ขอถามเกี่ยวกับเรื่องสะกดจิต
#1
โพสต์เมื่อ 08 October 2010 - 09:07 PM
- อยากขอถามว่าคนที่มีความสามารถพิเศษนี้ทำกรรมอะไรมาจึงสามารถสะกดจิตคนอื่นได้
- แล้วผู้ที่สามารถสะกดจิตคนอื่นให้ตกอยู่ในอำนาจของตนเองได้ให้ทำตลกเหมือนคนบ้าบ้างให้ทำอะไรต่างๆบ้างให้ตนเองสนุกแบบนี้จะเป็นบาปหรือไม่
- แล้วกรรมนี้จะทำให้คนๆนี้เป็นอย่างไรในอนาคตภพชาติเบื้องหน้า
ขอบคุณครับ
#2
โพสต์เมื่อ 08 October 2010 - 11:02 PM
#3
โพสต์เมื่อ 09 October 2010 - 12:35 AM
..................
แต่ใครสามารถทำให้ผู้อื่นทำตามคำสั่งตนเองในระดับภวังค์จิตได้ โดยไม่ได้ยินยอม หรือไม่ทันตั้งตัว ไม่น่าเรียกว่าสะกดจิตแล้ว
คงเป็นอิทธิวิธีอย่างหนึ่ง หรือเป็นจิตวิทยาชั้นสูง ในการโน้มน้าวใจคน บังคับควบคุมมวลชนได้ในระดับเข้าไปคุมสติ หรือเป็นกรณึอุปาทานหมู่
................
ส่วนเรื่องรายการนั้นไม่ทราบเบื้องหลังเท่าไรครับ
................
ผมขอร้องทุกท่านช่วยสะกดคำนี้ให้ผมหน่อยครับ............ " จิต " ............อิอิ (มุกแปีก)
ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย
#4
โพสต์เมื่อ 09 October 2010 - 10:38 AM
ล้อเล่นนะครับ ไม่แป๊กหรอกครับ ผมอ่านแล้วยังขำเลย
รายการที่ว่า ผมก็เคยดูสองสามครั้งครับ บางทีก็ดูเหมือนจัดฉาก แต่ก็เอาเถอะวงการมายา อะไรก็เป็นได้ทั้งนั้น
ส่วนคำแนะนำก็ตามที่หลายๆท่านกล่าวมานั่นแหละครับ
#5
โพสต์เมื่อ 09 October 2010 - 01:57 PM
ถ้าหลอกเขา ก็โดนลวงชาติต่อไป
ตายแล้ว ลวงไปนรก
มาเกิดใหม่ ลวงไปหลอก
กรรมเบาแล้ว ลวงมานั่งสมาธิ
บุญมากแล้ว ลวงไปหยุด
หยุด ลวง ไป รู้
รู้แล้ว ลวงไป เลิก
เลิก ลวง ไปนิพพาน
ล้อเล่นนะครับ ลองฟังท่านอื่นดูดีกว่า
#6
โพสต์เมื่อ 09 October 2010 - 09:07 PM
แล้วที่ โดนบังคับ ด้วยกิเลศ ให้ประมาท ขาดสติ ล่องลอย ถือว่าเป็นการสะกดจิตหรือเปล่าค่ะ บางคนก็ยินยอม บางคนก็ไม่
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#7
โพสต์เมื่อ 10 October 2010 - 08:07 AM
ขอตอบคำถามดังนี้
เขาทำได้เพราะเคยฝึกสมาธิหรือฝึกเพ่งจิตนอกตัว(นอกศูนย์กลางกาย)มาในอดีตชาติ แต่การฝึกสมาธิแบบนี้ไม่ได้เป็นไปเพื่อมรรคผลนิพพานเลย จัดเป็นมิจฉาสมาธิด้วยซ้ำ เพราะการไปสะกดจิตคนอื่นจนทำให้เขาขาดสติ ไม่เป็นตัวของตัวเองนั้น เข้าข่ายทำให้เขาเกิดโมหะ
บาปแน่นอน เป็นความสุขบนความทุกข์ของผู้อื่น จัดเป็นโมหะอย่างหนึ่ง(แม้เจ้าตัวผู้ถูกสะกดจิตจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม) (ยกเว้นเพื่อการรักษา)
ถ้ายังไม่เลิกทำแบบนี้ กรรมนี้จะส่งผลให้มีสติเลอะเลือน อาจเป็นบ้า ตายแล้วจะตกนรก กลับมาเกิดใหม่จะมีสติปัญญาฟั่นเฟือน และต้องเข้าสู่วงจรอุบาทก์นี้อีกเพราะมีเชื้อนี้ดึงดูดไปพบเจอคนที่มีกรรมชนิดเดียวกัน
**************************************************
ขอตอบคำถาม นรอ.ณ ๐๗๒ ดังนี้
ไม่จัดเป็นการสะกดจิต แต่เป็นการสิงจิต (ที่หลวงพ่อท่านบอกไว้ว่า "อกุศลเข้าสิงจิต" ไงจ๊ะ
บุญรักษา
#8
โพสต์เมื่อ 10 October 2010 - 09:17 AM
#9
โพสต์เมื่อ 10 October 2010 - 11:07 AM
ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย
#10
โพสต์เมื่อ 10 October 2010 - 06:46 PM
#11
โพสต์เมื่อ 14 October 2010 - 03:52 AM
สะกดจิต ยังไงทำได้เป็นพักๆ เป็นเดือนเป็นปี ก็แยะมากหลาย ให้มากเท่าไหร่ ก็คงไม่โดนสะกดจิตข้ามชาติ
แต่ "สิงจิต" นี่ซิ โดนอกุศลเข้าสิงจิตมาเป็น ร้อยชาติ พันชาติ หมื่นชาติ แสนชาติ ล้านชาติ อสงไขยชาติ
ไม่อยากโดน สิงจิต ก็ต้องหมั่น สวดมนต์ ทาน ศีล สมาธิ เพื่อจะได้เอาปัญญาไปสู้
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป