ไปที่เนื้อหา


รูปภาพ
- - - - -

10 ข้อที่ทุกคนต้องรู้เกี่ยวกับลิขสิทธิ์รูปภาพในเว็บไซต์


  • คุณไม่สามารถตั้งกระทู้ใหม่ได้
  • กรุณาลงชื่อเข้าใช้เพื่อตอบกระทู้
ไม่มีการตอบกลับในกระทู้นี้

#1 phani

phani
  • Admin_Article_VDO
  • 425 โพสต์
  • Gender:Female

โพสต์เมื่อ 24 June 2014 - 02:39 PM

10 ข้อที่ทุกคนต้องรู้เกี่ยวกับลิขสิทธิ์รูปภาพในเว็บไซต์
 
แนบไฟล์  designil-photo-license-1050x7001.jpg   144.21K   10 ดาวน์โหลด
 
ข้อ 1 : “ลิขสิทธิ์” คืออะไร
ความคุ้มครองทางกฎหมายที่คุ้มครองผู้สร้างเนื้อหา (รูป, เพลง, วีดิโอ, งานเขียน etc.) จากการถูกผู้อื่นนำไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
 
ข้อ 2 : ลิขสิทธิ์จะได้มาตอนไหน
ตั้งแต่วินาทีที่เนื้อหาถูกสร้างขึ้นมาก็ได้รับการคุ้มครองด้านลิขสิทธิ์แล้ว โดยไม่ต้องไปจดทะเบียนตามกฎหมายก็ได้
 
ข้อ 3 : มีกฎหมายการคุ้มครองลิขสิทธิ์ที่ใช้ได้ทั่วโลกไหม
ไม่มี แต่ละประเทศมีกฎหมายคุ้มครองลิขสิทธิ์ที่แตกต่างกัน กฎหมายบางประเทศอาจจะสนับสนุนกับกฎหมายอีกประเทศได้ แต่สิ่งที่
เหมือนกันทุกประเทศมีอยู่อย่างหนึ่งคือ  ถ้าคุณไม่ใช่เจ้าของลิขสิทธิ์ คุณเอาเนื้อหานั้นไปใช้ไม่ได้
 
ข้อ 4 : ถ้าเราไม่รู้เรื่องกฎหมายลิขสิทธิ์เลย แล้วโดนฟ้อง ถือว่าผิดไหม
อันนี้ไม่ใช่ข้ออ้างครับ ถึงแม้เราจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็มีความผิดทางกฎหมายอยู่ดี
 
ข้อ 5 : ใครจะเป็นคนรับผิดชอบเมื่อมีการละเมิดลิขสิทธิ์ในเว็บไซต์
เจ้าของเว็บไซต์เป็นผู้รับผิดชอบ ถึงแม้ว่าเขาจะจ้างคนอื่นมาทำเว็บไซต์ให้ เจ้าของเว็บไซต์ก็จะเป็นคนแรกที่ต้องรับผิดชอบเมื่อมีการละเมิดลิขสิทธิ์ อย่างไรก็ตาม ถ้าการละเมิดลิขสิทธิ์เกิดจากตัวคนทำเว็บไซต์ เจ้าของเว็บไซต์ก็โยนความผิดไปที่คนทำเว็บไซต์ได้
 
ประเภทเนื้อหาที่กฎหมายไทยครอบคลุม มีดังนี้ (เรียบเรียงมาจากเว็บไซต์ Thailawonline)
·  งานเขียน (หนังสือ, สิ่งพิมพ์, คำบรรยาย, โปรแกรมคอมพิวเตอร์? ฯลฯ)
·  งานศิลปะ (ภาพวาด, รูปถ่าย, กราฟฟิก ฯลฯ)
·  งานเสียง
·  งานภาพยนตร์ (รวมถึง การถ่ายทอดต่าง ๆ)
·  งานแสดง
(ผมสรุปมาจากที่อ่านร่างกฎหมายคร่าว ๆ ในเว็บไซต์อีกทีนะครับผม ซึ่งท่านใดมีความรู้ที่ถูกต้องกว่าสามารถแจ้งได้ครับ และท่านที่ต้องการความถูกต้อง 100% ทางกฎหมายแนะนำให้ปรึกษานักกฎหมายครับ)
 
ข้อ 6 : ในการทำเว็บไซต์ สิ่งที่เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์คืออะไรบ้าง
·  นำเนื้อหาจากเว็บไซต์ผู้อื่นมาลงในเว็บไซต์ตัวเอง โดยคุณสามารถอ้างอิงเป็นย่อหน้า / ประโยคได้ ถ้าคุณให้เครดิตคนเขียนต้นฉบับ และมีลิงค์ไปยังบทความต้นฉบับ
·  นำเนื้อหาในสิ่งพิมพ์ออนไลน์ของผู้อื่น เช่น อีเมล์ มาลงในเว็บไซต์โดยไม่ได้รับอนุญาต
·  Forward อีเมล์ของคนอื่นให้อีกคน โดยไม่ได้รับอนุญาต
·  แก้ไขเนื้อหาของผู้อื่น ซึ่งเปลี่ยนความหมายไปจากเดิม
·  ข้อนี้สำคัญที่สุดครับ การนำโลโก้, ไอคอน, รูป, วีดิโอ, เสียง จากเว็บไซต์อื่นมาใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต
 
ข้อ 7 : ประเภทลิขสิทธิ์ที่เจอบ่อย ๆ มีอะไรบ้าง
·  Freeware – นำไปใช้ได้ฟรี และนำไปแชร์ต่อได้ แต่ไม่สามารถแก้ไขหรือเอาไปขายต่อได้โดยไม่ได้รับอนุญาต
·  Shareware – นำไปใช้ได้ฟรี แต่ถ้าจะใช้ในระยะยาวต้องบริจาคเงิน สามารถนำไปแชร์ได้แต่ต้องให้เครดิตทุกครั้งโดยไม่ต้องขออนุญาต
·  Fair Use – สามารถนำไปใช้ได้เพื่อการศึกษาและเขียนวิจารณ์ โดยไม่ต้องขออนุญาต
·  Creative Commons – นำไปใช้ได้ฟรี แต่ต้องอยู่ในกฎที่ลิขสิทธิ์กำหนดไว้ คุณต้องให้เครดิตเจ้าของเนื้อหาทุกครั้ง โดยเจ้าของเนื้อหาเป็นผู้กำหนดว่า อนุญาตให้แก้ไขไหม, บังคับให้คุณเอางานไปแก้แล้วต้องเป็นลิขสิทธิ์ Creative Commons เหมือนกันไหม, อนุญาตให้ใช้ในงานค้าขายไหม
·  Public Domain – ลิขสิทธิ์ที่เราสามารถนำไปใช้ได้ฟรี โดยไม่ต้องขออนุญาต ครอบคลุมเนื้อหาพวกเรื่องที่เป็นความจริง (เช่น โลกเป็นทรงกลม / ทะเลสีฟ้า) , ไอเดีย, ขั้นตอนการทำงาน และยังครอบคลุมงานที่ลิขสิทธิ์หมดอายุไปแล้วด้วย (เช่น นิยายที่เก่ามาก ๆ)
 
ข้อ 8 : ถ้ากฎหมายมันยุ่งยากขนาดนี้ แล้วเราจะทำเว็บไซต์ที่มีรูปสวย ๆ ในเว็บไซต์ได้ยังไง
มีหลายทางมากครับ มาดูกันว่าทำยังไงได้บ้าง
A) สร้างมันขึ้นมาเองเลย
เราทำกราฟฟิกเอง ถ่ายรูปเอง เขียนบทความเอง มันก็เป็นของเรา 100% ตามกฎหมายครับ นอกจากนั้นเดี๋ยวนี้เทคโนโลยีก็ช่วยให้เราทำเนื้อหาคุณภาพดีได้ง่ายขึ้น มีโปรแกรมทำกราฟฟิก โปรแกรมตกแต่งภาพที่สะดวกขึ้น ทำให้การทำเนื้อหาขึ้นมาเองไม่ยากจนเกินไป
หรือถ้าทำไม่เป็น ก็มีหนังสือสอนมากมาย รวมถึงเนื้อหาฟรีบนอินเตอร์เน็ตที่จะช่วยให้เราเก่งขึ้นมาได้ นอกจากนั้นในระยะยาวเรายังสามารถขายรูปถ่ายของเราให้กับคนอื่นที่ไม่สนใจจะทำเองได้อีกด้วย
 
B) ถ้าคุณเป็นฟรีแลนซ์ ลองให้เวลาตัวเองเดือนละ 1 วันมาถ่ายรูป
หาวันว่าง ๆ สักวันมาถ่ายรูปที่ต้องใช้บ่อย ๆ เช่น เครื่องคิดเลข, โทรศัพท์, มือถือ, ลำโพง, คนจับมือ, เงิน ฯลฯ รับรองว่าจะช่วยเบาเงิน และเบาแรงคุณในอนาคตได้อีกเยอะ
รูปพวกนี้คนส่วนใหญ่มักจะซื้อจากในเว็บไซต์ขายรูปกัน ถ่ายเสร็จก็เอาไปขายได้นะครับ
 
C) ติดต่อช่างถ่ายรูปโดยตรง
คุณสามารถติดต่อกับช่างถ่ายภาพเพื่อขอรูปเค้ามาใช้ในเว็บไซต์ได้ครับ โดยแลกเปลี่ยนกับการให้เครดิตรูปเพื่อช่วยเผยแพร่เจ้าของผลงาน ซึ่งมีคนถ่ายรูปสวย ๆ ทั้งบน Instagram และเว็บไซต์ DeviantArt ที่จะอยากนำผลงานมาลงในเว็บไซต์ของคุณแลกกับเครดิต
 
D) ซื้อจากเว็บไซต์ขายรูป (Stock Photo)
อันนี้เป็นทางออกที่หลาย ๆ บริษัทเลือกใช้กันครับ เป็นการซื้อรูปมาจากเว็บไซต์ขายรูป ซึ่งจะทำให้เราสามารถเอารูปเหล่านั้นไปใช้บนเว็บไซต์ได้อย่างถูกกฎหมาย อย่างไรก็ตาม เราก็ยังมีโอกาสโดนฟ้องได้ ถ้าเว็บไซต์ที่เราซื้อรูปมาไม่ได้เอารูปนั้นมาขายอย่างถูกกฎหมาย
 
ถ้าลองไปค้นดูจะพบว่ามีกรณีที่เว็บไซต์ขายรูปชื่อดัง อย่าง Getty Images หรือ Corbis โดนฟ้องจากเจ้าของรูปที่ไม่เคยเอารูปมาขาย แต่รูปกลับมาโผล่ในเว็บไซต์ให้คนอื่นเข้ามาซื้อได้
 
ข้อ 9 : ขนาดเว็บขายรูปยังมีปัญหาขนาดนี้ แล้วเราจะเชื่อใครดี ?
จริง ๆ ถ้าจะบอกว่าอย่าเชื่อใครเลยก็ไม่ผิด แต่เราอาจมีโอกาสรอดมากขึ้นโดยทำสิ่งเหล่านี้ทุกครั้งที่มีการซื้อขายรูป
1. เก็บใบเสร็จ และใบเสนอราคาไว้ให้ดี
2. ถ่ายภาพหน้าจอของ Terms of use, ข้อมูลลิขสิทธิ์, และเนื้อหาต่าง ๆ ที่บอกว่ารูปนี้มีลิขสิทธิ์แบบ “Royalty Free (ในไปใช้ทางการค้าได้)”
 
อย่าลืมว่าแม้แต่เว็บแจกรูปฟรี ที่บอกว่ารูปพวกนี้เป็น Public Domain เอาไปใช้ยังไงก็ได้ ก็ยังมีโอกาสที่เค้าจะไปเอารูปจากเว็บขายรูปมาลง ซึ่งทำให้เราโดนฟ้องได้ เพราะฉะนั้นเวลาเจอรูปสวย ๆ ที่ฟรี หรือราคาถูกมาก ๆ ให้ระวังตัวกันไว้ให้ดีครับ
 
ข้อ 10 : เรื่องสุดท้ายที่เราควรคำนึงถึงตอนทำเว็บไซต์
ระวังการใช้รูปถ่ายที่แถมมากับ Template เว็บไซต์ไว้ให้ดีครับ เพราะถึงคุณจะจ่ายเงินซื้อ Template มาใช้ สิ่งที่คุณซื้อคือ Code กับ Layout ของเว็บไซต์ ไม่ได้ซื้อรูป ลิขสิทธิ์ของรูปพวกนี้จะไม่ได้ให้กับคุณ หรือเว็บไซต์ใหม่ที่คุณจะสร้าง โดยส่วนใหญ่ลิขสิทธิ์รูปจะให้กับ “คนที่สร้าง Template” คนเดียวเท่านั้น และถูกใช้เพื่อสาธิตการวางเนื้อหาลงใน Template เท่านั้น
 
อ่านมาถึงตรงนี้คุณอาจจะรู้สึกว่าการนำรูปถ่ายมาใช้ในเว็บไซต์นี่ยากเหลือเกิน ผมก็ขอสรุปเทคนิคการนำภาพมาใช้แบบสั้น ๆ ครับ: พยายามถ่ายรูปเอง หรือให้คนรู้จักถ่าย แต่ถ้าทำไม่ได้จริง ๆ ก็ให้เช็คดี ๆ ว่าภาพจากที่ใด ๆ ที่นำมาใช้มีลิขสิทธิ์เป็นลายลักษณ์อักษร แม้แต่ Google Image ที่เดี๋ยวนี้ค้นหารูปแบบ Creative Commons ได้แล้ว ทางกูเกิลเองก็ยังบอกว่า “เราไม่ได้การันตีว่ารูปเหล่านี้จะเป็น Public Domain จริง ๆ หรือเป็นลิขสิทธิ์อื่น”
สุดท้ายนี้ผมก็มีเว็บไซต์ขายรูปดี ๆ ที่น่าเชื่อถือได้มาฝากกันครับ
 
:D รวมเว็บไซต์ขายรูปที่ราคาไม่แพง และไม่ค่อยมีปัญหาฟ้องร้อง  :D 
 
Vivozoom – การันตีรูปถูกลิขสิทธิ์ รับประกันด้วยเงิน 25,000 ดอลล่า
 

stock-photo-vivozoom.png

 

เว็บไซต์ Vivozoom เป็นเว็บไซต์แรกที่กล้าบอกว่า
ถ้ามีการฟ้องร้องเกิดขึ้นทางเว็บไซต์ยินดีจ่ายเงิน 25,000 ดอลล่า เพื่อช่วยเหลือในการฟ้องร้องทางกฏหมาย

 

 

Shutterstock – การันตีด้วยเงิน 10,000 ดอลล่า

 

 

stock-photo-shutterstock-1024x515.png

 

เว็บไซต์ Shutterstock ก็การันตีว่าจะให้เงินถึง 10,000 ดอลล่าถ้ามีการฟ้องร้องลิขสิทธิ์เกิดขึ้น ซึ่งความจริงแล้วฟ้องร้องครึ่งนึงแค่ 10,000 ดอลล่าไม่พอแน่ ๆ ครับ ท่านใดมีเว็บไซต์ที่แนะนำเกี่ยวกับการซื้อรูปภาพ สามารถแจ้งมาในส่วน Comment ได้เลยครับ เดี๋ยวผมจะเพิ่มลงในลิสต์ตรงนี้ให้ครับผม หรือถ้าท่านใดมีประสบการณ์โดนฟ้องเรื่องลิขสิทธิ์รูป รบกวนมาแชร์กันได้

 

ที่มา : http://www.designil....icense-101.html