ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

"การบริภาษพระภิกษุผู้ทรงศีลเป็นกรรมอันหนัก"


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 8 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 17 February 2014 - 07:27 PM

"การบริภาษพระภิกษุผู้ทรงศีลเป็นกรรมอันหนัก"

ผู้บุกเบิกให้เกิดพัฒนาการใหม่ๆ ในช่วงแรกมักจะมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไม่เห็นด้วย เพราะขัดกับความคุ้นเคยเดิม แม้ในวงการพระพุทธศาสนาก็เช่นกัน พระมหาเถระผู้มีคุณูปการต่อพระพุทธศาสนาจำนวนมาก ต่างก็ประสบกับการวิพากษ์โจมตีอย่างหนักมาแล้ว เพราะคนเรา พอไม่เข้าใจก็ไม่ชอบ จึงหาเรื่องจับผิด ด่าว่า ใส่ร้ายป้ายสี อาทิ

- พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ผู้เดินธุดงค์ตั้งใจปฏิบัติธรรม บุกเบิกสร้างพระป่าสายอีสาน ก็เคยถูกครหาว่าอวดอุตริมนุสสธรรม ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เคยเขียนวิจารณ์ว่าสอนผิดจากพระไตรปิฎก ที่บอกว่าไปสนทนาธรรมกับพระอรหันต์ที่นิพพานแล้วได้

- ครูบาศรีวิชัย ผู้นำศิษยานุศิษย์สร้างทางขึ้นพระธาตุดอยสุเทพสำเร็จในเวลาเพียง 3 เดือน และบุกเบิกเผยแผ่ธรรมะอย่างกว้างขวางในแดนล้านนา ก็เคยถูกใส่ร้ายป้ายสี จนถูกจับขังถึง 3 ครั้ง ปลดจากเจ้าอาวาส ถูกคุมตัวเข้ากรุงเทพฯ

- สมเด็จพุฒาจารย์ (อาจ อาสโภ) ผู้วางรากฐานให้ มจร. เติบใหญ่เป็นมหาวิทยาลัยสงฆ์หลักในปัจจุบัน ส่งพระไทยไปเรียนกรรมฐานกับพระพม่า กลับมาบุกเบิกสร้างสายธรรมปฏิบัติยุบหนอพองหนอในไทย ก็เคยถูกข้อกล่าวหาจากสังฆนายกในยุคนั้นว่าปาราชิก และสมเด็จพระสังฆราชมีพระบัญชาให้สึก ถึงขนาดถูกจับสึกเปลื้องผ้าเหลืองออก ต้องนุ่งขาวห่มขาวอยู่ที่สันติบาล 4 ปี แต่สุดท้ายศาลก็พิพากษาว่าท่านไม่ผิดจึงกลับมาครองผ้าเหลืองใหม่ ก่อนมรณภาพได้เป็นถึงผู้รักษาการแทนสมเด็จพระสังฆราช

- หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ผู้บุกเบิกการปฏิบัติแบบมโนมยิทธิ ก็เคยถูกกล่าวหาว่าปาราชิกเพราะอวดอุตริมนุสสธรรม อวดอ้างว่าไปสวรรค์ ไปนิพพานได้

- หลวงพ่อพุทธทาส ก็เคยถูกกล่าวหาว่าเป็นพระบ้า เพราะเทศน์ปากเปล่าโดยไม่ถือใบลาน ซึ่งคนยุคนั้นไม่คุ้น ถูกกล่าวหาว่าเป็นพระมหายาน พระนอกรีต เพราะชอบสอนเรื่องสุญญตา อิงคำสอนของท่านนาคารชุน ชอบแนวคิดแบบเซ็น แต่ท่านก็สามารถดึงปัญญาชนจำนวนมากให้หันมาสนใจศึกษาพระพุทธศาสนา 

- หลวงพ่อธัมมชโย ก็ถูกกล่าวหาว่าอวดอุตริมนุสสธรรม และยักยอกที่ดินวัด แต่ท่านก็สามารถชักชวนประชาชนเข้าวัดปฏิบัติธรรมทำความดีมากมาย และเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก ข้อกล่าวหาเรื่องปาราชิกก็ถูกลบล้างไป โดยมหาเถรสมาคมได้กลั่นกรองนำเสนอ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ พระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ จากคุณูปการที่ท่านมีต่อพระพุทธศาสนาและสังคมไทย

- หลวงตามหาบัว ก็เคยถูกกล่าวหาอวดอุตริมนุสสธรรม อวดอ้างว่าตนเป็นพระอรหันต์แล้ว แต่พูดจาหยาบคาย จับเงินจับทองผิดพระวินัย ระดมผ้าป่าช่วยชาติซึ่งไม่ใช่กิจของสงฆ์ หวังจะขึ้นเป็นใหญ่ในวงการสงฆ์ทางลัด แต่ท่านก็สามารถสร้างศรัทธาในหมู่ชาวพุทธได้มากมาย

> > น่าคิดว่า ผู้ที่เคยบริภาษด่าว่าพระมหาเถระเหล่านี้ จะต้องแบกบาปมากเพียงใด ตอนกำลังด่าว่าท่าน ทุกกรณีจะมีลักษณะคล้ายกัน คือ แต่ละคนก็คิดว่าท่านไม่ดีไม่ใช่พระแล้ว ด่าแล้วไม่บาป ได้บุญด้วย ปลุกระดมกันและกันด้วยโทสวาท (hate speech) ให้เกิดความเกลียดชังอย่างมากๆเหมือนท่านไม่ใช่คน 

แต่พระมหาเถระเหล่านี้ แต่ละรูปก็ได้พิสูจน์ด้วยการอุทิศตนเพื่อพระพุทธศาสนาจนตลอดชีวิตของท่าน สิ่งที่แต่ละรูปได้สร้างไว้นั้นต้องทำด้วยชีวิต ผู้ที่ไม่บริสุทธิ์ใจจะทำอย่างนั้นไม่ได้ 

น่าคิดว่าผู้ที่ด่าว่าท่านพระอาจารย์มั่น ครูบาศรีวิชัย สมเด็จพระพุฒาจารย์(อาจ) ฯลฯ คนเหล่านี้ต้องรับกรรมหนักเพียงใด

ส่วนพระที่มีเจตนาไม่สุจริตนั้น มักอยู่ได้ไม่นานก็มีเหตุให้ต้องออกไปเอง สมตามที่พระพุทธเจ้าตรัสว่าพระธรรมวินัยนี้เหมือนทะเลที่จะซัดซากศพขึ้นฝั่งในที่สุด ดังมีตัวอย่างให้เราเห็นอยู่มากราย โดยเราไม่ต้องไปผสมโรงด่า ให้เสี่ยงต่อบาปกรรมเลย < <

ตัวอย่างวิบากกรรมของผู้บริภาษพระภิกษุผู้ทรงศีล

@ ในครั้งพุทธกาลที่เมืองสาวัตถีมีชาวประมงจับได้ปลาใหญ่ตัวหนึ่ง มีสีเหมือนทองคำแต่ปากเหม็นมาก จึงเอาไปถวายพระราชา พระราชารับสั่งให้นำไปเฝ้าพระพุทธเจ้า พอปลาอ้าปากเท่านั้น กลิ่นเหม็นก็คลุ้งตลบทั้งเชตวันมหาวิหาร

พระราชาถามพระศาสดาว่า ทำไมปลามีสีเหมือนทองคำ แต่ปากเหม็น

พระศาสดาตรัสตอบว่า ปลานี้ภพในอดีตเป็นภิกษุชื่อกปิละ มีความรู้มาก ทะนงในความรู้ของตน เที่ยวด่าบริภาษพระภิกษุที่ไม่เชื่อคำของตน น้องสาวกับแม่ก็ด่าว่าพระภิกษุตามพระกปิละเพราะคิดว่าท่านรู้มาก พระกปิละตายแล้วจึงไปเกิดในอเวจีมหานรก ไหม้ในมหานรกสิ้นพุทธันดรหนึ่ง แล้วมาเกิดเป็นปลาด้วยเศษแห่งวิบาก 

เนื่องจากเคยท่องบ่นคัมภีร์ สรรเสริญคุณพระพุทธเจ้า จึงได้อัตตภาพมีสีเหมือนทองคำ แต่เพราะเป็นผู้ด่าบริภาษพระภิกษุทั้งหลาย กลิ่นเหม็นจึงฟุ้งออกจากปากของเธอ
จากนั้นพระพุทธเจ้าทำให้ปลาพูดได้ด้วยพุทธานุภาพ

พระศาสดาตรัสถามปลาว่า__ เจ้าชื่อกปิละหรือ?

ปลาตอบ__ พระเจ้าข้า ข้าพระองค์ชื่อกปิละ

พระศาสดาถาม__ เจ้ามาจากไหน?

ปลาตอบ__ มาจากอเวจีมหานรก พระเจ้าข้า

พระศาสดา __ แม่ของเจ้าไปไหน?

ปลาตอบ __เกิดในนรก พระเจ้าข้า

พระศาสดา __น้องสาวของเจ้า ไปไหน?

ปลาตอบ __เกิดในมหานรก พระเจ้าข้า

พระศาสดา__ บัดนี้เจ้าจักไปที่ไหน?

ปลาชื่อกปิละกราบทูลว่า__ “จักไปสู่อเวจีมหานรกดังเดิม พระเจ้าข้า” 
ดังนี้แล้ว คิดถึงบาปกรรมที่ตนเคยทำ เศร้าเสียใจมากจึงเอาศีรษะฟาดเรือตายในทันทีนั่นเอง กลับไปเกิดในนรกแล้ว มหาชนเห็นเรื่องราวทั้งหมด ได้สลดใจมีขนลุกชูชันแล้ว 

> การบริภาษด่าว่าพระภิกษุผู้ทรงศีลเป็นกรรมหนักมาก พวกเราอย่าไปทำเด็ดขาด บางคนแค่ฟังเขาว่าต่อๆ กันมาก็หลงเชื่อ ผสมโรงด่าว่าท่านด้วยความคึกคะนอง กรรมนี้น่ากลัวนัก ยิ่งในโลกปัจจุบันที่การสื่อสารออนไลน์ เป็นไปอย่างรวดเร็วกว้างขวาง ยิ่งต้องระมัดระวัง มีสติ ไม่ไปตามแห่ทำบาปกับใคร 

การตัดต่อภาพใส่ร้ายป้ายสีพระภิกษุ ยิ่งผิดทั้งศีล ผิดทั้งธรรม จะหาเหตุผลมาอ้างว่าทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ เพราะคิดว่าท่านไม่ดี เหตุผลนี้เมื่อตายแล้วตกนรก จะเอาไปใช้อ้างกับยมบาลเขาก็ไม่รับฟังเลย 

แนวปฏิบัติที่ถูกต้องคือ เราอย่าไปบริภาษด่าว่าพระภิกษุสงฆ์ เพราะเรายังรู้จักท่านไม่จริง แต่เอาเวลาไปประพฤติปฏิบัติธรรม กับพระภิกษุรูปใดก็ได้ที่เราถูกอัธยาศัย มีความศรัทธาเลื่อมใสในตัวท่านดีกว่า ทำอย่างนี้เราจะไม่มีวิบากกรรม จะมีแต่ความสุขความเจริญตลอดไป ทั้งภพนี้และภพหน้า <
 
1920521_221730101364448_901950380_n.jpg
 
เครดิต  https://www.facebook...&type=1
 
 
 

สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#2 InnerDot

InnerDot
  • Members
  • 79 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 February 2014 - 09:31 AM

สาธุ สาธุ สาธุ... กับคุณทัพพีในหม้อนะครับ ถูกใจเหลือเกิน ขออนุญาตแชร์ต่อนะครับ... เป็นเนื้อหาที่ง่ายแต่ลึกซึ้งครับ... ทำให้นึกถึงประวัติของพระเดชพระคุณหลวงปู่วัดปากน้ำของเรา....  ฝ่ายโจมตีถึงขนาดให้คนมาตามฆ่าพระเดชพระคุณท่านเลยทีเดียว... อุกอาจถึงขนาดให้คนเข้ามายิงหลวงปู่ในระยะหวังผลจนจีวรทะลุ  มันแรงขนาดนั้น แต่ท่านก็ก้าวข้ามทุกอุปสรรคมาได้จนกระทั่งส่งต่อ "ธรรมกาย" มาถึงหมู่คณะ และกำลังจะออกไปทั่วโลกในขณะนี้ในที่สุด....  



#3 หัดฝัน

หัดฝัน
  • Members
  • 4531 โพสต์
  • Gender:Male
  • Interests:ธรรมะ

โพสต์เมื่อ 18 February 2014 - 12:14 PM

อืมน่าแชร์ เป็นอย่างยิ่ง วิบากกรรมที่ทำด้วยการใส่ร้ายป้ายสี จะว่าไปแล้ว ทำได้ง่ายกว่าวิธีอื่น เช่น ถ้าจะฆ่า จะลัก ฯลฯ ก็จะเตรียมอุปกรณ์ แต่ใส่ร้ายนั้นเพียงแค่เปิดปาก จรดปากกา เคาะแป้นพิมพ์ แต่สร้างวิบากกรรมมหาศาล ถ้าไปกระทำกับผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ

 

คิดๆ แล้ว การมีชีวิตอยู่ในโลกนี้ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยทีเดียว


ได้ดี เพราะมีกัลยาณมิตร

#4 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 18 February 2014 - 02:04 PM

ไปลอกมาจากโลกโซเชียลครับ  อ่านแล้วได้ข้อคิดดีๆ  ก็เลยเอามาลงไว้  ไม่รู้ต้นตอว่าใครเป็นคนเขียนนะครับ


สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#5 สันโดษ

สันโดษ
  • Member_Facebook
  • 8 โพสต์

โพสต์เมื่อ 18 February 2014 - 10:03 PM

อยู่ใกล้พระนี่ก๊อันครายพอๆหันเลยไปไหนดี



#6 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 19 February 2014 - 10:25 AM

ถึงได้มีคำกล่าวเอาไว้ไงครับ  ว่า  ให้เอางูที่มีพิษร้ายที่สุดมาพันตัว  เสียยังจะดีกว่าไปกล่างตู่บริภาษพระภิกษุผู้ทรงคุณ  เพราะงูกัด  ทรมานไม่เกิน 5 นาที  แล้วก็ตายเพียงชาติเดียว  แต่สิ่งที่ทำกับพระภิกษุผู้ทรงคุณ  แม้คุณวิเศษจะเป็นเพียงผู็ศึกษาในธรรมก็ตาม  ไม่ว่าสิ่งนั้นจะดีหรือไม่ดี  ก็ส่งผลยาวนานไม่มีประมาณ  ส่งผลมากมายจะคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว  

 

พุทธันดรหนึ่ง  คือ  ระยะเวลาช่วงจากพระพุทธเจ้าพระองค์หนึ่ง  ไปถึงสมัยกาลของพระพุทธเจ้าองค์ถัดไปทีเดียว  ประมาณเวลากันไม่ถูกเลย  จากนั้นก็ต้องวนเวียนอยู่ในทุขคติหลายรูปแบบอีกนับไม่ถ้วน

 

เจอพระภิกษุ  ถ้าไม่มีศรัทธาในสมณะสารูป  เราก็ทำแค่เพียงเคารพในพระรัตนตรัย  เคารพในผ้ากาสายะ  เพียงเท่านั้นแล้วก็วางเฉย  เลี่ยงไปเสีย  ไม่ต้องคิดอะไร

 

ถ้าเจอพระภิกษุผู้มีกิริยาไม่สมควร  ก็ทำอย่างที่ผมเคยทำ  คือ  ถ่ายภาพวีดีโอไว้เป็นหลักฐาน  แล้วแจ้งเจ้าหน้าที่  ให้เจ้าหน้าที่มาทำการตรวจสอบ  อย่าไปด่าว่า  อย่าไปตำหนิ  เพราะเรายังไม่รู้ว่าความจริงคืออะไร   ให้เป็นหน้าที่ของผู้มีหน้าที่รับผิดชอบเป็นคนจัดการ  เอาไว้ด่าว่า  ตำหนิ  หลังจากถูกจับสึก  ปลดผ้าเหลืองออกไปแล้วก็ยังไม่สายเกินไป 

 

เราในฐานะหนึ่งในพุทธบริษัท   มีหน้าที่รักษาพระพุทธศาสนา  ทำทุกอย่างเพื่อให้พระพุทธศาสนายืนยาวนานต่อไปไม่มีที่สิ้นสุด  แต่เราไม่มีหน้าที่จับผิดพระโดยเด็ดขาด  อย่าได้ล้ำก้ำเกินเขตของตัวเองครับ 

 

ขอกราบอนุโมทนาบุญ  และขออนุโมทนาบุญกับพุทธบริษัททุกท่านครับ


สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#7 Tung

Tung
  • Admin
  • 195 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 21 February 2014 - 04:14 PM

เฮ่ๆ

ไฟล์แนบ



#8 TK Brookings

TK Brookings
  • Members
  • 7 โพสต์
  • Gender:Male
  • Location:US

โพสต์เมื่อ 02 March 2014 - 03:07 PM

บางทีใจมันก็พาให้คิดเร็วไปหน่อย... โดยการที่ไปเห็นการกระทำบางอย่างที่มันดูไม่เห็นเหมาะสมเลย (ขออนุญาติไม่ลง details)...  ก็มันคิดอคติไปเสียแล้ว (แต่ก็ยังคิดทันว่าไม่ควรให้ออกมาเป็นการกระทำ เช่นกล่าวว่าร้าย)...  แล้วอย่างนี้วิบากกรรมเราจะเป็นอย่างไรครับหากเราคิดผิดไปเอง (แค่คิด).... คงต้องฝึกให้ใจมันคอยระวัง ให้มีสติ ว่าแค่ความคิดไม่ดีก็ไม่ควรให้เกิด..



#9 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 02 March 2014 - 06:29 PM

ไม่เป็นไรครับ  ไม่ต้องกังวล  ลืมไปซะให้หมด  เร่งสร้างบารมีด้วยการเข้าหาครูบาอาจารย์ที่ประพฤติดี  ประพฤติชอบที่เราถูกจริต  และทำการดูแลอุปัฏฐากท่านเต็มที่ เต็มกำลังของเรา  เอาบุญใหม่เจือจางบุญเก่าให้หมดรส  หมดกำลังไปดีกว่าครับ

 

พระภิกษุผู้ทรงศีลบริบูรณ์  แม้จะเป็นเพียงสมมุติสงฆ์  ไม่ได้มรรค ผล เป็นอริยะสงฆ์แต่อย่างใด  เพียงเราตั้งใจอุปัฏฐากด้วยตั้งใจว่า  เพื่อเป็นการสืบอายุพระพุทธศาสนา  เพียงเท่านี้  บุญและอานิสงส์แห่งบุญก็มากเกินประมาณแล้วครับ

 

ใครที่เคยคิดไม่เหมาะ  ไม่ควรแก่สงฆ์เอาไว้  วันที่ 22 เมษายนนี้  ขอเรียนเชิญมาร่วมเป็น  อุบาสกแก้ว  อุปัฏฐากพระอาคันตุกะผู้มาเป็นเนื้อนาบุญให้เราทั้งสามหมื่นวัดกันดีกว่าครับ  ทำบุญครั้งเดียว  ได้เท่ากับดูแลสงฆ์ทั้งสังฆมณฑลกันเลยทีเดียว  ผู้ชายแมนๆ ไม่ควรพลาดนะครับ  งานนี้เหล่าผู้หญิงอุบาสิกามีอิจฉาเล้กๆ กันเลยหล่ะ


สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ