ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
* * * * * 1 คะแนน

ทำอย่างไรดี เมื่อคนที่เราไม่ชอบมาวัด?


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 27 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 jeedjazz

jeedjazz
  • Members
  • 8 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 July 2010 - 01:11 AM

จากหัวข้อกระทู้ "เราควรทำอย่างไรดี เมื่อมีคนที่เราไม่ชอบมาวัด"

ยอมรับว่าทำให้เราไม่สบอารมณ์...เสียบรรยากาศ ถ้าต้องเห็นหน้าหรือได้ยินเรื่องราวของคนที่เราไม่ชอบ ก็คิดไว้ประมาณ 3 ทางเลือก อยู่ระหว่างการตัดสินใจ..แต่ไม่รู้ว่าจะทำตามข้อไหนดี

  1. ต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องไปใส่ใจกัน --> ถ้ายังคงเห็นหรือได้ยินเรื่องราว ก็อาจจะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไร
  2. เราบอกให้เขาออกไป --> คาดว่าจะทำไม่ได้
  3. เราเป็นฝ่ายไปเสียเอง --> อันนี้พอเป็นไปได้ และอาจกำลังจะตัดสินใจในข้อนี้ เพราะทำที่ตัวเราง่ายสุด
วันนี้ก็คิดเอาไว้ว่า..อย่างน้อยลองอดทนอีกสัก 1 พรรษาละกัน ถ้าไม่ไหวจริงๆหรือไม่ดีขึ้น หลังวันออกพรรษาคงต้องทำอะไรสักอย่าง เพราะอยู่อย่างนี้เราก็ไม่ได้พัฒนาไปไหนเลย อารมณ์ที่จะนั่งสมาธิก็ไม่มี เหมือนเป็นหนามแหลมๆ ที่ทิ่มตำอยู่ในมือยังไม่สามารถเอาออกไปได้ ทุกวันนี้ก่อนนอนก็พยายามแผ่เมตตาให้เขาอยู่...แต่ยังไม่ดีขึ้น อย่างไรแล้ว..จะลองทนไปอีก 3 เดือน ยอมรับว่าการหาหมู่คณะอื่นไปอยู่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้าอยู่ไปมีแต่จะบั่นทอน ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร??

*** กระทู้นี้หาก webadmin เห็นว่าไม่เกิดประโยขน์ เชิญลบได้เลย ***

#2 ศิษย์มีครู

ศิษย์มีครู
  • Members
  • 144 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 July 2010 - 01:34 AM


.
biggrin.gif


#3 ศิษย์มีครู

ศิษย์มีครู
  • Members
  • 144 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 July 2010 - 01:40 AM


.
biggrin.gif


#4 ณ ๐๗๒

ณ ๐๗๒
  • Members
  • 1340 โพสต์
  • Location:Ladkrabang

โพสต์เมื่อ 24 July 2010 - 01:57 AM

อาจดูเหมือนคำถามไร้สาระ แต่คิดว่า น่าจะมีประโยชน์ต่อผู้อื่น ที่อาจเจอเรื่องราวคล้ายๆ กันนี้
เพราะเมื่อไหร่ ที่เรายังไม่ได้เป็นผู้ที่หมดสิ้นซึ่งกิเลศ เมื่อนั้น พวกเราทุกคนก็ยังไม่ใช่คนสมบูรณ์พร้อม เมื่อไม่ใช่คนที่สมบูรณ์พร้อม ก็ย่อมต้องมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง และต้องมีสิ่งผิดพลาดกันบ้าง

ผู้ที่เจอปัญหาแบบนี้ ให้ลองย้อนถามตัวเองนะคะ ว่าตัวเองเข้าวัดเพื่อจุดประสงค์อะไร เพื่อฝึกฝนตัวเอง เพื่อสร้างบารมี เพื่อทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากหมู่คณะฯ หรือเพื่ออะไร
ที่สำคัญ อย่าลืมนึกถึงเป้าหมายของชีวิตนะคะ ทั้งเป้าหมายของชาตินี้ และชาติหน้า และสำคัญสุด...ให้มองเป้าหมายเป็นหลักค่ะ
หากมองเป้าหมายเป็นหลัก อุปสรรคระหว่างทาง ก็เป็นสิ่งที่ต้องข้ามไปให้ได้

ทางที่ดีก็น่าจะแก้ที่สาเหตุนะคะ หากปล่อยวางได้ ความรู้สึกไม่ชอบ ความอึดอัดที่ต้องอยู่ร่วมกัน ความอึดอัดได้รับฟังเรื่องราวก็คงลดน้อยลงไป ชีวิตก็มีอยู่แค่นี้ อีกไม่กี่ปีก็ตายจากกันไป

หากต้องอดทน ก็เป็นการฝึกตบะภายในตัว
หากรู้ตัวว่าเริ่มไม่พอใจ เริ่มอึดอัด ก็ให้เอาใจไปไว้ที่ศูนย์กลางกาย ท่อง "สัมมา อะระหัง" ไปเรื่อยๆ แล้วก็นึกถึงคำสอนของคุณยาย ของหลวงพ่อ


QUOTE
คุณยายเคยสอนหลวงพ่อว่า "อยู่ในวัดอย่านึกว่าง่ายนะ เพราะทุกคนก็ยังเป็นผู้ที่มาฝึกตัวกันทั้งนั้น อย่าเพิ่งไปคิดว่าคนเข้าวัดแล้วจะสมบูรณ์นะ เป็นแต่เพียงว่า ดีกว่าเดิมนิดหนึ่ง แต่เดิมนี่ถูกใครว่าทีเดียวก็โกรธ พอเข้าวัดแล้ว ว่าสองทีค่อยโกรธ ดีขึ้นกว่าเดิมนิดหนึ่ง อย่าเพิ่งไปนึกว่าอยู่ในวัดแล้วจะสมบูรณ์เต็มร้อย เพราะทุกคนล้วนมาฝึกตัว"
คุณยายฝึกฝนตนเองด้วยการรักษาใจ ให้มีแต่องค์พระ ทำให้ไม่มีเวลาและอารมณ์ที่จะขุ่นมัวกับสิ่งอื่นใด ท่านฝึกอย่างนี้เรื่อยมา แม้ลำบากก็อดทนไม่ว่าจะเกิดปัญหาอะไรท่านก็ไม่หวั่นไหวเพราะว่ามีพระรัตนตรัยภายในเป็นที่พึ่งอยู่ในใจ
http://dmc.tv/forum/...showtopic=23386
http://www.kalyanami.....20Heart 6.rar

last edit: 17.29 24/7/53

ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)

ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี  ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ  ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป


#5 ธาตุล้วนธรรมล้วน

ธาตุล้วนธรรมล้วน
  • Members
  • 255 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 July 2010 - 01:59 AM

สาธุกับคุณ ศิษย์มีครู ครับ ที่เชิญคำสอนครูบาอาจารย์มา

............

เรียนคุณ จขกท

การที่เราตกอยู่ภายใต้อารมณ์ การปรุงแต่งของจิต แบบนี้ เราเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ชีวิตมีแต่แย่กับแย่นะครับ พยายามอย่าให้การปรุงแต่งของจิตใจ อารมณ์ ความคิด ความยึด ความถือ มาเป็นเจ้านายของเรา อย่าให้ภาคมารเขาเข้ามาบังคับดวงจิตของเราจนธาตุธรรมเราเสียหายเลยครับ ผลต่อไปก็คือทำให้คุณห่างออกจากหมู่คณะและสายธาตุธรรม เพราะเรื่องไม่เป็นเรื่อง

ต่อให้คุณหนีๆๆๆ ไปไหนต่อไหนก็เท่านั้นเอง เพราะตราบใดที่จิตใจเรายังคงอ่อนแอต่อการปรุงแต่งของจิต ของอารมณ์ความนึกคิด เราก็เป็นทาสของภาคมารอยู่นั่นเอง ไม่ว่าเราจะไปอยู่ที่แห่งใด ภพภูมิใดๆ ชาติไหนๆ

ประกาศอิสระภาพให้แก่จิตใจและธาตุธรรมของเราดีกว่าครับ ด้วยการหยุดใจ 072 ใสๆ สว่างๆ

แต่ปุถุชน ก็เข้าใจครับ ว่ามันคงมิใช่เรื่องง่าย ตอนวัยรุ่นๆ ผมก็เคยเป็นเช่นคุณมาแล้ว ผมเข้าใจดี แต่ตอนนี้มานึกๆแล้ว กลายเป็นเรื่องน่าหัวเราะไปซะงั้น อิอิ ทำไมเราถึงได้ยึดมั่นถือมั่นซะขนาดนั้นหนอ อิอิ ช่างไร้สาระจริงๆ

ก็อยู่ห่างๆเขาก็แล้วกัน วัดเราออกจะกว้างใหญ่ไพศาล จะได้ไม่ต้องไปเก็บมาเป็นอารมณ์

หรือทำใจให้ได้เสมือนแผ่นดินที่ใครจะทิ้งอะไรลงมาก็ไม่หวั่นไหว

หรือทำใจว่าไม่ถึงร้อยปีก็ตายแล้ว จะโกรธเกลียดกันไปทำไม

หรือทำใจว่า เราก็เป็นพระโพธิสัตว์ ซักวันเราคงจะโปรดคนที่เราเกลียดได้ ซักวันเขาคงให้เราโปรด
หรือซักวันหนึ่งเราหลงไป เขาก็อาจจะมาโปรดเราได้เหมือนกัน ล้วนช่วยเหลือเกื้อกูลกันไปตามเหตุปัจจัยทุกภพทุกชาติ ดีกว่าเกลียดกัน

ยามที่ภัยมาถึงตัวเมื่อไร ความโกรธเกลียดมีแต่จะทำให้เลวร้ายลงไปทุกทีๆ อย่าได้ผูกใจเก็บเอาไว้จนข้ามภพข้ามชาติเลยนะครับ สังสารวัฎฎ์ก็แบบนี้แหละครับ

อิอิ ก็มาจากการทำใจของผม ช่วงวัยรุ่นๆที่เคยแอบมีอาการเกลียดคนบางคนเช่นเดียวกันครับ

แต่ตอนนี้ประกาศอิสระภาพให้แก่จิตใจและธาตุธรรมได้พอสมควรแล้วครับ ก็มาจากการขัดเกลาตนเอง และการสร้างบารมีนั่นเอง หยุดใจที่ 072 ใสๆสว่างๆครับ


ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ

ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ

เราตถาคต คือธรรมกาย

#6 Nee-Sansanee 2

Nee-Sansanee 2
  • Members
  • 893 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 24 July 2010 - 02:48 AM

สาธุ อนุโมทนากับทุกท่าน ตอบดีค่ะ และจขกท ด้วย

Innerpeace เอาอย่างยาย ฝึกอย่างยาย เป็นทั้งผ้าขี้ริ้ว

ให้เขาเช็ดเท้าเขาให้สะอาด และเป็นแผ่นดินที่ยอมรับให้ได้ไม่ว่าเหม็นหรือหอมที่ราดรดลงมา

และสุดยอดยายสู้ สู้ สู้อยู่ข้างในกลั่นธาตุ กลั่นธรรมให้บริสุทธ์ ด้วยการนั่งสมาธิ เพราะจิตที่ฝึกดีแล้วย่อมนำสุขมาให้

.................... tongue.gif tongue.gif กำลังฝึกฝนตัวแข่งกับเวลา เหนื่อยนักก็พักบ้างตามประสา สสว

ขอแค่เศษเสี้ยวของยายในชาตินี้ก็พอใจแล้ว แต่กลัวตกขบวนพลัดตกหายไปแล้วละก็เสียดายจัง จึงพยายามไม่ให้

ตัวเองตกข้างทางเด็ดขาด ตายเป็นตายต้องรักษาศีลด้วยชีวิตแหละนะ กาย วาจา ใจ ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องหามีอยู่แล้วนำ

มาใช้เบิกทางสร้างบุญบารมี ที่ไม่เป็นบุญไม่เอา ! บอกตัวเองบ่อย ๆ ตอกย้ำ ย้ำแล้วย้ำอีก ต้องสู้รบกับกิเลสมารใน

ตัวเองก่อน ศีลเป็นประมุขของกุศลธรรมทั้งหมดจึงต้องรักษาให้ได้แม้แลกด้วยชีวิตก็ยอม !!





#7 tnawut

tnawut
  • Moderators
  • 2398 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:Laksi
  • Interests:Internet, Computer, Electronic, Security, Merit, Meditation, อินเตอร์เน็ต, คอมพิวเตอร์, ทำบุญ, ปล่อยปลา, บูชาเจดีย์, ฝันในฝัน, DOU, หมู่บ้านปฏิบัติธรรม, บวช, บรรพชา, Web, CU, Chula

โพสต์เมื่อ 24 July 2010 - 03:04 AM

ความเห็นส่วนตัวผม

ต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องไปใส่ใจกัน... การมาวัดมาเอาบุญ เอาหลวงพ่อเป็นหลัก อย่างอื่นถ้าเกิดประโยชน์ก็นำไปปฏิบัติ เรื่องของคนรอบๆกายไม่เกิดประโยชน์ก็ไม่นำมาใส่ใจ... เราทุกคนมาฝึกตัว ไม่ได้สมบูรณ์กันทั้งสิ้นอย่าไปใส่ใจครับ เขากระทบกระทั่งเราก็กรรมใหม่ของเขาอาจจะเป็นกรรมเก่าเรา ถ้าว่างอุเบกขาได้ใจก็สบาย smile.gif

ถ้าเพราะเขาเราเลยไม่ได้บุญ... น่ากลัวครับเราจะตกบุญ วัดออกจะกว้างใหญ่ ไม่เคยกลัวว่าไม่มีที่นั่งปฏิบัติธรรม พรรษานี้ตั้งใจเอาชนะตัวเองให้ได้ครับ

PS ขอบคุณคุณศิษย์มีครู ที่นำโอวาทมาให้ได้อ่านกันครับ



#8 ดอกอุบล

ดอกอุบล
  • Members
  • 926 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 July 2010 - 06:23 AM

ทำตัวเฉยๆทำใจเฉยๆเขาพูดด้วยเราก็พูดด้วยเขาไม่พูดด้วยเราก็ทำตัวเฉยๆสั่งสมบุญของเราไปคบหาแต่คนดีๆที่คิดดีทำดีกับเราเท่านั้นอดทนไว้นะครับ

#9 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 24 July 2010 - 07:37 AM

วัดพระธรรมกายก็ไม่เล็ก
สภาธรรมกายก็กว้างใหญ่
เขานั่งตรงไหน เราก็หลบไปนั่งที่อื่น
แค่นี้เอง

ขอถามหน่อยว่า เกลียดเขาเพราะอะไรครับ

#10 Nee-Sansanee 2

Nee-Sansanee 2
  • Members
  • 893 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 24 July 2010 - 10:08 AM


น่าจะเป็นตามวัดศูนย์สาขาเล็ก ๆในต่างประเทศมากกว่า

คนรู้จักกันใกล้ชิดกัน กระทบกระทั่งกันได้ง่ายและไม่มีที่

หลบ เพราะสถานที่จำกัดจริง ๆ แต่ก็ฝึกขันติได้ดีนักแล

....................ใครเจออย่างนี้ ให้นึกถึงหมู่คณะเข้าไว้

กว่าจะมาถึงวันนี้ ลองย้อนไปปี2542ซิ หนักแค่ไหน ตอนช่วงใกล้ ฉลองธรรมกายจดีย์ปิดองค์พระภายนอก

และตอนนี้ยิ่งโคงการต่าง ๆมากมายใกล้ปิด มารจะมากขนาดไหน ศึกภายนอกก็พอแล้ว ศึกภายในเราต้องรับ

และรุกชนะมารด้วยการปฎิบัติธรรม รักษาศีล รักษากาย วาจา ใจไว้ให้ดีทีเดียว

...................โปรดอย่าคิดว่าสอนนะคะเป็นแค่ความคิดเห็นหนึ่งของผู้ร่วมเดินทาง เกิด แก่ เจ็บ ตาย หาก

ไปกระทบระเทือนใจใครเข้าก็ขออภัยด้วย เราต่างมีศูนย์รวมใจที่พ่อเหมือนกัน รักกันไว้เถิด ใจเย็น ๆค่ะ

#11 ping

ping
  • Admin
  • 251 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 24 July 2010 - 02:46 PM

อ่านแล้วเห็นชัดเลยว่า....อาการน่าเป็นห่วง! เพราะบรรดาผู้ที่หลุดออกไปจากหมู่คณะด้วยอาการนี้เห็นมีกันค่อนข้างมาก ขอฝากข้อคิดสักเล็กน้อยได้ลองพิจารณาดูแล้วกัน

กฏกติกาของความอดทน : ถ้าเราไม่อดทนอย่างที่เจออยู่ เราก็ต้องไปอดทนอีกอย่างเสมอ

ปล่อยนก 1 แสนตัว หรือ ปล่อยปลา 1 ล้านตัว ก็ไม่เท่ากับ ปล่อยวาง

จาคะ คือ ความเสียสละ ตั้งแต่สละสิ่งของนอกกาย เช่น เงินทอง รวมไปจนถึง การสละอารมณ์โกรธ-ขุ่นมัวจากกระทบกระทั่ง และที่สุดคือการสละกิเลสในใจตน เพราะถ้าไม่สละมันในวันนี้ มันจะกลับมาฉกกัดเราเอง ทำให้ใจของเรามีแต่ความทุกข์อยู่ร่ำไป คุณต้องกล้าหาญที่จะสละมันออกไปให้จงได้ แม้มันอาจจะต้องใช้เวลานานเพียงใดก็ตาม

ให้พยายามฝึกแผ่เมตตาให้ได้ตลอดเวลา นึกว่าตัวเราทั้งหมดอยู่ในดวงเมตตาบารมีของครูบาอาจารย์กับทั้งที่เราสั่งสมมานับภพนับชาติไม่ถ้วน(ให้เป็นดวงแก้วใสคลุมรอบตัวเรา) แล้วแผ่กระแสเมตตาออกมาคลุมตัวเรา และแผ่ออกไปในทุกทิศทาง ให้ได้ในทุกอิริยาบถ แล้วใจของเราจะได้รับความคุ้มครองด้วยกระแสเมตตา ที่จะทำให้จิตใจของเราเยือกเย็น ชุ่มชื่น ลืมความขุ่นมัวไปได้หมด ถ้าทำได้มากกว่านี้ก็ให้ขยายจนคลุมไปทั้งโลก แล้วทำใจของเราให้เป็นพระอริยะที่มีแต่ความปรารถนาดีต่อทุกๆสรรพชีวิต แผ่เมตตาให้กับตัวเรา บุคคลที่เรารักและเคารพ ผู้มีพระคุณ/สรรพสัตว์ทั่วไป/รวมถึงผู้ที่เคยเบียดเบียนเรา

ในทางปฏิบัตินั้นพอใจรู้สึกขุ่นมัวก็ให้แผ่เมตตาทันที จนใจคลายจากอารมณ์ขุ่นมัว ฝึกตัดใจ ฝึกสละอารมณ์ขุ่นมัว ทำอย่างนี้ซ้ำๆๆๆ จนกว่าใจเราจะใสเย็น และไม่ไปเสียเวลากับเรื่องไร้สาระเหล่านั้นอีก เพราะมีเรื่องอื่นๆอีกเยอะแยะที่เราจะต้องทำ มีความดีอีกมากมายที่เราต้องรีบทำรีบตักตวง เพราะชีวิตเป็นของน้อย)


เอาชนะมันให้ได้ แม้มันจะยากเพียงใดก็ตาม...เพราะคุณคือลูกของพระพุทธเจ้า ยามใดใจขุ่นมัวเศร้าหมอง ให้นึกถึงท่าน แล้วใจจะมีกำลังเพิ่มขึ้น สะอาดขึ้น...ขอเป็นกำลังใจให้บุตรพระอนันตชิน

เจริญพร

#12 กุ้งๆๆๆๆ

กุ้งๆๆๆๆ
  • Members
  • 4 โพสต์

โพสต์เมื่อ 25 July 2010 - 04:37 PM

All upper answers here are very good ways .
I used to have one ....... like as you.I pretended that he was not there (no-one there)
or thought that he is a monk (wear monks clothes)and I feel better.
Luang porè told ...... many men run away from the temple .because of these feel.
oh...please be strong , be better , happier and find the good way quickly.

#13 Santi072

Santi072
  • Members
  • 151 โพสต์
  • Gender:Not Telling

โพสต์เมื่อ 25 July 2010 - 07:01 PM

แล้วเขาไปทำอะไรให้คุณละครับ
หรือคุณไปทำอะไรให้เขา
มันก็ต้องมีมูลเหตุ
คุณถึงได้เกลียดเขาขนาดนั้น
ส่วนทางออกมันก็มีหลายวิธีนะครับ

แต่ที่แน่ คุณก็ต้องช่วยเหลือตัวเองไป ก่อน

เหมือนคำสอนยายที่ว่า

ไม่มีใครสามารถช่วยเหลือเราได้นอกจากตัวเรา
ให้ภาวนา สัมมาอะระหังไว้มากๆ นะ
นึกถึงบุญเข้าไว้ แล้วก็แผ่เมตตา

ขอให้เป็นกำลังพี่น้องวงบุญที่รักและสามัคคีร่วมสร้างบารมีกันนะครับ
พวกเราจะไปที่สุดแห่งธรรม อย่าได้มีใครต้องมีวิบากกรรม หรือเสียพี่น้อวงบุญไปเลยครับ

บุญรักษานะครับ






พุทธบุตรสายโลหิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เราพันธุ์ดีสุดขั้ว ชั่วลืมไปหมดแล้ว,จิตใจสูงส่งเหลือเกิน,มีปัญญา,มีมงคล,ทำที่ท่านได้ที่เรา

#14 jeedjazz

jeedjazz
  • Members
  • 8 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 July 2010 - 02:01 AM

ขอบคุณและอนุโมทนากับทุกคำตอบนะคะ
เราเข้าวัดตั้งแต่ปี 41 ช่วงวัดมีเรื่องฯ เรามาวัดทุกวันอาทิตย์ไม่เคยขาด
พอวันอาทิตย์ เหมือนมีนาฬิกาปลุกข้างใน....ถึงเวลาตื่นทันที....ขยันกว่าวันไปทำงานซะอีก

ตอนนี้เหรอ...กำลังที่เคยมีเหล่านั้น...หายไป
เราไปวัดเฉพาะอาทิตย์ต้นเดือนกับวันงานบุญใหญ่เท่านั้น
พรุ่งนี้ยังคิดอยู่เลย...ว่าจะไปถวายผ้าอาบน้ำฝนกับหลอดไฟดีไหม?
หรือจะไปทำวันอาทิตย์ต้นเดือนเลยทีเดียว

แปลกนะ..เมื่อก่อนไม่มีเงินมาวัด ทำบุญได้ทีละสิบละร้อย
ปัจจุบันกำลังทรัพย์เรามีมากกว่านั้น แต่ความรู้สึกเดิมๆ มันไม่กลับมาอีกแล้ว
...เพราะคนๆ นั้น
...อย่าถามเลยนะคะ ว่าเค้าทำอะไรให้เรา หรือเขาเป็นใคร
เราคงตอบไม่ได้ เพราะถ้าตอบกระทู้นี้คงถูกลบทันที
เราไม่เคยทำอะไรให้เขาแน่ๆ.....แต่เขาทำแน่นอน
เราไม่ใช่คนที่เกลียดหรือไม่ชอบใครง่ายๆ คนๆ นี้เป็นคนที่ 2 ในชีวิตเรา

คนแรก...เราให้อภัยเขาไปแล้ว เป็นเพื่อนสมัยเรียน...เพราะเขามาทำร้ายคนที่เรารักมากๆ คนนึง
ตอนนั้นเรายังไม่เข้าวัด...แต่ปกติเราแผ่เมตตาเป็นประจำอยู่แล้ว
กว่าจะให้อภัยได้ก็เป็นเดือน...ยังจำความรู้สึกนั้นได้...มันช่างโล่งโปร่งสบาย...พอเราได้ให้อภัยเขา

แต่ตอนนี้สิ....เรายอมรับยังอยู่ในวังวน ไม่สามารถเอาชนะใจตัวเองได้
จะให้เวลาตัวเองอีก 3 เดือน...เพราะเราไม่ชอบมีความทุกข์
ปกติเราสัญญาไว้กับตัวเองเสมอ...ถ้ามีเรื่องกลุ้มใจหรือไม่สบายใจ
ยังไงซะ..เราจะต้องกินข้าวให้ได้ นอนให้หลับ และจะไม่ทุกข์ใจเกิน 3 วัน
แต่กับคนๆ นี้ ณ เวลานี้ เกินจะเยียวยาที่เราจะให้อภัยเขาจริงๆ
เราไม่สบายใจในเรื่องนี้ไม่ต่ำกว่า 2 ปี...การอดทนของเราย่อมมีที่สิ้นสุด

ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้เจอทุกคนในบ้านหลังใหญ่สีขาวด้วยกันอีกไหม?
เราจะใช้เวลาที่เหลือนี้ให้ดีที่สุดนะ smile.gif

PS. อย่าลืมไปดู Harry Potter กันนะ ภาคสุดท้ายแล้ว >> Harry จะชนะ Lord Voldemort ได้ไหม?
สำหรับเราคงไม่สามารถเอาชนะ
Lord Voldemort ในชีวิตจริงได้หรอก!!

#15 ธาตุล้วนธรรมล้วน

ธาตุล้วนธรรมล้วน
  • Members
  • 255 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 July 2010 - 03:52 AM

เป็นกำลังใจให้นะครับ

แต่อย่างที่บอก หากคุณอยู่ภายใต้อำนาจของการปรุงแต่งแห่งจิตใจแบบนี้ คุณจะเสียเปรียบนะครับ

ผมเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ขนาดสงครามโลกครั้งที่สามสำหรับคุณ แต่ว่ามันมิใช่เรื่องที่มีแก่นสารสาระที่จะทำให้ชีวิตเราได้รับทางรอดไปในทุกภพทุกชาติ เพราะเรื่องที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือเรื่องที่ทำให้เราเอาตัวรอดได้จากภัยในวัฏฏะ

และหากสุดท้ายมันไม่ไหวจริงๆแล้ว ก็ไม่จำเป็นว่าคุณจะหนีหายไปจากวัด จากหมู่คณะ หรือจากการสร้างบารมี

ที่ไหนคุณก็ยังสร้างบารมีได้ นะครับ เพราะผมเคยเจอมาแล้ว บางคนก็ขี้น้อยใจ บางคนก็ซีเรียสเรื่องส่วนตัวเล็กๆแต่ดูเหมือนจะยิ่งใหญ่กว่าสงครามโลก

ไปๆมาๆ นอกจากจะไม่ได้ร่วมสร้าบารมีกับหมู่คณะแล้ว ยังเปลี่ยนไปนับถือความเชื่ออื่นอีก ถ้าเป็นแบบนี้ก็จำต้องวางอุเบกขากับคุณแล้วล่ะครับ

หากคุณจะก้าวหลบไปก็ได้ แต่ควรหาวิธีที่จะไม่ห่างไปจากการสร้างบารมี ไม่ว่าจะอยู่คนเดียว หรือกับหมู่คณะไหน หรือที่แห่งหนใดก็ตามครับ

และหากคุณทราบแล้วด้วยปัญญาว่าวิชชาธรรมกายนี้เป็นแนวทางแห่งชีวิตคุณ วัดที่สอนวิชชาธรรมกายที่อื่นก็มีอีก เช่นสาขาของวัดพระธรรมกาย มีทั่วประเทศทั่วโลก หรือวัดปากน้ำภาษีเจริญ หรือวัดหลวงพ่อสดที่ราชบุรี ก็เป็นที่ให้คุณสามารถอยู่ในสายธาตุธรรมวิชชาธรรมกายนี้ได้นะครับ ที่กล่าวเช่นนี้เพราะไม่อยากให้คุณไปนั่งเหงาอยู่บ้าน ไปๆมาๆก็จิตใจแย่ลงๆ หรือไปๆมาๆประชดชีวิต ไปนับถือความเชื่ออื่นมันซะเลย



ชีวิตมีไว้ให้เราเรียนรู้และเข้าใจมันตามความเป็นจริง มิใช่มีเอาไว้กลุ้ม (คุณก็ได้เรียนรู้อยู่)

ชีวิตมีเอาไว้แสวงบุญ สร้างบารมี และเพื่อทำนิพพานให้แจ้ง


สิ่งอื่นนอกจากนี้ ก็เป็นเพียงสิ่งที่ภาคมารเขาสอดละเอียดเข้ามาให้เราหลงและเล่นไปตามบทละครเท่านั้นเอง


ขอให้มีความสุขนะครับ สาธุ happy.gif





ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ

ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ

เราตถาคต คือธรรมกาย

#16 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 July 2010 - 06:40 AM

ถ้ามาวัดช่วงนั้นคุณน่าจะรู้ชัดว่า เรากำลังทำอะไร
หลวงพ่อจะพาเราไปไหน
ผมอ่านเรื่องคุณดูแล้ว คุณไม่ใช่คนผิดนี่
แล้วจะหนีทำไม จะหนีหลวงพ่อไป
เพราะวัดนี้ มีคนที่คุณไม่ชอบ
เหตุผลแค่นี้หรือ





#17 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 July 2010 - 07:19 AM

คุณรู้มั้ย หลวงพ่อ พระเณรทุกรูป อาสามัคร
เจ้าหน้าที่วัด และกัลยาณมิตรทุกคน
ต่างทุ่มเทเอาชีวิตเป็นเดิมพัน
เพื่อทำให้วัดพระธรรมกายเป็นสถานที่
อันเหมาะสมกับการปฏิบัติธรรม
หลวงพ่อและลูกๆทุกชีวิตยอมเสียสละ
เหนื่อยยากขนาดไหน
คุณคงจะทราบ แต่ซึ้งไหม
หากพวกเราไม่อาจทำให้วัดมีแต่สิ่งที่คุณชอบได้
ก็ต้องกราบขออภัยอย่างสูง
แต่อยากให้คุณคิดให้ดีว่า
ตลอดเวลาที่เข้าวัดมา คุณเห็นอะไร
คนวัดทุกคนเขาทำอะไร มีเป้าหมายอย่างไร

ต้นเดือนนี้มาคุยกันหน่อยได้ไหม



#18 ดินสอแห่งธรรม

ดินสอแห่งธรรม

    สร้างบารมีเป็นหมู่คณะ = ฝึกตนให้เป็นผู้ใจกว้าง

  • Members
  • 1478 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:ดุสิตบุรี
  • Interests:สร้างบารมีแบบเต็มกำลัง

โพสต์เมื่อ 26 July 2010 - 07:03 PM

....ถ้าไปจากวัด มารมันก็หัวเราะเอาสิ ใครบุญมากช่วงนี้ถ้าใจไม่ใสจะโดนมารเล่นหมด ถ้าเราขาดกำลังหรือแยกจากกัน งานนี้หลวงพ่อเหนื่อยแน่ๆ ถ้ารักกันจริง รักหลวงพ่อจริง ก็มองแต่เพียงหลวงพ่อ ต่อให้ใครหน้าไหนเข้ามาวัดต้องไปสนทำไม ที่เข้ามาวัดได้ก็เปลืองบุญคุณยายกับหลวงพ่อไปเท่าไหร่แล้ว กว่าจะไปตามคุณมาได้? แล้วตอบแทนท่านแบบนี้ได้ไง มันต้องลุยเดินหน้าไปด้วยกันสิ แม้ด้านหลังจะมีแผลเหวอะหวะ แต่ด้านหน้าต้องไปต่อ ถ้าหลุดออกไปก็อย่าคิดว่าจะได้กลับมาในวงบุญอีกง่ายๆ ตอนนี้ไม่มีคุณยายแล้ว อย่าให้ผลงานสุดท้ายของคุณยายที่ใช้บุญดึงคุณมาเปล่าประโยชน์ไป เพื่อนๆ รอเดินไปพร้อมกับคุณอยู่นี่ไง
..อันมือของฉันสองมือนี้ ดูเล็กนิดเดียวและไม่มั่นใจว่าฉันจะสร้างสิ่งดีๆ ให้เกิดแก่โลกใบนี้ได้.. แต่ฉันมั่นใจว่า ...หัวใจของฉันนี้ มอบไว้ให้แด่พระพุทธศาสน์....

#19 ping

ping
  • Admin
  • 251 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 26 July 2010 - 07:13 PM

เจริญพร

เรื่องนี้อาจมีเหตุ อาจมีเรื่องบาดหมางกันมาแต่ชาติหนหลังก็เป็นไปได้ จึงรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าแบบฝังลึก แกะให้หลุดจากใจยาก แต่อยากให้ตัดให้ขาดจากใจให้ได้นะ จะได้ไม่ติดไปชาติหน้าหรือชาติต่อๆไปอีก (แค่ชาตินี้เท่าที่นึกได้และเป็นอยู่ยังขนาดนี้เลยนะเนี่ย)

วันนี้ได้ชมรายการทันโลกทันธรรม มีเคล็ดลับกลยุทธของชีวิต ที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ ข้อที่ 8 มาฝากดังนี้ (มีทั้งหมด 9 ข้อ สามารถเปิดชมรายการย้อนหลังจากหน้าเว็บdmc.tvได้)

ข้อที่ 8 : มีพลังแห่งการให้อภัย
เราเปิดตาแล้วให้เห็นว่า ความคับแค้นใจ ความโกรธแค้นคับข้องหมองใจนั้น มันทำร้ายอะไรเราบ้าง เอาพละกำลังที่เราเสียไปจากผู้อื่นกลับคืนมา กลับคืนมาอย่างไร ไม่ใช่ไปแก้แค้นนะ คือต้องให้อภัย การให้อภัยเป็นการปลดปล่อยตนเอง หรือ Free ตัวเอง ให้เป็นอิสระ และเป็นการรักษาพลังงานที่เราสูญเสียไป นึกดูให้ดีว่า พลังงานเราลดลงไปมากขนาดไหนในระหว่างที่เรามีความโกรธ มีความเคียดแค้น มีความอยากที่จะทำให้เกิดการตอบแทนต่างๆ เหล่านั้นทำให้เสียคุณภาพชีวิตไปหมดเลย เสียพลังงานที่ดีของจิตใจเรา สู้เอาเวลาไปคิดเรื่องดีๆไม่ได้ การให้อภัยไม่ต้องอาศัยความร่วมมือจากฝ่ายตรงข้าม เราไม่ต้องไปรอให้เขากล่าวคำว่าขอโทษ ไม่ต้องไปรอให้เขารู้สึกเสียใจหรือยอมรับในสิ่งผิดที่เขาทำ แต่เราทำเพื่อตัวเราเอง เพราะเวลาเราให้อภัยแล้ว พลังทั้งหมดจะกลับคืนมาสู่ตัวเรา

หวังว่าเทคนิคนี้คงจะช่วยอะไรได้บ้างไม่มากก็น้อย แต่ถ้าให้ดีที่สุดต้องนั่งสมาธิจนเห็นแสงสว่างภายใน รับรองว่าอารมณ์โกรธเกลียดหายไปเป็นปลิดทิ้งเหมือนเกิดมาไม่เคยรู้จักอารมณ์แบบนี้เลย

ปล.อย่าลืมชมรายการทันโลกทันธรรมของวันที่ 520920 เรื่อง การให้อภัย เพิ่มด้วย (เนื้อหาดีมากๆ) มีแง่คิดดีๆที่อาจไม่เคยได้ยินได้ฟังมาก่อน

#20 jeedjazz

jeedjazz
  • Members
  • 8 โพสต์

โพสต์เมื่อ 26 July 2010 - 09:20 PM

^
^
^
กราบขอบพระคุณเจ้าค่ะ
ส่งข้อความไปทางหลังไมค์ด้วยค่ะ


#21 มองอย่างแมว

มองอย่างแมว
  • Members
  • 722 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:NYC

โพสต์เมื่อ 26 July 2010 - 11:49 PM

ลองฟังหลายๆเคสที่เจ้าของเคสต้องพลัดจากหมู่คณะไปหลายๆพุทธันดร
เกือบทุกเคสจะเป็นกรณีที่น้อยใจแบบ จขกท นี่แหละครับ

ผมว่าไม่คุ้มนะ
น้อยใจกันชาติเดียว หลุดหายกันไปนานเลย
กว่าจะกลับมาเจอกัน ก็ "สะบักสะบอม" กันมาทีเดียว
"ฉุดมันเอาไว้ หยุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันรวนเร ต้องหยุดนิ่งสุดใจ หยุดมันเอาไว้ ฉุดมันเอาไว้ ไม่ให้มันซวนเซ ต้องฉุดให้ใจหยุด"
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)

#22 NuengKung

NuengKung
  • Members
  • 39 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:เทคโนโลยี มือถือ

โพสต์เมื่อ 27 July 2010 - 10:54 PM

คำตอบของคุณ "ศิษย์มีครู" เป็นประโยชน์มาก ๆ ครับ
วิถีปูลาดด้วยสีทองแห่งกาสาวพัตร์ ถนนที่พุทธบิตรใช้เดินสู่อกบิดาแห่งตน “ถนนธรรมทายาท” เส้นทางสะอาดเปล่งแสงสุกใส พร่ำเรียกหาลูกผู้ชายผู้ใฝ่ชัยชนะที่แท้จริง

#23 วิชชารักข์

วิชชารักข์
  • Members
  • 10 โพสต์

โพสต์เมื่อ 29 July 2010 - 08:02 PM

แล้วจะทำยังไงดีละครับ เมื่อต้องมาวัดที่เราไม่ชอบ
เอ้า กราบ...

#24 Nee-Sansanee 2

Nee-Sansanee 2
  • Members
  • 893 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 29 July 2010 - 08:31 PM

เรียน คคห#23

ไม่ยากค่ะ คาถาดี(มิใช่ผีบอก แต่พระบอก)

คืออบต = เอาแต่บุญ (อะไรที่มิใช่บุญ ไม่เอา =ทุกสิ่งที่ทำ ทุกคำที่พูด ทุกอย่างที่คิดล้วนมีผล)

แล้วก็หมั่นทบทวนเรื่องของยาย มีแต่ได้และได้สิ่งดี ๆ

ไม่ว่าไปวัด หรือไปไหนถ้าต้องไปชอบหรือมิชอบ บ่มีปัญหาเอาครูบาอาจารย์เป็นตัวอย่าง

และเอาพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึก เท่านี้แหละพอแล้ว เรื่องอื่นเลอะเทอะไม่เอาไม่แบกก็ไม่หนัก !

#25 Dd2683

Dd2683
  • Members
  • 2477 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:กรุงเทพ มหานคร
  • Interests:ความรู้ในพระพุทธศาสนา-วิชชาธรรมกาย<br />ผลแห่งการปฏิบัติธรรม

โพสต์เมื่อ 30 July 2010 - 10:07 PM

QUOTE
คิดไว้ประมาณ 3 ทางเลือก อยู่ระหว่างการตัดสินใจ..แต่ไม่รู้ว่าจะทำตามข้อไหนดี

ต่างคนต่างอยู่ ไม่ต้องไปใส่ใจกัน --> ถ้ายังคงเห็นหรือได้ยินเรื่องราว ก็อาจจะไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาอะไร
เราบอกให้เขาออกไป --> คาดว่าจะทำไม่ได้
เราเป็นฝ่ายไปเสียเอง --> อันนี้พอเป็นไปได้ และอาจกำลังจะตัดสินใจในข้อนี้ เพราะทำที่ตัวเราง่ายสุด


ทั้ง 3 ทางเลือก ล้วนมี
ข้อดี / ข้อด้อย ,
ทำง่าย / ยาก ,
ได้ผลดีมาก / ดีปานกลาง / ดีน้อย ,
ได้ผลช้า / เร็ว ,
ผลกระทบ(ปัญหา , ความกังวล ฯล) ที่ตามมา
ต่างกัน

ซึ่งเจ้าของกระทู้ ต้องเลือกเอง ออกแบบชีวิตเองครับ
ทางเลือกที่ 3 ผลกระทบในทางเสียประโยชน์ในระยะยาว น่าจะมีมากกว่าทางเลือก 1 , 2 นะครับ

ที่จริงคงมีทางเลือกมากกว่า 3 วิธี ที่เจ้าของกระทู้เอ่ยถึงนะครับ

ทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค
แต่โดยรวมวิธีแก้ไขอย่างยั่งยืน ควรจะแก้ไขที่สาเหตุหลักของปัญหา นะครับ
เรื่องของเรื่องก็น่ามาจาก ทั้งเราและเขา/เธอ ยังเป็นมนุษย์ที่มีอวิชชา อาสวะกิเลส
จึงทำให้เรา ๆ ท่าน ๆ ยังมีทุกข์ ฯล ( กาย ใจ ) กระทบกระทั่ง โดนวิบากกรรมบีบคั้นให้เผชิญกันอยู่

เหตุเกิดที่ไหน ก็ควรดับที่นั่น ดีที่สุดครับ
ถ้าเหตุเกิดที่ ใจ ความรู้สึกของเราเอง
ก็ควรแก้ที่ ใจ ของเรา มิใช่หรือ
ครับ

แต่ถ้ายังทำไม่ได้ เลือกวิธีที่ 1 ไปก่อนนะครับ

ขอส่งแรงใจให้เจ้าของกระทู้ สร้างบารมีด้วยดี มีความสุข สดชื่น สมหวัง ห้อมล้อมด้วยกัลยาณมิตรรอบตัว นะครับ

ป.ล. เคยได้ยินมาว่า อบต. = เอาบุญตลอด
ใจหยุดที่สุดแห่งบุญ มุ่งสู่ที่สุดแห่งธรรม

#26 ตำรวจรักบุญ

ตำรวจรักบุญ
  • Members
  • 985 โพสต์

โพสต์เมื่อ 31 July 2010 - 12:51 AM

เรามาวัดมาเอาบุญ
เราไม่ได้มาวัดเพื่อที่จะชอบหรือไม่ชอบใครหรืออะไร
(เว้นพวกมาจีบกันในวัด)
เรามาวัดเพื่อที่เราจะได้ชอบในสิ่งเราไม่ชอบ
และไม่ชอบในสิ่งที่เราชอบ



#27 Nee-Sansanee 2

Nee-Sansanee 2
  • Members
  • 893 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 31 July 2010 - 11:42 AM



รักวัดจริง ๆ ไม่ทิ้งกันหรอก แต่ถ้ารักหลอก ๆ ตามบาย..บาย.


(จำมา วาทะใครไม่รู้ ดูคมดี)


#28 jeedjazz

jeedjazz
  • Members
  • 8 โพสต์

โพสต์เมื่อ 31 July 2010 - 02:18 PM

ขอขอบคุณทุกท่าน สำหรับทุกๆ คำแนะนำนะคะ
ไม่คิดว่าจะได้รับความสนใจในการที่มีคนเข้ามาอ่านและตอบกระทู้นี้มากขนาดนี้

....ขอเวลาอีก 3 เดือนค่ะ ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรลงไป
ช่วงนี้จะนั่งสมาธิและแผ่เมตตาให้ คนๆนั้น ทุกๆวัน

ข่าวอะไรก็ไม่ค่อยได้ดูล่ะ...จะได้ไม่ต้องเห็นหน้า คนๆนั้น ซึ่งช่วงนี้ก็เงียบสงบไป
นั่งก็จะไปนั่งแถวหลังๆ จะได้ไม่ต้องไปเจอญาติของ คนๆนั้น นั่งที่ด้านหน้า

อย่างไรแล้ว....จะกลับมา update อีกครั้งหลังวันออกพรรษา ขอบคุณอีกครั้งจริงๆ ค่ะ smile.gif

Jeedjazz
(จขกท.)