![รูปภาพ](/forum/uploads/profile/photo-thumb-32768.jpg?_r=0)
หลายคน หลายหัวใจ แต่เป้าหมายเดียว
#1
โพสต์เมื่อ 19 October 2010 - 12:16 AM
...อสงค์ไขย นานเพียงใด หาใครรู้
...ยาวเท่าใด หาใช่ดู หรือรู้ได้
...รู้แค่เพียง นานแสนนาน สะท้านใจ
...นับก็ยาก เกินหยั่งให้ ได้ชัดเจน
...แต่ที่รู้ ก็แค่ว่า มีคนกล้า
...เหล่าเทวา ต้องลุ้นตาม งามนักหนา
...เทพบุตร เทพธิดา ต่างลงมา
...ร่วมแบ่งสรรค์ ปันบุญญา มาพร้อมเพรียง
...หนึ่งผู้นำ เอ่ยจะทำ ตามความฝัน
...ขนหมู่สัตว์ ไปด้วยกัน มิพลันหาย
...เหล่านักรบ ก็ขานรับ มิวางวาย
...รื้อวัฏฏะ จนสุดท้าย ไปทุกคน
....สรรพสัตว์ ล้วนวนเวียน ห้วงแห่งทุกข์
...ถึงมีสุข ก็นิดเดียว เดี๋ยวก็หาย
...ทุกข์นั้นสิ ทะยอยมา มิเว้นวาย
...กว่าจะตาย ก็แสนเศร้า เคล้าน้ำตา
...กิเลสมาร มาบันดาล ให้เกิดทุกข์
...เสนามาร ยกพลบุก รุกเหลือแสน
...ขันธะมาร ตามผลาญกาย ทั่วดินแดน
...มัจจุมาร ประหารแม้น ดวงชีวา
...กว่าจะเกิด ก็แสนยาก สุดหยั่งได้
...เกิดแล้วตาย ก็มากมาย หลายผู้กล้า
...กว่าจะรู้ เรื่องความจริง ที่เกิดมา
...มันก็ช้า สิ้นกายา และเรี่ยวแรง
....ถึงวันนี้ ผู้นำดี บารมียิ่ง
....ทิ้งทุกสิ่ง ขอเอาด้วย อำนวยผล
....ขอติดตาม ประสานงาน อย่างแยบยล
....ก็หวังผล เพื่อสำเร็จ สมเจตนา
....หมู่คณะ จุติมา เหตุใดเล่า
....เพื่อแค่เรา เข้านิพพาน เท่านั้นหรือ
....สร้างบุญไว้ หากน้อยนิด คิดหารือ
....จะไหวหรือ เพราะหนทาง ยังอีกไกล
...จะตามไป กับรถด่วน ขบวนนี้
...โชคก็มี แต่ความดี ต้องให้ถึง
...มัวรอช้า มัวชั่งใจ ใคร่ถูกดึง
...จะไปถึง ติดตามไป หาได้มี
...ต้องเข้มข้น ทับทวี ให้ยิ่งขึ้น
...พร้อมจะยืน ให้โลกเห็น เป็นจริงได้
...ก็ต้องแลก ให้สุดสุด หยุดหนึ่งใจ
...ทำหน้าที่ อันยิ่งใหญ่ ให้โลกดู
....เกิดก็เหนื่อย แต่ก็ปลื้ม ในหน้าที่
....เกิดทั้งที รู้ดีชั่ว ดีแล้วหนา
...ดีกว่าเกิด โดยไร้สิ่ง ที่พึ่งพา
...เขานั้นหนา เกิดมาฟรี ไม่ดีเลย
....บนโลกนี้ มีดีน้อย กว่าคนชั่ว
...พระสัมมาฯ เอ่ยไว้ชัวร์ ไม่มั่วนิ่ม
...เมื่อเลือกดี ก็ให้งาม ดุจทับทิม
...ยิ้มแก้มปริ่ม บุญหลายชาติ ที่สร้างมา
....แม่ทัพพร้อม นักรบพร้อม หรือยังไม่
...หากช้าไป ใครผิดหวัง คงรู้หนา
...งานแม่ทัพ ยังไม่เริ่ม นะแก้วตา
...หากนักรบ ผู้หาญกล้า ยังปราชัย
...งานถนัด ของแม่ทัพ คือกลั่นธาตุ
...อันองอาจ หาใดแทน เสมือนได้
...งานนักรบ ต้องให้จบ สงบใจ
...จึงกลั่นธาตุ ให้เป็นไป ตามแผนธรรม
...แสนยินดี มาวันนี้ เหล่านักรบ
...เหมือนคุ้นเคย เหมือนได้พบ ซึ่งผู้กล้า
...ผู้ซึ่งเลือก จะต่องาน ประสานมา
...ถึงเวลา ร่วมงานกัน ล้วนเปรมปรี
...นำความดี เอามารวม ร่วมรักษา
...นำวาจา มาประสาน งานสุขสรรค์
...นำเป้าหมาย มาวางแผน พร้อมหน้ากัน
...เข้าใจมั่น ตามผังเดิม ที่เคยมา
....ขอขุนพล ทหารกล้า เยี่ยงทุกท่าน
....ร่วมใจกัน พากันไป ให้ถึงฝัน
...ใครไม่ไหว ก็อุ้มไป ประคองกัน
... ยึดกันมั่น ให้ถึงที่ สุดแห่งธรรม...
#2
โพสต์เมื่อ 19 October 2010 - 03:03 AM
#3
โพสต์เมื่อ 19 October 2010 - 05:22 AM
สิ่งยื้อยุด สองข้าง ต่างมากหลาย
ประดังล้อม พร้อมพรัก มาทักทาย
ใช่จะง่าย ก็เห็น ความเป็นจริง
มารใช่หมู ดูไป คล้ายลำบาก
เป็นการยาก มากมาย ทั้งชายหญิง
ครูบาดี มีไว้ ใช้พึ่งพิง
เรื่องบางสิ่ง เราด้อย ต้องค่อยตรอง
มีเพื่อนพ้อง น้องพี่ ที่พลาดพลั้ง
อยู่ข้างหลัง มองไป แล้วใจหมอง
เลยต้องหยุด ฉุดรั้ง ทั้งประคอง
อยากให้จอง ตั๋วด่วน ขบวนเดียว
อีกแม่พ่อ ก็ยาก จะพรากพลัด
ผิดถนัด หากไม่ ได้แลเหลียว
ต้องช่วยกัน นั้นหา ทางยาเยียว
ไม่ให้เที่ยว เพ้อพก ตกอบาย
แม้มีความ จำเป็น สักเช่นนี้
แต่ก็มี สิ่งเฝ้า คือเป้าหมาย
วันวนเวียน เปลี่ยนปรับ ไม่กลับกลาย
คนกลางกาย รีบเร่ง ให้เพ่งเพียร
คนที่เขา เฝ้าดู อยู่รอบนอก
ใช่กระจอก หมดท่า มาขีดเขียน
พายุโหม ลมพัด สะบัดเวียน
จักถือเทียน บากหน้า ฝ่าเข้าไป
พญามาร นั้นแกร่ง ด้วยแรงฤทธิ์
หากดวงจิต เรามั่น ไม่หวั่นไหว
แม้โดนมา สาหัส แทบตัดใจ
ไม่เป็นไร นึกหน้า ครูอาจารย์
หนทางไกล ใช่โรย โปรยกุหลาบ
มีบุญบาป ชักใย ให้ขับขาน
ต้องสู้รบ ปรบใจ ไปอีกนาน
จะปราบมาร นั้นไซร้ ต้องใจเย็น
เริ่มจากมาร ผลาญใจ ในตัวก่อน
แม้ยังอ่อน มองมาร นั้นไม่เห็น
แต่รู้สึก ตรึกได้ ใช่ลำเค็ญ
จักซ่อนเร้น เท่าไหร่ ใคร่ติดตาม
แม้เรามี นิยาม ในความต่าง
แต่ใช่ห่าง นักรบ นอกภพสาม
อยู่ดำรง คงไว้ ในทุกยาม
สรรพนาม นั้นหรือ คือธรรมกาย
อยู่ระหว่าง กลางใจ ข้างในจิต
เห็นจำคิด รู้หยุด คือจุดหมาย
ปฐมมรรค จักเกิด กำเนิดกาย
หกดวงไซร้ เห็นหนึ่ง จึงถูกทาง
กฎแห่งกรรม ค้ำชู ทุกหมู่สัตว์
คอยบีบรัด ดลใจ ให้บาดหมาง
หากเท่าทัน นั้นแต่ แค่ปล่อยวาง
ตรึกตรงกลาง ก็รอด และปลอดภัย
อีกนานเนิ่น เกินไป หากใคร่นับ
ชั่วกัลป์กัป ขึ้นลง อสงไขย
จะถ้วนทั่ว ตัวตน ต้องทนไป
เข้าข้างใน ไกลลับ ไม่กลับคืน..
ไฟล์แนบ
#4
โพสต์เมื่อ 19 October 2010 - 07:30 AM
#5
โพสต์เมื่อ 19 October 2010 - 12:57 PM
...บนเส้นทาง ที่ยาวไกล ไร้เส้นภพ
...หากบรรจบ เพื่อนำชัย ให้ถึงฝัน
...เพื่อนที่ผลัด ต่างก็เรียก มารวมกัน
...งามเฉิดฉันท์ หมู่คณะ ชนะมาร
...บ้างก็แยก เกิดเป็นชาย ในวัฏฏะ
...หมดราคะ เปลี่ยนเพศไป ใจปรารถนา
...เป็นหนึ่งกับ รัตนตรัย ให้พึ่งพา
...เป็นสมณะ ผู้แกล้วกล้า มุ่งฝึกตน
...บ้างก็แยก เป็นสตรี ความดีล้น
...หมั่นฝึกตน รักษาศีล ปิ่นบุพผา
...หอมกลิ่นธรรม นำพระศาสน์ เปิดดวงตา
...ขยายธรรม นำชีวา ปลอดพ้นภัย
...หญิงหรือชาย ไม่ต่างกัน ในชาตินี้
...เพราะความดี ต่างเสริมกัน ค้ำศาสนา
...หญิงสอนหญิง ให้เลิศยิ่ง อุบาสิกา
...ชายสอนชาย ให้นำพา กาสาฯครอง
...เมื่อเวลา อันติดมา ช่างเหลือน้อย
...ดูจะด้อย ด้วยวิบาก นำสรรหา
...กว่าจะรู้ ว่าศัตรู ผู้ชักพา
...เป็นมารร้าย ผู้เก่งกล้า หาใช่คน
...ก็เกือบสิ้น อายุขัย กันไปแล้ว
...ต้องรีบแจว ให้เรือธรรม นำศาสนา
...ฟื้นพระศาสน์ ฟื้นศีลธรรม ค้ำโลกา
...สถิตไว้ ให้ทั่วหล้า อย่าช้านาน
...นักรบธรรม ก็มุ่งทำ ตามหน้าที่
...แม้นจะมี เรื่องมากมาย มาคลายฝัน
...จงรีบกลับ สลัดทิ้ง ทุกสิ่งอัน
...เดินหน้ามั่น ทำให้จบ พบความจริง
...ฤาจะอยู่ แต่ข้างหลัง หวังคอยพึ่ง
...รอให้ถึง หวังคนช่วย พาสู่ฝัน
...เกิดทั้งที คิดแค่นี้ ก็จบกัน
...จะมุ่งมั่น รอใครช่วย ก็ป่วยการ
...จะปราบมาร มันต้องแข็ง ร่วมแรงสู้
...จะเฝ้าดู คอยใครทำ ย้ำความหมาย
...หรือจะทำ เอาด้วยคน ไม่สนตาย
...จุดสุดท้าย ชีพวางวาย ตายอยู่ดี
...จะเป็นหนึ่ง ที่ไปเสี่ยง เยี่ยงทหาร
...หรือเป็นหนึ่ง ที่ยืนนาน ไม่สานฝัน
...หรือเป็นหนึ่ง คนพาล ที่ผลาญกัน
...หากเป็นหนึ่ง ที่ร่วมกัน ฝันเป็นจริง
...กลองลั่นแล้ว เมื่อศูนย์กลาง เผยพระศาสน์
...ตั้งตระหงาด เสร็จสมบูรณ์ ศูนย์ศึกษา
...เมื่อกลองรบ ยังพร้อมรบ ครบอาชา
...นักรบกล้า จะไม่หวาด หรือหวั่นเกรง
...จะรวมหนึ่ง ผู้หมายซึ่ง ถึงที่สุด
...จะไม่หยุด จนผลงาน สานศาสนา
...ให้แลเห็น เป็นที่พึ่ง ทั้งโลกา
...นักรบกล้า นำพาทัพ กลับวงบุญฯ
#6
โพสต์เมื่อ 19 October 2010 - 04:51 PM
เสียดาย หลวงพี่แต่งกลอนไม่ค่อยเป็น ไม่งั้นจะมาลงไว้บ้าง กลัวสัมผัสนอกสัมผัสในอุตลุด...
![biggrin.gif](style_emoticons/default/biggrin.gif)
#7
โพสต์เมื่อ 20 October 2010 - 12:07 AM
อนุโมทนาบุญกับท่านทั้งสองด้วยค่ะ
ความพร้อมเกิดขึ้น เมื่อเริ่มต้นลงมือทำ (โอวาทหลวงพ่อ 27/4/51)
ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจบุรุษให้หลงใหลได้มากเท่ากับสตรี ไม่มีสิ่งใดที่จะรัดตรึงใจสตรีให้หลงใหลได้มากเท่ากับบุรุษ
แท้จริงแล้วความรักก็เปรียบดั่งเครื่องพันธนาการ ที่มัดตรึงเหนียวแน่น ให้ลุ่มหลงอยู่ ย่อมจะต้องเวียนว่ายตายเกิดและจมอยู่ในกองทุกข์ร่ำไป
#8
โพสต์เมื่อ 20 October 2010 - 11:55 AM
kissy ได้อ่าน กระทู้ นั้นแล้ว ไงก็เอาบุญทุกบุญมาฝากนะคะ
ส่วนเรื่องที่หายไปไหนมา..kissy ก็รับุญ อยู่ในวัดแหละคะ
แต่ตอนนี้กลับมาอยู่บ้านแล้ว เพราะว่า พ่อป่วย ต้องกลับมาดูแลคะ