวลาผ่านไป เดี๋ยวพวกเขาเบื่อพวกเขาก็เงียบไปเอง ครั้นพอ วัดเราจัดโครงการอะไรใหญ่ๆ ขึ้นมา เช่น สร้างมหารัตนวิหารคต พวกเขาก็จะเริ่มโจมตีกันใหม่ จนพอโครงการของวัดจบลง หรือ ไม่มีคนวัดไปตอบกระทู้แล้ว พวกเขาจะเบื่อ แล้วก็เลิกไปเอง
ครั้นพอมีโครงการใหญ่ๆ โครงการต่อๆ มา เช่น หล่อทองหลวงปู่ พวกเขาก็จะเริ่มกันใหม่ และก็เบื่อเลิกไปเองอีก วนเวียนเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ครับ ส่วนการส่งหนังสือนั้น เราต้องแยกให้ออกว่า ได้ส่ง กับ ได้ผล นั้นต่างกันนะครับ
ถ้าเราหวังผลแค่ ได้ส่งหนังสือ ก็ให้เราส่งไปเถิดครับ แต่ถ้าเราหวังผลว่าจะให้ได้ผล คือ เลิกโจมตี บอกได้เลยว่า พอๆ กับการจะไปที่สุดแห่งธรรมนั่นแหละครับ ทั้งนี้เพราะ โลกธรรมทั้ง 8 คือ มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ สรรเสริญ นินทา สุข และทุกข์ เป็นของคู่กับมนุษย์ทุกคนครับ
#16
โพสต์เมื่อ 29 April 2010 - 09:05 PM
#17
โพสต์เมื่อ 29 April 2010 - 09:15 PM
แค่อยากแสดงเจตตนาให้ทางเจ้าของเวป/บริษัท นั้นเข้าใจว่า
ทางเราไม่สบายใจที่คุณปล่อยให้มีคนบางกลุ่มมาโจมตีปลุกปั่น
ให้เกิดความเกลียดชังกัน
ถ้าเกิดขึ้นกับวัดอื่น ก็อยากให้ทางเวปมีมาตรฐานเดียวกัน
ไม่ใช่ปล่อยให้เวปคุณเป็นเหมือนที่ปล่อยให้มีคนมาสร้างความแตกแยก
#18
โพสต์เมื่อ 29 April 2010 - 10:26 PM
ที่นำเสนอแต่เรื่องเชิงลบ ด้านมืดของสังคม
ปรากฎว่าได้มีการทักท้วงกันไปอย่างมากมาย ปัจจุบันรายการหนึ่ง เลิกผลิตไปแล้วด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ส่วนอีกรายการหนึ่่งยังอยู่มีเรตติ้งสูงมาก แต่ทางรายการได้เพิ่มเรื่องเชิงสร้างสรรเข้าไปอีกพอควรครับ ก็ถือว่ายังดี
สมัยหนึ่งมีการ รณรงค์ต่อต้านสื่อดำ เช่นหนังลามก หนังสือลามก การ์ตูนลามก และสื่อดำๆอีกมากมาย ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่เราจะเก็บสื่อเหล่านั้นได้หมดสิ้น จึงได้แนวทางมาว่า เราควรเพิ่มสื่อสีขาวเข้าไปให้มากๆ นำเสนอแต่สิ่งดีๆให้สังคม และเยาวชนมากๆเข้าไว้ เพื่อสู้กันไป
ผมก็สรุปว่า
เราก็ไม่ควรดูดายในเรื่องที่เราถูกว่าร้าย เพราะเป็นภัยพระพุทธศาสนา เราต้องช่วยกันดูแล
หากว่างย้ำ ยามว่าง อย่าไปเสียเวลามากนักนะครับ ก็เข้าไปตั้งกระทู้ใหม่ นำเสนอแต่สิ่งดีๆของคณะเรา และชี้แจงประเด็นที่ถูกใส่ร้าย หรือเข้าใจผิดต่างๆ หากล็อกกระทู้ได้ ก็ล็อก ไม่ให้ใครมาตอบเพิ่ม หากล็อกกระทู้ไม่ได้ก็ต้องพิจารณาอีกทีว่าจะโพสต์ดีไหม
ไม่ควรซีเรีส เถียงกันไปๆมาๆ เพราะไม่เกิดประโยชน์ เพราะผู้ไม่ปราถนาดี มีทั้งคนพุทธกันเอง คนต่างศาสนา และคนไม่มีศาสนา
บางกระทู้อย่าไปให้ความสนใจมาก เพราะยิ่งสนมากก็เรื่องมาก เดี๋ยวเรื่องก็จบไปเอง
ทำหนังสือแจ้งอย่างเป็นทางการ โดยให้ผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการศาสนา ทั้งทางโลก และทางธรรม เป็นผู้ออกหน้า เพื่อชี้แจงตักเตือนไม่ให้ก่อเกิดความแตกแยกเท่านั้น ก็ดีนะครับถ้าทำได้
ที่เหลือก็ดำเนินไปตาม กรรม ทั้งดีและ ชั้ว อย่าไปเสียเวลามากไปเลย
พวกเราก็รักษาใจ ไม่ให้มัวหมองไปตามกระแสต่างๆเท่านั้นครับ
หลวงปู่วัดปากน้ำสอนว่า
" ไม่สู้ ไม่หนี ทำดีเรื่อยไป "
![](http://www.adintrend.com/upload_img/c345828.gif)
ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย
#19
โพสต์เมื่อ 29 April 2010 - 11:01 PM
#20
โพสต์เมื่อ 29 April 2010 - 11:28 PM
ผมอ่านๆหยุดๆบอร์ดนั้นตั้งแต่ปี 40 แล้ว มันก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากมาย
มีกลุ่มเดิมๆแยกได้ดังนี้
1. กลุ่มแรก เป็นกลุ่มผู้ที่มีความยึดถือในความเชื่อของเขาเดิมๆ รู้ข้อธรรมมากแต่ขาดการปฏิบัติ
ทำให้มีทิฐิสูง กลุ่มนี้ไปเปลี่ยนความคิดเค้ายากครับ ลองอ่านๆดูแล้วจะเข้าใจ เน้นโพสธรรมะยาวๆอ่านยากๆ
2. กลุ่มผู้มีเจตนาต้องการทำลาย มาแบบแอบแฝง เปิดหัวข้อมาแบบแย็บๆถามเชิงจุดเชื้อไฟ
ถ้ามีคนวัดไปตอบก็เข้าทางเขา เน้นโพสด่า + แปะข่าวใส่ร้ายวัดจาก นสพ. เมื่อสิบกว่าปีที่แล้ว
3. กลุ่มขาจรแวะเวียนกันมา อยากรู้ความจริง โพสถาม
น่าจะรู้ว่าได้คำตอบอย่างไรเนื่องจากส่วนใหญ่บอร์ดนั้นมี 2 กลุ่มข้างต้นอยู่
กลุ่ม 1 และ 2 เป็นส่วนใหญ่ในนั้น ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการโพสชี้แจงครับ
พี่ๆหลายๆคนในที่นี้ได้และเคยเข้าไปโพสชี้แจงเป็นเวลานาน และหลายครั้ง
บางท่านเน้นโพสธรรมะ, ข่าวกิจกรรมวัดอย่างเดียวโดยไม่ตอบโต้ผู้อื่นเป็นปีๆ
กลับกลายเป็นหัวข้อเปิดประเด็นร้อนให้เขาถกกันโดยปริยาย ไม่ได้เกิดประโยชน์อันใด
จำนวนคนที่อ่านบอร์ดนั้นจริงๆ เป็นแค่ส่วนน้อยนิดในสังคมครับ อย่าไปถือสากับเค้าเลย
ตามความคิดผมคือ ตอนนี้เราทำถูกทางแล้วครับ ทำงานใหญ่ของเราเรื่อยไป คนส่วนใหญ่จะเห็นและเข้าใจว่าวัดเราทำอะไร
ดังคำกล่าวที่ว่า "Actions Speak Louder Than Words" (สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น)
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#21
โพสต์เมื่อ 29 April 2010 - 11:49 PM
#22
โพสต์เมื่อ 30 April 2010 - 12:09 AM
![laugh.gif](style_emoticons/default/laugh.gif)
สู้เอาเวลาไปชวนคนบวชดีกว่า
อนโมทนาบุญร่วมกันนะครับ
#23
โพสต์เมื่อ 30 April 2010 - 03:31 AM
อ่านไปอ่านมา บางทีอ่านเรื่องราวที่เค้าเขียนกันแล้วใจเราไม่หมองนะครับพอทำใจได้ อ่านไปอ่านมา กลัวคนเขียนจะหมองจะไปอบายเอาได้ หมองแทนอีก
อ่านไปอ่านมา สติหลุดอีก ก็ทำให้ใจเราดันหมองได้เหมือนกัน ฮิ ฮิ
"ทางสายกลาง" ครับ บริโภคสื่อแต่พองาม ตั้งใจทำงานสร้างบารมีให้เต็มที่
#24
โพสต์เมื่อ 30 April 2010 - 04:04 AM
.
อุเบกขา....หนอ !!!
.
.
![unsure.gif](style_emoticons/default/unsure.gif)
#25
โพสต์เมื่อ 01 May 2010 - 03:32 AM
ทำดีต้องมีมาร (อุปสรรค) คนเราจะให้คิดเหมือนกันคงไม่ได้ วัวใครก็เข้าคอกคนนั้นครับผม
#26
โพสต์เมื่อ 01 May 2010 - 06:05 AM
เอาเวลาและโิอกาสมาสร้างบุญให้ตัวเราและญาติมิตรดีกว่าครับ