มี 17 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[ดอกบัวสวรรค์]

สงสัยอีกแล้วค่ะ
1 หากคนที่บวชเป็นภิกษุ(สมมุติสงฆ์) เจออุบาสกที่สำเร็จพระโสดาบันแล้ว แบบนี้ใครจะต้องอัญชลี นอบน้อมใครมากกว่ากัน
2 คำว่า "สังฆมณฑล" ที่พูดๆกัน หมายถึงพระภิษุสงฆ์ทั้งอริยสงฆ์และสมมุติสงฆ์ ทั่วประเทศ หรือ ทั่งโลก หรือ ทั้งสี่ทวีปในจักรวาลนี้ หรือทุกโลกธาตุที่มีพระสงฆ์ค่ะ
3 นิพพาน กับ อายตนะนิพพาน ต่างกันไหมค่ะ ถ้าแตกต่าง ต่างกันอย่างไรค่ะ
4 เจ้าชายสิทธัตถะ ที่มีปราสาท 3 ฤดู แต่ละปราสาทมีสนมเป็นหมื่นๆ ทรงอภิเษกสมรส ตั้งแต่อายุ 16ปี และมีโอรสคนแรก คือ ราหุล ตอนเจ้าชายสิทธัตถะอายุ 29ปี สงสัยว่า เจ้าชายสิทธัตถะ มีลักษณะกายมหาบุรุษ เหตุใดจึงมีทายาทเพียงคนเดียว ทั้งๆที่อายุตั้ง 29ปีแล้ว
5 การจุดเทียนใจไฟนิรันดร์อนันตชัย มีทุกวันอาทิตย์ตลอดพรรษาหรอค่ะ




ขอบคุณล่วงหน้าด้วยน่ะค่ะ

[Nee-Sansanee 2]

ข้อ ๓

คำตอบ:

นิพพาน เป็นกริยา (verb) หมายถึงบรรลุธรรมแล้วทั้ง ๑๘ กาย หมดกิเลสสิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ ธาตุธรรมบริสุทธิ์ล้วน ๆ

เรียกว่าวิราคธาตุวิราคธรรม มีได้ทั้งที่ยังเป็น(ครอง)กายขันธ์ห้าอยู่หรืออยู่ในกายมนุษย์หยาบ(ยังมีชีวิตอยู่) และในกายธรรมเป็นธรรมขันธ์

ที่ละสังขารขันธ์ห้าแล้ว(ตายแล้ว)


อายตนะนิพพาน เป็น นาม (Noun ) เป็นที่อยู่ของผู้ที่สำเร็จเป็นพระอรหัตต์ หรือบรรลุธรรมเข้าถึงนิพพานแล้ว เสด็จดับขันธ์ห้าแล้วละกาย

สังขารมนุษย์ (ตาย) ก็จะมีที่ไปอยู่ร่วมกันเป็นธรรมขันธ์ทั้งหมด มีชีวิต ของผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบานเป็นนิรันดร์ ไม่หวลกลับมาเกิดอีกแล้ว

[Nee-Sansanee 2]

ข้อที่ ๑

ยังจำได้ไหมถึงใครคนหนึ่ง ?

ยอดมหาอุบาสิกาวิสาขาได้บรรลุธรรมสำเร็จเป็นพระโสดาบันตั้งแต่อายุ ๗ ขวบแล้ว

ก็ไม่ปรากฎ(เท่าที่ทราบ)ว่าท่านยกเว้นการแสดงความเคารพต่อพระภิกษุบวชใหม่หรือพระบางรูป

ที่ยังฝึกฝนตัวอยู่ยังไม่บรรลุธรรมเท่าท่านค่ะ

ฉะนั้น innerpeace เข้าใจว่าอุบาสกต้องนมัสการ(กราบ) พระค่ะในกรนีย์นี้ หากไม่ถูกต้องขอโปรดท่านผู้รู้จริงแก้ไข

ให้ด้วยค่ะ กาบขอบพระคุณไว้ ณที่นี้ด้วยค่ะ

[รักธรรมะ มากมาย]

รอ อ่านค่ะ
รบกวนผู้รู้ นะค่ะ

[หัดฝัน]

1. อุบาสก แม้บรรลุธรรมอย่าว่าแต่บรรลุธรรมเป็นพระโสดาบันเลยครับ แม้ว่าจะบรรลุธรรมเป็นพระอนาคามีแล้วก็ตาม ก็ต้องกราบไหว้ สามเณรแม้เพิ่งบวชเพียงวันนั้นก็ตามครับ

2. เฉพาะพระสงฆ์ในศาสนาของพระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธจ้าครับ สำหรับพระสงฆ์ในโลกธาตุอื่นๆ ก็จะจัดเป็นสังฆมณฑลของพระพุทธเจ้าองค์อื่นๆ นั้นครับ

3. นิพพาน ตอบตามคุณ Innerpeace

4. เพราะเจ้าชายสิทฺธัตถะ ก็เหมือนพระเวสสันดร แม้มีนางสนมมากมาย แต่มีภรรยา คือ พระนางยโสธราเพียงคนเดียวครับ สนมที่เหลือ ทำหน้าที่เป็นเพียงคนรับใช้น่ะครับ และท่านบำเพ็ญบารมีมาใกล้จะเต็มเปี่ยมแก่รอบ จึงไม่มักมากในกามครับ

5. ข้อนี้ลองถามเจ้าหน้าที่วัดดูนะครับ

[ตำรวจรักบุญ]

คฤหัสถ์อนาคามีลงมาต้องไหว้พระ
บรรลุอรหันต์แล้วไม่ต้อง เพราะจะกลายเป็นพระอัตโนมัติ
เว้นบางท่านหย่อนทานบารมีต้องไปหาจีวรเอง

[ทัพพีในหม้อ]

บรรลุอรหันต์แล้วไม่ต้อง เพราะจะกลายเป็นพระอัตโนมัติ
เว้นบางท่านหย่อนทานบารมีต้องไปหาจีวรเอง

ขออนุญาติเสริมนิดนึงนะครับ ตามที่เข้าใจนะครับ ว่า สภาวะการเป็นคฤหัสถ์ไม่สามารถรองรับสภาวะการเข้าถึงอรหันตธรรมที่มีความละเอียดสูงสุด ความสว่างสูงสุด ความบริสุทธิ์สูงสุดได้ครับ คือ ไม่สามารถคงความเป็นมนุษย์ธรรมดาไว้ได้ ต้องเปลี่ยนเพศเป็นบรรพชิตเท่านั้น ไม่อย่างนั้นต้องนิพพานครับ

ส่วนเรื่องจีวร คือว่า ถึงขนาดได้อรหันตมรรค อรหันตผลขนาดนี้แล้ว ทานบารมีก็คงไม่ใช่น้อยๆหล่ะครับ คงไม่ถึงขนาดต้องหาเองกระมังครับ

4. เพราะเจ้าชายสิทฺธัตถะ ก็เหมือนพระเวสสันดร แม้มีนางสนมมากมาย แต่มีภรรยา คือ พระนางยโสธราเพียงคนเดียวครับ สนมที่เหลือ ทำหน้าที่เป็นเพียงคนรับใช้น่ะครับ และท่านบำเพ็ญบารมีมาใกล้จะเต็มเปี่ยมแก่รอบ จึงไม่มักมากในกามครับ

ขอเสียมารยาทเสริมอีกนิดนะครับ อย่าว่ากันนะครับ ผมมองแบบนี้นะครับ คือว่า การที่เราจะได้ไปเกิดกับใครนั้น บุญของเราจะต้องพอๆกับของพ่อและแม่ กำลังบุญจะดึงดูดให้ไปเกิดมาเป็นพ่อ แม่ ลูกกัน

ทีนี้ เจ้าชายสิทธัตถะในขณะนั้นกำลังบุญก็ขนาด ว่าที่พระเจ้าจักรพรรดิเห็นๆแล้วนะครับ เพราะฉะนั้นใครก็ตามที่จะมาเกิดก็ต้องกำลังบุญใกล้กัน เรารู้กันอยู่แล้วว่าการเกิดเป็นมนุษย์เป็นเรื่องยากสุดๆ แถมยังกำลังบุญต้องขนาดหย่อนจากพระเจ้าจักรพรรดิไม่เท่าไหร่ ต้องมีเชื้อพุทธภูมิหวังอรหันตผลอีก ต้องมีอธิษฐานบารมีอยากเป็นพุทธทายาทมาอย่างเต็มเปี่ยม ตัวเลือกจะเหลือได้สักกี่ท่านกันที่จะมาเกิดได้ เพราะงั้นไม่น่าแปลกใจหรอกครับที่จะมีราชบุตรเพียงพระองค์เดียว

ปล.เอามาเสริม ในสมัยพระศรีอริยเมตไตรยสัมมาสัมพุทธเจ้าจักทรงมีพระโอรสกับพระอัครมเหสีเพียง ๑ พระองค์ พระนามว่า พรหมวัฒนกุมาร ทั้งๆที่ มีบาทบริจาริกาถึง ๑๐๐,๐๐๐ นางก็ตาม

[ดินสอแห่งธรรม]

...ตราบใดมีผู้ที่ได้ครองผ้าชุดสุดท้าย ก็สมคำพูดนั้น คือ เป็นชุดสุดท้ายจริงๆ อยู่เหนือทุกชุด และเป็นชุดแห่งการหลุดพ้น ผ้าผืนนี้ได้ชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัย จะหาเพศใด เชื้อวงศ์ใด ศักดิ์ใด วิเศษใด ก็หาเท่าเทียมไม่ และผ้าผืนนี้ หากผู้ครองผ้าไม่รู้วิธีปฏิบัติก็ส่งผู้ครองผ้าไปอเวจีอย่างไม่ต้องอุทธรณ์มานักต่อนักแล้วจ้า

[มองอย่างแมว]

สภาวะการเป็นคฤหัสถ์ไม่สามารถรองรับสภาวะการเข้าถึงอรหันตธรรมที่มีความ ละเอียดสูงสุด ความสว่างสูงสุด ความบริสุทธิ์สูงสุดได้ครับ คือ ไม่สามารถคงความเป็นมนุษย์ธรรมดาไว้ได้ ต้องเปลี่ยนเพศเป็นบรรพชิตเท่านั้น ไม่อย่างนั้นต้องนิพพานครับ

มีเวลา 7 วันครับ ถ้าไม่ได้บวชถึงเข้านิพพาน

ส่วนเรื่องจีวร คือว่า ถึงขนาดได้อรหันตมรรค อรหันตผลขนาดนี้แล้ว ทานบารมีก็คงไม่ใช่น้อยๆหล่ะครับ คงไม่ถึงขนาดต้องหาเองกระมังครับ

อันนี้ไม่จำเป็นครับ พระอรหันต์ที่สร้างทานบารมีมาน้อยก็มีครับ
ตัวอย่างคือ มีพระอรหันต์รูปหนึ่ง(จำชื่อบ่ได้ พี่หัดฝันช่วยหน่อยครับ)ที่ถูกวัวขวิดตายในระหว่างหาผ้าจีวรเพื่อจะมาบวชครับ ก็เลยเข้านิพพานกระทันหัน

คนสมัยนี้บางคนชอบนั่งสมาธิ แต่พอชวนทำบุญก็ไม่ค่อยยอมทำ แบบนี้ก็มีครับ
อย่างนี้บรรลุธรรมได้ แต่ไปแบบอดๆอยากๆ ลำบากเหมือนพระอรหันต์รูปนั้นนะครับ

คุณครูไม่ใหญ่ท่านเคยถามเล่นๆว่าจะเอาแบบไหน ถ้าทำทานบารมีมาก จีวรทิพย์ลอยมารอทันที
หรือจะเอาแบบไปเดินหาผ้าเอาเอง
บรรลุธรรมเหมือนกันแต่ถ้าทำทานไม่พอก็ได้ผลไม่เหมือนกัน

[Nee-Sansanee 2]

ผ่านมาเจอพอดีจำได้ บทสอนที่ว่า "สักแต่ว่า......................."

พระพาหิยะทารุจิริยะ ได้บรรลุอรหัตตผลขณะฟังธรรมแค่บทเดียวจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

ซึ่งท่านกำลังออกบิณบาต และขอบวช แต่ท่านขาดบุญไม่เคยถวายจีวรและบาตรจึงไม่มีมาให้

อัตโนมัติ ก็บวชไม่ได้ จึงออกไปหาจีวรและบาตรขณะนั้นเองถูกแม่โคขวิดตาย ด้วยเวรกรรมที่

ผูกพันกันมาจากอดีต และแม่โคตัวเดียวกันนี้ยังได้ขวิดผู้บรรลุ อนาคมิผลตายด้วยเช่นกัน คือ

ท่านปุกกุสาติ รายละเอียดมีที่ลิงค์ต่อไปนี้

http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=5484

http://www.dmc.tv/fo...?showtopic=5496

พวกเราโชคดีบวชman man แสนรูป ได้ถวายทั้งบาตร ไตรจีวร ครบเลย (ได้โอกาสบวชเมือไรก็มีบุญรองรับค่ะ)

ขออนุโมทนาบุญกับทุกท่าน สาธุ สาธุ สาธุ ค่ะ

[ธาตุล้วนธรรมล้วน]

บารมีหลักต้องเต็มส่วนปรมัตถ์ 30 ทัศ ถึงจะบรรลุได้ครับ บกพร่องไม่ได้เลย

การณีพระพาหิยะทารุจิริยะ เป็นระดับอสีติมหาสาวกเป็นเอตทัคคะ บารมีไม่ธรรมดา เต็มส่วนกว่าพระอรหันต์ธรรมดามากมายนัก

เพียงแต่ว่า ท่านพร่องในเรื่องการถวายจีวรและบริขาร 8 ครับ บุญในส่วนนั้นอ่อนมากๆ ก็เลยไม่สามารถบวชแบบเอหิภิกขุได้ครับ

บารมีหลักอ่ะ ท่านสุดยอด แต่ท่านกลับ พร่องบุญ ในส่วนจีวร

เปรียบเสมือนพระมหาราชารวยระดับที่มีเครื่องบินโบอิ้ง 072 ส่วนตัว แต่กลับหากับตันขับเครื่องบินไม่ได้

แถมเศษกรรมในส่วนคู่เวรคู่กรรมมาส่งผลตอนนั้นอีก ระดับอสีติมหาสาวกท่านใช้ฤทธิ์หนีโคขวิดก็ได้ แต่ท่านคงพิจารณาแล้วว่าถึงเวลาแล้วก็เลยปล่อยให้มันจบๆไป

ดังนั้นสร้างบารมีก็อย่าลืมบุญในส่วนการถวายบริขาร 8 หรือเป็นเจ้าภาพบวชนะครับ

....................

ภูมิธรรม = แม้แค่ โสดาบัน ก็สูงกว่าปุถุชนมากมาย

สถานะ = เพศสมณะ สูงส่งกว่าเพศทั้งปวง เพราะเป็นธงชัยของพระอรหันต์ เป็นรูปแบบตามสภาวะของพระอรหันต์

หากบรรลุอรหันต์ ภูมิธรรมสูงสุดแล้ว แต่สถานะภายนอกยังเป็นปุถุชนอยู่ ต้องรีบปรับให้เป็นเพศสมณะภายใน 7 วัน ยกเว้นเทวดาระดับภุมมเทวาที่ซ้อนกายในที่มิดชิดได้ มิฉะนั้นต้องปรินิพพานภายใน 7วัน

สรุป โดยสถานะไหว้มิได้ แต่โดยภูมิธรรมไหว้ได้ ถ้าจะไหว้ ให้ไหว้อ้อมๆโดยมุ่งต่อภูมิธรรม ไหว้เหมือนพระให้พรโยมไงครับ

งานวันสลายร่างคุณยาย พระวัดเราก็ยังไหว้ร่างคุณยาย ไหว้ที่คุณธรรมท่าน ไหว้เสมือนพระให้พรยถาสัพพี

...................

ตามองค์ความรู้ในสายวิชชาธรรมกาย ต้องขออนุญาติเรียนให้ทราบว่าในสายวิชชาธรรมกายทั้งหลาย มีครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งวิจัยเอาไว้ชัดเจนแล้วว่า

พระนิพพาน มี 3 นัย

1.สภาวะพระนิพพาน คือ สภาวะดับกิเลศเหตุแห่งทุกข์ทั้งปวง (ดับเหตุแห่งขันธ์ 5)

2.ผู้ทรงสภาวะพระนิพพาน คือ พระธรรมกายที่ตรัสรู้และบรรลุอรหัตผลแล้ว

3.อายตนะนิพพาน คือ อายตนะที่สถิตอยู่ (อายตน=วาสฏฺฐาน) ของพระธรรมกายทีตรัสรู้และบรรลุอรหัตผลแล้ว
และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเข้าอนุปาทิเสสนิพพานแล้วโดยสมบูรณ์นั่นเอง (ขันธ์ 5 ดับ เมื่อปรินิพพาน เป็นแต่พระธรรมขันธ์ล้วน)

อายตนะ(นิพพาน)
(๑) ตรัสว่า อายตนะ(นิพพาน) นั้น มีอยู่ ดังนี้

“อตฺถิ ภิกฺขเว ตทายตนํ. ยตฺถ เนว ปฐวี น อาโป น เตโช น วาโย น อากาสานญฺจายตนํ น วิญญาณญฺจายตนํ น อากิญฺจญฺญายตนํ น เนวสญฺญานาสญฺญายตนํ นายํ โลโก น ปรโลโก น อุโภ จนฺทิมสุริยา. ตมหํ ภิกฺขเว เนว อาคตึ วทามิ น คตึ น ฐิตึ น จุตึ น อุปฺปตฺตึ. อปฺปติฏฺฐํ อปฺปวตฺตํ อนารมฺมณเมว ตํ เอเสวนฺโต ทุกฺขสฺสาติ.”

“ภิกษุทั้งหลาย อายตนะ (นิพพาน) นั้นมีอยู่. ดิน น้ำ ไฟ ลม อากาสานัญจายตนะ วิญญาณัญจายตนะ อากิญจัญญายตนะ เนวสัญญานาสัญญายตนะ โลกนี้ โลกหน้า พระจันทร์และพระอาทิตย์ทั้งสอง ย่อมไม่มี ในอายตนะนั้น.
ภิกษุทั้งหลาย เราย่อมไม่กล่าวซึ่งอายตนะนั้นว่า เป็นการมา เป็นการไป เป็นการตั้งอยู่ เป็นการจุติ เป็นการอุบัติ. อายตนะนั้นหาที่ตั้ง อาศัยมิได้ มิได้เป็นไป หาอารมณ์มิได้ นั้นแลเป็นที่สุดแห่งทุกข์.”

ขุ.อุ.๒๕/๑๕๘/๒๐๖-๒๐๗

[ทัพพีในหม้อ]

กราบขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณาเข้ามาเสริมให้นะครับ

จริงๆก็ทราบเรื่องวันยืดหยุ่นที่ต้องเปลี่ยนเป็นเพศสมณะ แต่จำจำนวนวันไม่ได้ ก็เลยละไว้ ให้ท่านอื่นมาช่วย

เรื่องของท่าน พระพาหิยะทารุจิริยะ ก็ทราบ แต่จำชื่อกับเนื้อหาโดยละเอียดไม่ได้ ก็เลยไม่กล้าอ้างถึงเดี๋ยวผิด

อนุโมทนาบุญกับทุกท่านด้วยครับ

[suppy001]

Sa Thu Krub

[มองอย่างแมว]

ซีรี่ย์ "สงสัย(จิปาถะ)" ยังคงมีมาต่อเนื่องไม่หยุดหย่อน
ตอนนี้ยาวเกือบสู้ซีรี่ย์เกาหลีได้แล้ว

อีกหน่อยคงจะรวมเล่มได้

[หัดฝัน]

เยี่ยมจริงๆ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว วันนี้ต้องขอพูดประโยคเดิมๆ อีกสักทีว่า

ในเมื่อกรุงศรีอยุธยาไม่เคยสิ้นคนดี เว็บบอร์ด DMC แห่งนี้ ก็ไม่เคยสิ้นคนดี(มีสติปัญญาสามารถ) เช่นเดียวกัน

[ดุสิตาเทวบุตร]

ได้ความรู้ มากมายคับ

[ดอกบัวสวรรค์]

ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความกระจ่างค่ะ
DMC นี่ ดีจริงๆเลย

[ดินสอแห่งธรรม]

...ข้อมูลละเอียดมาก เดี๋ยวแช่งให้เห็นองค์พระผุดซ้อนทุกวันเลย อิอิ