ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

อนาคต..มะเร็งลำไส้..!


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
มี 2 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้

#1 aizezy

aizezy
  • Members
  • 11 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 29 April 2014 - 10:44 AM

:o สาระดีๆ สำหรับคนที่กินแล้วไม่ค่อยขับถ่าย อนาคต..มะเร็งลำไส้..! :o

 

แนบไฟล์  ลำไส้2.jpg   13.54K   30 ดาวน์โหลด

 

"ตะลึง"คุณหมอพรทิพย์เขียนไว้ว่า เวลาผ่าศพจะเจออุจจาระตกค้างในลำไส้อย่างน่าตกใจ บางศพมีน้ำหนักอุจจาระถึง10 โล... แล้วเป็นเพราะอะไร???

:glare: เค้าว่า "อุจจาระตกค้าง" เนื่องมาจา:glare:
1. เคี้ยวอาหารไม่ละเอียด
2. กินอาหารที่มีกากใยน้อย
3. มีพยาธิ หรือ เชื้อรา ทำให้ระบบย่อยอาหารผิดปกติ
4. ระบบดูดซึมเสีย เพราะน้ำมันพืชเคลือบทำให้น้ำที่
ดื่มเข้าไป ไม่หมุนเวียน
5. ไม่ถ่ายอุจจาระเวลา 05.00-07.00 เช้า

 

หากถ่ายอุจจาระ หลังเวลา 7 โมงเช้า ลำไส้จะบีบให้อุจจาระขึ้นไปข้างบนเวลาถ่าย จะถ่ายไม่หมด แต่ไม่รู้ตัว ที่ปลายลำไส้จะมีประสาทปลายทวาร เมื่อมีอุจจาระที่เหลวพอมาจ่อปลายทวาร ประสาทจะส่งสัญญานบอกสมองให้ปวดอึหลัง 7 โมงเช้า ลำไส้จะทำงานไม่เป็นปกติ บีบอุจจาระให้ขาดช่วงเวลาถ่ายจนรู้สึกว่าหมดแล้ว เราก็หยุดแต่ความจริง อุจจาระท้ายขบวนยังไม่ออก แต่มันถูกดันกลับขึ้นไป ไม่มาจ่อปลายทวารทำให้เราไม่ปวดอึ เราก็นึกว่าหมดแล้ว อุจจาระที่ค้างไว้นี้ก็จะเกาะที่ผนังลำไส้ พอมีีอุจจาระใหม่ที่เหลวกว่ามันก็แซงหน้าไปก่อน แต่มันไม่สามารถดันพวกที่ค้างแข็งให้ออกไปได้ พวกที่ค้างแข็งไว้ ก็เกาะติดแน่น
ฉะนั้น ทุกวันที่ถ่าย มันก็ถ่ายเฉพาะอึที่เหลวพอ ส่วนที่เหลือ ก็เกาะไปเรื่อยๆ อุจจาระตกค้างจะไปทับเส้นเลือดต่างๆ ในกระเพาะ และกดทับกระดูกหลัง ทำให้เกิดอาการมากมายเช่นท้องอืด ปวดหลัง ปวดขา ปวดกล้ามเนื้อที่ไหล่และสะบัก เวียนหัวอ่อนเพลีย นอนไม่หลับ เป็นฝ้า ไมเกรน และอื่น ๆนั่นแหละเป็นที่มา..ที่คุณหมอพรทิพย์เขียนไว้ว่า เวลาผ่าศพจะเจออุจจาระตกค้างในลำไส้อย่างน่าตกใจ


:การนำอุจจาระตกค้างออกจึงจำเป็นต้องหาว่าเป็นที่สาเหตุใดใน 5 สาเหตุข้างต้น  ก็แนะนำให้ถ่ายพยาธิเสียก่อน แล้ว ลองสูตรอาหารดังต่อไปนี้ :

1. เม็ดแมงลัก 2 ช้อนชา ผสมน้ำ 1 แก้วทิ้งไว้ 30 นาที ดื่มก่อนนอน เม็ดแมงลักจะลากอุจจาระตกค้างออกมา ทานเป็นปกติได้ทุกวันหรือ 3-4วันต่อสัปดาห์ แล้วแต่จะชอบ
2. นมสด 2 กล่อง (รวมจะได้ประมาณ500 มิลลิลิตร) และ กล้วยน้ำว้า 2 ลูก ทานก่อน 6 โมงเช้า ช่วงแรกควรทานติดกัน 3 วัน หากถ่ายก่อน 7 โมงเช้าเป็นปกติได้แล้ว ก็ลดมาเป็นสัปดาห์ละ 2 ครั้ง หรือตามที่เห็นสมควร
3. ทานผักบุ้ง 2 กำมือ ผัด หรือ ต้ม ทำอาหารตามใจชอบผักบุ้งจะลากอุจจาระตกค้างออกมา    



#2 ทัพพีในหม้อ

ทัพพีในหม้อ
  • Moderators
  • 3279 โพสต์
  • Gender:Male

โพสต์เมื่อ 29 April 2014 - 01:35 PM

จริงๆ เรื่องนี้  ไม่ใช่เรื่องใหญ่โต  น่าตกใจอะไรเลย   ถ้าเราใช้ชีวิตตามปกติ  "อย่างปกติ"  นั่นคือ  5  อ.  

 

อาหารดี  ไม่ใช่อาหารที่อร่อยสุดยอด  หรือหายากสุดขีด  แต่การทานอาหารให้หลากหลายและครบถ้วน  สะอาด  ตรงเวลาที่ร่างกายเราเคยชิน  แค่นี้การขับถ่ายเราก็เป็นปกติแล้ว    แต่คนเมืองมักทานอาหารซ้ำๆ  ทำให้ร่างกายขจัดสิ่งปนเปื้อนไม่ทัน  อีกทั้งคนเมืองชอบทานอาหารสกัดสำเร็จรูป  ซึ่งสารอาหารครบจริง  แต่ระบบร่างกายเราไม่ได้ทำงาน  พอนานเข้าก็คุ้นชิน  จนทำงานน้อยกว่าปกติ  เมื่อมื้อไหนเรากลับมาทานอาหารปกติ  ก็จเกิดปัญหาไม่ย่อย  ขับถ่ายยากขึ้น

 

อากาศดี   การที่เราได้อากาศดีๆ ตลอดวัน  ทำให้กลไกการทำงานของร่างกายเราทำงานเต็มประสิทธิภาพ  แม้แต่ระบบย่อยอาหารก็ต้องการอากาศที่บริสุทธิ์ช่วยด้วย  ต้องการออกซิเจนดีๆ  ต้องการขับของเสียได้คล่องๆ   ถ้าระบบร่างกายโดยรวมดี  เราก็ขับถ่ายเป็นปกติเอง

 

อารมณ์ดี  ตัวนี้จะส่งผลต่อการบีบตัวของกระเพาะ ลำไส้โดยตรงเลย  เมื่อเราเกิดภาวะเครียด  การหลั่งน้ำย่อยก็จะผิดปกติ  ถึงเวลาไปปล่อย  มาปล่อยเอาตอนเครียดๆ บ้าง  ความเครียดเป็นสาเหตุหลักๆ อย่างหนึ่งของโรคกระเพาะเลย  ในขณะเดียวกัน  ความเครียดก็ส่งผลต่อการบีบตัวของลำไส้  การดูดซึมสารอาหาร  การดูดซึมน้ำ  การทำจิตใจให้สบายทำให้ร่างกายเราทำงานได้ตามปกติครับ

 

ออกกำลังกาย   ตัวนี้เป็นตัวช่วยเร่งการขับถ่ายให้กลับมาเป็นปกติได้อย่างดี  ตื่นนอนขึ้นมาดื่มน้ำอุ่นมากๆ สักแก้ว  บริหารร่างกายที่มีการแขม่วหน้าท้องสักหน่อย  แค่นั้นก็สบายตัวแล้ว  ส่วนการออกกำลังกายทั่วไป  ก็จะทำให้ลำไส้เคลื่อนไหวตัวดีขึ้น  มีประโยชน์กับการขับถ่ายแน่ๆ

 

อุจจาระดี  ในที่นี้คือ  สม่ำเสมอ  ตรงเวลา  คล่องตัว  ม้วนเดียวจบ  ซึ่งตรงนี้  เป็นตัวบอกสุขภาพเราได้ในระดับหนึ่งทีเดียว  ถ้าถึงเวลาแล้วไม่ถ่าย  สามารถประมาณคร่าวๆ ได้เลยว่า  นอนดึกกับเครียด  .....   ถ้าไม่คล่องตัว  ก็ทานอาหารไม่ครบหมู่กับดื่มน้ำน้อย  การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอร์  ชา กาแฟ น้ำหวาน  ไม่ถือว่าเป็นการดื่มน้ำเยอะ  เพราะน้ำในเครื่องดื่มเกือบทั้งหมดจะต้องใช้ไปในย่อย สลาย หรือ กำจัดสารปรุงแต่งในเครื่องดื่มนั้นๆ ให้หมดไปจากร่างกาย  ถ้ามากเกินก็จะดึงน้ำในร่างกายมาใช้ซ้ำเพิ่มไปอีก  ทำให้เรายิ่งขาดน้ำ  การดื่มน้ำธรรมดาแต่พอดี บ่อยๆ ครั้งต่อวัน  จะช่วยได้เยอะโดยเฉพาะน้ำอุ่น .....  ถ้าไม่ม้วนเดียวจบ  บอกได้เลยว่าร่างกายเรากำลังโทรม  ไม่มีกำลังแม้จะขับของเสีย  ลุกมาออกกำลังกายแบบสม่ำเสมอซะดีๆ

 

ถ้าทำตาม 5  อย่างนี้ได้  ไม่ใช่ช่วยแค่การขับถ่ายนะครับ  แต่ชีวิตเราจะเป็นสุขเลยหล่ะ  โรคภัยไข้เจ็บก็จะไม่มาแสดงอาการ แผลงฤทธิ์เอากับเราได้ง่ายๆ

 

ปล.  การทานเมล็ดแมงลัก  หรือทานอาหารกากใยสูง  เพื่อเน้นการขับถ่าย  ให้คำนึงถึงน้ำในร่างกายด้วย  ถ้าเราทานน้ำไม่มากพอ  ร่างกายก็จะดึงน้ำจากเมล็ดแมงลัก  ดึงน้ำจากผักไปแทน  ทำให้แห้งตกค้างในลำไส้ได้  ทานน้ำอุ่นให้พอดีแต่บ่อยๆ จะช่วยได้มากครับ  และไม่จำเป็นว่าต้องเมล็ดแมงลัก  หรือ ผักบุ้ง  

 

ปล.2 การทานกล้วยน้ำว้านั้น  ขอเน้นนะครับว่าต้อง "กล้วยสุก" แล้วเท่านั้น  เพราะกล้วยดิบ หรือกล้วยห่าม  ยางกล้วยมีฤทธิ์ในการระงับอาการถ่ายท้อง  ถ้าเราจะให้ถ่ายคล่องขึ้น  แต่เราไปกินกล้วยห่ามๆ จะยิ่งกลายเป็นท้องผูกขึ้นมาได้  กล้วยสุกๆ นี่แหละ  อย่าไปสนใจความหวาน  เพราะกล้วยนิ่มๆ เราจะเคี้ยวไม่ค่อยละเอียดอยู่แล้ว  แป้งในกล้วยก็โมเลกุลใหญ่ย่อยยาก  กล้วยสุกมีสารเคลือบกระเพาะ ลำไส้ด้วย  ใครทานกล้วยสุกก่อนนอน  เช้ามาถ่ายคล่องแน่นอนครับ  

 

ปล. 3 เรื่องถ่ายพยาธิ  ถ้าเราไม่มั่นใจ  ให้ปรึกษาแพทย์  หรือเภสัชกร  ก่อนนะครับ  อย่าริไปซื้อมาทานเอง  เพราะพยาธิมีหลายชนิด  ยาก็มีหลายประเภทที่ให้ผลแตกต่างกันไป  เคยมีคำแนะนำว่าปีละครั้ง  แต่ไม่รู้ว่ามีการเปลี่ยนแปลงหรือยัง  ส่วนตัวผมเอง   หกเดือนครั้ง  เพราะชอบกินอาหารพื้นถิ่น  อาหารชาวบ้าน  อาหารข้างทาง  เราก็ต้องระวังตัวเอาไว้ก่อน  แต่ขอเน้นนะครับ  ปรึกษาหมอ  หรือ เภสัชกรก่อนทุกครั้งครับ

 

จะทำอะไรที่นอกเหนือจากการทำตามปกติวัสัย  อยากให้ศึกษาให้ชัดเจนก่อน  เพราะเราจะได้เข้าใจเหตุและผล  ทำให้เราแก้ไขปัญหาได้ง่ายๆ ครับ


สมาชิกเว็บไซต์ทุกท่านที่เข้ามาอ่านกระทู้ สามารถร่สมกิจกรรมสะสมคะแนนเพื่อแลกรับของที่ระลึกจากทางทีมงานได้ฟรีๆ ทำตามนี้เลยครับ ..... ทุกๆ กระทู้ที่สมาชิกตั้งขึ้น เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 3 คะแนน ..... ทุกๆ การตอบกระทู้ที่เป็นการตอบแบบมีสาระทางธรรม จะได้รับคะแนนสะสมทันที่ 1 คะแนน และ 0.1 คะแนนสำหรับการเข้ามาอนุโมทนาบุญ ..... อย่าลืมมาร่วมกิจกรรมกันนะครับ

#3 คิษจภัค คิษถฤงคิษแคธ

คิษจภัค คิษถฤงคิษแคธ
  • Members
  • 100 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 29 April 2014 - 04:52 PM

พี่เก่งจัง