มี 10 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

[cheterkk]

072

[หัดฝัน]

เนื่องจากความรู้ในทางพระพุทธศาสนาไม่ได้มีการจดลิขสิทธิ์ไว้ ทั้งนี้เป็นเพราะพระสัมมาสัมพุทธเจ้าต้องการเผยแผ่ธรรมะ เพื่อยังประโยชน์ให้แก่ชาวโลก ซึ่งพระสงฆ์ในยุคหลังๆ ท่านก็ดำเนินรอยตาม ดังนั้น หากใครนำความรู้ส่วนใดไป แล้วทำให้เกิดประโยชน์ขึ้น ผมว่า ย่อมเป็นผลดี ครับ

เพียงแต่ ต้องอย่านำความรู้ไปผสมปนเปกับความรู้ของฝ่ายตน แล้วบอกว่านั่นคือ คำสอนในพระพุทธศาสนา

[cheterkk]

072

[หัดฝัน]

ความจริงแล้ว ปรัชญาหลายๆ อย่างที่นำเสนอกันอยู่ตอนนี้ หลายๆ อย่างเหมือนพระพุทธศาสนาเลยน่ะครับ

เช่น 7 Habit (อุปนิสัยที่ดี 7 ประการ), positive thinking (คิดบวก), rich dad poor dad (พ่อรวยสอนลูก)

 

ซึ่งเราเองก็ไม่สามารถพิสูจน์ได้ชัดเจนว่า เขาคิดขึ้นเอง(แล้วเผอิญมาพ้องกับพระพุทธศาสนา)

หรือ เขาไปนำคำสอนพระพุทธศานามาประยุกต์น่ะครับ

[ทัพพีในหม้อ]

เขาก็ทำถูกต้องแล้วนี่ครับ  ไม่ได้อ้างอิงว่ามาจากพระพุทธศาสนา  เราก็ไม่ได้เสียหายอะไร

 

พระพุทธศาสนา คือ  หลักความจริงของเหตุและผล  เพราะฉะนั้นจึงไม่แปลกที่จะไปพ้องกับเรื่องอื่นๆ ที่ค้นพบหลักความจริงเหมือนกัน

 

อย่าไปยึดติดว่าโน้น  นี่  นั่น  ต้องเป็นพุทธศาสนาเท่านั้น  มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ  ไม่อย่างนั้นทฤษฎีสัมพันธภาพของไอสไตน์ก็ต้องตกเป็นของพระพุทธศาสนาด้วยสิ  เพราะมาจากพื้นฐานที่ว่า  "ไม่มีสิ่งใดหายไปจากระบบ"  เหมือนๆ กัน  เพราะพระพุทธศาสนาก็มีกล่าวไว้เสมอว่าไม่มีอะไรที่มีอย่างแท้จริง และหายไปอย่างแท้จริง  แม้กระทั้งการกระทำ

 

อย่าระแวงคนที่นำเอาหลักธรรมแห่งพระพุทธศาสานาไปใช้  ให้ระแวงพวกที่จะครอบงำพระพุทธศาสนาให้เปลี่ยนแปลงไปจะดีกว่าครับ

[cheterkk]

072

[WISH]

พุทธศาสตร์ คือ วิชาแห่งทุกชีวิต ไม่ได้จำกัดขอบเขตว่าเฉพาะพุทธศาสนิกชน ผู้ใดปฏิบัติดีปฏิบัติชอบย่อมได้แก่นสาร

[ทัพพีในหม้อ]

แต่คนที่เอาหลักพุทธไปสอน เขาอยู่ต่างศาสนากับเรานะครับ(นับถือพระเจ้า) จะไม่ผิดหรือครับ

ขอถามกลับนะครับ  "...ผิดอะไร  อย่างไร..."

[cheterkk]

072

[ตะวันกลางกาย]

ถึงแม้เป็นคนศาสนาอื่น แต่เขาก็ยังเป็น "คน" อยู่นะครับ 

ยังต้องอยู่ภายใต้กฏแห่งกรรมเหมือนกัน กฏเดียวกัน ไม่มีเลือก หรือแบ่งฝ่ายใดๆทั้งสิ้น

 

ธรรมะ ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็ยังคงเป็น "ธรรมะ" อยู่เหมือนเดิม ไม่มีเปลี่ยนแปลง

ถ้าเขาเอาไปใช้แบบ  ไม่มีการบิดเบือนเปลี่ยนแปลง ผสมโรงกับความคิดเห็นส่วนตัว

ก็ถือว่าโอเคแล้วหล่ะครับ

 

เพราะธรรมะ เป็นหลักความเป็นจริง ใครนำไปใช้ ไปปฏิบัติ ท้ายสุดแล้วย่อมได้ผลเหมือนกันหมดครับ

ถึงเขาจะมาอ้าง ว่าเป็นหลักธรรมของศาสนาเขา แต่เราก็รู้ๆกันอยู่ ดูจากอายุศาสนาก็รู้แล้วครับ

 

แต่ต้องย้ำอีกทีว่า ต้องเอาไปใช้แบบ ไม่ผสมกับความคิดส่วนตัว นะครับ 

[ทัพพีในหม้อ]

ไม่มีอะไรหรอกครับ  ท่านเจ้าของกระทู้ท่านติดที่ "ของพระพุทธศาสนา"  มากกว่า  "ของความจริงขีวิต"  เท่านั้นเองครับ

 

การที่เขายกเอา "ความเข้าใจในหลักธรรม"  ไปใช้  เราถือเป็น  "ของความจริงของชีวิต"  ครับ  เพราะนี่ คือ สิ่งสากล  ใครที่มีปัญญาก็สามารถเข้าถึงหลักธรรมแบบนี้ได้ทั้งนั้น  ไม่ว่าชาติ  ศาสนา  หรือภาษาใดๆ

 

แต่ถ้ายก "บทความอรรถกถาบาลี" ไปใช้  นั่นเราถึงจะถือว่า  "ของพระพุทธศาสนา" ครับ

 

ลองสังเกตุดูนะครับ  ทุกท่านที่เข้ามาตอบ  จะตอบในแนวนี้ทั้งนั้น  ถ้าเจ้าของกระทู้ยังติดใจอยู่  ก็ลองเรียบเรียงความเข้าใจแล้วถามมาใหม่ได้นะครับ