เด็กๆก็มีปัญหานะครับ
#1
โพสต์เมื่อ 02 August 2010 - 07:20 PM
น้องๆอาสาสมัครที่ถือป้าย กรุณาปิดมือถือ ถ้าเหลือบไปเห็นเด็กซนๆ ขอให้บอกผุ้ปกครองเขาด้วยนะครับ กรุณาอย่าให้เด็กส่งเสียงดัง
ด้วยความเคารพ นรอ.สิริปโภ
#3
โพสต์เมื่อ 02 August 2010 - 07:52 PM
#4
โพสต์เมื่อ 02 August 2010 - 07:53 PM
มีครั้งหนึ่ง ไปเปิดบ้านกัลฯ พระอาจารย์กำลังจะพานั่งสมาธิ เจ้าหลานคนเดิม ทำท่าจะงอแง ถามโน่นถามนี่ไม่ยอมหยุด รบเร้าอยากกลับบ้าน
ผมสุดวิสัยเลยอธิษฐานถึงหลวงปู่ ให้ช่วยทำให้เจ้าหลานหลับด้วย จะได้ไม่รบกวนคนอื่น และจะได้ไม่เป็นบาปกับหลาน
สักพักเจ้าหลานหลับจริง ๆ ปาฏิหาริย์มีจริงครับ
#5
โพสต์เมื่อ 02 August 2010 - 09:07 PM
...หากคนของเราส่งเสียงดัง แม้จะตั้งใจหรือไม่ แน่นอนวิบากกรรมไม่เคยยกเว้น ที่ใดสามารถสร้างบุญใหญ่ได้ ที่นั้นหากทำไม่ดีก็สามารถสร้างบาปหนักได้เช่นกัน เราคงไม่อยากให้คนของเราที่เราพามาต้องติดวิบากกรรมไปด้วย ที่ร้ายกว่านั้น คือ หากมีใครสักคนกำลังเห็นดวงธรรมหรือองค์พระใสสว่าง แล้วต้องตกใจองค์พระ ดวงแก้วหายไปเพราะเสียงดังที่เกิดโดยไม่ตั้งใจ ใครเล่าจะเอาคืนกลับมาให้เขาได้? ชาตินี้เขาอาจไม่ได้เห็นอีกเลยก็ได้ แบบนี้แหละที่ครูไม่ใหญ่วิตกและห่วงมากที่สุด เพราะ แม้เกิดในชาตินี้หรือชาติหน้าวิบากกรรมก็จะตามบุคคลที่ส่งเสียงทำให้ดวงแก้วของคนอื่นหายไป อีกหลายภพชาติ เขาจะไม่ได้เข้าถึงธรรมอีกยาวนานเลย เพราะก็จะถูกขัดจังหวะเช่นกัน ทำอย่างไร ก็ได้อย่างนั้นนั่นเอง
...หากลองหาทางออกที่ดีที่สุด ก็คือต้องดูแลให้ได้ หากรู้ว่าสุดความสามารถแล้วก็ให้ระงับเสียง หรือย้ายเสียงนั้นไปไว้จุดอื่นให้เร็วที่สุด เพราะบางทีผลบุญที่ได้จากการมาร่วมพิธีกรรม อาจเทียบไม่ได้กับผลบาปที่ทำให้คนไม่บรรลุธรรมได้นะครับ เรายังต้องเดินทางด้วยกัน ไปด้วยกันอีกนาน หลายภพชาติ เราต้องช่วยกันนะครับ โปรดเข้าใจเจตนา และหัวใจปรารถนาดีของอาสาสมัครที่รีบเข้าไปเตือนหรือช่วยระงับเสียงด้วยเถิดครับ (จากใจอาสาสมัครรักบุญ และรักษาบรรยากาศ)
#6
โพสต์เมื่อ 02 August 2010 - 09:41 PM
มีหลานเหมือนกัน เมื่อตอนที่เขายังเด็ก จะใช้วิธีนั่งท้ายสภาใกล้ทางลงบรรไดเพื่อพาไปจุดฝากเด็กได้ง่ายเมื่อเริ่มงอแง เมื่อถึงเวลาปฏิบัติธรรมถ้าเด็กยังไม่หลับก็ให้ย้ายที่นั่งไปบริเวณต้นสน วิหารหลวงปู่เลยค่ะ เด็กๆจะได้ไม่มีวิบากกรรมติดตัว หาตัวแทนคนหนึ่งพาเด็กไป คนที่เหลือก็จะได้ปฏิบัติธรรมเต็มที่ที่สภา ถ้าพาไปบริเวณวิหารหลวงปู่ คนพาไปก็จะได้ทราบด้วยว่าตอนนี้ที่สภากำลังทำอะไร
ไม่ทราบว่าท่านอื่นใช้วิธีไหนกัน
#7
โพสต์เมื่อ 03 August 2010 - 12:18 AM
ปล. พาเข้าวัดมาตั้งแต่อยู่ในท้อง จน 4 ขวบ
ยังไงก็ฝากฝ่ายรักษาบรรยากาศอธิบายให้ผู้ปกครองเข้าใจด้วยนะครับ หรือไม่จะมีที่นั่งท้ายสภา หรือ ด้านข้างสภา
เพราะถึงจะดัง เสียงก็ยังไปไม่ถึงข้างในพิธี (ยกเว้นคนเยอะจริงๆ)
#8
โพสต์เมื่อ 03 August 2010 - 08:24 AM
ผมมองว่า การที่ผมต้องมาได้ยินเสียงเด็กแล้วรู้สึกรำคาญใจนั้น อาจจะเป็นผลจากการกระทำให้คนอื่นรำคาญใจในอดีตของผมก็ได้นะครับ เพราะตามกฏแห่งกรรมแล้ว เราจะต้องรับผมของการกระทำเราเสมอ เพราะฉะนั้น เวลาได้ยินเสียงเด็กทำให้รำคาญใจใดๆเวลานั่งสมาธิ ผมก็จะทำใจยอมรับเฉยๆซะ เพราะยังไงเด็กก็คือเด็ก ทำอะไรได้ไม่มากนักในการใช้เหตุและผล ยอมรับและวางใจเฉยๆซะดีกว่า อย่างน้อยถ้าเราหงุดหงิดใจก็จะไปเป็นการเพิ่มวิบากกรรมให้กับเด็กน้อยซึ่งยังไม่รับรู้อะไรมากนัก
แต่ถ้าเป็นเสียงพูดคุย ผมจะใช้วิธีลุกไปยกมือไหว้แล้วทำสัญญาณให้เงียบแทน ส่วนที่ว่าเขาจะหยุดหรือไม่หยุด ก็เป็นเรื่องของวิบากกรรมเรามาทดสอบใจเรา ทนได้ผมก็ทน ทนไม่ได้ก็ลุกหนีไปดีกว่า เพราะพวกนี้รู้ทั้งรู้ก็ยังทำ เหตุผลก็ใช้ด้วยไม่ได้เหมือนกัน ต้องปล่อยไปตามยถากรรมแล้วครับ
อีกเหตุหนึ่งที่ผมมอง คือ ท่านที่มาวัด ทำตัวเหมือนคนมาวัดไงครับ รอรับแต่ทุกอย่างที่วัดควรจะจัดให้ ทำให้เกิดความไม่พอดีขึ้น ถ้าทุกท่านทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าของวัด แล้วมองทุกคนรอบตัวเหมือนแขกผู้มาเยือน แค่นี้เหตุการณ์ไม่พอดีต่างๆก็คงไม่เกิดขึ้น เพราะยังไงก็แล้วแต่ถ้าเรารู้สึกเป็นเจ้าของวัด การกระทำทุกอย่างจะต้องให้ผู้มาเยือนประทับใจเป็นหลัก อะไรที่จะสร้างความหงุดหงิดรำคาญใจให้แก่ผู้มาเยือนเราก็จะพยายามเลียง จัดการให้หมดไป
พ่อแม่ก็จะเข้าใจว่า ลูกเราไปทำความรำคาญให้ผู้มาเยี่ยมเยียน ต้องจัดการอย่างไรดี ไม่ใช่ถือว่า ฉันเป็นคนมาวัดหน้าที่ฉันคือนั่งหลับตาเท่านั้น เรื่องอื่นๆเดี๋ยวรอให้เจ้าหน้าที่วัดมาจัดการ
ที่กล่าวมานี้เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวเท่านั้น อาจจะดูเหมือนเป็นการตำหนิ แต่ผมไม่ได้คิดจะตำหนิผู้ใดแม้แต่นิดเดียว ถ้าผู้ใดเกิดไม่พอใจก็กราบขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ
#9
โพสต์เมื่อ 03 August 2010 - 06:18 PM
ฝ่ายที่ 1: ตอนยังไม่ได้แต่งงาน และแต่งงานแล้วแต่ยังไม่มีลูก จะมีความคิดเหมือนคุณสิริปโภ ทุกประการเลยค่ะ
และก็จะยิ่งเครียดมากๆๆๆๆ หากต้องนั่งใกล้ๆ กับพี่ๆน้องๆ วงบุญที่มีเด็กมาด้วย
ฝ่ายที่ 2: พอตัวเองมีลูกค่ะ ใจก็อยากให้ลูกได้บุญ อยากปลูกฝังสิ่งดีดีให้ลูก อีกใจก็คิดว่าคงควบคุมทุกอาการของลูกไม่ได้ค่ะ
ด้วยความเป็นแม่จึงต้องเสียสละไม่ได้ร่วมพิธีบูชาข้าวพระเกือบ 3 ปีแล้วค่ะ แล้วมาหลังจากพิธีถวายภัตตาหาร
เพื่อให้ลูกได้คุ้นเคยกับวัด กับการทำบุญ และเมื่อถึงการปฏิบัติธรรมช่วงบ่ายก็ต้องพาไปท้ายๆ สภาฯ ค่ะ
ถ้าเสียงดังมากๆ ก็ต้องพาไปที่ร้านเชสเตอร์กริว และกลับเข้ามาอีกทีตอนถวายปัจจัยค่ะ
ที่เล่ามาทั้งหมดอยากขอให้ทั้ง 2 ฝ่ายเข้าใจความรู้สึกของกันและกันค่ะ
ใจเย็นๆ นะค่ะ พี่น้องวงบุญฯ ด้วยกันทั้งนั้นค่ะ กลัวมีคนน้อยใจออกจากหมู่คณะไปอีก
เคยได้ยินว่ากว่าคุณยายอาจารย์ จะตามพวกเรามาได้แต่ละคน ท่านต้องเสียบุญไปมากมายค่ะ
#10
โพสต์เมื่อ 03 August 2010 - 08:33 PM
...หากท่านใดมีความรู้สึกกับประสบการณ์ที่พบเจอกับอาสาสมัครมาแล้ว หรือมาบ้าง ขอให้อโหสิกรรม และเมตตาอภัยให้ผมและเพื่อนๆด้วยนะครับ เพราะเบื้องหลังของอาสาสมัครท่านนั้นที่ไปกระทบกระทั่งพอกลับมาที่กองก็โดนเพื่อนๆพี่ๆ และหัวหน้าตำหนิอย่างหนักเช่นกัน แปลว่าโดนสาธุชนแล้วยังมาโดนในกองอีก อันนี้ก็น่าเห็นใจนะครับ หุหุ จนมีหลายคนที่ท้อใจและไม่มาเป็นอาสาสมัครอีกเลย หรือหายไปจากการมาวัดอีกเลยก็มี ดังที่เกิดขึ้นมาแล้ว ก็..เป็นที่น่าเสียใจและสงสารเพื่อนร่วมทางนะครับ ...เอาเป็นว่าเรามาช่วยกันเริ่มใหม่และมองส่วนดีของกันและกัน และรักษาไว้ซึ่งส่วนรวมส่วนใหญ่คือหลวงพ่อด้วยกันเถิดนะครับ ยังรักและห่วงสาธุชนและเจ้าหน้าที่ตลอดจนอาสาสมัครและผู้มาเยือนทุกท่านเสมอนะ ...รักนะ จุ๊บๆ
#11
โพสต์เมื่อ 04 August 2010 - 02:04 AM
...เมื่อไรเราจะกลับไปใช้ระเบียบเดิม สำหรับบล็อกหน้าสุดคือ หญิงช้าย ชายขวา ครับ
...สำหรับบล็อกแรกบล็อกเดียวครับ...ไม่ทราบใครมาเปลี่ยนแปลงเป็นแบบทุกวันนี้ครับ
...พอเปลี่ยนไปแล้วจะเอากลับคืนมาคงจะยากจัง....(เสียดายของเดิมครับ)
...ถ้าบล็อกตัวอย่างเนียบ...การขอร้องความเป็นระเบียบบล็อกอื่นๆ ก็ไม่ยากครับ
#12
โพสต์เมื่อ 04 August 2010 - 02:37 PM
อาจเพราะว่า ผู้ชายเหลือน้อยหรือเปล่าค่ะ? ส่วนใหญ่จะเป็นผู้หญิง
ชอบแบบนี้เหมือนกันค่ะ และเอื้ออำนวยต่อคนที่ประพฤติพรหมจรรย์ดัวย ที่ รร.ฝันในฝันเมื่อก่อนก็จัดให้นั่งแบบนี้
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#13
โพสต์เมื่อ 04 August 2010 - 04:02 PM
สภาธรรมกายสากลกว้างขวาง มีพื้นที่นั่งสำหรับผู้มีบุญมากมาย เลือกนั่งโซนที่เราสะดวกและสบายใจ หากตรงไหนมีเด็กก็อาจหลีกเลี่ยงไปนั่งตรงอื่นได้ ทำใจใสๆค่ะ เข้าใจทั้งสองฝ่าย และก็อยากให้เด็กเล็กๆมีโอกาสได้มาสั่งสมบุญตั้งแต่เด็ก ...งานบุญใหญ่ คนมาก ต้องทำใจใสๆ สบายๆ ค่ะ กราบอนุโมทนาบุญกับอาสาสมัครรักษาบรรยากาศทุกท่านที่ทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยมนะคะ สาธุค่ะ...
#14
โพสต์เมื่อ 04 August 2010 - 10:15 PM
...ด้านหน้าเป็นเจ้าภาพใหญ่ ท่านเข้าใจ และยินยอม ...แต่ว่า กว่าจะทำได้ก็แทบแย่ครับ หุหุ เพราะส่วนมาก (แยกจากกันไม่ได้) อิอิ ส่วนอื่นๆ คงยากขึ้นไปอีก เพราะกว่าจะเข้าใจกันว่าหญิงชายมิควร หรืออะไรประมาณนั้นก็หมดเวลาแล้วครับ แล้วก็เหมือนเดิมคือ ขาดเธอเหมือนขาดใจ... อิอิ เลยต้องอนุโลม ปฏิโลมกัน
...สำหรับโซนหน้า ต้องเรียนทุกท่านด้วยนะครับ ของดเด็กเล็กชายหญิง อายุไม่เกิน 7 ขวบนั่งบริเวณตั้งแต่เสา I18 ถึง I15 และ J18 ถึง J15 ด้วยเหตุที่ว่าเป็นโซนที่ต้องการความสงบที่สุด สงบมากๆ เจ้าหน้าที่จะไม่ยอมอย่างเด็ดขาด เพราะอะไร? เพราะเคยมีเหตุเกิดขึ้นมาแล้วคือ เสียงเด็กร้อง หรือ มือถือ ฯลฯ แล้วระงับเหตุช้า ปรากฎว่า ครูไม่ใหญ่ถึงกับลงจากรัตนบัลลังก์เลยนะครับ ผู้ที่พลาดกระทำเหตุไม่รู้บาปเท่าไหร่เลยแหละ จากนั้นก็มีประชุมเครียด เหอๆ และมีกฎมาจนถึงปัจจุบัน ต้องขอย้ำนะครับ งดเหตุที่จะเกิดเสียงทุกชนิดในบริเวณโซนหน้าดังกล่าวนะครับ เพราะจะทำให้คณะสงฆ์ได้ยินถึงด้วย ถึงกับเสียสมาธิ และหลุดจากองค์พระกันเลยทีเดียว น่ากลัวนะครับ บาปนี้อันตรายมาก เลยจำเป็นต้องตรวจสอบกันอย่างเข้มงวดนิดนึง ถ้าท่านใดพร้อมและปิดมือถือแล้ว สำรวจร่างกายว่า ไม่ไอ ไม่จาม ไม่เกิดเหตุแห่งเสียงใดๆ และแต่งกายชุดสีขาวเป็นอย่างดีเลย ก็ขอเรียนเชิญพื้นที่ได้หน้าได้เลยจ้า แต่ถ้าเด็กท่านใดที่เล็กจริง แต่นั่งนิ่ง นั่งปึ้ก อันนี้ถ้าผู้พามารับปากจะรับผิดชอบเจ้าหน้าที่ยอมนะครับ แต่ให้โอกาสแค่ครั้งเดียว ถ้าดังแล้วระงับไม่ได้ งานนี้เห็นลงบันไดกันมาแล้ว ถ้าไม่ยอมไป รปภ.มาเยี่ยมอีกแรงเชียวนะครับ จึงขอเรียนมาเพื่อทราบนะจ๊ะ ยังรักทุกๆท่าน เหมือนเดิมนะ จุ๊บๆ
#15
โพสต์เมื่อ 06 August 2010 - 12:52 AM
ยังจำได้ตอนยังเป็นสภาหลังคาจาก ผมกับคุณแม่ก็นั่งแยกกันคนละฝั่งของสภา
พอตอนกินข้าวเดินไปหากันก็ใช้เวลาไม่มาก และเดินหากันไม่นาน
ตอนนี้ถ้านั่งแยกกัน สงสัยจะต้องหากันนาน หุหุ
อีกอย่างคือถ้าเค้ามากันเป็นครอบครัวมีทั้งลูกชายลูกสาว คุณพ่อคุณแม่
คุณตาคุณยาย ผู้สูงอายุ การนั่งแยกกันคงจะลำบากพอสมควรนะครับ
- ไมโคร (เพลง หยุดมันเอาไว้)
"แค่หลับตา... (ลบเลือนทุกสิ่ง เหลือเพียงหนึ่งเดียว) เธอจะเห็นยามเธอหลับตา... (ใช้ใจสัมผัสและมองสิ่งนั้น) เธอจะเห็นตัวฉันเป็นอย่างที่เป็น"
- อุ๊ หฤทัย (เพลง แค่หลับตา)
#16
โพสต์เมื่อ 06 August 2010 - 02:27 AM
แม้ดูเป็นเรื่องๆเล็กๆ แต่ก็แฟงไปด้วยเรื่องยิ่งใหญ๋ทั้งดีและไม่ดีตามมานะครับ
และอยากจะให้เน้นศูนย์สาขาของวัดทั่วประเทศ เน้นที่เป็นศูนย์เล็กๆ เพิ่มมากขึ้น เพราะผู้คนที่ต้องการเข้าสาขาเล็กๆใกล้บ้านนั้นมีมากมาย และเป็นการรองรับคนบางประเภท ที่ใจก็อยากมาวัด แต่ก็ไม่ชอบคนมากๆอย่างที่วัดก็มีเยอะนะครับ เราก็ต้องเอาใจศาสนิกกลุ่มนี้ด้วย
ตัวอย่างจากศาสนาคริตส์ เขาเน้นสาขาเล็กๆ แต่ทำได้ดีมากๆ จะบอกข้อมูลให้นะครับ ปีๆหนึ่ง มีคนเปลี่ยนศาสนาเป็นหลักร้อยไปเข้าศาสนาคริตส์ ด้วยผลงานจากสาขาเล็กๆแต่มีคุณภาพของเขา
ดังนั้นอย่ามองข้ามสิ่งเล็กๆที่ยิ่งใหญ๋ในเรื่องของสาขาเล็กๆด้วยนะครับ
สำหรับสาขาของเราในต่างประเทศไม่มีปัญหา ดีมากมายครับ แต่ในประเทศศูนย์เล็กๆยังต้องเพิ่มนะครับ
ชาวพุทธบางสำนักเดี๋ยวนี้ก็หันกันมาเปิดห้องสมุดธรรมะติดแอร์และมีมุมทำกิจกรรมศาสนากันตามอาคารพาณิชย์มากขึ้นแล้วนะครับ ที่ใช้บ้านใช้สำนักงานย่อมๆก็มีเช่นกันครับ
แค่เสวนาเเนวคิด นานาสาระนะครับ
สาธุครับ
ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย
#17
โพสต์เมื่อ 06 August 2010 - 04:06 AM
นี่แหละวิบากกรรมหนึ่งล่ะ เป็นเทวบุตรมารตัวจริง
จึงต้องอธิษฐานจิตให้ได้อยู่ในปฎิรูปเทศเถิดประเสริฐนักชาติภพต่อไป และชาตินี้ขอให้พ้นวิบากกรรม
อันนี้เร็วไวด้วย การรักษาบรรยากาศมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ! เคยไป่วัดใหญ่ที่ปทุมธานีประทับใจมาก
เห็นน้อง ๆ น่ารักถือป้ายช่วยกันรักษาบรรยากาศดีมากเลย ได้ผลด้วย สงบเงียบ เรียบร้อยดี