นักวิทยาศาสตร์บอกว่าเวลายิ้มหรือหัวเราะร่างกายจะผลิตฮอร์โมนความสุขคือ เอนเตอร์ฟีน (enterphene)ออกมาเป็นอาวุธสำหรับในการขจัดความกลัวและความเครียดยิ่งไปกว่านั้นการหัวเราะยังส่ง ออกซิเจน ไปยังเซลล์ทุกเซลล์ในร่างกายทำให้เนื้อเยื่อต่าง ๆ หายจากการบอบซ้ำได้เร็วกว่าปกติอีกเพราะการหัวเราะจะทำให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำหน้าที่สม่ำเสมอเป็นผลให้เกิดภูมิต้านทานโรคภัยต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้นลดการเต้นถี่ของหัวใจและกระตุ้นให้เจริญอาหารเท่ากับเป็นการออกกำลังกายอยู่กับที่เรียกว่า จ๊อกกิ้ง (jogging) อยู่กับที่เพราะเวลาหัวเราะนั้น จะทำให้เกิดแรงสะเทือนและแรงเคลื่อนไหวขึ้นในระบบร่างกายทุกระบบเช่นเดียวกับการออกกำลังกายและมีประสิทธิภาพกว่าการเต้นแอโรบิคด้วย
เฮนรี่ รูบินสไตน์ นักประสาทวิทยาฝรั่งเศสได้วิจัยพบว่าการหัวเราะคือการพักผ่อนที่ดีที่สุดถ้าคนเราได้หัวเราะแค่ 1 นาที จะมีค่าเท่ากับการพักผ่อนถึง 45 นาที ท่านที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไปการหัวเราะเปรียบเหมือนการกวาดขยะออกไปจากร่างกายเช่น คอเลสเตอรอล หรือไขมัน ส่วนที่เกินเป็นต้นการหัวเราะยังรักษาโรคได้หลายชนิดเราอยากเห็นรอยยิ้มของทุกคน เราไม่อยากพบคนหน้าบอกบุญไม่รับใช่ไหม ยักษ์แปลงเป็นคนได้ แต่คนที่ยิ้มไม่เป็นก็สามารถแปลงเป็นยักษ์ได้เช่นกัน คนมีปกติหน้าบึ้ง เช่น บูดในตอนเช้า เน่าในตอนเพล เหม็นในตอนค่ำ เป็นคนมีเพื่อนน้อย เราไม่อยากกินของบูดฉันใด เราก็คงไม่อยากคบคนบูดฉันนั้น เพราะมีแต่เรื่องร้อนใจตลอดเวลา ขาดหลักมนุษยสัมพันธ์ ถ้าเราเรียนหนังสือวิชาไหนยาก ก็เครียด ไม่ค่อยอยากเรียนเท่าไร แต่มันจำเป็น แต่ถ้าครูคนไหนทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย ฟังสบาย ฟังสนุก ทำให้เราเข้าใจง่าย ยิ้มได้ เราพอใจเพราะหายเครียด
ประธานาธิบดี อับราฮัม ลินคอล์น พูดว่าทุกคนต้องการเรียนรู้ แต่ก็ต้องการสนุกสนานเพลิดเพลินในการเรียนรู้นั้นด้วย
อาจารย์ที่สอนศิษย์ด้วยรอยยิ้ม ย่อมสร้างสรรค์ให้ศิษย์มีคุณค่า
พ่อแม่ที่ใช้รอยยิ้มและการหัวเราะปกครองลูกจะได้ลูกที่ดีงามและทรงคุณค่า
หิโตปเทส กล่าวว่า ชีวิตที่ ขวัญ รักษาดีแล้วแม้ตกทะเลหรือภูเขาหรือถูกอสรพิษกัด ก็ปลอดภัยนี่หมายถึงว่าเรายิ้มได้เสมอ แต่ไม่ได้หมายความว่าอยู่คนเดียวก็ยิ้มเดินไปคนเดียวก็ยิ้ม แบบนี้ ศรีธัญญา ก็ยิ้มเป็น
ในทางพระพุทธศาสนา พระพุทธเจ้าได้ตรัสถึงวิธีการเผยแผ่ศาสนาพูดหรือเทศน์ให้คนได้ฟังว่าต้องมีหลัก ๔ ส. คือ
ส. ๑. สันทัสสนะ ให้แจ่มแจ้งชัดเจน
ส. ๒. สมาทปนะ ให้อยากทำตาม
ส. ๓. สมุตเตชนะ ให้กล้าหาญ
ส. ๔. สัมปหังสนะ ให้ร่าเริงแจ่มใส
โดยเฉพาะใน ส. ข้อที่ ๔ สัมปหังสนะ นั้นคือให้ผู้ฟังร่าเริง แจ่มใส ให้เกิดความพอใจ เห็นจริงว่าเป็นจริง และยิ้มได้สุขใจเมื่อฟัง และอยากปฏิบัติตามเพราะปฏิบัติแล้วสุขใจแต่ก็มิได้หมายความว่าตลกโปกฮาไร้สาระหาแก่นสารอะไรไม่ได้เพราะถ้ามัวแต่ตลกเฮฮาหัวเราะก็จะกลายเป็นว่าโลกนี้ลุกเป็นไฟยังนั่งยิ้มหัวเราะอยู่ได้ ไม่รู้ร้อนรู้หนาวยิ้มต้องยิ้มจากใจที่ได้สาระ มีใช่ยิ้มอย่างเลือดเย็นแต่ถ้าตลกโปกฮา ตะพึดตะพือพร่ำเพรื่อเกินไปไม่รู้จักกาละเทศะก็อาจเป็นเหตุให้คนขาดความไว้วางใจไปก็ได้
เรายิ้มให้โลก โลกก็ยิ้มให้เรา
ถ้าเราร้องให้ เราจะต้องร้องให้อยู่คนเดียว
เรายิ้มให้ใครเท่ากับเราแบ่งความสุขให้เขา
เพราะต่างคนต่างสุข จะทุกข์ทั้ง ๒ ท่าน แบ่งสุขให้กัน
สุขนั้นจะได้ทั้ง ๒ คน ยิ้มจึงมีคุณค่ามหาศาลดุจดังเพชรพลอย
ใครส่งยิ้มให้ก็หมายถึงเขาพอใจเรา อยากได้เราเป็นมิตร
เรามีค่าในสายตาของเขา เขาส่งยิ้มให้เรามิใช่แค่ส่งโค้กเท่านั้น
แต่นั่นหมายถึงเขาส่งเพชรพลอยให้เรา
แล้วเราจะไม่ส่งเพชรพลอยให้เขาบ้างหรือ
อย่าสร้างดาบในรอยยิ้ม จงสร้างเพชรพลอยในรอยยิ้ม เพราะ
รอยยิ้ม เป็นการเสริมสวย เสริมเสน่ห์ เสริมหล่อ โดยไม่ต้องลงทุน
รอยยิ้ม เป็นกุญแจไขไปสู่ความสำเร็จ
รอยยิ้ม เป็นอุปกรณ์สำคัญของนักขาย
รอยยิ้ม เป็นหน้าต่างแห่งมิตรภาพและความรักและความจริงใจ
รอยยิ้ม เป็นคฤหาสน์ที่อบอุ่นและร่มรื่นหรรษา
รอยยิ้ม เป็นเครื่องประดับที่สวยงามและทรงคุณค่ามากกว่าสิ่งอื่นใดมากมายนัก
รอยยิ้ม ทำให้ผู้อื่นรู้ว่า สอบเอ็นทรานส์ติดหรือไม่ติด
ก่อนออกจากบ้านหรือกลับบ้านก็ถามตัวเองว่าวันนี้ยิ้มแล้วหรือยัง
ยิ้ม ยิ้ม ยิ้ม ยิ้มแล้วรวย ยิ้มแล้วสวยจ้า+++++++++++++++++++
เพชรพลอยในรอยยิ้มจ้า+++++++++++++
เริ่มโดย JOYSA, Feb 08 2006 04:51 PM
มี 7 โพสต์ตอบกลับกระทู้นี้
#1
โพสต์เมื่อ 08 February 2006 - 04:51 PM
#2 *ผู้มาเยือน*
โพสต์เมื่อ 08 February 2006 - 06:26 PM
ีบทความดีจัง ทำให้มีอารมณ์ยิ้มง่ายขึ้น
#3
โพสต์เมื่อ 09 February 2006 - 10:43 PM
QUOTE
เอนเตอร์ฟีน (enterphene)
ที่ถูกต้องคือ "เอ็นโดรฟิน" (endrophin) ครับผม
#4
โพสต์เมื่อ 09 February 2006 - 11:48 PM
(thumps and lil's fingers)
คุณครูไม่ใหญ่ บอกว่า :
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง
1. อดีตที่ผิดพลาด ลืมให้หมด 2. บาปทุกชนิดไม่ทำเพิ่มเด็ดขาด 3. หมั่นนึกถึงบุญอย่างสม่ำเสมอ
4. บุญทุกบุญทำให้เข้มข้นทับทวี 5. ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงพระธรรมกาย
ขออนุโมทนาบุญด้วยนะค่ะ _/|\_ สาธุ สาธุ สาธุ ด้วยรักจากใจ ด้วยห่วงใย จากใจจริง
#5
โพสต์เมื่อ 15 February 2006 - 11:34 AM
ขอบคุณคับ
พุทธบุตรต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนดวงตะวันที่มีดวงเดียว
พุทธบริษัท 4 ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนตะวันที่มีดวงเดียว
พุทธบริษัท 4 ต้องเป็นหนึ่งเดียวกัน เหมือนตะวันที่มีดวงเดียว
#6
โพสต์เมื่อ 16 February 2006 - 05:04 PM
สาธุ
คุณจอยมีบทความดีๆมาฝากเสมอ
เป็นข้อคิดและเป็นต้นแบบในการปฏิบัติได้เป็นอย่างดี
ขอบคุณค่ะ
คุณจอยมีบทความดีๆมาฝากเสมอ
เป็นข้อคิดและเป็นต้นแบบในการปฏิบัติได้เป็นอย่างดี
ขอบคุณค่ะ
#7
โพสต์เมื่อ 22 August 2006 - 03:19 PM
เนื้อความดีจังเลยนะคะ
เมื่อดวงตาปิดสนิมอย่างละมุน
ไม่มีลุ้นเร่งจองมองที่หมาย
ก็จะพบผู้รู้อยู่กลางกาย
ธาตุอ่อนแก่มากมายถึงปลายทาง
ไม่มีลุ้นเร่งจองมองที่หมาย
ก็จะพบผู้รู้อยู่กลางกาย
ธาตุอ่อนแก่มากมายถึงปลายทาง
#8
โพสต์เมื่อ 23 October 2006 - 06:24 PM
ยิ้มกันไว้มากก หัวเราะกันไว้บ่อยๆๆ
กายธรรมควรเทิดไว้ ในใจ
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี
เป็นสรณะภายใน เทียงแท้
กว่านี้ บ่ มีใด เทียบได้
น้อบนบท่านไว้แล ค่ำเช้าสุขเสมอ
เอาบุญมาฝากจ้า นั่งสมาธิเยี่ยมไปเลย แถมไปติดจานมาอีกด้วย เด็กชาวเขานี้น่ารักนะแม้คุยไม่รู้เรื่องก็ตามล่ะ สนุกดี