เราทำถูกต้องหรือเปล่า
#1
โพสต์เมื่อ 15 October 2010 - 07:44 PM
#2
โพสต์เมื่อ 15 October 2010 - 07:59 PM
#3
โพสต์เมื่อ 15 October 2010 - 08:11 PM
#4
โพสต์เมื่อ 15 October 2010 - 08:19 PM
...ที่ผู้ชายต้องหลบ ถ้าใจผู้ชายไม่ได้คิดอะไรจริงๆ แปลว่าเขาก็ไม่อยากให้ทั้งเรา และภรรยาเขาเองใจหมอง คือ ตัดปัญหาไปซะ เพื่อให้เกิดความเชื่อใจต่อกัน (เคยทำมาเหมือนกัน อิอิ) แต่สุดท้าย ความจริงก็ค่อยๆถูกเปิดเผยเอง จะมาจากการเพิ่มระดับความไว้ใจซึ้งกันและกัน ซึ่งนั่นเป็นเรื่องของครอบครัวหรือคน 2 คนตกลงกัน ช่วงนี้ ควรอยู่ห่างๆนะจ๊ะ ถ้าหวังดี ก็ต้องไว้ใจให้เขาคุยกัน เคลียกันเอง อย่าไปยุ่งอะไรเพราะต่างคน ต่างอ่านใจใครกันไม่ได้ในตอนนี้ ..คุณก็คิดและสนใจเรื่องกฐินอาคารดีกว่านะ อันนี้ต้องคิดหนักๆ แม้ 1 บาท ของคนที่ไม่รู้จักวัด ไม่เข้าใจวัด ยังเป็นสายบุญให้เขา เผื่อวันที่เขาจะได้เข้าใจ แม้จะไม่ใช่ชาตินี้ก็ตาม..
#5
โพสต์เมื่อ 15 October 2010 - 08:36 PM
#6
โพสต์เมื่อ 15 October 2010 - 08:50 PM
...เราไม่ได้ทิ้งเพื่อน แต่เราต้องให้เวลาเพื่อนได้โต หรือเกิดความคิด(แค่สมมุติ) ..หรือแก้ไขปัญหาของตัวเองได้เต็มที่ ไม่ผิดถ้าเขาจะทะเลาะกันเพราะปัญหาของเขา แต่จะผิด ถ้าเขาทะเลาะกันเพราะปัญหาคือเรา (โดนร่างแหไปด้วย) พอจะเข้าใจนะ อธิบายมากไปไม่ดี บ่ใช่เวปเอื้ออาทรเน้อ อิอิ..
...อ้อ ข้าจ้อยชื่อดินสอแห่งธรรมเน้อ บ่ไจ้ดินสอดำ -*- กำ กำ กำ
#7
โพสต์เมื่อ 15 October 2010 - 09:05 PM
ผิดเห็นๆหนะ เลิกไปเถอะ
#8
โพสต์เมื่อ 15 October 2010 - 09:12 PM
#9
โพสต์เมื่อ 15 October 2010 - 09:20 PM
#10
โพสต์เมื่อ 15 October 2010 - 09:20 PM
เลิกเถอะ ถ้าคู่กันแล้วไม่แคล้วกันไปได้ แต่เวลานี้คุณกำลังอยูในทางสามแพร่ง อตรมาก!!
จงปลดปล่อยตัวเอง และเขาด้วย ถ้าอะไรมันจะเกิดก็เกิดแต่ต้องไม่เกิดเพราะเราไปทำให้มันเกิดในทางอกุศลกรรม!
ใครจะไปรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ ยกเว้นคนที่เข้าถึงพระธรรมกายในระดับรู้วาระจิตของผู้อื่น
ความรักที่ควรเรียนรู้และเอาอย่าง อย่างยิ่งต้องศึกษาจากหนังสือ " Lovely Love" หรือ ความรักที่น่ารัก
คุณต้องเทคแคร์ตัวคุณเองก่อนที่มันจะสายเกินไป ไม่มีใครรักคุณเท่ากับคุณรักตัวคุณเอง ขอให้"ตกหลุมรักตัวเอง" ดีที่สุดจ้า
ขอให้โชคดีและทำในสิ่งที่ถูกต้องมิใช่ถูกใจ....รักยาวให้บั่น รักสั้นให้ต่อ ...รักไม่จำเป็นต้องครอบครอง แค่หวังดีต่อกันก็พอเพียง
แล้วในความเงียบนั้นคลื่นพลังแห่งความหวังดียังส่งให้กันได้ ไม่เดือดร้อนใครเลยเป็นการแผ่เมตตาปรารถนาดีต่อกันนะคะ
"รักกันจริง ไม่ทิ้งกันหรอก รักหลอก ๆ ก็ทิ้งเธอ(กัน)ไป" .....พึงจำไว้(awareness)
''''''''''''''''''
ปล.ทิ้งเป็นsense negative !
#11
โพสต์เมื่อ 15 October 2010 - 09:27 PM
#12
โพสต์เมื่อ 15 October 2010 - 09:31 PM
.............................................
เอาใจเขามาใส่ใจเราดีกว่านะครับ สมมติว่าเรามีสามี แล้วสามีไปคุยกะหญิงอื่น เราก็คงหวงใช่ไหมครับ
ถ้าภรรยาเขาหึงหวงเอา เราก็ควรรู้ว่า ไม่ใช่เรื่องของเราแล้ว อย่าไปยุ่งดีกว่า ถึงแม้จะในฐานะเพื่อนก็เถอะ
ถ้าจะคุยในฐานะเพื่อนจริงๆ ก็คุยแค่สารทุกข์สุขดิบก็พอแล้วครับ ไม่ต้องอะไรมากมาย
เราต้องรู้สถานะตัวเองครับ เรื่องแบบนี้ต้องมีคุณธรรมส่วนตนให้มากๆ ถ้าเป็นครูก็ควรรู้ฐานะว่าไม่ควรยุ่งกับศิษย์ ถ้าเป็นพระก็ยิ่งไม่ควรยุ่งกับสตรี ถ้าคนอื่นเขามีเจ้าของเป็นเรื่องเป็นราวตามหลักธรรมแล้ว ก็ไม่ควรเข้าไปยุ่ง
ควรวางตนให้เหมาะสมนะครับ จะได้ไม่เป็นวิบากกรรม
แล้วถ้าหากฝ่ายชายเขามีใจให้กับคุณขึ้นมาจริงๆ โดยที่คุณไม่ได้ไปยุ่งอะไรแล้ว ต่อมาเขาหย่าขาดจากภรรยา แล้วมาจีบคุณ มาขอแต่งงานด้วย ค่อยว่ากันอีกที แบบนี้ก็จะได้ไม่เป็นวิบากกรรม
รู้จักข่มใจเถิดครับ อย่าเอาแต่รักสนุก จะทุกข์ถนัด
ตามใจตนเองก็สบายแค่ชาตินี้ ชาติหน้าวิบากกรรมอื้อเลย
เผลอๆกรรมอาจะส่งผลชาตินี้ ให้ชีวิตรักไม่ราบรื่น แรกๆอาจจะรักกันดี ไปๆมาๆ ก็จบไม่สวย เพราะอำนาจวิบากกรรม
พูดตรงๆเลย มีมหาเศรษฐีแนวหน้าของเมืองไทย ใจบุญสุนทานเข้าขั้นอนาถปิณฑิกะ ชีวิตเขามีพร้อมสรรพ สุขสมบูรณ์บริบูรณ์ แต่ว่า.....ชีวิตรัก ทำให้ชีวิตจิตใจเขาวุ่นวาย หากเขาหยุดเรื่องเหล่านั้นได้ ผมว่า เขาจะเป็นอุบาสกที่สุดยอดกว่านี้ครับ และไม่มีวิบากกรรมติดตัวไปด้วย
.....................................
ไม่ได้สอนนะครับ แค่ช่วยคิดตามหลักธรรมะครับ อิอิ
ละธรรมดำ ยังธรรมขาวให้เจริญ
ธัมมะกาโย อะหัง อิติปิ
เราตถาคต คือธรรมกาย
#13
โพสต์เมื่อ 15 October 2010 - 10:57 PM
คุณ usr 37359
ขอชมนะคะที่ต้องการจะทำในสิ่งที่ถูกต้อง และเข้าใจว่าต้องดับที่เหตุ นั้นถูกต้องทีเดียวค่ะ
ว่าแต่ว่าทำไมยังติดต่อทางเมล์ละคะเพราะเมล์ให้คุณให้โทษได้อยู่ที่การใช้ของทั้งสองฝ่าย บางที่ได้บุญหรือตัดบุญกัน น่าจะตัดให้หมดเลยค่ะ แม้แต่จะถามถึงก็อย่าเอ่ยถึง
อีกต่อไปนี่ต้องอย่างนี้ (ยากนะแต่ต้องฝืน อดทน ฝีกฝนตัวเองให้ได้ ไม่ได้ตายเถอะ !)
ถึงจะเข้มแข็ง อดทนจริง ๆ " ขันตี ปะระมัง ตโป ตี ติกขา" ความอดทนป็นตะบะอย่างยิ่ง ฝึกฝนมันเข้าไปมาก ๆ ยิ่งมากยิ่งดี
ไม่ได้ว่าเองนะจำมาจากคำสอนของพระพุทธเจ้า แต่บางกรณีนะถ้าไม่อ่อนแอจนเกินไปหรือหนักแน่นพอ(แต่ก็ไม่ประมาทในการติดต่อกัน)
เขายังเป็นเพื่อนกันได้ภายในขอบเขตที่เหมาะสม ได้ประโยชน์ด้วยกันแต่ถ้าไม๋แน่จริงอย่าทำเพราะคนที่ทำเช่นนี้ได้ต้องมีจิตใจที่ยิ่งใหญ่จริง ๆ
และมีพรหมวิหารสี่ธรรมะอย่างดีถึงจะทำได้ ไม่ว่าเป็นใครก็ตามถ้าทำได้อย่างนี้ก็นับถือ ๆ ขอคารวะด้วยคนและต้องบอกว่า นายยอดมาก!
#14
โพสต์เมื่อ 16 October 2010 - 12:09 AM
ให้ลองถามตัวเองค่ะ ว่าเริ่มจะเกินเลยหรือยัง หรือว่าถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป จะมีการคิดแบบเกินเลยหรือไม่
ถ้าคำตอบว่า อาจจะ..ก็หมายความว่า มีโอกาสเกินเลยได้ ก็ให้ปลีกตัวออกมาอยู่ห่างๆ ตั้งแต่เนิ่นๆ ค่ะ
แม้ตอนนี้จะยังไม่ได้คิดอะไรเกินเลย แต่ภรรยาเพื่อน อาจเริ่มไม่มีความสุข เจ็บปวดใจ หรืออาจเกิดอคติหรืออาฆาต ถ้าภรรยาเพื่อนเจ็บปวดใจ ด้วยเหตุเพราะตัวเรา..ไม่แน่ใจว่าเข้าข่ายเบียดเบียนด้วยหรือเปล่า
ศึกษาเรื่ององค์แห่งศีลได้เพิ่มเติม
http://www.dmc.tv/fo...showtopic=23990
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#15
โพสต์เมื่อ 16 October 2010 - 11:35 AM
จะในฐานะอะไรก็แล้วแต่...ถ้าภรรยาเค้าคิด.. เค้าก็จะใจหมองเปล่า ๆ
อย่าไปยุ่งเลย..ค่ะ
#16
โพสต์เมื่อ 16 October 2010 - 11:52 AM
อ้อ ได้ข่าวตอนนี้เขาประกาศรับสมัครอุบาสิกาแก้ว 1 ล้านคนแล้วนะครับ ลองไปสมัครดูสิครับ
เบอร์ 02-8311000
#17
โพสต์เมื่อ 16 October 2010 - 02:16 PM
อ่านแล้วก็เดาเรื่องได้ไม่ยาก เรื่องที่เกิดขึ้นก็พอเข้าใจได้ "ความผูกพัน" บางที่มันก็ห้ามกันไม่ได้
ก็เพราะมันผูกพันไปแล้ว แต่ความผูกพันบางอย่าง การที่เรายึดติดกับธรรมมารมณ์ตรงนั้นมากๆ มันจะเป็นผลร้ายกับจิตใจเรามากกว่านะครับ
ยิ่งถ้ามีเป้าหมายจะสร้างบารมีแล้วด้วย อย่างที่หลวงพ่อบอกเลยครับ "คลายความผูกพัน" ดังเพลงนี้
ส่วนเรื่องที่ผู้ชายไม่รับโทรศัพท์ ก็เพราะกลัวถูกจับได้ ถูกต้องแล้วครับเค้าต้องการแบบนั้น แต่ที่เค้ายังติดต่อกันทาง e-mail ก็เพราะเพราะยังหวังในสิ่งที่เค้าหวัง ถ้าเราไม่ทำให้เค้ามีความหวัง เค้าก็จะไม่หวัง เพราะวิสัยผู้ชายโดยมากก็เป็นเช่นนี้แล อย่าไปสนใจปล่อยเค้าไปเถอะ เชื่อดิ
ดูจาก icon เปิดหัวและปิดท้าย ถ้ายังอยากมีอารมรณ์นี้ทั้งชีวิตก็ทำมันต่อไป
แต่ถ้าอยากมีอารมณ์แบบนี้ก็ ฟังเพลงนี้แล้วกัน (promote เพลงอีกแล้วเรา ฮิ ฮิ)
#18
โพสต์เมื่อ 17 October 2010 - 12:41 AM
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้ จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่
ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#19
โพสต์เมื่อ 17 October 2010 - 01:27 PM
สิ่งที่ต้องแสวงหา คือ พระรัตนตรัยภายใน
เป้าหมายชีวิต คือ ที่สุดแห่งธรรม
#20
โพสต์เมื่อ 17 October 2010 - 03:12 PM
#21
โพสต์เมื่อ 17 October 2010 - 08:00 PM
#22
โพสต์เมื่อ 17 October 2010 - 08:56 PM
#23
โพสต์เมื่อ 17 October 2010 - 09:48 PM
...ตอนเกิดมา ฉันก็มา อย่างโดดเดี่ยว
...ตัวคนเดียว กว่าจะรู้ ซึ่งเดียงสา
...พ่อแม่ฉัน คอยประคอง เลี้ยงชีวา
...จนใหญ่มา ได้รู้จัก ชีวิตตน
...เหตุอันใด อยู่คนเดียว จึงยากนัก
..ต้องรู้จัก รักให้เป็น เช่นใดหนา
...มีเพื่อนสอน ควรมีแฟน กันเรื่อยมา
...น้อยนักหนา สอนรักษา พรหมจรรย์
...เมื่อใกล้ชิด ความสนิท ก็ก่อเพิ่ม
...เผลอริเริ่ม อยากลอง ของสงวน
...เมื่อเผลอใจ ก็พลาดพลั้ง เหมือนโซ่ตรวน
...ให้เรรวน ทุกข์มากล้น เกินพ้นภัย
...เมื่อมีรัก ใจก็หวง ห่วงยิ่งนัก
...ใครรู้จัก ก็ตามถาม ทุกแห่งหน
...จะอยู่ไหน กลับเมื่อไหร่ ไปกี่คน
...ยังรักไหม ย้ำทุกหน ไม่สนใคร
...ใครจะเตือน เรื่องรัก ก็ไม่เชื่อ
...คิดว่าเหนือ ต้องทำได้ ด้วยใจฉัน
...จะนอกใจ นั้นไม่มี เพราะเชื่อกัน
...ความผูกพัน เหมือนเส้นด้าย ที่คลอนแคลน
...ชีวิตคน มากล้น เกินหยั่งรู้
...เขาเรียนรู้ ต่างกันไป ให้สับสน
...หาคนใหม่ เติมขาดหาย ให้ปะปน
...หาเหตุผล เพื่อแยกทาง ก็เป็นพอ
...พอคบกัน จะแยกจาก ลำบากนัก
...อันความรัก ชักภาพเก่า นำเสนอ
...หวนความหลัง ความสุขเก่า อันเลิศเลอ
...น้ำตาเอ่อ ใจสะท้าน ปานขาดใจ
...เริ่มจากเรา ใช่ไหม หากหวนคิด
...หากเราปิด สะพานใจ ไร้เป้าหมาย
...มากด้วยทุกข์ สุขนิดหน่อย ที่บานปลาย
...ไม่เลวร้าย หากเรารัก ลำพังตน
...เกิดมาพบ ก็ย่อมจบ ด้วยลาจาก
...ต้องจำพราก จากด้วยตาย ย้านถิ่นฐาน
...หากจากเป็น ก็อยู่ห่าง ร้างลานาน
...น่าสงสาร คนคอย น้อยเนื้อใจ
...รักใครหรือ จะควรรัก เท่าพ่อแม่
...ผู้ดูแล แม้ไม่รู้ ด้วยเหตุผล
...เลี้ยงลูกไว้ ลูกจะรัก ดูแลตน
..หรือจะทิ้ง ให้ขัดสน ก็ทนมา
..ท่านเลี้ยงดู ด้วยความรัก และขีวิต
...ยอมอุทิศ ให้ลูกน้อย สุขหนักหนา
...แม้จะทุกข์ เหนื่อยอ่อน เพื่อลูกยา
...ขอลูกน้อย สุขชีวา ก็เพียงพอ
#24
โพสต์เมื่อ 17 October 2010 - 10:32 PM
สรุปได้สุดยอดมากๆ เลยครับ ขอซื้อนะครับ :-)
ปล. แต่อย่าวางใจนะครับ ใจเรามีขึ้นมีลงเป็นธรรมดา อย่าปล่อยใจไปตามกระแสโดยเด็ดขาด กรุณารัดเข็มขัดนิรภัยแล้วก็อยู่ในบุญตลอดเวลา...
#25
โพสต์เมื่อ 18 October 2010 - 11:47 AM
#26
โพสต์เมื่อ 18 October 2010 - 11:21 PM